ทัวร์กรุ๊ปสงกรานต์ 9-18 เม.ย.69 บิน QR 10วัน 7คืน MSC WORLD EUROPA ล่องเรือเมดิเตอร์เรเนียน สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี มอลต้า เมษายน 2569 : MEDITERRANEAN

รหัสสินค้า : CTX-H001-QR-10D-MSC WORLD EUROPA-MEDI

ราคา

129,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 129,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

เส้นทาง 4 ประเทศ:สเปน•ฝรั่งเศส•อิตาลีอิ•มอลต้า 10วัน 7คืน

ราคา:เริ่มต้น129,900.-บาท

สายการบิน : Qatar Airways ( QR )

รวม : บนเรือ7คืน , ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศตามเส้นทาง,ค่าวีซ่าเชงเก้น,รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ พร้อมทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ ,ภาษีท่าเรือ , อาหารบนเรือทุกมื้อ ,กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ,ค่าบริการเรือ (Service Fee) ,ค่าทิปไกด์และทิปคนขับรถ,พร้อมหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

ไม่รวม :วีซ่าเชงเก้น,ค่าอาหารสั่งพิเศษ,ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ

พิเศษ!! รวมทัวร์พาเที่ยวชายฝั่ง

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : **สงกรานต์ 9-18 เมษายน 2569

9 เม.ย. 2569:  กรุงเทพมหานคร - โดฮา

17.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน กาตาร์ แอร์เวย์ส (QR) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
20.00 น.  ออกเดินทางสู่สนามบินโดฮา ประเทศประเทศกาตาร์ (DOH) โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR) เที่ยวบินที่ QR835 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.45 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินมีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
22.45 น.      เดินทางถึงสนามบินโดฮา (DOH) ประเทศประเทศกาตาร์ แวะเปลี่ยนเครื่อง

10 เม.ย. 2569 : โดฮา – บาร์เซโลนา – เข้าชมมหาวิหารซากราด้าฟามิเลียร์ - ช้อปปิ้งถนนลารัมบลา - MSC World Europa

01.45 น.  ออกเดินทางจากสู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN)ประเทศสเปน โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR) เที่ยวบินที่ QR137 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.45 ชม.) สายการบินมีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบิน
07.30 น.  เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา (BCN) ประเทศสเปน นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
09.00 น.  นำท่านเข้าชมมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์ (Sagrada Familia)สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา  เป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี จากนั้นนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนาถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง  1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีกมากมาย อิสระให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือ ของฝากตามอัธยาศัย
กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
14.00 น.    นำท่านเดินทางเช็คอินขึ้นเรือสำราญ MSC Europa Cruise
18.00 น.    เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา (สเปน) มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

11 เม.ย. 2569 : มาร์กเซย์ (โพรวองซ์) – ศูนย์ชาริตี้เซ็นเตอร์ – ปราสาทลาบูซีน - ปาเลส์ ลองชองป์ - ท่าเรือเก่า

