เที่ยวโลโฟเท่น ตูแสงเหนือ 26 ก.ย.-5 ต.ค.68 บิน TG 10วัน 7คืน ทัวร์สวีเดน นอร์เวย์ เดนมาร์ก หมู่บ้านเรนเน หมู่บ้านฮัมนอย หมู่บ้านซากริซอย เลคเนส นาร์วิก กันยายน ตุลาคม 2568:LOFOTEN
รหัสสินค้า : CJN-G002-3ARN-TG007-LOFOTEN
ราคา |
149,999.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 149,999.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
พิชิตแสงเหนือสุดตระการ ณ หมู่บ้านโลโฟเท่น
**พร้อมช่างภาพมืออาชีพ
ราคา:149,999.-บาท
โดยสายการบิน : Thai Airways ( TG )
สต็อกโฮล์ม • พิพิธภัณฑ์เรือวาซา •ศาลาว่าการกรุงสต็อกโฮล์ม • กัมลาสตัน•สต็อกโฮล์ม • สนามบิน •ฮาสสตัด / นาร์วิก•สโวลวาร์ •พิพิธภัณฑไวกิ้งโลโฟเทอร์ •หมู่บ้านเฮนนิ่งสวาร์ •บ้านชาวประมงสีแดง •เลคเนส•หมู่บ้านออ •พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง •หมู่บ้านเรนเน •หมู่บ้านฮัมนอย •หมู่บ้านซากริซอย • หมู่บ้านสแตมซุนด์ •นั่งเรือซาฟารีจับปูสีน้ำตาล • นาร์วิก•โคเปนเฮเก้น •ปราสาทโรเซนบอร์ก• • ลิตเติ้ลเมอร์เมด •น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน •พระราชวังอมาเลียนบอร์ก •ช้อปปิ้งโคเปนเฮเกน - สนามบิน
**ราคาไม่รวมค่าวีซ่า และ ค่าทิป
เดินทาง :26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2568
หมายเหตุ **รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
วันที่หนึ่ง: กรุงเทพฯ
21.00 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ สายการบินไทย โดยมีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
วันที่สอง : กรุงเทพฯ – สต็อกโฮล์ม – พิพิธภัณฑ์เรือวาซา – ศาลาว่าการกรุงสต็อกโฮล์ม - กัมลาสตัน
00.05 น. ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน TG960
06.55ถึงท่าอากาศยานสต็อกโฮล์ม-อาลันดา (Stockholm-Arlanda Airport) เมืองสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน นำท่านผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร นำท่านชมกรุงสต็อกโฮล์ม (Stockholm) เมืองหลวงใหญ่แสนสวยของประเทศสวีเดน (Sweden) เป็นนครหลวงอันงดงามที่สุดในสแกนดิเนเวีย จนได้รับขนานนามว่า ราชินีแห่งทะเลบอลติก ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 14 เกาะที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก (Baltic Sea) ทะเลสาบมาลาเร็น (Lake Malaren) ทำให้สตอกโฮล์มเป็นเมืองหลวงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กรุงสตอกโฮล์ม งดงามแปลกตาในบรรยากาศรอบๆเมืองที่ตั้งอยู่บนพื้นน้ำ มีสถานที่สำคัญ อาทิ อาคารรัฐสภา, พิพิธภัณฑ์ในยุคกลาง, มหาวิหารแห่งเมือง,พระราชวังหลวงและพิธีเปลี่ยนการ์ดทหารด้านหน้าของลานจัตุรัสกว้าง เป็นต้น จากนั้นนำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์เรือวาซา (Vasa Museum) เป็นเรือที่ถูกกู้ขึ้นมาในศตวรรษที่ 17 เนื่องจากสามารถรักษาชิ้นส่วนเดิมของเรือไว้ได้กว่า 95 เปอร์เซ็นต์ และตกแต่งประดับประดาด้วยรูปแกะสลักนับร้อยชิ้น