ทัวร์กรุ๊ป 5-15 พ.ย.68 PORTO MIRANTE 11วัน 8คืน เที่ยวยุโรป ล่องแม่น้ำโดรู โปรตุเกส เส้นทางเมืองมรดกโลก EK พฤศจิกายน 2568:EUROPE RIVER VIVA CRUISE

รหัสสินค้า : CTX-GU001- PORTO MIRANTE DOURO-EK

ราคา

225,000.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 225,000.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

PORTO MIRANTE DOURO DISCOVERER

"สัมผัสประสบการณ์ล่องเรือแม่น้ำระดับ 5 ดาว"

จอดเที่ยวเมืองสำคัญทุกวัน ไม่ต้องแพคกระเป๋าเปลี่ยนที่นอนทุกคืน

ราคา:เริ่มต้น 225,000.-บาท

Highlight! เรือสำราญ 5 ดาว All Inclusive

**Free Wifi , **Free Mini bar

**All you can eat รวมอาหารทุกมื้อ ทุกห้องอาหาร

**All you can drink รวมเครื่องดื่มทุกมื้ออาหาร และเครื่องดื่มที่บาร์ไม่อั้น

สายการบิน : Emirates Airline (EK)

รวม : ที่พักบนเรือ 6 คืน โรงแรม 2 คืน ,ตั๋วเครื่องบินตามเส้นทางที่ระบุ,ค่าวีซ่าเชงเก้น,รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ ,ทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ,ภาษีท่าเรือ ,ค่าทิปพนักงานบนเรือ ,อาหารบนเรือทุกมื้อ ,กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ , ค่าทิปไกด์และคนขับรถ,**มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

ไม่รวม : ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ,ค่าทิปหัวหน้าทัวร์

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : 5-15 พฤศจิกายน 2568

วันแรก - วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 : สนามบินสุวรรณภูมิ

22.00 น.  คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบินเอมิเรตส์ (EK) เจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ ดูแลอำนวยความสะดวกด้านเอกสารเช็คอินและสัมภาระในการเดินทาง

วันที่สอง - วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน 2568 : สนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ – สนามบินลิสบอน ปอร์เตลา-กรุงลิสบอน – เมืองปอร์โต ประเทศโปรตุเกส – เช็คอินเรือ PORTO MIRANTE

01.05 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย สายการบินเอมิเรตส์ เที่ยวบินที่ EK385
04.55 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เพื่อต่อเครื่อง
07.25 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินลิสบอน ปอร์เตลา กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เที่ยวบินที่ EK191
12.00 น. เดินทางถึง สนามบินลิสบอน ปอร์เตลา กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส
ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระ (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 7 ชั่วโมง)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ The Old House (อาหารจีน)
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองปอร์โต (Porto) (315 กิโลเมตร/ ประมาณ 3.30 ชั่วโมง) เมืองมรดกโลกและศูนย์กลางไวน์พอร์ต เป็นเมืองท่าทางตอนเหนือของโปรตุเกส ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโดรู (Douro River) ห่างจากมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเพียง 3 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากลิสบอน เมืองหลวงของประเทศ ประมาณ 300 กิโลเมตร ปอร์โตเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และเป็นที่รู้จักในฐานะต้นกำเนิดของ ไวน์พอร์ต (Port Wine) ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก
นำท่าน เช็คอินเรือ Porto Mirante เรือจอดเทียบ ท่าเรือเลเวรินโญ รอต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่น เข้าห้องพักเรียบร้อยแล้ว
** อิสระให้ท่านพักผ่อน เก็บสัมภาระเข้าที่ **
* VIVA ALL INCLUSIVE รวมเครื่องดื่มบนเรือ มินิบาร์ และ FREE WIFI *
เรือ PORTO MIRANTE ได้รับการออกแบบเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับการล่องแม่น้ำ Douro เริ่มการเดินทางครั้งแรกในปี 2024 เรือสามารถรองรับแขกได้ถึง 120 คน ในห้องโดยสารคู่ 60 ห้อง ท่านจะได้ใช้เวลาพักผ่อนและใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ บนเรือ อาทิ ฟิตเนส สปา มินิกอล์ฟ สระว่ายน้ำ ด้วยการบริการระดับ 5 ดาว พร้อมบริการอาหารเทียบเท่าระดับมิชลินไกด์ และที่ขาดไม่ได้คือท่านสามารถใช้บริการ High Speed Internet free WIFI ได้อย่างเต็มที่บนเรือตลอดเส้นทาง และในทุกห้องมีอุปกรณ์ครบครัน รวมถึงทีวีจอแบน มินิบาร์ เครื่องชงกาแฟ Nespresso® ผลิตภัณฑ์ความงามจาก RITUALS® เครื่องเป่าผม ตู้นิรภัย เครื่องปรับอากาศ ห้องอาบน้ำฝักบัวและห้องน้ำ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของผู้เข้าพัก ไม่ต้องแพคกระเป๋าเปลี่ยนที่นอนทุกคืน กับห้องพักบนเรือ สะดวกสบาย
**ก่อนรับประทานอาหาร ร่วมกิจกรรมแนะนำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรือและความปลอดภัยในการโดยสารเรือ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ
หลังอาหารค่ำ มีเวลาให้ท่านขึ้นฝั่งเดินเที่ยวชมตัวเมือง จนได้เวลาอันสมควรเดินทางกลับขึ้นเรือ
พักบนเรือPORTO MIRANTE(คืนที่ 1) เรือพักค้างคืน ณ ท่าเทียบเรือเลเวรินโญ

