ทัวร์กรุ๊ป สงกรานต์ MSC World Europa 11-20 เม.ย.67 บิน EK ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน11วัน : Mediteranean Cruise

รหัสสินค้า : CTX-H001-EK-10D-MSC WORLD EUROPA

ราคา

129,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 129,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ทัวร์กรุ๊ป : ล่องเรือสำราญ MSC World Europa ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 11 วัน

เส้นทาง : สเปน •ฝรั่งเศส•อิตาลี•มอลต้า

ราคา : เริ่มต้น 129,900.-บาท

สายการบิน : Emirates (EK)

เส้นทาง : บาร์เซโลนา(สเปน), มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส),เจนัว,ปอร์โตฟิโน,เนเปิ้ล,ปอมเปอี,เมสซีนา,ทอร์มินา(อิตาลี) ,วัลเลตตา(มอลต้า ,บาร์เซโลนา(สเปน)

รวม : ที่พักบนเรือ7คืน / ตั๋วเครื่องบินระหว่างกรุงเทพ-บาร์เซโลน่า / ค่าวีซ่าเชงเก้น /รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ พร้อมทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ /ภาษีท่าเรือ / อาหารบนเรือทุกมื้อ / กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ / **มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

พิเศษ!! รวมทัวร์พาเที่ยวทุกประเทศ /รวมวีซ่าเชงเก้น และรวมค่าทิปต่างๆแล้ว

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : **สงกรานต์ 11-20 เมษายน 2567

#ล่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียนกับเรือ #MSC World Europa #เรือสำราญสุดหรูระดับโลก จากอู่ต่อเรือ Chantiers de l'Atlantique ในแซงต์-นาแซร์ ประเทศฝรั่งเศส เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2565 และได้ให้บริการเป็นเรือของโรงแรมในเมืองโดฮา ระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2022 #MSC World Europa เรือระดับเวิลด์ คลาสลำแรกของฝูงและจะมีเรือพี่น้องอีก 3 ลำในปี 2024, 2025 และ 2027 ตามลำดับ ตัวเรือมีน้ำหนักประมาณ 200,000 ตันกรอส (GT) และมีห้องโดยสารมากกว่า 2,700 ห้องสำหรับรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 5,400 คน
การออกแบบและข้อมูลจำเพาะ : ตัวเรือจะมีความยาว 1,083 ฟุต (330 ม.) และกว้าง 154 ฟุต (47 ม.) และรวมการออกแบบตัวถังรูปทรงตัว "Y" เพื่อมุมมองที่กว้างไกล และการออกแบบคันธนูรูปทรง "G" เพื่อการประหยัดเชื้อเพลิงและความมั่นคง
**เนื่องจาก MSC World Europa ใช้พลังงานจากก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จึงมีรายงานว่าเรือลำนี้จะช่วยให้เรือแล่นได้โดยลดการปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ลง 99% การปล่อยก๊าซไนตริกออกไซด์ลดลง 85% และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 20% เมื่อเทียบกับเรือลำอื่นๆ

11 เม.ย. 67: กรุงเทพมหานคร

23.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ

12 เม.ย. 67 : กรุงเทพมหานคร – ดูไบ – บาร์เซโลนา – เช็คอินลงเรือ MSCWorld Europa Cruise

02.55 น.  ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK377 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
06.00 น. เดินทางถึงดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย
08.15 น. ออกเดินทางจาก สนามบินดูไบ (DXB) สู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) โดยเที่ยวบิน EK185 บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7.10 ชม.)
13.25 น.  เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
15.00 น.  นำท่านเช็คอินขึ้นเรือสำราญ MSC Europa Cruise
18.00 น.  เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา (สเปน) มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส)
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