เรือวาซาเป็นทรัพย์สมบัติทางศิลปะที่โดดเด่นและเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในโลกในพิพิธภัณฑ์ประกอบไปด้วยนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับเรือลำนี้ 9 นิทรรศการ ยังมีภาพยนตร์เกี่ยวกับเรือวาซา พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากที่สุด ในบรรดาพิพิธภัณฑ์ในสแกนดิเนเวีย นำท่านชมบริเวณเมืองเก่ากัมลาสตัน อันเป็นบริเวณที่ตั้งของพระราชวังหลวงให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึก (กรณีพิพิธภัณฑ์เรือวาซา ไม่สามารถเข้าชมได้ ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์คืนเงินท่านล่ะ 500 บาท) จากนั้น
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำท่านถ่ายรูปคู่กับ ศาลาว่าการกรุงสต็อกโฮล์ม (City Hall) ซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อน และมุงหลังคาด้วยหินโมเสค สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 และทุกๆ วันที่ 10 ของเดือนธันวาคมของทุกปี จะมีพิธีเลี้ยงรับรองผู้ได้รับรางวัลโนเบล (Nobel Prize) นำท่านชมบริเวณเมืองเก่ากัมลาสตัน อันเป็นบริเวณที่ตั้งของพระราชวังหลวงให้ท่านได้ถ่ายรูปที่ระลึก
**ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC IFRA หรือเทียบเท่า
วันที่สาม สต็อกโฮล์ม - สนามบิน - ฮาสสตัด / นาร์วิก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบินสต๊อกโฮล์ม เพื่อออกเดินทางสู่ ฮาสสตัด / นาร์วิก
.... น. ออกเดินทางสู่ ฮาสสตัด / นาร์วิก ด้วยเที่ยวบิน .......
..... น. เดินทางถึงออสโล เพื่อเปลี่ยนเครื่อง
.....น.เดินทางถึงสนามบิน ฮาสสตัด / นาร์วิก หมู่เกาะโลโฟเทน (Lofoten) โดยโลโฟเทนนั้นเป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในมณฑล Nordland ทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ โดยหมู่เกาะโลโฟเทนนั้นจะประกอบด้วยเกาะเล็กๆ ต่างๆมากมายและมีเกาะหลักอยู่ 5 เกาะได้แก่ Austvagoya, Gimsoya, Vestvagoya, Flakstadoya และ Moskenesoya โลโฟเทนนั้นมีประวัติศาตร์จากชาวไวกิ้งมากกว่า 6,000 ปี ชาวพื้นเมืองทำการประมงเป็นอาชีพหลักและเป็นหนึ่งในสถานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูแสงเหนือมากที่สุดของนอร์เวย์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก THON HOTEL หรือเทียบเท่า
วันที่สี่ : สโวลวาร์ - พิพิธภัณฑไวกิ้งโลโฟเทอร์ - หมู่บ้านเฮนนิ่งสวาร์ - บ้านชาวประมงสีแดง - เลคเนส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
หลังจากนั่นนำท่านเดินทางสู่เมืองสโวลวาร์ (Svolvaer) เมืองหลวงของหมู่เกาะโลโฟเทน เป็นศูนย์กลางของการขนส่งสาธารณะของหมู่เกาะ มีทั้งสนามบิน ท่าเรือเฟอร์รี่ เชื่อมต่อสถานที่สำคัญต่างๆ และที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์และแกลลอรี่ศิลปะต่างๆมากมาย นำท่านเดินทางสู่ พิพิธภัณฑไวกิ้งโลโฟเทอร์ (Lofotr