วันที่สาม - วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2568 : เมืองปอร์โต – ร้านหนังสือ Livraria Lello-  โบสถ์คาร์โม– มหาวิหารแซ – สะพานปอนเต ดี ลูอิสที่ 1- ชิมไวน์ Taylor Port (Vila Nova da Guia) - เรกัว

06.30 น. สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.30 น. นำท่านเดินทางสู่เมืองปอร์โต (Porto)
10.00 น.  เรือออกจาก ท่าเรือเลเวรินโญ สู่ เรกัว (Regue)
เมืองปอร์โต นำท่านชม Livraria Lello ร้านหนังสือสุดสวยที่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน ร้านหนังสือที่สวยที่สุดในโลก เปิดมาตั้งแต่ปี 1906 โดดเด่นด้วย บันไดสีแดงอลังการ หน้าต่างกระจกสี และชั้นหนังสือไม้สุดคลาสสิก ว่ากันว่า J.K. Rowling ได้รับแรงบันดาลใจจากที่นี่ขณะอาศัยอยู่ในปอร์โต ทำให้เป็นจุดหมายที่แฟน Harry Potterไม่ควรพลาด ข้อมูลสำคัญ มีค่าเข้าชม 5 ยูโร (ใช้เป็นส่วนลดซื้อหนังสือได้)
จากร้านหนังสือเพียง 5 นาที นำท่านแวะเก็บภาพความสวยงามของ โบสถ์คาร์โม แห่งปอร์โต (Igreja do Carmo) ให้ท่านได้สัมผัสความงดงามของ Igreja do Carmo หนึ่งในโบสถ์ที่มีเสน่ห์ที่สุดของเมืองปอร์โต โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1756 - 1768 ในสไตล์บาโรก โดดเด่นด้วย กระเบื้องอซูเลโฆส สีน้ำเงินขาวที่ตกแต่งด้านข้างของโบสถ์ ผลงานการออกแบบของ Silvestre Silvestri ในปี 1912 ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อตั้งคณะคาร์เมไลต์ ภายในโบสถ์ตกแต่งอย่างวิจิตรตระการตา มีแท่นบูชาหลักที่แกะสลักจากไม้และปิดทองอย่างประณีต พร้อมภาพวาดและประติมากรรมอันงดงาม ด้านหน้าโบสถ์ยังมีรูปปั้นของ นักบุญเอลียาห์ (Saint Elijah) ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญในศาสนาคริสต์
กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ O commercial Restaurant
บ่าย   นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารแซ (Sé Catedral do Porto) (2 กิโลเมตร / ประมาณ 10 นาที) สัญลักษณ์แห่งประวัติศาสตร์และศาสนาของปอร์โต มหาวิหารเก่าแก่จากศตวรรษที่ 12 ผสมผสานสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ กอธิก และบาโรก ภายในโดดเด่นด้วยเสาหินกอธิก แท่นบูชาบาโรก และลานอารามที่ประดับด้วยกระเบื้อง Azulejos   สีน้ำเงินขาว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่จัดพิธีอภิเษกสมรสของพระเจ้า João I และ Philippa of Lancaster ซึ่งนำไปสู่พันธมิตรระหว่างโปรตุเกสและอังกฤษที่ยาวนานที่สุดในโลก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโกในปี 1996 เป็นจุดหมายที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนปอร์โต มหาวิหารตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของเมือง สามารถมองเห็นวิวพาโนรามาของแม่น้ำโดรูได้
จากนั้นชม สะพานปอนเต ดี ลูอิสที่ 1 (Ponte de Luis I) หรือ สะพาน ดอม หลุยส์ ที่ 1 (Dom Luís I) ถือเป็นจุดเช็คอิน ที่เที่ยวใน ปอร์โต ที่ไม่ว่าใครก็ต้องอยากเห็นของจริงสักครั้งในชีวิต ด้วยความที่สะพานถูกสร้างมาตั้งแต่ ค.ศ.1879 อีกทั้งผู้ออกแบบยังเป็นคนเดียวกับที่ดีไซน์หอไอเฟล Gustave Eiffel สะพานแห่งนี้ถึงโดดเด่นทั้งเรื่องความงามและระบบโครงสร้าง ใช้งานได้สองฟังก์ชั่น นั่นคือการให้รถยนต์วิ่งข้ามฝั่งที่ชั้นล่าง ส่วนชั้นบนเป็นรางรถไฟนั่นเอง
นำท่านเดินทางสู่Taylor Port - Vila Nova da Gaia(6 กิโลเมตร / ประมาณ 20 นาที) Taylor’s Port หนึ่งในผู้ผลิตไวน์พอร์ต (Port Wine) ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดในเมือง Vila Nova de Gaia ประเทศโปรตุเกส ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงบ่มไวน์พอร์ตระดับตำนาน โรงบ่มตั้งอยู่บนเนินเขา ภายในอาคารโบราณขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบด้วยเถาองุ่นและสวนเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบเป็นธรรมชาติ จากบริเวณโรงไวน์สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของแม่น้ำ Douro และเมืองปอร์โต้ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ภายในท่านจะได้เยี่ยมชมห้องเก็บไวน์ที่ผสมผสานระหว่างเทคนิคการบ่มแบบดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมสัมผัสประสบการณ์การชิมไวน์พอร์ตระดับพรีเมียมหลากหลายชนิด อาทิ Tawny Port สีอำพัน กลิ่นหอมอัลมอนด์และผลไม้แห้ง, Ruby Port สดชื่น กลมกล่อม และ Vintage Port ที่ผ่านการบ่มอย่างยาวนาน มีกลิ่นรสเข้มข้นและลุ่มลึกอย่างมีเอกลักษณ์
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือ โดยเรือจะจอดรอรับท่านที่เมืองเรกัว (120 กิโลเมตร / ประมาณ 1.20 ชั่วโมง)
17.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองเรกัว (Regue)
18.45 น. เดินทางถึง เมืองเรกัว (Regue) หรือที่รู้จักในชื่อเต็มว่า Peso da Régua เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในใจกลางของหุบเขา Douro ในโปรตุเกส เมืองนี้เป็นศูนย์กลางสำคัญของการผลิตไวน์ โดยเฉพาะ Port wine ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เรกัว Régua ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางล่องเรือในแม่น้ำ Douro ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของไร่องุ่นและภูมิทัศน์ที่สวยงามของหุบเขา
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 2)เรือพักค้างคืน ณ ท่าเทียบเรือเมืองเรกัว

วันที่สี่ - วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2568 : เรกัว – ลาเมกู - ศาสนสถาน นอสซา เซนโยรา ดอส เรเมดีอุส - เซา ฌูเอา ดา เปชเกรา - เวก้า เทอร์รอน