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.   เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
09.00 น.   นำท่านเข้าชมศูนย์ชาริตี้เซ็นเตอร์ (Old Charity Center) สถาปัตยกรรมอันงดงามแห่งนี้ออกแบบโดยปิแอร์ ปูเจต์ ในเมืองมาร์เซย์ สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1671 ถึง 1749 เป็นสถาปัตยกรรมแบบบาโรก พร้อมด้วยโบสถ์น้อยและโดมอันโดดเด่น เดิมทีสร้างขึ้นเป็นสถานสงเคราะห์คนยากไร้ในศตวรรษที่ 17 ปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของสถาบันทางวัฒนธรรมเท่านั้น เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อันน่าหลงใหลที่จัดแสดงสมบัติล้ำค่าจากอียิปต์ แอฟริกา และทวีปอเมริกา และยังจัดแสดงคอลเล็กชันทางโบราณคดีและชาติพันธุ์วิทยาจากพิพิธภัณฑ์มาร์เซย์อีกด้วย จากนั้นนำท่านเข้าชมปราสาทลาบูซีน (Château de La Buzine) เป็นอาคารสมัยศตวรรษที่ 19 เป็นปราสาทในเมืองมาร์เซย์ ที่มีชื่อเสียงจากการเป็น "บ้านของภาพยนตร์" หรือ "Maison du Cinéma" ปราสาทแห่งนี้ได้รับการบูรณะและเปิดให้ประชาชนเข้าชม โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่ประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์ของมาร์แซล ปัญโญล (Marcel Pagnol) และมีการจัดกิจกรรมต่างๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์ เช่น การจัดแสดงนิทรรศการ การฉายภาพยนตร์ และการจัดเวิร์คช็อป เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่สนใจในภาพยนตร์และประวัติศาสตร์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ภายในปราสาท (มื้อพิเศษ)
บ่าย  นำท่านแวะถ่ายรูปกับปาเลส์ ลองชองป์ (Palais de Longchamp) เป็นอาคารและสวนสาธารณะที่มีชื่อเสียงในมาร์กเซย์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองการสร้างคลองมาร์กเซย์ ซึ่งนำน้ำจากแม่น้ำดูร็องซ์มายังเมือง และถือเป็นความสำเร็จทางสถาปัตยกรรมที่แท้จริง ปาแล ลองชองป์ เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยา และพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1839 และแล้วเสร็จใน ค.ศ. 1869 ออกแบบโดยสถาปนิก อองรี-ฌาคส์ เอสเปร็องดิว (Henri-Jacques Espérandieu) โดยมีน้ำพุขนาดใหญ่และอลังการเป็นจุดเด่น นอกจากนี้ยังมีสวนลองชองป์ (Parc Longchamp) ซึ่งอยู่รายรอบปาแล ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในสวนที่โดดเด่นที่สุดของฝรั่งเศส สวนแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของสวนสัตว์ ซึ่งยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่จนถึงปัจจุบัน นำท่านชมท่าเรือเก่าแห่งมาร์แซย์ (Old Port)  ตั้งอยู่สุดถนน Canebière ซึ่งเป็นถนนสายหลักของเมืองมาร์แซย์ เดิมทีท่าเรือแห่งนี้เคยเป็นท่าเรือธรรมชาติของเมืองมาตั้งแต่สมัยโบราณ และปัจจุบันเป็นสถานที่ยอดนิยมของเมือง ในปี พ.ศ. 2556 ท่าเรือแห่งนี้กลายเป็นแหล่งคนเดินหลัก
16.30 น.  นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
18.00 น.  เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว (อิตาลี)
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

12 เม.ย. 2569  เจนัว – ซานตามาร์เกริตา ลิกูเร – วิลลาดูราซโซ – ป้อมซานตามาร์เกริตาลิกูเร – คาโมกลี - มหาวิหารซานตามาเรีย อัสซุนตา - ปราสาทเดลลาดราโกนารา