Viking Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ไวกิ้งขนาดใหญ่ที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทนตั้งอยู่ที่หมู่บ้าน Borg บนเกาะ Vestvagoya ภายในจะมีเรื่องราวด้านประวัติศาตร์และโบราณคดีเกี่ยวกับชาวไวกิ้งที่เคยอาศัยอยู่ที่หมู่เกาะโลโฟเทน โดยในอดีตเมื่อ 1,500 ปีที่แล้วนั้น หมู่เกาะโลโฟเทนเคยเป็นที่ตั้งของชุมชนชาวไวกิ้งมาก่อน และชาวไวกิ้งได้ทิ้งอารยธรรมและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆไว้จนถึงปัจจุบันและนำมาจัดแสดงโชว์ในพิพิธภัณฑ์ โดยตัวพิพิธภัณฑ์นั้นได้ถูกออกแบบมาให้เป็นรูปแบบคล้ายเรือไวกิ้งโบราณ นอกจากนี้แล้วท่านยังสามารถเข้าร่วมกับกิจกรรมต่างๆของชาวไวกิ้งที่จัดโดยพิพิธภัณฑ์ได้ อาทิ การยิงธนูแบบชาวไวกิ้ง การขี่ม้า หรือ การพายเรือไวกิ้ง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร อาหารพื้นเมือง
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านเฮนนิ่งสวาร์ (Henningsvaer) อีกหนึ่งหมู่บ้านท่าเรือสำคัญอีกหมู่บ้านหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน มีพื้นที่ประมาณ 0.3 ตารางกิโลเมตร มีประชากรประมาณ 500 คน โดยหมู่บ้านนี้นั้นมีชื่อเสียงจากการเป็นที่ตั้งของ “สนามฟุตบอลที่แปลกและสวยที่สุดในโลก” หรือHenningsvaer Stadium โดยเป็นสนามที่ตั้งอยู่บนเกาะล้อมรอบด้วยทะเล ตัวสนามมีสีเขียวโดดเด่น ตัดกับโขดหิน ทะเล และภูเขา และใครที่มาใช้บริการสนามแห่งนี้นั้น จะได้กลิ่นของทะเลและปลาคอดตากแห้งอันเป็นสัญลักษณ์ของหมู่เกาะโลโฟเทนด้วย นำท่านชมบ้านชาวประมงสีแดง (Rorbuer) หมู่บ้านชาวประมงแบบดั้งเดิมที่โดดเด่นด้วยสีแดงสดใสท่ามกลางท้องมหาสมุทร โดยสาเหตุที่หมู่บ้านในโลโฟเทนนั้นมักเป็นสีแดงเพราะในอดีตสีแดงนั้นเป็นสีที่ผสมง่ายสุดและราคาไม่แพงซึ่งชาวประมงที่มีฐานะทั่วไปนิยมทาบ้านสีนี้ ทำให้บ้านสีแดงนั้นจะมีเยอะสุดในหมู่เกาะโลโฟเทน นอกจากนี้แล้วสีของบ้านยังเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงฐานะของบ้านนั้นอีกด้วย สำหรับบ้านที่ทาสีเหลืองนั้นจะมีฐานะปานกลาง และบ้านไหนที่ทาสีขาวล้วนจะมีฐานะร่ำรวยเพราะสีขาวนั้นชาวโลโฟเทนจะผสมมาจากสังกะสีซึ่งหาได้ค่อนข้างยากในยุคนั้น นำท่านเดินทางต่อสู่ตัวเมืองเลคเนส (Leknes)โดยเลคเนสนั้นถือเป็นเมืองใหญ่ของหมู่เกาะโลโฟเทน เป็นหนึ่งในเมืองสวยที่ขึ้นชื่อของหมู่เกาะโลโฟเทน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC LEKNES หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า : เลคเนส - หมู่บ้านออ – พิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง – หมู่บ้านเรนเน – หมู่บ้านฮัมนอย - หมู่บ้านซากริซอย - เลคเนส