06.30 น. สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
09.00 น.       นำท่านเดินทางสู่ เมืองลาเมกู (Lamego) (17 กิโลเมตร / ประมาณ 20 นาที) เมืองประวัติศาสตร์และศูนย์กลางศาสนาแห่ง Douro Valley เมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของ Douro Valley ประเทศโปรตุเกส เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมยุคกลาง วัฒนธรรมไวน์ และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สำคัญของประเทศ
นำท่านเข้าชม ศาสนสถาน นอสซา เซนโยรา ดอส เรเมดีอุส (Sanctuary of Nossa Senhora dos Remédios) (3 กิโลเมตร / ประมาณ 5 นาที) เป็นศาสนาสถานแบบ บาโรก (Baroque Architecture) ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 18 โดดเด่นด้วย บันไดศักดิ์สิทธิ์ 686 ขั้น ที่ประดับด้วย กระเบื้อง Azulejos สีน้ำเงิน-ขาวอันประณีต บอกเล่าเรื่องราวทางศาสนา ภายในมี รูปปั้นพระแม่มารี (Our Lady of Remedies) ซึ่งเชื่อกันว่าสามารถช่วยรักษาโรคภัยและนำมาซึ่งปาฏิหาริย์ นอกจากนี้จากด้านบนของศาสนาสถานแห่งนี้ ท่านสามารถชมวิวเมืองลาเมกู และหุบเขา Douro Valley ได้อย่างงดงาม\
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตาคาร
13.30 น  นำท่านเดินทางสู่ เซา ฌูเอา ดา เปชเกรา (São João da Pesqueira)(50 กิโลเมตร / ประมาณ 1.15 ชั่วโมง) เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค Douro ของประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางการผลิตไวน์ Porto ที่สำคัญของประเทศ เมืองนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและมีความสำคัญในด้านการเกษตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการปลูกองุ่นและการผลิตไวน์ อิสระเดินเล่นชมเมือง São João da Pesqueira เมืองนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Douro Wine Region (เขตผลิตไวน์โดรู) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) เมื่อปี ค.ศ. 2001 พื้นที่นี้ได้รับการยอมรับจากยูเนสโกเนื่องจากเป็น แหล่งผลิตไวน์เก่าแก่ที่สุดในโลกที่มีการกำหนดเขตควบคุมการผลิตไวน์ (Demarcated Wine Region) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1756 และมีทิวทัศน์ไร่องุ่นขั้นบันไดที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมไวน์ในโปรตุเกสมายาวนานหลายศตวรรษ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือ เมืองเวก้า เทอร์รอน (Vega Terron) (74 กิโลเมตร / ประมาณ 1.30 ชั่วโมง)
17.00 น.  เรือจอดเทียบท่า เมืองเวก้า เทอร์รอน (Vega Terron)
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 3) เรือพักค้างคืน ณ ท่าเทียบเรือเมืองเวก้า เทอร์รอน

วันที่ห้า-วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2568 : เวก้า เทอร์รอน – ซาลามังกา – UNIVERSIDAD DE SALAMANCA –มหาวิหารซาลามันกา -จัตุรัสใจกลางเมืองซาลามันกา -  เวก้า เทอร์รอน

