ทัวร์สแกนดิเนเวีย เที่ยว 4 ประเทศ 10วัน เดินทาง กันยายน-ธันวาคม 2566 | บินตรง Thai Airways (TG)

SCANDINAVIA 10 Days
DENMARK NORWAY FINLAND SWEDEN         

กำหนดการเดินทาง

วันแรก  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

21.00 น.  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 3 เคาน์เตอร์ D  สายการบินไทย…สังเกตุป้ายEuroTraveller เจ้าหน้าที่คอยต้อนรับ และบริการ

วันที่สอง  โคเปนฮาเก้น(เดนมาร์ก) – พระราชวังโรเซนบอร์ก – น้ำพุเกฟิออน – อมาเรียนบอร์ก – เมอร์เมด – ถนนสตร้อยก์ -ล่องเรือสำราญDFDS พักห้องซีวิว

01.20 น.  เหินฟ้าสู่กรุงโคเปนฮาเก้น...โดยการบินไทย Thai Airways International เที่ยวบินที่ TG950 (บินตรง)

07.40 น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเดนมาร์ก หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรเรียบร้อยแล้ว

นำคณะออกเดินทางเที่ยวชม กรุงโคเปนเฮเก้น (เดนมาร์ก) ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์กจำนวนประชากรในมีเมืองมีทั้งหมดประมาณ 500,000 คนและ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย นำคณะถ่ายรูปด้านหน้า พระราชวังโรเซนบอร์ก (งดเข้าช่วงวันหยุดประจำปี และเดือนกรกฎาคมทั้งเดือน) ปราสาทหินทรายหลังงามที่สร้างในสไตล์ศิลปะสเปเชียลดัทช์เรอเนสซองส์ ถูกสร้างขึ้นในปีคริสตวรรษที่ 17 เป็น พระราชวังที่ประทับในฤดูร้อนมาจนถึงปีคริสตวรรษที่ 18 ปัจจุบันพระราชวังแห่งนี้ได้กลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานที่เก็บพระราชสมบัติล้ำค่าในพระมหากษัตริย์และพระราชินีแห่งเดนมาร์กตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นำคณะชมบริเวณด้านหน้าของ พระราชวังอามาเลียนบอร์ก ที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก เป็นพระราชวังของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 3 ซึ่งใช้ระยะเวลาในการสร้างกว่า 6 ปี และอีก 16 ปีต่อมาได้เกิดเปลวเพลิงได้ลุกไหม้เผาผลาญพระราชวังอะมาเลียนบอร์กเสียจนแทบจะไม่เหลือเค้าโครงเดิม ต่อมาอะมาเลียนบอร์กกลับมาผงาดอีกครั้งในรัชสมัยของเฟรดเดอริคที่ 5 เมื่อนิโคไลได้สร้างสรรค์อามาเลียนบอร์กให้ดูกล้าแข็งแต่แฝงด้วยความอ่อนช้อยด้วยรูปทรงสี่เหลี่ยมสไตล์ร็อคโคโค ตรงกลางเป็นสนามหญ้ากว้างมีอนุสาวรีย์ของพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 4 ตั้งอยู่ หากเวลาเหมาะสมท่านจะได้ชมพิธีการเปลี่ยนทหารรักษาพระองค์ ในชุดเครื่องแบบที่งดงาม หรือถ่ายภาพมุมประทับใจคู่กับทหารรักษาพระองค์ จากนั้นนั่งรถชมเมือง...ผ่านชมจตุรัสซิตี้ฮอลล์,อาคารเทศบาลเมืองเก่า, เขตย่านใจกลางเมือง แวะถ่ายรูปคู่กับ เงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมด สัญลักษณ์ของเมือง ซึ่งยังคงนั่งเศร้ารอเจ้าชายตามเนื้อเรื่องในเทพนิยายอันลือลั่นของนักเล่านิทานระดับโลก ฮันส์คริสเตียน แอนเดอร์สัน ชมความสวยงามของ น้ำพุเกฟิออน เทพธิดาผู้เสียสละกับบุตรชายร่วมสร้างเกาะซีแลนด์