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ท่านเดินทางสู่หมู่บ้านออ (Å Village)ซึ่งความหมายของคำว่าออนั้นมาจากภาษาไวกิ้ง แปลว่าลำธาร โดยหมูบ้านนี้มีลำธารไหลผ่านที่มาจากทะเลสาบ Agvatnet โดยในศตวรรษที่ 16 นั้นหมู่บ้านออ เป็นสถานที่สำคัญในการจับปลาของชาวนอร์เวย์ ปลาที่นิยมจับกันในแถบนี้คือปลาคอด ซึ่งปลาคอดที่จับได้ที่หมู่บ้านออนั้นจะเป็นปลาคอดที่รสชาติดีกว่าที่อื่น เนื่องจากปลาคอดจะว่ายจากทะเลอาร์คติกมาหาน้ำอุ่นแถวหมู่เกาะโลโฟเทนเพื่อวางไข่ ซึ่งมีหมู่บ้านออเป็นจุดหมายปลายทางและปลาคอดที่กำลังจะวางไข่นั้นจะตัวอ้วนท้วมสมบูรณ์อันเป็นผลมาจากการสะสมอาหารมาอย่างเต็มที่มาก่อนจะวางไข่ นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์หมู่บ้านชาวประมง (Norwegian Fishing Village Museum) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดแบบ Open Air รวบรวมเรื่องราววิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวประมงโลโฟเทน ในช่วงปีค.ศ. 1840 – 1960 โดยในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ประกอบไปด้วยอาคารต่างๆ ให้ท่านได้ศึกษาดังต่อไปนี้ โรงงานผลิตน้ำมันตับปลาคอด เนื่องจากปลาคอดนั้นเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของหมู่เกาะโลโฟเทน ปริมาณปลาคอดที่จับได้แต่ละปีจะมีจำนวนมหาศาล โดยชาวโลโฟเทนนั้นจะนำปลาคอดที่ได้มาสกัดน้ำมัน และนำมาใช้ชีวิตประจำวันโดยเอาไว้ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการจุดตะเกียงและยังใช้เป็นส่วนผสมของสบู่ด้วย นอกจากนี้น้ำมันตับปลาคอดยังส่งผลดีต่อผิวพรรณและสุขภาพด้วย , โรงงานเบเกอรี่ เป็นโรงงานผลิตขนมปังที่ใช้เตาหินโบราณตั้งแต่ปี 1978 , เรือบ้านนอร์ดแลนด์ หรือที่รู้จักกันในนาม Nordland House เป็นเรือไม้ดั้งเดิมที่ไว้ใช้หาปลาของคนนอร์เวย์ ซึ่งเป็นเรือที่มีความยาวและแคบ มีตั้งแต่ขนาดสี่ไม้พายที่ใช้สองคนพาย จนถึงแปดไม้พายที่ใช้สี่คนพาย รวมถึงเรือที่ใช้มอเตอร์แทนแรงคน ในเรือจะพบอุปกรณ์จับปลาตั้งแต่สมัยโบราณ และเรื่องราวการล่าวาฬ นอกจากนี้แล้วพิพิธภัณฑ์ยังประกอบด้วยอาคารต่างๆอีก เช่น โรงตีเหล็ก , ที่ทำการไปรษณีย์และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่หมู่บ้านซากริซอย (Sakrisoy) แวะเก็บภาพสุดประทับใจ ณ หมู่บ้านชาวประมงที่มีบ้านเรือนสีเหลืองสดใสที่เรียงรายอยู่เหนือน้ำทะเลสีคราม ตัดกันอย่างลงตัวมีเอกลักษณ์ หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านเรนเน หรือ หมู่บ้านรีน (Reinne) เป็นหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์ของบ้านไม้สีแดงและเหลืองสลับกับสีขาวประกอบกับวิวจากเทือกเขาและฟยอร์ด ทำให้หมู่บ้านเรนเนนั้นได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่สวยทีสุดของประเทศนอร์เวย์คู่กับหมู่บ้านฮัมนอย โดยที่นี่เป็นหมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่มีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 300 คน และหมู่บ้านเรนเนนั้นได้รับอิทธิพลจากกระแสน้ำอุ่นและลมร้อนจากอ่าวเม๊กซิโก ทำให้อากาศในหมู่บ้านนั้นเป็นไปอย่างเย็นสบายไม่หนาวเหมือนพื้นที่อื่นๆของหมู่เกาะโลโฟเทน ทำให้หมู่บ้านเรนเนสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ซึ่งภูมิทัศน์ที่มองเห็นจะแตกต่างกันไปตามแต่ฤดูกาล ในช่วงฤดูร้อนจะเห็นเทือกเขาสีเขียวสดใสตัดกับสีแดงของหมู่บ้าน