ทัวร์นอร์เวย์ 8–19 ส.ค.67 , 5–16 ก.ย.67 พิชิตเกาะสวาบาร์ด ขั้วโลกเหนือ12 วัน 9คืน สิงหาคม กันยายน 2567:EUROPE PREMIUM NORWAY

วันแรกของการเดินทาง(1):กรุงเทพฯ – กรุงออสโล

21.00  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 โดยมี เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวกวันที่สองของการเดินทาง(2)  ออสโล – ชมเมือง – สนามบินฮาร์สตัท
00.55ออกเดินทางสู่สนามบินออสโล โดยเที่ยวบินที่ TG954
07.25  เดินทางถึงสนามบินกรุงออสโล เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อบแล้ว  นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองออสโล นำท่านชม “กรุงออสโล” Oslo เมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ ในอดีต ครั้งสมัยที่นอร์เวย์อยู่ในอารักขาของอาณาจักรเดนมาร์คนั้น นอร์เวย์เคยย้ายเมืองหลวงถึงสองครั้งสองหนจากกรุงทรอนไฮม์เป็นกรุงเบอร์เก้นจนกระทั่งได้ย้ายมาเป็นกรุงออสโลในปัจจุบันที่โอ่อ่าในเวลานี้ อุดมไปด้วยประวัติศาสตร์ย้อนหลังถึง 900 ปี นำท่านเดินเล่นบริเวณท่าเรือเอเคอร์บรูค (Aker Brygge) ในอดีตกว่าร้อยปีมาแล้ว เคยเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในนอร์เวย์ เป็นที่ตั้งของศาลาว่าการ (Town Hall) แนวอาร์ตเดคโคสถาปัตยกรรมที่ดูทันสมัย ประดับไปด้วยนํ้าพุ สวน และประติมากรรมเติมแต่งให้ดูกลมกลืนบนเนินเขาเหนือท่าเรือยังเป็นที่ตั้งของ  “ปราสาทและป้อมปราการอาร์เคอร์ชูส์” Akershus Fortress ปราสาทและป้อมโบราณแห่งนี้ที่สร้างขึ้นใน ปี 1299 ในสมัยของกษัตริย์ฮากอนที่ 5 บนเนินเขาริมทะเล
เที่ยง บริการอาหารมื้อกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย    หลังอาหารอิสระให้เดินเล่นย่าน “ถนนคาร์ล โจฮัน” ถนนสายหลักของเมืองออสโลประเทศนอร์เวย์ ถนนสายนี้ได้รับการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จอห์นซึ่งเป็นกษัตริย์แห่งสวีเดนในชื่อชาร์ลส์ที่ 14 ถนนเส้นนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านค้าช้อปปิ้งที่มีสินค้ามากมาย รวมถึงยังเป็นที่ตั้งของ “โรงละครแห่งชาติ” ที่สร้างขึ้นในปี 1899,“มหาวิทยาลัยออสโล” มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์ สร้างขึ้นในปี 1852, และ “อาคารรัฐสภา” “Stortinget” ที่เปิดใช้มาตั้งแต่ปี 1866   
...…..    ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองฮาร์สตัท โดยเที่ยวบินที่ DY...
...…..    เดินทางถึงสนามบินฮาร์สตัท นำท่านเดินทาเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ โรงแรมที่พัก
พักที่: SCANDIC HARSTAD HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สามของการเดินทาง(3) :ฮาร์สตัด – หมู่เกาะโลโฟเทน – เฮนนิ่งสวาร์ - ชมเมืองสโวล์แวร์

เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่เมือง ‘เฮนนิงสวาร์’ (192 กม.) บนเกาะโลโฟเทน ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม หมู่บ้านนี้จะมีอาคารบ้านเรือนสีสันสดใสมาก ใจกลางหมู่บ้านมีถนนแคบๆ พาดผ่าน มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และอาร์ตแกลเลอรี่ แซมด้วยบ้านชาวประมงสีแดงโดดเด่นอยู่กลางทะเลนอร์วีเจียนทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย  หลังอาหารจากนั้นนำท่านออกเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านสโวแวร์ (Svolvear) เมืองหลักของเกาะโลโฟเทน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ ของนอร์เวย์ ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายหลายเกาะ เชื่อมต่อกันด้วยถนนสาย E10 ภูมิประเทศเป็น ภูเขา หินแกรนิตสูงตระหง่านสลับเรียงรายริมทะเล มีผืนน้ำสีฟ้าคราม แซมด้วยบ้านชาวประมงสีแดงโดดเด่นอยู่กลางทะเลนอร์วีเจียนทำให้เกิดทัศนียภาพงดงามราวกับเมืองในเทพนิยาย ชมตัวเมืองที่น่ารักและเป็นที่จอดพักเรือประมงรวมถึงเรือยอร์ช นำท่านชมเมืองสโวลแวร์เมืองสวยน่ารักตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะเอาสต์วอเกออี “Austvågøya” ที่เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโลโฟเทน เกาะที่มีชื่อเสียงเรื่องทัศนียภาพที่สวยงามของประเทศนอร์เวย์ ถือเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ ที่เต็มไปด้วยบ้านชาวประมงที่ดัดแปลงมาเป็นห้องพักรับนักท่องเที่ยว สีแดงสดสวยงามตัดกับสีท้องฟ้าและน้ำทะเลสีคราม ในบริเวณตัวเมืองจะเต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านขายของสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกมากมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่:THON HOTEL LOFOTEN, SVOLVAER หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สี่ของการเดินทาง(4) :สโวแวร์ – ชมหมู่เกาะโลโฟเทน – นัสฟยอร์ด – หมู่บ้านโอเรเนย์ – แฮมนอยด์ – พักในเรือสำราญ HAVILA(SEAVIEW)

เช้า    บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ พิพิธภัณฑ์ไวกิ้ง (Viking Museum) ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยขุดพบในโลกของชาวไวกิ้ง ชมวิดีทัศน์ประวัติของชาวไวกิ้ง สัมผัสกลิ่นน้ำมันดินและควัน ศึกษาสถาปัตยกรรมและศิลปะและงานฝีมือ ตั้งอยู่บนฐานบ้านเรือนเก่าของชุมชนชาวไวกิ้งโบราณ นิทรรศการทางโบราณคดีของชาวไวกิ้งในอดีต ท่านจะได้เรียนรู้และเข้าใจถึงความเป็นมาของชาวไวกิ้งมากขึ้น ภายในตัวอาคารจะมีของใช้และอุปกรณ์ในการดำรงชีวิตของชาวไวกิ้งที่ขุดค้นพบเจอในบริเวณนี้และมีเครื่องแต่งตัวให้ท่านได้ทดลองสวมใส่และเก็บภาพเป็นที่ระลึก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้าน นัสฟยอร์ด (Nusfjord) (91 กม.) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่สุดทางชนบท สาย FV807 ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางตอนใต้ของเกาะ Flakstadøya ตามแนว Vestfjorden ที่ได้ชื่อว่าเป็น หมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งบนเกาะโลโฟเตน และมีทัศนียภาะที่สวยงามไม่แพ้หมู่บ้านอื่นๆ
เที่ยง  บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร ณ ภัตตาคาร
บ่าย  หลังอาหารเดินทางสู่หมู่บ้านโอ (Å) (49 กม.)ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดของถนนหมายเลข 10 ของถนนแห่งเกาะโลโฟเตน เดินเล่นชมหมู่บ้านโอ (Å) ที่มีกระท่อมเก่าแก่ อันเป็นประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นเหลืออยู่ และตั้งเรียงรายกันเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้เรื่องราวในอดีตของชุมชนแห่งนี้ นำท่านทางสู่หมู่บ้านเรเนย์ Reinehalsen (9.3 กม.)สู่จุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศนอร์เวย์ โดยชาวประมงที่เรเนย์ จะออกหาปลาและนำปลามาผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยการตากแห้งเพื่อส่งขายและเก็บไว้ทานในฤดูหนาว ปลาส่วนใหญ่ที่จับได้ในเขตนี้คือปลาค็อด ซึ่งปลาแห้งถือเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกที่เก่าแก่ที่สุดของนอร์เวย์จากนั้นสู่หมู่บ้านแฮมนอย (Hamnoy) (5 กม.) หมู่บ้านชาวประมงเล็กมีบ้านเรือนอยู่ไม่กี่หลัง แต่เป็นหมู่บ้านที่มีฉากธรรมชาติงดงามมาก มีทิวเขาตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง ด้านหน้ามีเรือประมงจอดทอดสมออยู่มากมาย เก็บภาพบรรยากาศที่สวยงามตามอัธยาศัย เดินทางสู่ท่าเรือสแตมซุน (Stamsund) (64 กม.) นำท่านเช็ค-อิน ลงเรือสำราญฮาวิล่า (Havila Cruise)
19:15 เรือสำราญ HAVILA / ออกเดินทางสู่เมืองทรอมโซ
ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร ในเรือสำราญ
พักที่: HAVILA CRUISE (ห้องพักวิวทะเล SEAVIEW) 