06.30 น.  สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 น.   นำท่านเดินทางสู่ เมืองซาลามังกา (Salamanca) เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศสเปน (120 กม. / ประมาณ 2 ชม.) เป็นเมืองที่เป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาล จนได้รับฉายาว่า “กรุงโรมน้อย” ในอดีตเป็นเมืองที่มีความสำคัญมาก และเจริญรุ่งเรืองในเรื่องการค้าขาย เมืองนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งสถาปัตยกรรม ในปี 1988 และเป็นเมืองที่เรียกว่า เป็นพิพิธภัณฑ์เปิด เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความสวยงามทางศิลปะเป็นอย่างมาก
11.00 น. นำท่านเข้าชม มหาวิหารซาลามันกา (Salamanca Cathedral) หนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเมืองซาลามันกา ประกอบด้วยมหาวิหารเก่า (Old Cathedral) ที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12-13 ด้วยสไตล์โรมาเนสก์ และ มหาวิหารใหม่ (New Cathedral) ที่สร้างเพิ่มเติมโดยเชื่อมกับมหาวิหารเก่าในศตวรรษที่ 16-18 ด้วยสไตล์โกธิกและบาโรก
จากนั้นนำท่านเก็บภาพประทับใจ ณ บ้านเปลือกหอย (Casa de las Conchas หรือ House of Shells) (2 กิโลเมตร / ประมาณ 5 นาที) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม เป็นคฤหาสน์หรูที่ถูกสร้างขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 15-16 จุดเด่นคือผนังด้านหน้าอาคารที่ตกแต่งด้วยปูนปั้นรูปเปลือกหอยเชลล์ถึง 300 ชิ้นทั่วผนัง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกองทหารแห่งซันติอาโก จุดเด่นทางสถาปัตยกรรมของอาคารแห่งนี้ เป็นอาคารผสมผสานระหว่างโกธิก เรอเนสซองส์ และมูเดจาร์ บนสุดของผนังยังมีตราอาร์มของกษัตริย์คาทอลิก หน้าต่างสไตล์โกธิคทุกบานก็มีรูปร่างแตกต่างกัน
นำท่านชม มหาวิทยาลัยซาลามังกา (University of Salamanca) ศูนย์กลางการศึกษาเก่าแก่ของสเปนมหาวิทยาลัยเก่าแก่ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1218 โดย King Alfonso IX of León เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการศึกษาที่สำคัญของยุโรป โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ Plateresque และซุ้มประตูแกะสลักอันเลื่องชื่อ ซึ่งซ่อนสัญลักษณ์ “กบบนหัวกะโหลก” ตามความเชื่อของนักศึกษา ชม ลานภายใน (Patio de Escuelas), และโบสถ์ Capilla de San Jerónimo มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นศูนย์รวมของนักปราชญ์และบุคคลสำคัญของโลก
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
พร้อมชมโชว์การเต้นระบำ Flamenco ที่เป็นเอกลักษณ์แห่งประเทศสเปน
บ่าย นำท่านชมและเก็บภาพความประทับใจ จัตุรัสใจกลางเมือง (Plaza Mayor) (1 กิโลเมตร / ประมาณ 5 นาที) ที่ถูกสร้างในกลางศตวรรษที่ 18 เป็นหนึ่งในจัตุรัสที่ใหญ่ที่สุดของสเปน จัตุรัสนี้ถูกขนาบข้างด้วยตึกสไตล์บาโรค มีลานกว้างที่ในสมัยอดีตเคยถูกใช้เป็นที่แข่งวัวกระทิงด้วย แต่ปัจจุบันก็กลายเป็นร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่เรือ เมืองเวก้า เทอร์รอน (Vega Terron)   (120 กม. / ประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 4) เรือพักค้างคืน ณ ท่าเทียบเรือเมืองเวก้า เทอร์รอน