นำคณะเดินเล่นชมความสวยงามของ ราวน์ทาวเวอร์ อาคารเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง และย่านเขตท่าเรือที่มีอาคารบ้านเรือนตั้งแต่ยุคคริสต์ศตวรรษที่ 17 เรียงรายเป็นภาพที่งดงาม

เที่ยง  บริการอาหารมื้อเที่ยง ณ ภัตตาคาร

บ่าย  อิสระกับการช้อปปิ้งบริเวณ ถนนช้อปปิ้งสตรอยเยท Stroget เป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโคเปนฮาเก้น ถือว่าเป็นถนนสายช้อปปิ้งที่ยาวที่สุดในยุโรป มีความยาว 1.8 กิโลเมตรโดยเริ่มตั้งแต่ศาลาว่าการเมือง เยื้องสวนสนุกทิโวลี สวนสนุกอันเก่าแก่ประจำเมืองเปรียบเสมือนหัวใจของกรุงโคเปนฮาเก้น ถนนสายนี้นอกจากจะมีร้านแบรนด์เนมนานาชนิดที่ทุกท่านรู้จักกันดีแล้วยังมี จตุรัสกัมเมลทอร์ฟ และ น้ำพุอาร์มาร์เกอร์ทอฟ ซึ่งเป็นจุดนัดพบของชาวเดนิช

หากท่านเดินช้อปปิ้งจนเหนื่อยแล้ว ท่านยังสามารถหาช็อคโกแล็ตร้อน ๆ สูตรเดนิช หรือกาแฟหอม ๆ จากร้านกาแฟอันเก่าแก่และมีชื่อเสียงของชาวเดนิช เรียกได้ว่าท่านจะได้อรรถรสทั้งช้อป และชิมของ  พร้อมนำคณะลงเรือสำราญขนาดใหญ่ ดีเอฟดีเอส DFDS (ล่องเรือสำราญหรู) เรือสำราญ DFDS ลำนี้สะดวกสบายด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอย่าง  ครบครัน อาทิเช่น ภัตตาคาร,บาร์,ไนต์คลับ และเพลินกับการเลือกชมสินค้าปลอดภาษี ฯลฯ นำท่านล่องสู่ทะเลเหนือจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ออกเดินทางจากกรุงกรุงโคเปนเฮเก้น เดนมาร์ก ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมออสโลฟยอร์ดส่วนหนึ่งของฟยอร์ด นอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก สู่กรุงออสโล นอร์เวย์

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำแบบบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสแกนดิเนเวียนซีฟู๊ดScandinavian Seafood ประทับใจกับอาหารทะเลสดจากมหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลเหนือ

ที่พัก : พักบนเรือสำราญ DFDS TOR LINE พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
***เราพักห้องพักแบบเห็นวิวทะเล seaview***

วันที่สาม   ออสโล(นอร์เวย์) – อุทยานฟรอกเนอร์ – สวนหินวิกเกอร์แลนด์ – พิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้ง – ฟลัม (ศูนย์กลางแห่งฟยอร์ด)

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของเรือ DFDS

เรือสำราญDFDSเทียบท่า ณ กรุงออสโล นอร์เวย์ นำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศสู่เมืองฟลัม ระหว่างทางแวะพักที่เมืองโกล เมืองสกีรีสอร์ทในภูมิภาคฟยอร์ด