วันที่ห้าของการเดินทาง(5):เรือ HAVILA – ทรอมโซ– ชมเมืองนั่งกระเช้า FJELLHESEN  

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ภัตตคาร ภายในเรือสำราญ
หลังอาหารมีเวลาให้ท่านเดินเล่นสำรวจเรือสำราญ มีห้องซาวน่า, ห้องออกกำลังกาย รวมถึงสระน้ำวนจากุชชี่ ไว้บริการทุกท่าน หรือท่านจะเลือกนั่งชมวิวที่สวยงามของนอร์เวย์ ฟยอร์ดระหว่างเส้นทางที่สวยงามเกินคำบรรยาย ในเรือมีห้องคาเฟ่ต์ที่สามารถนั่งชมวิวได้หลายจุด
เที่ยง  บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร ในเรือสำราญ
14.15  เรือสำราญ เข้าเทียบท่าเรือทรอมโซ่ จากนั้นเดินทางข้ามสะพานทรอมโซซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของเมืองสู่สถานีกระเช้า Fjellheisen โดยสายกระเช้าขึ้นสู่จุดชมวิวยอดเขาสโตร์สไตยเนน (Mt.Storsteinen)เพื่อชมทิวทัศน์ตัวเมืองทรอมโซ, ฟยอร์ด, แม่น้ำและภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะในแบบพาโนรามา ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 420 เมตร ซึ่งมีลักษณะเป็นเกาะอยู่กลางฟยอร์ด มีเกาะใหญ่ๆ ล้อมรอบ มีเวลาให้ท่านจิบกาแฟหรือเลือซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย ได้เวลาสมควรนำท่านลงสู่สถานีด้านล่าง นำท่านแวะเก็บภาพความงดงามละยิ่งใหญ่ของ โบสถ์อาร์ติค (Arctic Church) โบสถ์ที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ อีกทั้งยังมีโครงสร้างที่โดดเด่น ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากสภาพภูมิทัศน์ในแบบภาคเหนือของนอร์เวย์
ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, SCANDIC HOTEL TROMSO หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่หกของการเดินทาง(6)   ทรอมโซ– ล่องเรือชมทรอมโซ ฟยอร์ด (ชมปลาวาฬ)-ชมเมือง –เมจิก ไอซ์บาร์ 

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านล่องเรือ “Whale Safari & Fjord Cruise” ชม “วาฬ” สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกท่ามกลางภูมิประเทศที่สวยงามในอาร์กติกโดยเฉพาะ “วาฬหลังค่อม-Humpback Whales” ที่พบมากที่สุดในบริเวณอ่าวทรอมโซ หมายเหตุ: บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกกิจกรรมล่องเรือโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า อันเนื่องมาจากสภาพอากาศในแถบอาร์กติกที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งบริษัทฯ จะจัดกิจกรรมอื่นทดแทนให้ตามความเหมาะสม
เที่ยง  บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย  หลังอาการเดินเล่นชมเมืองทรอมโซ่ เมืองเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางทะเลทางเหนือของนอร์เวย์ มีหิมะปก คลุมภูเขาลูกใหญ่ที่โอบล้อมเมืองเอาไว้ราวกับป้อมปราการ มีสะพานทอดยาวระหว่างเกาะไปยังแผ่นดินใหญ่ ผสมผสานกับความคลาสสิคของสิ่งปลูกสร้างเก่าแก่ที่ชาวทรอมโซ่ยังอนุรักษ์ไว้ ทั้งโบสถ์ไม้ โบสถ์ไม้เก่าแก่ชื่อ Tromso Cathedral โบสถ์ไม้ที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมือง ที่ได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ที่สุด และยังเป็นหนึ่งในโบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดของนอร์เวย์ โดยมหาวิหารถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1861 ในแบบสไตล์กอธิคที่มีความงดงามมาก จากนั้นนำท่านเข้าชม Magic Ice Bar Tromso  พบกับการผจญภัยที่น่าอัศจรรย์กับของเขตอาร์กติก โดยสิ่งของภายในจัดทำขึ้นจากน้ำแข็งและการติดตั้งที่ มีแสงไฟ LED ที่มีสีสันผสมผสานดนตรีสร้างบรรยากาศที่มีเสน่ห์เฉพาะ เมจิกไอซ์เป็นดินแดนมหัศจรรย์ในฤดูหนาวที่ซึ่งจะช่วยให้ท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศอันไม่ธรรมดาของดินแดนแห่งน้ำแข็งที่สมกับเป็น 'Winter Wonderland' อย่างแท้จริง ***หมายเหตุ Magic Ice จะมีชุดคลุมกันหนาวและกันเปียกไว้บริการให้สำหรับทุกท่าน***
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, SCANDIC HOTEL TROMSO หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่เจ็ดของการเดินทาง(7) "ทรอมโซ– ลองเยียร์บีน (เกาะสวาบาร์ด) -ขับรถ ATV ชมทัศนียภาพเมืองลองเยียร์บีน

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม /
09.30นำท่านออกเดินทางสู่สนามบินทรอมโซ
12.15  ออกเดินทางสู่สนามบินลองเยียร์บีน เกาะสวาบาร์ด (Svalbard)
13.45  เดินทางถึงสนามบินลองเยียร์บีน (Longyearbyen) เกาะสวาบาร์ด หมู่เกาะที่ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างนอร์เวย์และขั้วโลกเหนือในมหาสมุทรอาร์กติก ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของโลก มีพื้นที่รกร้างว่างเปล่าในแถบอาร์กติกอันบริสุทธิ์และอุดมสมบูรณ์ไม่มีที่สิ้นสุด สวาลบาร์ดประกอบด้วยเกาะ เกาะเล็กเกาะน้อย เกาะที่ใหญ่ที่สุดคือ Spitsbergen ในขณะที่ภูเขาที่สูงที่สุดคือ Newtontoppen (1,713 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองลองเยียร์บีน นำท่านขับรถ ATV Safari (คันล่ะสองท่าน) เข้าไปในภูมิประเทศสวาลบาร์ดในฤดูร้อน ที่ซึ่งหุบเขาลึกและภูเขาสูงเป็นที่อยู่ของกวางเรนเดียร์สวาลบาร์ดและสุนัขจิ้งจอกภูเขา เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสที่จะสัมผัสประสบการณ์นี้ในสถานที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลก ผ่านภูมิประเทศแบบสฟาลบาร์สุดคลาสสิกในแอดเวนดาเลน ซึ่งเป็นหุบเขาที่มีรูปร่างเป็นธารน้ำแข็ง และล้อมรอบด้วยภูเขาและอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจผ่านทัศนียภาพที่เป็นธรรมชาติ และหากคุณโชคดี คุณอาจได้เห็นชีวิตสัตว์ สุนัขจิ้งจอกอาร์กติก กวางเรนเดียร์ และนกที่อุดมสมบูรณ์ เนื่องเพราะฤดูร้อนในสฟาลบาร์ดนั้นสั้นโดยมีแสงสว่างตลอดเวลาในช่วงฤดูพระอาทิตย์เที่ยงคืนตั้งแต่เดือนเมษายนถึงปลายเดือนสิงหาคม 
https://svalbardadventures.com/opplevelser/atv-safari-norsk/
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่แปดของการเดินทาง(8): ลองเยียร์บีน (เกาะสวาบาร์ด) – ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง-ชมชีวิตสัตว์ขั้วโลก – ชมวิวเมืองพาราไมเดน (Ghost Town)

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม /
09.00หลังอาหาร นำท่านสู่ท่าเรือเรือฟยอร์ดครุยส์ เพื่อล่องเรือชมฟยอร์ดที่น่าทึ่งของสฟาลบาร์ เรือมุ่งหน้าสู่บิลเลฟยอร์จเดน (Billefjorden) ซึ่งมักถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งในช่วงต้นฤดูกาล ขณะที่เรือฟยอร์ดครูซเข้าใกล้ขอบน้ำแข็ง ท่านจะมีโอกาสที่น่าตื่นตาตื่นใจในการชมสัตว์ป่าอาร์กติกอันน่าทึ่งที่เจริญเติบโตในบริเวณนี้ จับตาดูอย่างใกล้ชิดแล้วคุณอาจมองเห็นแมวน้ำที่กำลังอาบแดดบนน้ำแข็ง วอลรัส วาฬหลังค่อม และแม้แต่วาฬสีน้ำเงินในฤดูกาลตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม และนกนานาชนิด เช่นถึงนกพัฟฟินแอตแลนติก และหากโชคดีเราอาจจะได้เห็นหมีขั้วโลกตัวหนึ่งหรือสองตัวขณะเดินเล่นบนน้ำแข็งลูกของพวกมัน และหากสภาพน้ำแข็งเอื้ออำนวย การล่องเรือนี้จะแสดงทิวทัศน์อันน่าทึ่งของธารน้ำแข็งนอร์เดนสกีโอลด์ (Nordenskiöld Glacier) ด้วย การได้เห็นสัตว์ป่าสัญจรไปมาในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างแท้จริง
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน แบบแบบปิคนิคพร้อมเครื่องดื่ม บนเรือฟยอร์ดครุยส์ เมนูเนื้อบาร์บีคิวและปลาแซลมอนอบ เสิร์ฟพร้อมสลัดพาสต้า ข้าว และขนมปัง
บ่าย  ล่องเรือต่อกับการสัมผัสประสบการณ์ทางธรรมชาติควบคู่ไปกับขอบน้ำแข็งที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในบิลเลฟยอร์จเดน (Billefjorden) และส่วนในของอิสฟยอร์จเดน ล่องเรือต่อสู่ชายฝั่งเมือง พาราไมเดน (Pyramiden) เมืองนี้ที่ก่อตั้งโดยสวีเดนในปี 1910 และต่อมาถูกขายให้กับสหภาพโซเวียตในปี 1927 เพื่อทำเหมือง “ถ่านหินอาร์กติก” พาราไมเดนได้รับการพัฒนาตามแนวคิดของสหภาพโซเวียตเกี่ยวกับสังคมในอุดมคติ มีปั๊มน้ำมัน เรือนกระจก ฟาร์ม โรงเรียน โรงเรียนอนุบาล โรงแรม ร้านอาหาร ซึ่งอาคารส่วนใหญ่ยังคงตั้งตระหง่านก่อนที่จะกลายเป็นเมืองร้างในปัจจุบัน ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในใจกลางของพาราไมเดนคือรูปปั้นครึ่งตัวของเลนินที่คอยจับตาดูเมือง พร้อมทิวทัศน์ของธารน้ำแข็งนอร์เดนสกีโอลด์อันสวยงาม
สมควรแก่เวลาเดินทางกลับลองเยียร์บีน
 *** บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการนี้โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ และเมืองพาราไมเดนซึ่งเป็นส่วนของประเทศรัสเซีย หากมีการปิดเมืองหรือไม่อนุญาติให้เข้าเมืองได้ บริษัทฯ ของสงวนสิทธิ์ชมเมืองจากบนเรือแทน *** https://www.visitsvalbard.com/things-to-do/fjordcruise