และในช่วงกลางคืนของฤดูร้อนจะสามารถเห็นพระอาทิตย์เที่ยงคืนได้ด้วย , ฤดูใบไม้ร่วง เทือกที่เป็นฉากหลังจะเปลี่ยนไปเป็นสีส้มแดง ซึ่งสร้างความสวยงามต่างไปอีกแบบ และในฤดูหนาวเทือกเขาจะปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลน ทำให้เปลี่ยนเป็นสีขาวทั้งหมด โดยหมู่บ้านเรนเน่นั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ยอดนิยมของหมู่นักท่องเที่ยวในการมาล่าแสงเหนือกันอีกด้วย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางต่อสู่ หมู่บ้านฮัมนอย (Hamnoy) หมู่บ้านขนาดเล็กแต่สวยงามน่ารัก ซึ่งท่านอาจจะคุ้นเคยกับภาพของหมู่บ้านฮัมนอยที่ตั้งอยู่ริมชายฝั่งโดยมีภูเขาหินรูปทรงสามเหลี่ยมเป็นพื้นหลัง เพราะหมู่บ้านแห่งนี้มักเป็นสถานที่ที่ถูกถ่ายลงในโปสการ์ดของหมู่เกาะโลโฟเทนมากที่สุด ซึ่งความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ไม่แพ้หมู่บ้านเรนเนเลยทีเดียว อิสระให้ท่านได้เดินเล่นถ่ายรูปหมู่บ้านตามอัธยาศัย
นำท่านเที่ยวชม หมู่บ้านชาวประมงนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village) ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดียิ่งอีกแห่งของ นอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีการรังสรรค์หมู่บ้านหลากสีสัน ทั้งแดง เหลือง เขียว และยังคงอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้ อย่างดียิ่ง อิสระให้ท่านได้เก็บภาพตามอัธยาศัย หรือจะนั่งเล่น จิบกาแฟ ชื่นชมกับธรรมชาติของเมืองนี้ นอกจากนี้ เมืองนัสฟยอร์ดยังได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองมรดกโลกอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC LEKNES หรือเทียบเท่า
วันที่หก เลคเนส - หมู่บ้านสแตมซุนด์ - นั่งเรือซาฟารีจับปูสีน้ำตาล - นาร์วิก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสุ่ สแตมซุนด์ (Stamsund) หมู่บ้านชางประมงในเขตเทศบาลเวสต์โวกอย ในมณฑลนอร์ดแลนด์ ประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่ด้านใต้ของเกาะเวสต์โซกอยยาในหมู่เกาะโลโฟเทนริมฝั่งเวสต์ฟยอร์ด
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
บ่าย นำท่านสัมผัสประสบการณ์จับปูสีน้ำตาล (Brown Crab Safari) นั่งเรือซาฟารี พร้อมทั้งลิ้มลองรสชาติของปูสีน้ำตาลอีกด้วย หลังจากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองนาร์วิก (Narvik) เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของนอร์เวย์ เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเรื่องการเล่นสกี และเมืองนี้ยังเคยเป็นสมรภูมิที่สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารพื้นเมือง
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC NAVIK หรือเทียบเท่า
วันที่เจ็ด นาร์วิก - สนามบิน - โคเปนเฮเก้น - ปราสาทโรเซนบอร์ก
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
..... ..น. นำท่านเดินทางสู่กรุงโคเปนเฮเก้น ด้วยเที่ยวบิน .........