นำคณะเที่ยวชมรอบกรุงออสโล (Oslo)นครหลวงอันเก่าแก่ของประเทศนอร์เวย์ เมื่อครั้งในอดีตสมัยที่นอร์เวย์อยู่ในอารักขาของอาณาจักรเดนมาร์คนั้น นอร์เวย์เคยย้ายเมืองหลวงถึง 2 ครั้ง จากกรุงทรอนไฮม์ มาเป็นเป็นกรุงเบอร์เก้น จนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นกรุงออสโลจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ที่มีความโอ่อ่าในเวลานี้อุดมไปด้วย      ประวัติศาสตร์ย้อนหลังถึง 900 ปี ในครั้งนั้นออสโลเป็นเมืองอาณานิคมใหญ่ของจักรวรรดิ์ไวกิ้งโบราณ ซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชของพระเจ้าฮาโรลด์แฟร์แฮร์ นำคณะชมเมืองรถโค้ชผ่านชมผ่านชมทำเนียบรัฐบาล, พระบรมมหาราชวัง, ศาลาสันติธรรม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมือง, โบสถ์โดมคาทีดราลนำ  คณะเดินทางเข้าชมภายใน อุทยานฟรอกเนอร์ เพื่อให้ท่านได้ชมผลงานของปฏิมากรเอกชาวนอร์เวย์ ชื่อกุสตาฟ วิกเกแลนด์ที่ใช้เวลาถึง 40 ปี ในการแกะสลักหินแกรนิตและทองแดงให้ยุวชนได้เห็นวัฏจักรในหนึ่งชั่วชีวิตของมนุษย์ ตรงใจกลางของอุทยานเป็นที่ตั้งของรูปแกะสลักชื่อ โมโนลิท สูง 17 เมตร นำคณะเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์เรือไวกิ้งโบราณVikingship Museumถือเป็นตำนานและรากเหง้าของชาวนอร์เวย์ที่มีอารยธรรมเจริญมาตั้งแต่อดีต พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงเกี่ยวกับเรือไวกิ้งโบราณที่สร้างจากไม้ ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 โดยขุดได้จากรอบๆออสโลฟยอร์ด นอกจากนี้ยังจัดแสดงเกี่ยวกับเครื่องมือในชีวิตประจำวันที่มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี เรือถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอดีต เพราะชาวไวกิ้งใช้เรือ ทั้งในเรื่องของการรบ ทำการค้า และออกสำรวจหาดินแดนใหม่ ๆ ไกลกว่าค่อนโลก (กรณีพิพิธภัณฑ์ปิดเนื่องจากมีการจัดงานหรือพิธีการ ของดการเข้าชม)

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร(นำคณะออกเดินทางสู่เมืองฟลัม 315 ก.ม. เดินทาง 4.34 ชม.)

บ่าย  คณะเดินทางสู่ เมืองฟลัม ศูนย์กลางแห่งฟยอร์ดนอร์เวย์ สัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดของฟยอร์ด “Sognefjord” ที่มีความยาวและลึกที่สุดในโลก ชมเส้นทางรถไฟสาย “Flambana” ชมทิวทัศน์อันงดงามที่เรียงรายไปด้วยน้ำตกใหญ่น้อยที่เกิดจากการละลายของหิมะ…นำคณะเดินทางสู่ที่พัก อิสระกับการพักผ่อนจากการเดินทางไกล

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : FRETHAIM Hotel/ FLAM Hotel / VOS Hotel/ ใกล้เคียง

*หมายเหตุ : โรงแรมที่เมืองฟลัม เป็นโรงแรมสไตล์พื้นเมืองอิงธรรมชาติ  ซึ่งห้องพักจะไม่ใหญ่มากนัก และมีจำนวนที่พักจำกัด หากที่พักในเมืองฟลัมเต็ม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนที่พักไปที่เมืองใกล้เคียงแทน  