วันที่หก-วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2568 : เวก้า เทอร์รอน – ปินเยา – โพซินโญ่ – พิพิธภัณฑ์โกอา – กัสเตลู โรดรี กู – เวก้า เทอร์รอน

06.30 น.  สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
10.00 น.กิจกรรมพูดคุย กับแขกรับเชิญพิเศษ  (บริการ ชา-กาแฟ และของว่าง เข้าร่วมตามอัธยาศัย)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
13.00 น. เรือจอดเทียบท่า เมืองปินเยา (Pinhão) เป็นเมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโดรู (Douro River) ในเขต Douro Valley ซึ่งเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม ไวน์พอร์ต (Port Wine) ที่มีชื่อเสียงระดับโลก เมืองนี้เงียบสงบ ล้อมรอบด้วยไร่องุ่นขั้นบันไดที่สวยงาม ให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ของแหล่งผลิตไวน์ระดับพรีเมียม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโพซินโญ่ (Pocinho)(63 กิโลเมตร/ ประมาณ 20 นาที)
นำท่านชม เมืองโพซินโญ่ เป็นเมืองเล็ก ๆ ทางตะวันออกของ Douro Valley ประเทศโปรตุเกส ตั้งอยู่ใกล้พรมแดนสเปน และเป็นจุดสิ้นสุดของเส้นทางรถไฟ Linha do Douro– Pocinho ที่เริ่มต้นจากปอร์โตนี้เป็นปลายทางปัจจุบันของเส้นทางรถไฟ Douro Line หมู่บ้านเล็ก ๆ นี้ได้พัฒนาขึ้นพร้อมกับการก่อสร้างสถานีรถไฟในศตวรรษที่ 19 ซึ่งทำหน้าที่เป็นโกดังเก็บสินค้าต่าง ๆ เช่น แร่และผลิตภัณฑ์เกษตรกรรม
14.30 น.  นำท่านชม พิพิธภัณฑ์โกอา (Côa Museum หรือ Museu do Côa) (11 กิโลเมตร/ ประมาณ 20 นาที) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดง ศิลปะหินยุคก่อนประวัติศาสตร์ (Paleolithic Rock Art) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก ท่านสามารถชมภาพวาดหินที่ถูกค้นพบตามหุบเขา Côa และเรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตของมนุษย์ยุคโบราณในแถบนี้ ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่บนเนินเขา สามารถชมวิวที่สวยงามของหุบเขาและแม่น้ำ Côa
16.00 นำท่านชม เมืองกัสเตลู โรดรีกู (Castelo Rodrigo) (45 กิโลเมตร / ประมาณ 50 นาที) หมู่บ้านยุคกลางบนยอดเขา หมู่บ้านโบราณที่ได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี ล้อมรอบด้วยกำแพงเก่าแก่และมอบวิวพาโนรามาของภูมิภาค เต็มไปด้วยซากปราสาท ถนนหิน และโบสถ์เก่าแก่ เช่น โบสถ์ Our Lady of Rocamador และอาราม Sta. Maria de Aguiar เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญระหว่างโปรตุเกสและสเปน เป็นหนึ่งใน Aldeias Históricas de Portugal ผ่านชม โบสถ์ Our Lady of Rocamador และรูปปั้นของ นักบุญเจมส์ นักรบผู้ปราบชาวมัวร์ (Saint James the Moor-slayer) โบสถ์และอาราม Sta. Maria de Aguiar และหอระฆัง (Clock Tower) รวมทั้งเสาหิน Pelourinho
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางกลับสู่เรือ เมืองปินเยา (Pinhão) (120 กิโลเมตร / ประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 5) เรือพักค้างคืน ณ ท่าเทียบเรือเมืองปินเยา