13 เม.ย. 67:มาร์กเซย์

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น. เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
นำท่าน เข้าชมอาสนวิหารมาร์แซย์ (Cathedral de la Major) หรือชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญมารีย์องค์ใหญ่แห่งมาร์แซย์ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นอาสนวิหาร ตั้งอยู่ที่เมืองมาร์แซย์ จังหวัดบุช-ดูว์-โรน แคว้นโพรวองซ์ซาลป์โกตดาซูร์ ประเทศฝรั่งเศส อาสนวิหารมาร์แซย์มีฐานะเป็นอาสนวิหารรองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 และเป็นที่ตั้งอาสนะของอัครมุขมณฑลแห่งมาร์แซย์ จากนั้นนำท่าน เข้าชมสำนักสงฆ์เซ็นต์วิคเตอร์ (Abbey of St. Victor) ที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายสมัยโรมันในมาร์เซย์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสตั้งชื่อตามนักบุญทหารและพลีชีพในท้องถิ่นวิกเตอร์ออฟมาร์เซย์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่าน เข้าชมป้อมปราการซองจวน (Fort Saint Jean)เป็นป้อมปราการในมาร์กเซย์ สร้างขึ้นในปี 1660 โดย Louis XIV ที่ปากทางเข้า Old Port นับตั้งแต่ปี 2013 สะพานแห่งนี้เชื่อมโยงกันด้วยสะพานเชื่อมโยงสองแห่งกับย่านประวัติศาสตร์ Le Panier และพิพิธภัณฑ์อารยธรรมยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการที่สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองของฝรั่งเศสในยุคก่อน สมควรแก่เวลานำท่านสู่ถนนเลอพาเนีย (Le Panier)ย่านเมืองเก่าของมาร์กเซย์ เป็นบริเวณที่ชาวกรีกได้เข้ามาตั้งรกรากที่นี่กว่า 2,600 ปี ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของท่าเรือเก่า (Old Port)
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
18.00 น. เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว (อิตาลี)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

14 เม.ย. 67: เจนัว – ปอร์โตฟิโน – เจนัว

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเจนัว (อิตาลี)
09.00 น.   นำท่านเดินทางสู่ เมืองปอร์โตฟีโน (Portofino) (ระยะทาง 47 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขต จังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์แห่งเมืองท่า" เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช (Yatch)จอดเต็มไปหมด นำท่านชมความงดงามของ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยตัวโบสถ์นั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต แต่ก็มีความสวยงามมากพอสมควร จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับปราสาทและป้อมปราการ Castello Brown ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในอดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเมืองอีกด้วย 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
13.00 น.  นำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว (ระยะทาง 55 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) 
นำท่านชมบริเวณอ่าวเจนัว อันเป็นท่าเทียบเรือสำราญ เรือยอร์ชหรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจำลองขนาดยักษ์ สลักเสลาด้วยรูปปั้นอันวิจิตรคล้ายย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองเจนัวคนนี้ นำท่านชม (Piazza De Ferrari) สถานที่นัดพบของชาวเมืองเจนัว ศู นย์รวมของ ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจใจกลางเมอง บริเวณกลางของพลาซ่ามีน้ำพุขนาดใหญ่สร้างความสดชื่นให้กับชาวเมือง 
จากนั้นนำท่านแวะถ่ายรูปกับบ้านของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (Christopher Columbus' House) ตั้งอยู่ใกล้กับ Porta Soprana โบราณในเมืองเจนัวและจัตุรัสกลาง Piazza Dante โคลัมบัสเป็นบุตรชายของโดเมนิโกและซูซานนา ฟอนตานารอสซา ซึ่งย้ายมาที่นี่เมื่อลูกชายอายุสี่ขวบ เป็นบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ในศตวรรษที่ 18 ซึ่งคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเติบโตขึ้นในเมืองเจนัว ซึ่งตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองสมัยศตวรรษที่ 14 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัสอาศัยอยู่ในบ้านนี้ระหว่างประมาณปี 1455 ถึง 1470 ปัจจุบันบ้านคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสเป็นพิพิธภัณฑ์
15.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว
16.00 น. เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิลส์ (อิตาลี) 
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