...... น. เดินทางถึงสนามบินกรุงโคเปนเฮเก้น
บ่าย นำท่านชมความงามของปราสาทโรเซนบอร์ก (Rosenborg Castle) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 ในศิลปะแบบเรอเนสซองส์ หรือสร้างในสมัยพระเจ้าคริสเตียนที่ 4 นอกจากความงามของภายนอกแล้วภายในปราสามแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บเครื่องเพชร มหามงกุฎ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของราชวงศ์เดนมาร์คตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอีกด้วย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารไทย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC SYDHAVNEN หรือเทียบเท่า
วันที่แปด โคเปนเฮเกน – ลิตเติ้ลเมอร์เมด – น้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน –พระราชวังอมาเลียนบอร์ก – ช้อปปิ้ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
เดินทางถึงกรุงโคเปนเฮเกน (Copenhagen) ประเทศเดนมาร์ก (Denmark) นำท่านเที่ยวชมเมืองโคเปนเฮเกน แวะถ่ายรูปคู่กับเงือกน้อย (Little Mermaid) สัญลักษณ์ของเมือง ใกล้กันเป็นย่านท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีเรือสินค้าและเรือสำราญเทียบท่าอยู่ ชมน้ำพุแห่งราชินีเกฟิออน (Gefion Fountain) มีตำนานเล่าขานว่า "เทพเจ้า ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางกอบกู้ชาติ โดยพระราชินีเกฟิออนได้แปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ ให้เกิดเป็นประเทศเดนมาร์กในทุกวันนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารจีน
นำเที่ยวชมพระราชวังอมาเลียนบอร์ก(Amalienborg Palace) บริเวณด้านนอกที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่งเดนมาร์กนับตั้งแต่ ค.ศ. 1794 ตกแต่งแบบสไตล์ร็อคโคโค่ และจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวันตอนเที่ยงเมื่อสมเด็จพระราชินีนาถเสด็จประทับอยู่ที่นี่ จากนั้นให้อิสระท่านชมบริเวณจัตุรัสซิตี้ฮอลล์ (City Hall) จุดถ่ายรูปสวยงามประจำเมือง และท่านจะสามารถสัมผัสบรรยากาศครึกครื้นของใจกลางเมือง ช้อปปิ้งสินค้าย่าน ถนนสตรอยก์ (Stroget Street) ถนนช้อปปิ้ง ที่ยาวที่สุดในโลก เริ่มจากศาลาว่าการเมืองไปสิ้นสุดที่ Kongens Nytorv ที่มีสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง อาทิ Louis Vuitton, Emporio Armani, Bang & Olufsen, Tommy Hilfiger, Hermès, Gucci, Burberry ฯลฯ
**ค่ำ อิสระอาหารค่ำตามอัธยาศัย
ที่พัก นำท่านเข้าสู่ที่พัก SCANDIC SYHAVN เทียบเท่า
วันที่เก้า โคเปนเฮเกน –สนามบิน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
ได้เวลาอันสมควร นำคณะเดินทางสู่ สนามบิน เพื่อให้ท่านมีเวลาในการทำ คืนภาษี (Tax Refund) และ มีเวลาในการเลือกซื้อสินค้าในร้านค้าปลอดภาษีภายในสนามบิน
13.50 น. ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951
วันที่สิบ : กรุงเทพ
06.20 น. เดินทางถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ
กําหนดวันเดินทาง |
ผู้ใหญ่พัก |
พักเดี่ยว |
ราคาท่านที่มีตั๋วโดยสารอยู่แล้ว (Join Land) (BKK-ARN , CPH-BKK) |
ราคาเด็กต่ำกว่า 11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน (ไม่เสริมเตียง) |
26 กันยายน - 5 ตุลาคม 2568 |
149,900.- |
17,900.- |
119,900.- |
139,900.- |
พิเศษสุด..มีช่างภาพมืออาชีพบริการถ่ายรูปตลอดเส้นทางสุดสวย |
||||
โปรแกรมอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมของสภาพอากาศและฤดูกาล ปรากฏการณ์แสงเหนือเป็นปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ไม่สามารถการันตีได้ว่าจะได้เห็นหรือไม่ หรือจะได้เห็นตอนไหน แต่บริเวณเมืองตอนเหนือของนอร์เวย์ เช่น ทรอมโซ่, เกาะเซนญ่า,หมู่เกาะโลโฟเทน เป็นบริเวณที่มีโอกาสเห็นแสงเหนือได้บ่อย และ มากที่สุดแห่งนึง หากสภาพอากาศเอื้ออำนวยก็สามารถเห็นแสงเหนือได้จากในเมืองเลย โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางออกนอกเมือง หากต้องการสัมผัสปรากฏการณ์แสงเหนือ โดยทั่วไปสามารถพบเห็นได้ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนจนถึงปลายเดือนเมษายน |
||||
ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถรวม 16 EUR /ท่าน/ทริป |