วันที่เจ็ด- วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 : เมืองปินเยา – ชิมไวน์ ไร่องุ่นไวน์พอร์ Peso da Régua, Portugal กิงตา ดู เซโช (QUINTA DO SEIXO)

06.30 น. สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
08.00 น. เรือออกเดินทางจาก เมืองปินเยา (Pinhão)
09.00 น. เรือออกเดินทางถึง เมืองฟอลโกซา (Folgosa)
ให้ท่านพักผ่อนบนเรือตามอัธยาศัยกับกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ    ภายในเรือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มต่างๆ ใน Atrium lounge หรือออกกำลังกาย สระว่ายน้ำหรือฟิตเนส
10.00 น. เดินทางจากท่าเรือ เมืองฟอลโกซา (Folgosa) สู่  กิงตา ดู เซโช (Quinta do Seixo) (6 กิโลเมตร / ประมาณ 10 นาที) ไร่องุ่นไวน์พอร์ตระดับพรีเมียม เป็นหนึ่งในไร่องุ่นที่โดดเด่นที่สุดของ Douro Valley ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโดรู ใกล้เมือง Pinhão และเป็นแหล่งผลิตไวน์พอร์ตภายใต้แบรนด์ Sandeman ที่มีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1790 นำท่านชมทัศนียภาพอันงดงาม ตั้งอยู่บนจุดสูงของเนินเขา ให้ท่านได้สัมผัส วิวพาโนรามา 360 องศา ของไร่องุ่นขั้นบันไดและแม่น้ำโดรู นำท่านเยี่ยมชมกระบวนการผลิตไวน์ ที่ใช้ทั้งเทคนิคดั้งเดิมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้ท่านได้ ชิมไวน์พอร์ตระดับพรีเมียม เช่น Tawny, Ruby และ Vintage Port จากไร่องุ่นคุณภาพสูง
เรือจะไปจอดเทียบท่าที่เมืองเรกัว (Regue) เวลา 11.30 น. เพื่อรอรับคณะ
ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เรือ เมืองเรกัว (Regue)  (23 กิโลเมตร / ประมาณ 30 นาที)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
14.00 น. กิจกรรมพูดคุย กับแขกรับเชิญพิเศษ (บริการ ชา-กาแฟ และของว่าง เข้าร่วมตามอัธยาศัย)
ให้ท่านพักผ่อนบนเรือตามอัธยาศัยกับกิจกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในเรือ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มต่าง ๆ ใน Atrium lounge หรือออกกำลังกายสระว่ายน้ำหรือฟิตเนส
ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารบนเรือ และพักผ่อนตามอัธยาศัย** Farewell dinner **
17.00 น.  เรือเทียบท่าค้างคืน ท่าเรือเลเวรินโญ (Leverinho)
พักค้างคืนบนเรือ (คืนที่ 6 คืนสุดท้าย)
** จัดเก็บสัมภาระเพื่อเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น **

วันที่แปด - วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน 2568 : เมืองปอร์โต – อาเวย์รู – ล่องเรือโมลีเซย์รู MOLICEIRO – มหาวิทยาลัยโกอิมบรา – เมืองลิสบอส