15 เม.ย. 67 : เนเปิ้ล – ปอมเปอี

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
13.00 น. เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิลส์ (อิตาลี) 
เมืองเนเปิลส์ เป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli)  ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี  เป็นเมืองที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์ จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 เเละที่สำคัญก็คือที่เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองแรกในโลกที่เริ่มมีการทำพิซซ่า จึงนับได้ว่าเป็นเมืองต้นตำหรับของพิซซ่าอย่างเเท้จริง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณปอมเปอี (Pompei) นำท่านชม เมืองโบราณ 2,000 ปี ที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟ วิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662 ประชาชนนับหมื่นต้องถูกฝังทั้งเป็นตายด้วยความทุกข์ทรมาน โดยไม่มีโอกาสหนีรอดออกมาได้เลย และปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย” จากนั้น นำท่านแวะถ่ายรูปพระบรมมหาราชวังแห่งเมืองเนเปิ้ล (Royal Palace of Naples)เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ สินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย หรือจะเลือกเก็บภาพความน่าประทับใจของเมืองเนเปิ้ล กับงานสถาปัตยกรรมของหมู่อาคารเก่าแก่มากมายที่ยังคงสะท้อนความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันในอดีตได้อย่างดีเยี่ยม
18.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิ้ล
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
20.00 น.เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิ้ล มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือเมสซีนา (อิตาลี)

16 เม.ย. 67: เมสซีนา – ทอร์มินา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือเมสซีนา (อิตาลี)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทอร์มินา (Toarmina)เมืองตั้งอยู่บนเนินเขาชายทะเลงดงามดังภาพวาด ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาไฟเอ็ดน่า ที่ยังคุกรุ่นอยู่  ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่สวยที่สุดบนเกาะ ซิซิลี นำท่านแวะถ่ายรูปกับ เพียซซา ไนน์ เอพริว (Piazza IX Aprile) ตั้งอยู่ในใจกลางของ Corso Umberto มีชื่อเสียงจากทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลไอโอเนียนสีฟ้าและภูเขาเอตนา อาคารที่สำคัญที่สุดในจัตุรัสคือหอคอย ซึ่งรู้จักกันในชื่อนาฬิกา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 และถูกทำลายหลายครั้งเมื่อเวลาผ่านไป แต่ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อยู่เสมอ
นำท่านเดินทางสู่ ถนนคอร์โซ อัมเบอร์โต้ (Corso Umberto) ถนนสายหลักของเมือง
อิสระให้ท่านได้ ช้อปปิ้ง โดยสองข้างทางมีร้านอาหาร, ร้านขายของฝาก และสินค้าพื้นเมืองมากมาย นำท่านเข้าชมโรงละครกรีก (Greek Theatre) สร้างขึ้นเมื่อศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตกาล  เป็นโรงละครกรีกที่ตั้งอยู่บนจุดที่ดีที่สุดในบรรดาโรงละครกรีกทั้งหมดที่มีอยู่ในโลก  ด้านหลังเป็นวิวของเมืองทอร์มิน่าบนไหล่เขา ทะเลไอโอเนียน และภูเขาไฟเอ็ดน่า โรงละครกรีกแห่งนี้ยังคงถูกใช้งานในช่วงฤดูร้อน โดยเป็นหนึ่งในสถานที่จัดเทศกาลงานศิลปะนานาชาติของเมืองที่มีชื่อว่า ทอร์มิน่า อาร์เต้
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าชมวิหารเมสซีนา (Cathedral of Messina)เป็นอาสนวิหารนิกายโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ในเมืองเมสซีนา ประเทศซิซิลี ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2490 สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 12 ทรงพระราชทานสถานะเป็นมหาวิหารรอง สร้างขึ้นโดยชาวนอร์มัน และได้รับการถวายในปี 1197 โดยอาร์ชบิชอปเบราร์โด พระเจ้าเฮนรีที่ 6 จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ และคอนสแตนซ์ที่ 1 แห่งซิซิลี ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี อาคารปัจจุบันเป็นผลสุดท้ายของการบูรณะในศตวรรษที่ 20 ซึ่งเกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่โจมตีเมสซีนาในปี 1908 และความเสียหายจำนวนมากที่เกิดจากการทิ้งระเบิดทางอากาศอย่างหนักในสงครามโลกครั้งที่สอง มีเพียงกำแพงปริมณฑล พอร์ทัลสไตล์โกธิก และมุขที่ยังคงยืนหยัดอยู่หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งทำลายสิ่งปลูกสร้างโดยรอบใน Piazza Duomo ในปี 1943 ระเบิดเพลิงตกลงบนหลังคาที่ได้รับการซ่อมแซมใหม่ ซึ่งทำลายพื้นที่ภายในไปมาก มีเพียงโมเสกและรูปปั้นดั้งเดิมเท่านั้นที่รอดชีวิต หอคอยแห่งนี้เป็นที่ตั้งของนาฬิกาดาราศาสตร์เมสซีนาซึ่งเป็นนาฬิกาดาราศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นำท่านแวะถ่ายรูปกับน้ำพุเนปจูน (Fontana di Nettuno หรือ Neptune Fountain) ตั้งอยู่ในสวนที่ตั้งห่างจากใจกลางเมือง มันถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1557 และเช่นเดียวกับเทพนิยายน้ำพุเป็นผลงานของ Montorsoli น้ำพุแสดงให้เห็นว่าเทพเจ้าแห่งทะเลติดอยู่ระหว่าง Scylla และ Charybdis ซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดสองตัวที่ช่องแคบเมสซีนา Via della Liberta เริ่มต้นที่น้ำพุแห่งนี้และนำออกจากเมืองไปยังบริเวณนิทรรศการของ Fiera di Messina.
17.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเมสซีนา
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