วันที่สี่  รถไฟสายฟลัมบานา – น้ำตกคีออส – วอส – เบอร์เก้น – ยอดเขาฟลอเยน

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

ให้คณะได้เปลี่ยนบรรยากาศ โดยการ ”นั่งรถไฟขบวนพิเศษฟลัมบานา” Flambana ในเส้นทางสายโรแมนติคจาก เมียร์ดาล-ฟลัม สุดยอดรถไฟสายโรแมนติดอันโด่งดัง ซึ่งเป็นรถไฟสายที่ได้รับการกล่าวขานว่า สวยที่สุดสายหนึ่งในทวีปยุโรป รถไฟนำท่านแล่นตัดผ่านไปตามช่องเขา ไต่ไปตามหน้าผา หรือเจาะอุโมงค์เพื่อทะลุไปอีกฝั่งหนึ่งของภูเขา ผ่านหุบเหวและน้ำตกมากมายโดยเฉพาะ น้ำตกคีออสฟอสเซน ซึ่งเป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความงดงามและมีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของนอร์เวย์ โดยท่านจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับธรรมชาติอันงดงามตลอดเส้นทางและทัศนียภาพที่สุดแสนโรแมนติค ซึ่งงดงามตลอดฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อน ตลอดจนภูมิทัศน์อันงดงามของฟยอร์ดที่มีอยู่มากมาย ที่จะตราตรึงใจท่านไปอีกนานแสนนาน สู่เมือง เมืองไมร์ดาล ที่สูงถึง 866 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล อันเป็นชุมทางของรถไฟซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาอันสลับซับซ้อนสุดสายตา

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร  (วอส-เบอร์เก้น 106 ก.ม.เดินทาง 1.30 ชม.)

บ่าย  ออกเดินทางสู่ เมืองเบอร์เก้น เป็นเมืองหลวงแห่งศิลปวัฒนธรรมและเมืองหลวงเก่าแห่งฟยอร์ด ของประเทศนอร์เวย์ อีกทั้งยังเป็น เมืองมรดกโลก ประกาศโดยองค์การยูเนสโก UNESCO ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ และเป็นเมืองท่าสำคัญทางชายทะเลตะวันตกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ มีทั้งเมืองเก่าย่านชาวประมง ท่าเทียบเรือเดินสมุทรและเป็นศูนย์กลางการขุดเจาะน้ำมันของประเทศด้วยเบอร์เก้นเป็นศูนย์กลางทางการค้าของยุโรปเหนือ ยิ่งกว่านั้นคือความเก่าแก่ของเมืองที่ก่อตั้งมากว่า 900 ปีแล้ว ทำให้เบอร์เกนเป็นเมืองท่าที่แสนคลาสสิกงดงามที่สุดเ  มืองหนึ่ง นำท่านนั่งรถรางจากสถานีใจกลางเมืองเบอร์เก้นขึ้นไปยัง ยอดเขาฟลอเยน (Floyen) ผ่านแมกไม้ทิวทัศน์สวย ๆ งาม ๆ ตลอดทาง แม้จะเป็นฤดูหนาวแต่สำหรับเบอร์เก้นแล้วนี่คือเมืองที่มีอากาศไม่หนาวจัดเท่าเมืองอื่น ๆ ของนอร์เวย์จากการที่มีแนวเทือกเขาล้อมกันกระแสลม ในขณะที่มีกระแสน้ำอุ่นเชื่อมต่อกับทะเลเข้าสู่เมือง ชมวิวกันเพลินๆ ก่อนที่รถรางจะเข้าจอดที่สถานีบนยอดเขาในระดับความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 320 เมตร ทำให้มองเห็นไกลไปถึงท่าเรือใหญ่ที่มีทั้งเรือรบและเรือสำราญหรู เห็นบ้านเรือนและผู้คน เห็นถึงความเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีครบทุกรูปแบบจากวิวพาโนราม่าที่ทำให้มองเห็นภาพความเป็นเบอร์เก้นได้ชัดเจนที่สุด นำคณะเที่ยวชมย่านตลาดปลา ตลาดนัดขายสินค้าพื้นเมืองดอกไม้ งานศิลปะ อาหารทะเล พร้อมเดินเที่ยวชมเมืองเก่าของเบอร์เกน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้ไปแล้ว ด้วยห้องแถวสูง 3 ชั้นที่สร้างด้วยไม้ทาสีขาว แดง เหลือง เขียว จั่วหน้าสามเหลี่ยม มีเสน่ห์น่ารักตรงที่ด้านหน้ามักจะตกแต่งด้วยไม้แกะสลักเป็นรูปหัวกวาง ตัวแคปริคอน หรือ ม้ามังกร และรูปตุ๊กตาต่างๆ อาคารบริกเกนถึง 61 หลังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม และยังใช้สอยเป็นร้านค้า แกลเลอรี ร้านขายสินค้าที่ระลึก งานศิลปะ ร้านอาหาร ตลอดจนพิพิธภัณฑ์ทำให้อาคารบริกเกนเป็นเรือนแถวที่งดงามที่สุดในโลกก็ว่าได้