06.30 น. สำหรับท่านที่ตื่นเช้า มีชา – กาแฟ บริการที่เลาจน์
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
09.00 เช็คเอาท์ออกจากเรือ เดินทางสู่ เมืองลิสบอน (Lisbon)
แวะชม เมืองอาเวย์รู (Aveiro) (76 กิโลเมตร / ประมาณ 45 นาที) เป็นเมืองชายฝั่งทางตอนกลางของโปรตุเกส ริมทะเลสาบ Ria de Aveiro โดดเด่นด้วย คลองที่สวยงาม และ Moliceiro boats (เรือกอนโดลาสีสันสดใส) จนได้รับฉายาว่า “เวนิสแห่งโปรตุเกส” (The Venice of Portugal) เมืองนี้เป็นจุดหมายที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสเสน่ห์ของเมืองริมคลอง ชมสถาปัตยกรรมสไตล์อาร์ตนูโว และลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของโปรตุเกส นำท่านล่องเรือ โมลีเซย์รู (Moliceiro) เพลิดเพลินกับการล่องเรือชมเมืองพร้อมดื่มแชมเปญและชิมขนม ovo mole ขนมประจำเมืองที่โด่งดัง ชื่นชมทิวทัศน์ของอาคารเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์ พร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศอันเงียบสงบ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย    นำท่านเดินทางสู่ เมืองโกอิมรา (Coimbra) ( 64 กิโลเมตร/ ประมาณ 1 ชั่วโมง) เมืองโกอิมราเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ตั้งอยู่ทางตอนกลางของโปรตุเกส ริมแม่น้ำ Mondego โดดเด่นด้วย มหาวิทยาลัยโกอิมบรา (University of Coimbra) ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโปรตุเกสและเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป เมืองนี้ผสมผสานระหว่าง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความเป็นศูนย์กลางการศึกษา ได้อย่างลงตัว
นำท่านเข้าชม มหาวิทยาลัยโกอิมบรา (University of Coimbra) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1290 และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ในปี 2013
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ กรุงลิสบอน (Lisbon) (200 กิโลเมตร / ประมาณ 2.30 ชั่วโมง)
ค่ำ   เข้าสู่ที่พัก EPIC SANA LISBOA หรือเทียบเท่า
รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

วันที่เก้า  - วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน 2568 : เมืองลิสบอส - หอคอยเบเลง – อารามเจโรนิโมส –ช้อปปิ้ง ถนนลิ เบอร์ตี้ - ชมการแสดง Fado Show