17 เม.ย. 67 : วัลเลตตา (มอลต้า)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือวัลเลตตา (มอลต้า)
09.00 น.   นำท่านชมเมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980 นำท่านแวะถ่ายรูปกับน้ำพุไทรทัน (Triton Fountain) เป็นน้ำพุที่ตั้งอยู่นอกประตูเมืองวัลเลตตา ประเทศมอลตา ประกอบด้วยไทรทันสำริด 3 องค์ที่ถือแอ่งขนาดใหญ่ วางสมดุลบนฐานศูนย์กลางที่สร้างจากคอนกรีตและหุ้มด้วยแผ่นหินทราเวอร์ทีน น้ำพุแห่งนี้ถือเป็นสถานที่สำคัญสไตล์โมเดิร์นที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของมอลต้า นำท่านแวะถ่ายรูปกับสวนบารัคคา (Barracca Garden) สวนสวยที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่ภายหลังได้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมในปี 1824 ภายในสวนประกอบไปด้วย Upper Barracca และ Lower Barracca ในส่วน Upper นั้นได้สร้างขึ้นในปี 1661 โดยอัศวินชาวอิตาเลียน จากบริเวณสวนจะเห็นวิวของอ่าวแกรนด์ฮาร์เบอร์ได้ชัดเจน นำท่านเข้าชมวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวินเซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิก และศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 นำท่านถ่ายรูปกับพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้า นาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเอ็มดินา (Mdina)เมืองหลวงเก่าของมอลต้า อายุประมาณ 1,500 – 1,000 ปีก่อนคริสตกาล ตั้งอยู่บนเนินเขาความสูงประมาณ 150 เมตรจากระดับน้ำทะเล สร้างขึ้นในช่วงการปกครองของชาวฟินิเชีย (Phoenician) เมืองนี้ได้รับอิทธิพลของศิลปะยุคกลาง สไตล์เมดิวัล ผสมผสานสถาปัตยกรรมระหว่างอาหรับ และยุโรป จนกลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายนอกเมืองล้อมรอบด้วยกำแพงสูงสีทอง นำท่านแวะถ่ายรูปกับประตูเมือง (Mdina Gate)สร้างขึ้นในปี 1724 สถาปัตยกรรมบาโรค นำท่านเดินเที่ยวชมภายในเมืองเก่า และนำท่านแวะถ่ายรูปกับจตุรัสเมสคิตา (Mesquita Square) ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำซีรีย์ดัง Game of Thornes
15.30 น.  นำท่านชม ป้อมมาโนเอล (Fort Manoel) เป็นป้อมดาวบนเกาะ Manoel ในเมือง Gzira ประเทศมอลตา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 18 โดยคณะนักบุญจอห์น ในรัชสมัยของประมุขอันโตนิโอ มาโนเอล เด วิลเฮนา ซึ่งได้รับการตั้งชื่อตามนั้น ป้อมมาโนเอลตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของวัลเลตตา และควบคุมท่าเรือ Marsamxett และที่ทอดสมอของ Sliema Creek ป้อมแห่งนี้เป็นตัวอย่างหนึ่งของสถาปัตยกรรมบาโรก และได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามเป็นหลัก อยู่ในรายชื่อเบื้องต้นของแหล่งมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 1998 โดยเป็นส่วนหนึ่งของป้อมปราการของอัศวินรอบๆ ท่าเรือแห่งมอลตา
16.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือวัลเลตตา
17.00 น. เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือวัลเลตตา มุ่งหน้าสู่ กรุงโรม (อิตาลี)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