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : Scandic Hotel / Best Western Hotel /ใกล้เคียง

วันที่ห้า  เบอร์เก้น – กู้ดวางเก้น – ล่องเรือชมฟยอร์ด – ฟลัม – โกล(นอร์เวย์)

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก(เบอร์เก้น-กู๊ดวางเก้น 148 ก.ม.เดินทาง 2 ช.ม.)

นำคณะ ”ล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ด”songe fjordที่มีความยาวและความลึกที่สุดในโลก มีความยาวถึง 204 กม.จากทะเลเข้ามาในแผ่นดินโดยเป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่เกิดจากการกัดเซาะแผ่นดินของธารน้ำแข็งเมื่อหลายล้านปี เรือจะค่อยๆ แล่นเลียบ เปิดโอกาสให้ท่านได้ดื่มด่ำกับความงดงามของทิวทัศน์ต่าง ๆ สายน้ำ หุบเขา หน้าผา ชื่นช  มทัศนียภาพชวนฝันของซองน์ฟยอร์ด ที่สวยที่สุดของโลก ชมภูผาหินสูงตระหง่านที่ธรรมชาติบรรจงสลักไว้ดูวิจิตร  พิสดารบนเนินลาดริมฝั่งมีบ้านซัมเมอร์เฮ้าส์ไม้สนเป็นหย่อม ๆ ซึ่งธรรมชาติได้บรรจงสร้างขึ้นด้วยกาลเวลาพันล้านปี (ออกเดินทางต่อสู่เมืองโกล 2.30 ชม.)

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  นำคณะออกเดินทางสู่เกโล่/โกล ประเทศนอร์เวย์ ชมวิวทิวทัศน์ภูมิประเทศที่สวยงาม ระหว่างการเดินทาง

**ในกรณีที่เรือรอบเช้าไม่ว่าง จะเปลี่ยนมาเป็นล่องเรือชมซองน์ฟยอร์ดช่วงบ่ายแทน**

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ : GEILO HOTEL/Goal Hotel/ระดับใกล้เคียง 

หมายเหตุ โรงแรมที่เมืองนี้เป็นเมืองสกี และเมืองธรรมชาติ จะไม่มีโรงแรมที่ใหญ่โตและหรูหรา ตั้งอยู่ในเขตนี้

วันที่หก  ออสโล – ชมเมือง – ท่าเรือเอเกอร์ – ซิตี้ฮอลล์ – ถนนคนเดิน – ช้อปปิ้ง

*ทัวร์นี้บินภายในเข้าเฮลซิงกิ(ฟินแลนด์) ไม่ต้องนั่งรถนาน 6–7 ชั่วโมง

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม(เดินทางสู่กรุงออสโล 191 ก.ม. 3 ชม.)

นำคณะเดินที่ยวชม ท่าเรือ Aker Brygge กว่าร้อยปีมาแล้ว Aker Brygge เคยเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ค่ะ ปัจจุบันถูกปลุกให้ฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังมีการปรับปรุงเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่ทันสมัย มีบ้านเรือน และร้านค้ามากมาย เป็นแหล่งรวมผับบาร์ ร้านอาหารเก๋ ๆ คาเฟ่ชิล ๆ นอกจากนี้ยังมีทั้งผับ โรงหนัง โรงละครและห้างสรรพสินค้า ไม่เว้นแม้แต่ร้านเสริมสวย เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมความบันเทิงยอดนิยมที่ครบครันจริง ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนเพลิดเพลินกับมื้อค่ำในบรรยากาศที่แสนรื่นรมย์ เดินเล่นไปชมนักดนตรีข้างถนนร้องเพลงไป ย่านนี้ของออสโลจึงไม่เคยเงียบเหงา และยังดึงดูดนักท่องเที่ยวมากกว่า 12 ล้านคนต่อปี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งอย่างจุใจบริเวณย่าน คาร์ลโจฮันเกท (Karl Johans Gate) เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เลื่องชื่อของเมืองออสโล สินค้าของฝากที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวคือ เครื่องครัว พวงกุญแจ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ตามสินค้าและของที่ระลึกต่างๆ ที่ขายกันในประเทศนี้จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากนอร์เวย์เป็นประเทศที่มีค่าครองชีพสูงที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง

เที่ยง  บริการอาหารมื้อเที่ยง ณ ภัตตาคาร

บ่าย  ****อิสระกับการการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่คุณชื่นชอบ อิสระอาหารเย็น***

บ่าย  ออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อบินสู่นครเฮลซิงกิ / อาหารมื้อเย็นอิสระที่สนามบินเพื่อความสะดวกในการเช็คอิน และมีเวลาเตรียมของเช็คสัมภาระ เช็คอินCHECK-IN

..........น.  เหินฟ้าสู่กรุงเฮลซิงกิ...โดยสายการบิน............เที่ยวบินที่......(บินภายใน)

..........น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศฟินแลนด์ ตั้งอยู่ทางใต้ของประเทศ ริมชายฝั่งอ่าวฟินแลนด์ ตัวเมืองมีประชากรประมาณ 600,000 คน เฮลซิงกิอยู่ติดกับเมืองวันตาและเอสโปซึ่งรวมตั้งเป็นเขตเมืองหลวงหรือมหานครเฮลซิงกิ มีประชากรเกือบ1ล้านคน 1.2 ล้านคน...นำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก..

พักที่ : Scandic Hotel / ใกล้เคียง

***ทัวร์นี้บินภายในเข้าเฮลซิงกิ(ฟินแลนด์) สะดวกสบายมากๆ ไม่ต้องนั่งรถนาน6-7ชั่วโมง***

วันที่เจ็ด  เฮลซิงกิ – ชมเมือง – ล่องเรือซิลเลียไลน์ SILIA LINE พักห้องซีวิว

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำคณะชมความสวยงามรอบกรุงเฮลซิงกิ ซึ่งมีสถาปัตยกรรมแบบผสมผสานระหว่างสวีดิช และรัสเซีย เจ้าของสมญานาม ธิดาสาวแห่งทะเลบอลติก นำคณะชม โบสถ์หินเทมเปอเลียวคิโอ ซึ่งถูกสร้างขึ้นโดย การขุดเจาะในซอกหินแกรนิตขนาดใหญ่มหึมา หากท่านได้เห็นภาพถ่ายทางอากาศ โบสถ์หินแห่งนี้จะมีรูปร่างคล้ายจานบิน โบสถ์ ซึ่งออก  แบบโดยสองพี่น้องตัวโม และติโม ในปีค.ศ. 1969 มีการตกแต่งแบบทันสมัยพร้อมระบบเสียงที่ดี นำคณะชม อนุสาวรีย์ฌองซีเบเลียส นักประพันธ์ที่มีชื่อเสียงชาวฟินน์ซึ่งตั้งอยู่ภายในสวนซีเบเลียส ซึ่งสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับฌอง ซิเบเลียส ออกแบบโดย EILA HILTUNEN ประติมากรชาวฟินน์ ประกอบไปด้วยท่อเหล็กประมาณ 600 ท่อเชื่อมประสานเข้าด้วยกัน อนุสาวรีย์ซีเบเลียสนี้มีน้ำหนักถึง 24 ตัน ชมศูนย์กลางของเมืองที่จัตุรัสรัฐสภาซึ่งมีขนาดใหญ่รองรับคนได้หลายหมื่นคน สิ่งก่อสร้างสำคัญบริเวณจัตุรัสนี้คือ มหาวิหารซึ่งตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจัตุรัส ทางทิศตะวันออกและตะวันตกเป็นทำเนียบรัฐบาลและอาคารหลักของมหาวิทยาลัยตามลำดับ และบริเวณจัตุรัสแห่งนี้ยังเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ชนะรางวัลออสการ์เรื่อง "เรดส์" โดยใช้ฉากมโหฬารของเฮลซิงกิแทนกรุงเลนินกราดในสหภาพโซเวียต นำคณะขึ้นชม มหาวิหารอุสเปนสกี้ โบสถ์แบบรัสเซียออร์โธดอกซ์ และเป็นโบสถ์นิกายออร์โธดอกซ์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตะวันตก ตัววิหารอุสเปนสกี้ตั้งอยู่บนเนินไม่ไกลจากบริเวณท่าเรือ มีลานกว้างหน้าวิหาร เป็นจุดชมวิวและถ่ายรูปด้านล่างของอ่าวฟินแลนด์และตลาดริม  ท่าเรือที่สวยงามจุดหนึ่ง ให้คณะได้เดินเที่ยวชมบรรยากาศของ ตลาดนัดริมทะเล ที่มีชื่อเสียงของเมือง นอกจากจะเป็นตลาดย่านใจกลางเมืองที่ขายของที่ระลึกแก่นักท่องเที่ยว, แหล่งขายปลานานาชนิด, อาหาร, ผลไม้และดอกไม้ต่างๆ แล้ว ยังเป็นที่ตั้งสถานที่สำคัญ อาทิเช่น ทำเนียบประธานาธิบดี, ศาลากลางและโบสถ์ประจำเมือง มีเวลาให้ท่านได้เดินเที่ยวชมบรรยากาศ พร้อมเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก

เที่ยง  บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  อิสระช้อปปิ้งย่านถนนเอสปลานาดิ Esplanadi ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยอาคารสไตล์ฟินนิชผสมสวีดิชเรียงรายไปด้วยสินค้าแบรนด์เนมชื่อดัง…ให้ท่านได้ช้อปปิ้งส่งท้ายบริเวณห้างสรรพสินค้าชื่อดังของเฮลซิงกิ (หมายเหตุ กรณีที่เรือซิลเลียไลน์ ย้ายท่าจอดกระทันหันเนื่องจากท้องทะเลที่เฮลซิงกิมีน้ำแข็งมากเกินไป ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการตัดการช้อปปิ้งที่ถนนเอสพลานาดิ เนื่องจากจะต้องเดินทางไปลงเรือที่เมืองตุรกุ)พร้อมนำคณะเปลี่ยนบรรยากาศโดยการลง เรือสำราญขนาดมหึมา ซิลเลียไลน์ Silja Line ซึ่งเป็นเรือสมุทรขนาดใหญ่ที่สุดของสแกนดิเนเวีย ล่องผ่านทะเลบอลติก สู่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพลิดเพลินกับความสนุกสนานมากมายในเรือ อาทิ ภัตตาคาร, ร้านอาหาร, บาร์, ไนต์คลับ, ดิสโก้เธค, ศูนย์สันทนาการสำหรับครอบครัว, ร้านค้าปลอดภาษี และเสี่ยงโชคในคาสิโนมีระดับชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของหมู่เกาะ แก่งหิน ท่าเรือ และบ้านไม้สมัยศตวรรษที่ 19 ระหว่างสองเมืองหลวงมหาเสน่ห์แห่งสแกนดิเนเวีย กรุงเฮลซิงกิ-กรุงสต็อกโฮล์ม เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆบนเรือ

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำแบบบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลสแกนดิเนเวียนซีฟู๊ดScandinavian Seafood ประทับใจกับอาหารทะเลสดจากมหาสมุทรแอตแลนติก และทะเลเหนือ

ที่พัก : พักบนเรือสำราญซิลเลียไลน์ Silja Line (ห้องพักแบบ Out side เห็นวิวทะเล)