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
09.00 น. นำท่านชมกรุงลิสบอน เมืองหลวงของประเทศโปรตุเกส ชมความยิ่งใหญ่ของอดีตประเทศมหาอำนาจทางทะเลช่วงศตวรรษที่ 14-16 แวะชมหอคอยเบเลง Belem Tower (Torre de Belém) (14 กิโลเมตร / ประมาณ 20 นาที) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของ ลิสบอน (Lisbon), โปรตุเกส ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Tagus สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1515 เพื่อป้องกันเมืองจากการรุกรานทางทะเล และเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทางสำรวจโลกของโปรตุเกสในยุค Age of Discovery หอคอยแห่งนี้ออกแบบโดย Francisco de Arruda ในสไตล์ Manueline ที่ผสมผสานองค์ประกอบของ โกธิก มัวร์ และเรอเนสซองส์ ภายในมีลวดลายแกะสลักอันประณีต รวมถึง รูปปั้น Saint Vincent (นักบุญผู้พิทักษ์ลิสบอน) และสัญลักษณ์ทางทะเลต่างๆ อีกทั้งยังเป็นจุดสำคัญที่นักเดินเรือชื่อดัง เช่น Vasco da Gama ออกเดินทางสำรวจโลก จากหอคอยสามารถชม วิวริมแม่น้ำ Tagus ที่งดงาม มองเห็นสะพาน Ponte 25 de Abril อันโดดเด่น Belem Tower ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO World Heritage Site) ในปี ค.ศ. 1983 เป็นสถานที่สำคัญที่สะท้อนถึงยุคทองของการเดินเรือโปรตุเกส ชมสะพานแขวน Ponte 25 Abril ชื่อของสะพานได้มาจากการที่ประเทศโปรตุเกส ได้เปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ระบอบประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 25 เมษายน 1974
นำท่านเข้าชมอารามเจโรนิโมส (Mosteiro dos Jerónimos)(4 กิโลเมตร / ประมาณ 5 นาที)  หนึ่งในอนุสรณ์สถานสำคัญของ ลิสบอน (Lisbon), โปรตุเกส ตั้งอยู่ในเขต Belém สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นเกียรติแก่การเดินทางสำรวจของ Vasco da Gama และเป็นสัญลักษณ์แห่ง ยุคสำรวจ (Age of Discovery) โดดเด่นด้วย สถาปัตยกรรมสไตล์ Manueline ที่วิจิตรตระการตา เต็มไปด้วยรายละเอียดแกะสลักอันประณีต อารามแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ที่ Vasco da Gama และลูกเรือของเขา เคยมาสวดภาวนาก่อนออกเดินทางสู่อินเดียในปี ค.ศ. 1497 นำชมจุดฝังศพบุคคลสำคัญของโปรตุเกสภายในอารามเป็นที่พำนักสุดท้ายของบุคคลสำคัญ ได้แก่ Vasco da Gama, กวี Luís de Camões และกษัตริย์ Manuel I ท่านจะได้ชมลานอาราม (Cloister) หนึ่งในลานอารามที่งดงามที่สุดในยุโรป ประดับด้วย กระเบื้อง Azulejos และเสาสลักลวดลายอันประณีต อารามเจโรนิโมส แห่งนี้เป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น UNESCO World Heritage Site ในปี ค.ศ. 1983 เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่สะท้อนถึงความรุ่งเรืองของโปรตุเกสในยุคสำรวจและควรค่าแก่การเยี่ยมชม
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   นำท่านเดินทางสู่ ถนนลิเบอร์ตี้ หรือ Avenida da Liberdadถนนชอปปิ้งยอดนิยมของลิสบอน สัมผัส Champs-Élysées แห่งโปรตุเกส ถนนสายหลักที่ทอดยาว 1.1 กิโลเมตร เชื่อม Praça dos Restauradores กับ Praça Marquês de Pombal สร้างขึ้นในปี 1879 ได้แรงบันดาลใจจากบูเลอวาร์ดปารีส สองข้างทางเรียงรายด้วย แบรนด์หรูระดับโลก เช่น Louis Vuitton, Prada, Gucci และร้านบูติกดีไซเนอร์โปรตุเกส พร้อมคาเฟ่สุดคลาสสิกและร้านอาหารหรู เช่น JNcQUOI Lisboa ถนนร่มรื่นไปด้วย น้ำพุ รูปปั้นประวัติศาสตร์ และม้านั่งพักผ่อนใต้ร่มไม้ เหมาะสำหรับเดินเล่นหรือจิบกาแฟในบรรยากาศสุดโรแมนติก
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร งานเลี้ยง Farewell พร้อมการแสดงโชว์ Fado และ Traditional Portuguese Dance ณ ห้องงานเลี้ยง Casa de Alentejo
เข้าสู่ที่พัก EPIC SANA LISBOA หรือเทียบเท่า

วันที่สิบ - วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 : เมืองลิสบอส - สนามบินดูไบ

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม และ เช็คเอ้าท์
09.00 น.  เดินทางสู่ สนามบินลิสบอน ปอร์เตลา ประเทศโปรตุเกส เช็คอินและทำเรื่องคืนภาษี TAX REFUND  มีเวลาให้ท่านช้อปปิ้งสินค้า DUTY FREE ตามอัธยาศัย
13.35 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินดูไบ โดย สายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK192

วันที่สิบเอ็ด  - วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2568 : สนามบินดูไบ - สนามบินสุวรรณภูมิ

01.00 น. เดินทางถึง สนามบินดูไบ (รอต่อเครื่อง)
03.50 น.  เดินทางถึง สนามบินสุวรรณ โดย สายการบินเอมิเรตส์  เที่ยวบินที่ EK376
12.55 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพและความประทับใจ

 

อัตราค่าบริการ (บาท)

EMERALD ชั้น 1
มีหน้าต่าง 16 ตรม.

RUBY ชั้น 2
มีระเบียง 17 ตรม.

DIAMONDชั้น 3
มีระเบียง 17 ตรม.

ผู้ใหญ่ พักห้องคู่

225,000.-

245,000.-

250,000.-

เด็กต่ำกว่า 12 ปี
พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน

215,000.-

235,000.-

240,000.-

พักเดี่ยว เพิ่มท่านละ

62,000.-

72,000.-

77,000.-

อัพเกรดที่นั่งชั้นธุรกิจ

สอบถาม ณ วันที่จอง

ไม่ใช้ตั๋วหักคืน ท่านละ

38,000.-

มีวีซ่าแล้วหักคืนท่านละ

4,000.-

Visitors: 188,274