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.   เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเจนัว (อิตาลี)
09.00 น.   นำท่านเดินทางสู่เมืองซานตามาร์เกริตา ลิกูเร (Santa Margherita Ligure) เป็นเมืองเล็กๆในแคว้นลิกูเรีย บนชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี ห่างจากเมืองเจนัวเพียง 30 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่สวยงามและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ เมืองนี้มีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย ตั้งแต่การเดินป่าไปจนถึงการพายเรือ และยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารท้องถิ่นรสเลิศ Santa Margherita Ligure ในปัจจุบันเป็นการรวมตัวกันของหมู่บ้านชาวประมงยุคกลางสองแห่งที่อยู่ติดกันก่อนหน้านี้ ในปี ค.ศ. 1813 ภายใต้การปกครองของจักรวรรดินโปเลียน Peschino และ Corte ที่อยู่ใกล้เคียงได้รวมกันเป็น "Porto Napoleone" (ปอร์โตนโปเลียน) สองปีต่อมา พื้นที่ท่าเรือถูกผนวกเข้ากับราชอาณาจักรซาร์ดิเนีย กลายเป็นรัฐซานตา มาร์เกอริตา ลิกูเร มีทางเดินเล่นกว้างริมทะเล รวมถึงแนวต้นปาล์มอันเป็นเอกลักษณ์ ด้านหนึ่งของต้นปาล์มมองเห็นทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันเงียบสงบ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งมีบาร์ ร้านอาหาร และร้านกาแฟกระจายอยู่ทั่วไป อาหารพิเศษของที่นี่คือกุ้งทะเลน้ำลึกขนาดใหญ่สีแดงสด มีราคาแพงและมีรสชาติละเอียดอ่อน ชาวลิกูเรียมักรับประทานแบบดิบๆ กับน้ำมันและเกลือเล็กน้อย จากนั้นนำท่านเข้าชมวิลล่าดูราซโซ (Villa Durazzo)  เป็นคฤหาสน์และสวนประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในเมือง Santa Margherita Ligure ประเทศอิตาลี. ตัววิลล่าและสวนเปิดให้เข้าชมทุกวัน โดยเข้าชมสวนฟรีและมีค่าเข้าชมวิลล่า. สวนมีลักษณะเป็นสวนสไตล์อิตาลีที่สวยงามพร้อมต้นไม้หลากหลายชนิด รวมถึงต้นส้ม มะนาว และดอกคาเมเลีย. ภายในวิลล่ามีการจัดแสดงภาพวาดจากโรงเรียนจิตรกรรมเจนัวในศตวรรษที่ 17 และ 18 และเฟอร์นิเจอร์สไตล์โบราณ นำท่านแวะถ่ายรูปกับป้อมซานตามาร์เกริตาลิกูเร (Castello di Santa Margherita Ligure) เป็นป้อมปราการสมัยศตวรรษที่ 16 ในเมืองซานตามาร์เกริตาลิกูเร ภายในนครเจนัว ประเทศอิตาลี ป้อมปราการแห่งนี้ตั้งอยู่เชิงเขาซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวิลล่าดูราซโซ-เซนทูริโอเน (Villa Durazzo-Centurione) สร้างขึ้นตามมติของวุฒิสภาสาธารณรัฐเจนัวในปี ค.ศ. 1550 มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันการโจมตีจากโจรสลัดบาร์บารี ออกแบบโดยอันโตนิโอ เดอ คาราโบ
กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่คาโมกลี (Camogli) เป็นหมู่บ้านชาวประมงและรีสอร์ทท่องเที่ยว ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรปอร์โตฟีโน ริมฝั่งกอลโฟ ปาราดิโซ ในริเวียราดิเลวานเต ในเขตนครเจนัว แคว้นลีกูเรีย ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ปัจจุบันเมืองคาโมกลีพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก และเป็นที่รู้จักจากบ้านเรือนสีสันสดใสที่เรียงรายอยู่ริมชายหาด สีของบ้านเรือนเคยช่วยให้ชาวประมงในเมืองคาโมกลีหาทางกลับท่าเรือได้ นำท่านเข้าชมมหาวิหารซานตามาเรีย อัสซุนตา (Basilica Minore di Santa Maria Assunta)เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของคริสตจักรคาทอลิก ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลคาโมกลี บนถนนเวียเดลลีโซลา ในเมืองเจนัว สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 บนเกาะหินใกล้กับท่าเรือเล็กๆ ของหมู่บ้านริมทะเล ตัวอาคารได้รับการบูรณะและขยายหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในศตวรรษที่ 16 และช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ในเดือนพฤศจิกายน ปี 1988 สมเด็จพระสันตะปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ได้ทรงยกระดับให้เป็นมหาวิหารขนาดเล็ก ภายในอาคารทางศาสนาประกอบด้วยทางเดินกลางสามแห่งในสไตล์สถาปัตยกรรมบาโรก ปูด้วยปูนปั้นทองคำชั้นดี หินอ่อนหลากสี ห้องบัพติศมา และโคมระย้าคริสตัล ห้องใต้ดินมีภาพจิตรกรรมฝาผนังปลายศตวรรษที่ 19 ผลงานของจิตรกรนิโคโล บาราบิโน และฟรานเชสโก เซมิโน ปัจจุบัน มหาวิหารแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองคาโมกลี นำท่านถ่ายรูปปราสาทเดลลาดราโกนารา (Castle della Dragonara) สร้างขึ้นในสมัยกลาง ในศตวรรษที่13 หรือเรียกอีกอย่างว่า ปราสาทมังกร สร้างขึ้นเป็นหอสังเกตการณ์เพื่อป้องกันหมู่บ้านโบราณและแนวชายฝั่งโดยรอบจากการโจมตีของโจรสลัดซาราเซน มีระเบียงพร้อมทิวทัศน์อันงดงามของทะเลและหมู่บ้าน ทางเข้าปราสาทเป็นพื้นที่โล่งซึ่งมีปืนใหญ่สมัยศตวรรษที่ 16 สองกระบอกตั้งอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่ปราสาทมีการป้องกันที่ดีขึ้น ปัจจุบันปราสาทแห่งนี้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าต่างๆ
15.30 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเจนัว
18.00 น.  เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือชีวีตาเวกเกีย (อิตาลี)  
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

13 เม.ย. 2569  ชีวีตาเวกเกีย - ซานตา เซเวร่า – บรักซิอาโน – ปราสาทโอเดสคัลชีแห่งบรัคชาโน - ปิอัซซา เดล โคมูเน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น.  เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือท่าเทียบเรือชีวีตาเวกเกีย (อิตาลี) 
08.30 น.   นำท่านเดินทางสู่ซานตา เซเวร่า (Santa Severa) เป็นเขตปกครองของเทศบาลซานตามาริเนลลาในจังหวัดโรมแคว้นลาซีโอประเทศอิตาลี เป็นรีสอร์ทริมทะเลขนาดเล็กบนถนนเวียเอาเรเลีย ห่างจากซานตามาริเนลลาไปทางใต้ประมาณ 8 กม. และห่างจาก กรุงโรมไปทางเหนือประมาณ 50 กม. หมู่บ้านนี้มาจากชื่อของนักบุญผู้พลีชีพในศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 2 หมู่บ้านแห่งนี้มีเมืองเล็กๆ ในยุคกลางที่มีปราสาทสมัยศตวรรษที่ 9 หันหน้าออกสู่ทะเล ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของท่าเรือโบราณของชาวอีทรัส คันชื่อ พีร์จีแผ่นจารึกพีร์จีถูกค้นพบที่นี่ในปี พ.ศ. 2507 นำท่านถ่ายรูปกับปราสาทซานตา เซเวร่า (Castello Santa Severa) ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทิร์เรเนียนทางตอนเหนือของกรุงโรม เป็นมรดกอันทรงคุณค่าทั้งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ปราสาทแห่งนี้ตั้งชื่อตามนักบุญเซเวรา วีรชนชาวคริสต์หนุ่ม ซึ่งถูกสังหาร (ตามธรรมเนียม) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ค.ศ. 298 ณ สถานที่แห่งนี้ พร้อมด้วยพี่น้องของเขา คาเลนดิโน และมาร์โค ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิไดโอคลีเชียน โครงสร้างของปราสาทที่แท้จริงมีอายุย้อนกลับไปถึงศตวรรษที่ 14 คูน้ำล้อมรอบปราสาท มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าพร้อมหอคอยมุม และเชื่อมต่อด้วยสะพานไม้ไปยังป้อมปราการทรงกระบอกอันโอ่อ่า|นำท่านเดินทางสู่บรักซิอาโน (Bracciano) เป็นเมืองเล็กๆ ในแคว้นลาซิโอของอิตาลี ห่างจากกรุงโรมไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 30 กิโลเมตร เมืองนี้มีชื่อเสียงในเรื่องทะเลสาบภูเขาไฟ (Lago di Bracciano หรือ "Sabatino" ซึ่งเป็นทะเลสาบที่ใหญ่เป็นอันดับแปดของอิตาลี) และปราสาทยุคกลาง Castello Orsini-Odescalchi ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่นิยมสำหรับการล่องเรือและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดงานต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะงานแต่งงานของนักแสดงและนักร้อง
กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าชมปราสาทโอเดสคัลชีแห่งบรัคชาโน (Castello Odescalchi di Bracciano) เป็นปราสาทในเมือง Bracciano เมืองลาซิโอ ประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บนชายฝั่งทางใต้ของทะเลสาบ Bracciano ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 15 ผสมผสานการใช้งานของโครงสร้างป้องกันทางทหารและที่พักอาศัยของขุนนางศักดินาในยุคนั้น ได้แก่ ตระกูลออร์ซินีและบอร์เจีย ซึ่งทั้งสองเป็นตระกูลพระสันตะปาปา ในฐานะหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดและได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในอิตาลี ปราสาทแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์อีกด้วย ในฐานะศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรม ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่จัดงานแต่งงานที่มีชื่อเสียงหลายงาน เช่น งานแต่งงานของทอม ครูซ/เคที โฮล์มส์, อีรอส รามาซ็อตติ/มิเชลล์ ฮันซิเกอร์ และเพตรา เอคเคิลสโตน/เจมส์ สตั๊นท์ จากนั้นนำท่านชมปิอัซซา เดล โคมูเน (Piazza del Comune) ศาลาว่าการเมืองแห่งนี้เป็นอาคารที่ตั้งอยู่ในเมืองบรัคชาโน ในจัตุรัส Piazza IV Novembre สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1619 ถึง 1636 และได้รับการบูรณะหลายครั้งในช่วงศตวรรษที่ 18 เนื่องจากความผิดพลาดในการก่อสร้าง และถูกใช้เป็นศาลาประชาคมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
16.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือชีวีตาเวกเกีย
18.00 น. เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือชีวีตาเวกเกีย มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือเมสซีนา (อิตาลี)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

14 เม.ย. 2569: เมสซีนา – มิลาซโซ – ปราสาทมิลาซโซ – เคียซา ดิ ซาน ฟรานเชสโก ดิ เปาลา

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room     : บาร์และเลาจน์, ห้องสมุด, ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment : ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ บาร์ต่างๆหลากหลายสไตล์   คาสิโน, ดิสโก้เธค, ห้องเล่นเกมส์
-Sport and Activities    : สระว่ายน้ำ, สปอร์ทคอร์ท, ฟิตเนต, มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness     : ห้องสปา, ห้องสตรีม, บิวตี้ ซาลอน, โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
12.00 น.  เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือเมสซีนา (อิตาลี)
นำท่านเดินทางสู่เมืองมิลาซโซ (Milazzo) (ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นจุดหมายปลายทางอันน่าหลงใหลในซิซิลี ตั้งอยู่เชิงเขาแหลมที่ทอดยาว 5 กิโลเมตร ลงสู่ทะเลทิร์เรเนียน มิลาซโซก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 2,500 ปีก่อน เปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์และเสน่ห์ ปัจจุบันเป็นท่าเรือหลักของหมู่เกาะเอโอเลียน ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางที่คึกคักสำหรับนักเดินทาง นำท่านเข้าชมปราสาทมิลาซโซ (Milazzo Castle) เป็นปราสาทและป้อมปราการที่ตั้งอยู่บนยอดเขาที่สามารถมองเห็นตัวเมืองได้ บนพื้นที่ซึ่งเดิมทีมีการสร้างป้อมปราการขึ้นในยุคหินใหม่ ชาวกรีกได้ดัดแปลงให้เป็นอะโครโพลิส และต่อมาชาวโรมันและไบแซนไทน์ได้ขยายพื้นที่เป็นคาสตรัม ชาวอาหรับได้สร้างปราสาทขึ้น ซึ่งได้รับการดัดแปลงและขยายเพิ่มเติมในช่วงยุคกลางและยุคต้นสมัยใหม่ ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นตามความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของคาบสมุทร Milazzo ซึ่งเป็นที่ตั้งของอ่าว Patti ซึ่งเป็นแหล่งน้ำที่กั้นระหว่างเกาะซิซิลีกับหมู่เกาะ Aeolian นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของท่าเรือธรรมชาติที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของซิซิลีอีกด้วย นำท่านเข้าชมเคียซา ดิ ซาน ฟรานเชสโก ดิ เปาลา (Chiesa di San Francesco di Paola) (ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เป็นโบสถ์และอารามนิกายโรมันคาทอลิก ในสมัยศตวรรษที่ 16 ตั้งอยู่ที่มุม Via Carini Piazza San Francesco di Paola ในเมืองปาแลร์โมประเทศอิตาลี ตกแต่งด้วยโทนสีชมพูและขาว มองเห็นได้อย่างชัดเจนจากหุบเขาเบื้องล่าง ด้านหน้าอาคารที่ประดับด้วยวิหารแบบคลาสสิกและหอระฆังอันโอ่อ่าในสไตล์เดียวกัน ก่อให้เกิดรูปลักษณ์ภายนอกที่สง่างามอย่างน่าอัศจรรย์
18.00 น.   นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือเมสซีนา
20.00 น.  เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือเมสซีนา มุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือวัลเลตตา (มอลต้า)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

15 เม.ย. 2569: วัลเลตตา (มอลต้า) – เมลลีฮา – หมู่บ้านป๊อปอาย – วัลเลตตา – พระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ – จัตุรัสอิสรภาพ

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.   เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือวัลเลตตา (มอลต้า)
10.00 น. นำท่านเดินทางสู่เมลลีฮา (Mellieha)(ระยะทาง 25 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ในภาคเหนือของประเทศมอลตา เมลลีฮายังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเนื่องจากมีชายหาดทราย ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ และหมู่บ้านป๊อปอายที่อยู่ใกล้เคียง นำท่านชมหมู่บ้านป๊อปอาย (Popeye Village) หมู่บ้านจำลองที่สร้างไว้สำหรับเป็นฉากละครเพลงสดเรื่อง ป๊อปอาย ในปี ค.ศ. 1980 เกิดจากความร่วมมือจากสองบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์อย่าง Paramount Pictures และ Walt Disney ซึ่งปัจจุบันที่นี่ได้ดัดแปลงให้กลายเป็นพิพิธภัณธ์กลางแจ้ง เป็นแหล่งแห่งการพักผ่อน ให้ครอบครัวพาเด็กๆ มาชมกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองวัลเลตตา (Valletta)(ระยะทาง 30 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เมืองหลวงของประเทศมอลตา
กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านชมเมืองวัลเลตตา (Valletta) เมืองหลวงของสาธารณรัฐมอลต้า ซึ่งได้ตั้งชื่อเมืองตามชื่อของ Jean Parisot De La Valetta ผู้ซึ่งสามารถป้องกันการรุกรานเกาะมอลต้า จากออตโตมานในปี 1565 เมืองวัลเลตตาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกในปี 1980
นำท่านแวะถ่ายรูปกับวิหารเซนต์จอห์น (St. John’s Cathedral) สร้างโดยอัศวินเซนต์จอห์น เพื่อมอบเป็นเกียรติแก่ผู้อุปถัมภ์เหล่าอัศวินทั้งหลาย ความพิเศษของวิหารแห่งนี้คือการ ออกแบบตกแต่งโดยสถาปนิก และศิลปินชาวมอลต้าในช่วงศตวรรษที่ 16 นำท่านแวะถ่ายรูปกับพระราชวังแกรนด์มาสเตอร์ (Grand Master Palace) อดีตพระราชวังยุคศตวรรษที่ 16 ถือครองโดย อุสตาจิโอ้ เดล มอนเต้ ญาติคนสนิทของผู้ครองแคว้นมอลต้า นาม ฌองป์ เดอลา วาเลตเต้ แรกเริ่มเดิมทีถูกใช้เป็นสถานที่บัญชาการรบของอัศวินในยุคนั้น และภายหลังเสร็จสิ้นสงคราม ได้ถูกต่อเติมเป็นพระราชวัง แต่แล้วถูกโอนย้ายเปลี่ยนมือเป็นสถานที่พำนักของผู้ปกครองจากประเทศอังกฤษในช่วงศตวรรษที่ 19 และกลับมาถือครองโดยประเทศมอลต้าภายหลังประกาศเอกราชในปี ค.ศ.1964 และในปัจจุบันถูกใช้เป็นอาคารรัฐสภาแห่งมอลต้า สถานที่ทำงานของประธานาธิบดีแห่งมอลต้า ภายในตัวอาคารตกแต่งแบบนิโอคลาสสิค และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในบางส่วนที่จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ สำหรับจัดแสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์ และยุทโธปกรณ์ของอัศวินในอดีต จากนั้นนำท่านชมจัตุรัสอิสรภาพ (Freedom Square)หรือ Liberty Square เป็นจัตุรัสใจกลางเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการสำรวจเมืองวัลเลตตา ท่านสามารถสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป และสัมผัสบรรยากาศของเมืองได้ โดยรอบๆ จัตุรัสมีอาคารสไตล์ยุโรปที่น่าสนใจ รวมถึงอาคารที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ นำท่านช้อปปิ้งถนนรีพับบลิค (Republic Street) เป็นถนนสายหลักที่พลุกพล่านที่สุดของเมืองวัลเลตตา ประเทศมอลตา. เป็นแหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหาร และพิพิธภัณฑ์ เป็นถนนที่คึกคักและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ถนนรีพับบลิคยังทอดยาวจากประตูเมือง (City Gate) ไปยังป้อม St Elmo ในใจกลางเมืองอีกด้วย ภายในอาคารเก่าแก่สีทรายที่เรียงรายอยู่ริมถนนสายกว้างนี้ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเมือง อิสระให้ท่านได้ซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย
15.00 น. นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือวัลเลตตา
17.00 น.  เรือออกเดินทางจาก ท่าเทียบเรือวัลเลตตา มุ่งหน้าสู่ ท่าเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

16 เม.ย. 2569: At Sea

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room  : บาร์และเลาจน์, ห้องสมุด, ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment : ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ บาร์ต่าง หลากหลายสไตล์   คาสิโน, ดิสโก้เธค, ห้องเล่นเกมส์
-Sport and Activities: สระว่ายน้ำ, สปอร์ทคอร์ท, ฟิตเนต, มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness: ห้องสปา, ห้องสตรีม, บิวตี้ ซาลอน, โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน    รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
หมายเหตุ : ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ

17 เม.ย. 2569: บาร์เซโลนา - ลาโรคา วิลเลจ - โดฮา

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.   เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
08.30 น.   นำท่านเช็คเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
09.30 น.   นำท่านเดินทางสู่เอาท์เล็ตหมู่บ้านลาโรคา (La Roca Village Outlet) ตั้งอยู่ทางเหนือของบาร์เซโลนา ซึ่งรวบรวมร้านค้าบูติกดีไซเนอร์กว่า 140 ร้าน สาขาของเมืองมาตั้งรกรากในแถบชนบทของแคว้นคาตาลัน อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
13.00 น.  นำท่านเดินทางสู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) เพื่อเช็คอินและทำ Tax Refund
16.35 น.  ออกเดินทางสู่สนามบินโดฮา ประเทศประเทศกาตาร์ (DOH) โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR) เที่ยวบินที่ QR146(ใช้เวลาบินประมาณ 6.10 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินมีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน
23.45 น. เดินทางมาถึงสนามบินโดฮา ประเทศประเทศกาตาร์ (DOH)  แวะเปลี่ยนเครื่อง

18 เม.ย. 69: โดฮา - กรุงเทพมหานคร

02.35 น.  ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส (QR) เที่ยวบินที่ QR836(ใช้เวลาบินประมาณ 6.50 ชม.) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินมีบริการอาหารเช้า บนเครื่องบิน
13.25 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

อัตราค่าบริการ

9-18 เมษายน 2569

ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องคู่ INSIDE) ท่านละ

129,900

อัพเกรดเป็นห้องพักแบบมีระเบียงทะเล
(พักห้องคู่ Sea-View Balcony) ท่านละ

20,000

พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ (คิดที่ห้องพักแบบ INSIDE ซึ่งเป็นราคาเริ่ม)

36,000

ราคาผู้ใหญ่/เด็กอายุเกิน 11 ปี (ห้องพัก 3 ท่าน) ท่านละ

124,900

ราคาเด็ก 2-11 ปี พัก กับผู้ใหญ่ 2 ท่าน

119,900

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์เริ่มต้นที่ท่านละ
(ราคายืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

85,000 – 160,000

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าใช้จ่าย (ผู้ใหญ่) 

29,000

ค่าวีซ่าเชงเก้น (ไม่รวมในโปรแกรม เรียกเก็บจากอินวอยซ์)

5,000

Visitors: 190,438