18 เม.ย. 67 :At Sea

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room   : บาร์และเลาจน์, ห้องสมุด, ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment : ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ บาร์ต่างๆ หลากหลายสไตล์   คาสิโน, ดิสโก้เธค, ห้องเล่นเกมส์
-Sport and Activities  : สระว่ายน้ำ, สปอร์ทคอร์ท, ฟิตเนต, มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness   : ห้องสปา, ห้องสตรีม, บิวตี้ ซาลอน, โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
หมายเหตุ : ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ

19 เม.ย. 67 : บาร์เซโลนา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
10.00 น.   นำท่านเช็คเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
นำท่านเข้าชมมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์” (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา  เป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย นำท่านเข้าชมคาซาวิเซนน์ (Casa Vicens)เป็นอาคารสมัยใหม่ที่ตั้งอยู่ในย่าน Gracia ของบาร์เซโลนา เป็นผลงานของสถาปนิก Antoni Gaudí และถือเป็นโครงการสำคัญโครงการแรกของเขา สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2426 ถึง พ.ศ. 2428 งานนี้เป็นสไตล์ตะวันออกคล้ายกับสถาปัตยกรรมนีโอมูเดคาร์ ผลงานนี้เป็นของยุคตะวันออกของเกาดี (พ.ศ. 2426-2431) ซึ่งเป็นยุคที่สถาปนิกสร้างผลงานหลายชุดที่มีกลิ่นอายตะวันออกอันโดดเด่น โดยได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปะแห่งตะวันออกใกล้และไกล (อินเดีย เปอร์เซีย ญี่ปุ่น) เช่นกัน เป็นศิลปะอิสลามฮิสแปนิก เช่น Mudéjar และ Nasrid ในช่วงเวลานี้ Gaudí ใช้กระเบื้องเซรามิกจำนวนมากในการตกแต่งผลงานของเขา เช่นเดียวกับซุ้มโค้งมัวร์ เสาอิฐเปลือย และการตกแต่งรูปทรงวิหารหรือโดม อาคารหลังนี้ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานประวัติศาสตร์-ศิลปะในปี พ.ศ. 2512 นำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนาถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง  1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีกมากมาย นำท่านเดินทางสู่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles ซึ่งเป็นห้างที่รวมสินค้าแบรนด์เนมต่างๆมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือ ของฝากตามอัธยาศัย
17.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) เพื่อเช็คอินและทำ Tax Refund
20.40 น. ออกเดินทางจากสนามบินบาร์เซโลนา กลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK188
(ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่องบิน

20 เม.ย. 67 : กรุงเทพมหานคร

05.35 น.  เดินทางมาถึงสนามบินดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง
08.50 น.  ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK370 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร บนเครื่องบิน
18.20 น.    เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ 

**กรุณาตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ**

…Cruise Vacations Start Here…Cruise Tour eXperts by Chic Journey
หมายเหตุ : ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆแทนได้
รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการ

11-20 เมษายน 2567

ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องคู่ INSIDE) ท่านละ

129,900

อัพเกรดเป็นห้องพักแบบมีระเบียงทะเล
(พักห้องคู่ Sea-View Balcony) ท่านละ

13,000

พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ (คิดที่ห้องพักแบบ INSIDE ซึ่งเป็นราคาเริ่ม)

37,000

ราคาผู้ใหญ่ หรือ เด็ก (ห้องพัก 3 ท่าน) ท่านละ

125,900

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ
(ราคายืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

100,000 – 140,000

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าใช้จ่าย (ผู้ใหญ่) 
(ไม่รวมตั๋ว BKK-DXB-BCN-DXB-BKK)

34,000

**ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง
ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่  10/9/2023) **

Visitors: 119,823