สงกรานต์ 12-19 เม.ย67 ทัวร์สวิส เยอรมนี ฝรั่งเศส 8 วัน 6คืน บิน LXเดินทาง เมษายน 2567

รหัสสินค้า : CJN-H002-LX-8D-SWISS-GER-FRA

ราคา

129,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 129,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เที่ยวป่าดำ...ชมเมืองแคว้นอัลซาสและเมืองน่ารักริมทะเลสาบเลคเลอมังค์

ขึ้นเขากลาเซียร์ 3000 

ราคา : เริ่มต้น 129,900.-บาท

โดยสายการบิน : Swiss Air (LX)

ซูริค•ชไตน์ อัมไรน์ •น้ำตกไรน์ •ทิทิเซ่ •ป่าดำ•สตราสบูร์ก •สำนักสงฆ์มงแซงโอดิล •กอลมาร์ •แบลฟอร์•Saline Royal •ลียง•อันซี•อีวัวร์ •เจนีวา•กลาเซียร์ 3000•ลูเซิร์น

**ไม่รวมค่าวีซ่า แต่รวมทิปทุกอย่างแล้ว

เดินทาง 12-19 เมษายน 2567

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป้นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรก  กรุงเทพมหานคร– ซูริค

09.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินสวิสแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
13.20 น.  ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.05 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.25 น.    เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Movenpick Hotel Zurich Airport **** หรือเทียบเท่า

วันที่สอง  ซูริค – ชไตน์ อัมไรน์ - น้ำตกไรน์ – ทิทิเซ่ - ป่าดำ

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองชไตน์ อัม ไรน์ (Stein am Rhein)(ระยะทาง 54 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองประวัติศาสตร์เล็กๆที่ตั้งอยู่ในแคว้นซอฟฮาวเซ่นทางตอนเหนือของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตัวเมืองตั้งอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำคอนแสตนซ์ติดกับชายแดนประเทศเยอรมนี มีอาณาเขตเมืองเพียง 5.75 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรอาศัยเพียงไม่ถึง 4,000 คน นำท่านเที่ยวชมเมืองน่ารักแห่งนี้ที่สองข้างทางของถนนสายหลักเต็มไปด้วยบ้านเรือหลากสีสันสวยงาม และแวะถ่ายรูปกับ สำนักสงฆ์เซนต์จอร์จ (Abbey of St.George) ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 15 แบบสไตล์โกธิคและถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซอฟฮาวเซ่น (Schaffhausen) (ระยะทาง 21 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นไอของสถาปัตยกรรมสไตล์เรเนซองส์ และอาคารสไตล์คลาสสิค นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองทิทิเซ่ (Titisee) (ระยะทาง 69 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองตากอากาศขนาดเล็ก โอบล้อมด้วยขุนเขา ตั้งอยู่ในเขตของป่าดำ (Black Forest) ที่ปกคลุมไปด้วยป่าสนยืนต้นนับหมื่นไร่ของประเทศเยอรมนี จุดเด่นของที่นี่ คือ ทะเลสาบทิทิเซ่ สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่ติดอันดับความสวยงามในยุโรป ซึ่งนักท่องเที่ยวจะรู้สึกได้ถึงความเงียบสงบ พร้อมกับได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ท่านยังสามารถเลือกซื้อ นาฬิกาคุกคู สินค้าขึ้นชื่อของที่นี่  จากนั้นนำท่านสู่ศูนย์การผลิตนาฬิกาคุ๊กคู เป็นนาฬิกาโบราณออกแบบงานไม้โอ๊คแกะ เน้นรายละเอียด ดีไซด์สุดคลาสสิก ซึ่งมีประวัติศาสตร์พื้นเมืองมากว่า 100 ปี ได้เวลานำท่านสัมผัสธรรมชาติและมนต์เสน่ห์ของป่าดำกับการล่องเรือในทะเลสาบทิทิเซ่ ทะเลสาบที่มีชื่อเสียงสวยงามติดอันดับต้นๆของยุโรป (***ขึ้นกับสภาพอากาศและการบริการของเรือ หากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยสำหรับการล่องเรือ หรือมีเหตุขัดข้องอันใด จะนำท่านเดินชมบริเวณริมทะเลสาบแทน)
จากนั้น นำท่านเดินทาง ไฟร์บูรก์ ( Freiburg)(ระยะทาง 35 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (เมนูขาหมูเยอรมัน)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พักDorint An Den Therman**** หรือเทียบเท่า 

วันที่สาม  สตราสบูร์ก – สำนักสงฆ์มงแซงโอดิล – กอลมาร์ – แบลฟอร์

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองสตารสบูร์ก (Strasbourg)(ระยะทาง 85 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.) เมืองหลวงอันงดงามของแคว้นอัลซาส และปัจจุบันได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวของแคว้น เนื่องจากเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เสียงของโบสถ์สไตล์โกธิคขนาดใหญ่ รวมถึงอาคารสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ที่สวยงามของเมืองแห่งนี้ นำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารแห่งเมืองสตราสบูร์ก (Strasbourg Cathedral)คริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก มีความสูงอยู่ที่ 142 เมตร ซึ่งถูกสร้างขึ้นระหว่าง ปี ค.ศ.1176-1439 ที่สร้างด้วยหินทรายสีชมพู และถือว่าเป็นอาคารโบสถ์ที่สูงที่สุดในประเทศฝรั่งเศสในยุคนั้น และเคยเป็นอาคารที่สูงที่สุดในโลกระหว่างปี ค.ศ.1647-1874 ปัจจุบันเป็นคริสตจักรที่สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก โดยบางส่วนของตัวอาคารนั้นสร้างขึ้นแบบสถาปัตยกรรมโรมัน นอกจากนี้แล้วภายในวิหารยังเป็นสถานที่จัดเก็บ นาฬิกาดาราศาสตร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในหอนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านเข้าชมสู่อารามมงแซงโอดิล (Mont Sainte Odile Monastery) หรืออารามโฮเฮนเบิร์ก (Hohenburg Abbey) โบสถ์โบราณที่ตั้งอยู่บนภูเขา Vosges ในแคว้นอัลซาสที่ระดับความสูง 760 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญเซนต์โอดิล แห่งอัลซาส ผู้ซึ่งมีชีวิตอยู่ในช่วงปี ค.ศ.660-720 โดยแรกเริ่มถูกสร้างขึ้นเป็นคอนแวนต์หรือสำนักชีโดยดยุคแห่งอัลซาส นาม Adalrich ในช่วงปลายศตวรรษที่ 7 ซึ่งภายหลังถูกทำลายลงในช่วงยุคกลาง และได้บูรณะขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 17-18  จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองกอลมาร์ (Colmar)(ระยะทาง 52 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองเล็กที่มีคูคลองสายน้ำพาดผ่านจนขึ้นชื่อว่าเป็น “ลิตเติ้ลเวนิส” อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองโรแมนติกที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งไร่ไวน์ชั้นดี มีความสวยงามด้วยธรรมชาติหุบเขาและไร่องุ่น นำท่านเดินเที่ยวชม ย่านตัวเมืองเก่า (Old Town) ชมสถาปัตยกรรมความเก่าแก่ของบ้านไม้เก่าแก่ที่สร้างในแบบเรเนสซองส์ โดยอาคารเก่าหลายหลังถูกสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ตื่นตาไปกับความงดงามของบ้านเรือนที่เรียงรายไปตามสองฝั่งคลองที่ดูงดงามอย่างลงตัว จากนั้นแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St Martin's Church) โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ.1234-1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์ มีสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยงามโอ่อ่า ได้เวลาสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองแบลฟอร์ (Belfort) (ระยะทาง 80 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 1.15 ชม.)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Belfort Center**** หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ แบลฟอร์ – Saline Royal – ลียง

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินเที่ยวชม เมืองแบลฟอร์ (Belfort)เป็นเมืองทางทิศเหนือ-ตะวันออกของฝรั่งเศส ในแคว้นฟร็องช์-กงเต นำท่าน ถ่ายรูปกับป้อมปราการแบลฟอร์ (Belfort Citadel) ซึ่งเป็นป้อมปราการขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขา สร้างขึ้นระหว่างปี 1687 – 1703 ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านที่สามารถต้านกองกำลังจากเยอรมันที่เข้ามาบุกยึดพื้นที่ของฝรั่งเศสทางตอนเหนือไว้ได้ ดังนั้นเมืองนี้จึงเป็นที่รู้จักในนาม “เมืองฮีโร่” ของฝรั่งเศส นำท่านชมป้อมปราการขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านบนเนินเขา จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์สิงโต (Lion Monument) ซึ่งเป็นอนุสาวรีย์แผ่นสลักหินรูปสิงโตขนาดใหญ่ด้วยความกว้างกว่า 22 เมตรและ สูง 11 เมตร สร้างขึ้นในปี 1875-1879 ใช้เวลากว่า 4 ปีในการสลักรูปสิงโตดังกล่าว อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามและน่ารักของเมืองเก่าแบลฟอร์ตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองเบอซ็องซง (Besancon) (ระยะทาง 93 ก.ม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาร์ค เอต์ เซอณ็องส์ (Arc-et-Senans)(ระยะทาง 35 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที) เพื่อเข้าชม Saline Royal หรือ Royal Saltworkกลุ่มอาคารประวัติศาสตร์ในอุตสาหกรรมผลิตเกลือที่สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ในปี ค.ศ.1775-1779 ออกแบบโดยสถาปนิกนีโอคลาสสิคชื่อดังผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลและที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส โดยบริเวณนี้เป็นหัวใจสำคัญในอุตสาหกรรมผลิตเกลือในช่วงดังกล่าว รอบๆบริเวณประกอบด้วยที่พักผู้อำนวยการ อาคารผลิต โรงเก็บเกลือ หอพัก และอื่นๆรวมทั้งสิ้นจำนวน 11 อาคาร จากนั้นเมื่อเข้าสู่ปลายศตวรรษที่ 19 อุตสาหกรรมเกลือซึ่งไม่เป็นที่นิยมอีกต่อไป จึงทำให้กิจการปิดตัวลง ทิ้งไว้เพียงอนุสรณ์แก่ชนม์รุ่นหลัง โดยถูกขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก (UNESCO WORLDS’ HERITAGE) ของฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1982ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่ เมืองลียง (Lyon)(ระยะทาง 197 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม.)
ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Mercure Lyon Center Chateau Perrache**** หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า ลียง – อันซี – อีวัวร์ – เจนีวา

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเที่ยวชม เมืองลียง (Lyon) ซึ่งองค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ.1998 นำท่านผ่านชม เพลซ เดอ เตอรัว (Place des Terreaux)  จัตุรัสขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลียง โดยจัตุรัสนี้ได้รับการออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1990 โดยศิลปิน Daniel Buren นำท่านแวะถ่ายรูปกับ อาคารศาลากลางเมืองลียง (City Hall) โดยอาคารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันอาคารแห่งนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในอาคารเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองลียง  นำท่านถ่ายรูปโรงละครโอเปร่า (Opera house) อีกหนึ่งอาคารประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลาว่าการเมือง โดยอาคารถูกสร้างขึ้นใน ช่วงปี ค.ศ. 1826 สร้างขึ้นโดย Chenavard และ Pollet และต่อมาถูกออกแบบใหม่อย่างสมบูรณ์โดย Jean Nouvel โดยอาคารเปิดขึ้นมาใหม่ในปี ค.ศ.1993 ได้เวลานำท่านแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์แซง นิเช่ (St. Nizier church) อีกหนึ่งคริสตจักรที่ถูกสร้างขึ้นในสไตล์โกธิค เป็นโบสถ์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม ปัจจุบันเป็นหนึ่งในอาคารที่ได้รับการยกย่องให้เป็นอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองลียง จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับ มหาวิหารเซนต์จอห์น (Cathedral of St. John) หรือ วิหารลียง (Lyon Cathedral) เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิก โดยวิหารถูกสร้างขึ้นในศตวรรษที่12 บนซากปรักหักพังของโบสถ์เก่าจากศตวรรษที่ 6 โดยสิ่งที่โดดเด่นที่สุดของวิหารแห่งนี้ คือ นาฬิกาดาราศาสตร์จากศตวรรษที่ 14กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่ เมืองอันซี (Annecy) (ระยะทาง 160 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.) อีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากเป็นอันดับต้นๆของแคว้น โดยตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ทางตอนเหนือของทะเลสาบอันซี (Annecy Lake) ในฝรั่งเศส เมืองอันซีเป็นเมืองหลวงของจังหวัดโอต-ซาวัว (Haute-Savoie) บริเวณใจกลางเมืองนั้นถือว่าเป็นส่วนที่โดดเด่นของเมืองเนื่องจากยังคงความเป็นเมืองยุคกลางและยังเป็นที่ตั้งของปราสาทโบราณ (Annecy Castle) จากศตวรรษที่ 14 มีคลองขนาดเล็กไหลผ่านใจกลางเมือง นำท่านถ่ายรูปกับปาเลส์เดอไลล์ (Palais d'Isle) หรือ "คุกเก่า" สัญลักษณ์ของเมืองอันซีและเป็นหนึ่งในอนุสรณ์สถานที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดของฝรั่งเศส เป็นปราสาทโบราณที่ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1132 ตัวอาคารถูกสร้างขึ้นในรูปทรงสามเหลี่ยมคล้ายหัวเรือโบราณที่ทอดสมออยู่ในแม่น้ำและถูกประกาศให้เป็นอนุสาวรีย์ประวัติศาสตร์ในปี ค.ศ.1900 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับมหาวิหารแซ็ง-ปีแยร์แห่งอานซี (Cathedrale Saint-Pierre d'Annecy) มหาวิหารนิกายโรมันคาทอลิกและเป็นอนุสาวรีย์แห่งชาติที่สำคัญแห่งหนึ่งของฝรั่งเศส สร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 16 ปัจจุบันมหาวิหารแห่งนี้ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของจังหวัดโอต-ซาวัว และของแคว้นโรนาลป์
จากนั้นนำเดินทางสู่ เมืองอีวัวร์ (Yvoire) (ระยะทาง 71 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15  ชม.) หมู่บ้านดอกไม้อันเก่าแก่ ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นตั้งแต่ยุคกลาง อายุกว่า 700 ปี แต่ยังคงรักษาสภาพสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงประตูเมืองและกำแพงอันเก่าแก่ไว้ได้อย่างดี ส่วนมากทำมาจากหินและไม้ โดยตลอดสองข้างทางถนนที่เราเดินจะเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันสดใสประดับตามอาคารบ้านเรือน จนได้ชื่อว่าหมู่บ้านดอกไม้  หมู่บ้านอีวัวร์เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านต้องห้ามพลาดในฝรั่งเศส  อิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของหมู่บ้าน จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนีวา (Geneva) (ระยะทาง 28 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Warwick Geneva Hotel **** หรือเทียบเท่า

วันที่หก กลาเซียร์ 3000 –  ลูเซิร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองโคล เด ปิลยอง (Col De Pillon)เมืองที่ตั้งของสถานีกระเช้าไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จุผู้โดยสารได้ถึง 125 คน นำท่านขึ้นกระเช้ามุ่งหน้าสู่ยอดเขา กลาเซียร์ 3000 (Glacier 3000)ยอดเขาที่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 3,000 เมตร นำท่านสัมผัสความหวาดเสียวที่ สะพานพีควอล์ค (PEAK WALK BY TISSOT) สะพานความยาว 107 เมตรหนึ่งเดียวที่เชื่อมต่อระหว่างสองยอดเขาเข้าด้วยกัน นำท่านชม จุดชมวิวกลาเซียร์ 3000 ที่สูงกว่า 4,000 เมตรจากพื้นดิน ท่านสามารถชม วิวภูเขาที่งดงาม และปกคลุมด้วยหิมะแบบพาโนราม่า ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขา จุงเฟรา, แมทเทอร์ฮอร์น และ มองท์ บลังซ์ ได้อย่างชัดเจน อิสระให้ท่านได้สนุกสนานกับกิจกรรมที่มีให้เลือกมากมายบนยอดเขา    กลาเซียร์ 3000 (*บางกิจกรรมมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม) อิสระให้ท่านเก็บภาพความน่าประทับใจตามอัธยาศัย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บนยอดเขากลาเซียร์ 3000
(หากภัตตาคารไม่สามารถรองรับคณะได้ จะนำท่านรับประทานอาหารที่ท้องถิ่นที่ร้านอื่นทดแทน)
บ่าย  นำท่านนั่งกระเช้าลงจากกลาเซียร์ 3000 และนำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น(ระยะทาง 154 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.30 ชม.)อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านชม สะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์น สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Radisson Blu Hotel Lucern **** หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด ซูริค

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองซูริค (Zurich)  (ระยะทาง 53 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)เมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านสู่ จัตุรัสปาราเดพลาทซ์ (Paradeplatz)จัตุรัสเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 ในอดีตเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าสัตว์ที่สำคัญของเมือง  ซูริค ปัจจุบันจัตุรัสนี้ได้กลายเป็นชุมทางรถรางที่สำคัญของเมืองและยังเป็นศูนย์กลางการค้าของย่านธุรกิจ ธนาคาร สถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasseซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ
(***ร้านค้าส่วนมากในประเทศสวิตเซอร์แลนด์จะปิดทำการในวันอาทิตย์)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องจีน
บ่าย    นำท่านเดินทางสู่ Lindt Home of Chocolate ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตลินด์ ส่งออกที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านได้เลือกซื้อช็อกโกแลตเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
15.00 น.  นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
18.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LX180 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.40 ชม.)

วันที่แปด กรุงเทพมหานคร

10.40 น.   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

*****Travel Around The World by Chic Journey****

Visitors: 121,468