ค่ำ   บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่เก้าของการเดินทาง(9) :ลองเยียร์บีน (เกาะสวาบาร์ด) – ฟาร์มสุนักฮัสกี้-นั่งล้อเลื่อนสุนักฮัสกี้ –ชมเหมืองถ่านหินเก่า

เช้า  บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารนำท่านสู่ฟาร์มสุนัขฮัสกี้ สำรวจภูมิประเทศทุ่งทุนดราอันงดงามในแอดเวนดาเลน (Adventdalen) ซึ่งมีภูเขาสวยงามล้อมรอบ โดยเลื่อนที่สั่งทำพิเศษที่ลากโดยสี่ขาในภูมิประเทศอาร์กติกมีทั้งความสงบและสวยงาม และสำรวจนกที่อุดมสมบูรณ์และชีวิตกวางเรนเดียร์ เลื่อนจะถูกจำกัดให้เดินทางบนถนนหลายสายเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อชีวิตพืชที่เปราะบางและรบกวนนกจำนวนมากที่มาทำรังที่นี่ ฮัสกี้จะลากเลื่อนด้วยความเร็วปานกลางจึงมีความปลอดภัย ดังนั้นจึงมีเวลาเหลือเฟือสำหรับความประทับใจกับทัศนียภาพแบบอาร์กติกที่น่าประทับใจ
https://en.visitsvalbard.com/things-to-do/dog-sledding-on-wheels
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย    หลังอาหารนำท่านก้าวเข้าสู่ประวัติศาสตร์ของลองเยียร์เบียนและอุตสาหกรรมเหมืองถ่านหิน ‘Gruve 3 AS’ ที่กว้างขวาง “ถ่านหิน” หรือ “ทองคำดำ” ซึ่งเป็นถ่านหินในเทือกเขาสฟาลบาร์ดเป็นพื้นฐานในการตั้งถิ่นฐานในเหมืองในสฟาลบาร์ด และทำให้ผู้คนกลายเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรของสฟาลบาร์ดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ ผจญภัยไปในภูเขา สัมผัสบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครในขณะที่เดินผ่านอุโมงค์เหมือง และสัมผัสประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมของสฟาลบาร์ด และชีวิตของคนงานเหมืองและสำรวจอุปกรณ์และเครื่องจักรตั้งแต่สมัยเฟื่องฟู อุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินได้วางรากฐานสำหรับการตั้งถิ่นฐาน และในที่สุดทำให้ลองเยียร์เบียนเติบโตขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยสีสันอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้
https://en.visitsvalbard.com/things-to-do/coal-mine-3
ค่ำ    บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: RADISSON BLU HOTEL, FUKEN LODGE HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบของการเดินทาง(10) :ชมเมืองลองเยียร์บีน – ออสโล

เช้า บริการอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม /
เที่ยง บริการกลางวัน ณ ภัตตาคาร
.....   ออกเดินทางสู่สนามบินออสโล
.....    เดินทางถึงสนามบินออสโล / นำเข้าสู่ตัวเมือง
ค่ำ  บริการอาหารมื้อค่ำ ณ ภัตตาคาร
พักที่:RADISSON BLU PARK HOTEL หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง(11) :ออสโล – อุทยานฟรอกเนอร์ – เดินทางกลับ

เช้า บริการอาหารมื้อเช้า ณ โรงแรมที่พัก
หลังอาหารนำท่านชม “อุทยานฟรอกเนอร์” ลานปฎิมากรรมกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากผลงานของ “กุสตาฟ วิคเกอร์แลนด์” ปฏิมากรชื่อดัง ซึ่งที่นี่มีปฎิมากรรมมากกว่า 200 ชิ้น โดยผลงานชิ้นเอกเป็นเสากลางอุทยานซึ่งมีควมสูงถึง 17 เมตร ชื่อ Monolitten รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ ลักษณะของเสาโมโนลิท เป็นรูปคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสาใช้เวลาสร้างรวม 22 ปี
..........   เดินทางสู่สนามบินออสโล
14.45   ออกเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG921

วันที่สิบสองของการเดินทาง(12) :สนามบินสุวรรณภูมิ (กรุงเทพฯ) 

05.50เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ...โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