***เราพักห้องพักแบบเห็นวิวทะเล seaview***

วันที่แปด  สต๊อกโฮล์ม – พิพิธภัณฑ์เรือวาซาร์ - ซิตี้ฮอลล์(โนเบล) – ช้อปปิ้ง                                   

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของเรือ Silja Line

09.00 น.  เรือซิลเลียไลน์เข้าเทียบท่าที่ กรุงสต๊อกโฮล์ม Stockholm เมืองหลวงของสวีเดน พร้อมนำคณะออกเดินทางโดยรถโค้ชปรับอากาศเที่ยวชมเมืองหลวงที่มีความสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นเมืองที่ได้รับการขนานนามว่า ความงามบนผิวน้ำBeauty on Water หรือ ราชินีแห่งทะเลบอลติก เมืองแห่งประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 13 มีศิลปะและสถาปัตยกรรมแบบผสมผสาน ด้วยความสะดวกสบายและทันสมัยของบ้านเมือง, ตึกรามบ้านช่อง รวมทั้งปราสาทราชวังตั้งอยู่ริมน้ำและตามเนินสูงต่ำ เกาะใหญ่น้อย 14 เกาะ ที่โอบล้อมด้วยทะเลบอลติก Baltic S  ea ทะเลสาบมาลาเร็น Lake Malaren จึงทำ  ให้สต็อกโฮล์มเป็นเมืองที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในโลก นำท่านนั่งรถโค้ชชมเมือง ผ่านชมโรงละครแห่งชาติ, ทำเนียบรัฐบาลนำคณะเข้าชมภายในพิพิธภัณฑ์เรือวาซา เรือรบแห่งราชอาณาจักรสวีเดนที่ได้รับ พระราชโองการให้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการทำสงครามกับเยอรมนี  ถูกสร้างขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ดูงดงามและน่าเกรงขามแต่เรือรบลำนี้กลับไม่มีโอกาสที่จะได้ออกไปลอยลำต่อหน้าศัตรูของสวีเดนเลย เพราะ หลังจากเรือรบวาซาร์ได้ถูกปล่อยลงน้ำได้เพียง 30 นาที เรือรบวาซาร์ก็ล่มและจมลงสู่ก้นทะเลอย่างรวดเร็ว และถูกทิ้งให้จมอยู่อย่างเดียวดายใต้ทะเลบอลติคนานถึง 333 ปี นำคณะถ่ายคู่ภาพซิตี้ฮอลล์ City Hall หรือศาลาว่าการเมืองซึ่งใช้เวลาสร้างถึง 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังของสวีเดน คือ Ragnar Ostberg สร้างด้วยอิฐแดงกว่า 8 ล้านก้อ  น และมุงหลังคาด้วยหินโมเสส สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1911 และทุกปีจะมีพิธีมอบรางวัลโนเบล ที่ซิตี้ฮอลล์แห่งนี้

นำท่านขึ้นสู่จุดชมวิว Viewpointพร้อมชมความสวยงามของกรุงสต๊อกโฮล์มจากมุมสูง นำคณะผ่านชม แกมล่าสแตน ย่านเมืองเก่าแก่ที่สุดและสวยงามราวกับภาพวาด

เที่ยง   บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร

บ่าย  อิสระให้ท่านช้อปปิ้งที่ ห้างสรรพสินค้าเอ็นเค NK  ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปเหนือ

ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร  / นำคณะเดินทางเข้าสู่ที่พัก

พักที่ :Scandic Hotel / Radisson Blue Hotel หรือใกล้เคียง««««

วันที่เก้า  สต๊อกโฮล์ม(สวีเดน) – กรุงเทพฯ

เช้า  บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก

อิสระให้ท่านเดินเที่ยวชมเมือง ก่อนไปสนามบิน แบบไม่รีบเร่ง

นำคณะออกเดินทางสู่สนามบินอลันดา สวีเดนเพื่อทำการเช็คอินและทำTAX REFUND

14.30 น.  เหินฟ้ากลับสู่กรุงเทพฯ..โดยสายการบินไทย Thai Airways International เที่ยวบินที่TG961(บินตรง)

***นำคณะบินตรงกลับกรุงเทพฯ...ไม่ต้องเสียเวลาต่อเครื่อง...พร้อมสะสมไมล์สู่บัตรทอง***

วันที่สิบ  ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

05.50 น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ

*****Travel Around the World by Chic Journey*****

หมายเหตุ : โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทาง