ทัวร์ตุรเคีย 8 วัน 6 คืน เดินทาง เม.ย.2566-สงกรานต์ บิน TK เที่ยว Alacati Cesme สัมผัสบรรยาศสไตล์กรีก : LUXURY TURKIYE

รหัสสินค้า : CJN-P001-LUXCURY TURKIYE8D6N

ราคา

67,999.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 67,999.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

โปรแกรม : Luxury Turkiye

เที่ยวตุรกี 8 วัน 6 คืน สัมผัสบรรยาศสไตล์กรีก

ราคา : 67,999.-บาท

คลิกดูโปรแกรม

โดยสายการบิน : Turkish Airlines ( TK ) บินตรง + บินภายใน 2 ครั้ง

เมืองคัปปาโดเกีย•พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่•นครใต้ดินไคมัคลี•เมืองปามุคคาเล่•ปราสาทปุยฝ้าย•เมืองอิซเมียร์•เมืองโบราณเอฟฟิซุส•วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน • อาลาชาติ•เชสเม่•ฮิปโปโดรม•สุเหร่าสีน้ำเงิน•สุเหร่าเซนต์โซเฟีย•ทักซิมสเเควร์•พระราชวังทอปคาปึ•ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส•สไปซ์มาร์เก็ต•พระราชวังโดลมาบาเช่•เทศกาลทิวลิป Emirgan Park

**พักโรงแรม 5ดาว 4 คืน + สไตล์ถ้ำที่คัปปาโดเกีย 2 คืน

พิเศษ!!!ทานอาหาร ณ ภัตาคารที่เหล่า Blogger เเละ Celebrity นิยม

เดินทาง : 8 - 15 เมษายน 66 / 9 - 16 เมษายน 66

**สงกรานต์ 10 – 17 เมษายน 66 / 11 - 18 เมษายน 66

หมายเหตุ กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

ท่องเที่ยวอีกสองเมืองที่ไม่ควรพลาด เรียกว่าเป็นเมืองรักโรแมนติกแห่งดินแดนสองทวีป ที่สำคัญคือมีบรรยากาศน่ารัก เหมือนเกาะซานโตรินี่ของประเทศกรีซมาก ๆ สถานที่ท่องเที่ยวอีกสองเมืองที่กล่าวถึง คือ.....เมือง #เชสเม Cesme และเมือง #อลาชาตึ Alacati เมืองริมทะเลของตุรเคียที่ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้มาเยือนสองเมืองแห่งนี้แล้วจะตกหลุมรักกันทุกคน

วันแรก  สนามบินสุวรรณภูมิ – อิสตันบูล – เมืองไคเซอร์รี่ - เมืองเนฟเชียร์

05.00  พบกันที่เคาน์เตอร์เช็คอิน Nประตู 7 สายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง

07.50  ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 59 (บินตรง) (ใช้เวลาในการบินประมาณ 10.05 ชั่วโมง)
13.55   เดินทางถึง กรุงอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเที่ยวบินภายในประเทศ
16.05   ออกเดินทางสู่ เมืองไคเซอร์รี่ โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2014 (ใช้เวลาในการบินประมาณ 1.25 ชั่วโมง)
17.30   เดินทางถึงสนามบิน เมืองไคเซอร์รี่ หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้วนำท่านเดินทางสู่ เมืองเนฟเชียร์ Nevsehir (ระยะทางประมาณ 74 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.20 ชั่วโมง)
ค่ำ     รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่Kalsedon Minia Cave โรงแรมสไตล์ถ้ำ
!! หมายเหตุ ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม จะเปลี่ยนเป็นนอนโรงแรมระดับ 5 ดาว แทน !!

วันที่สอง  เมืองคัปปาโดเกีย

แนะนำโปรแกรมพิเศษ ไม่รวมอยู่ในราคาทัวร์ Optional Tour

**บอลลูน ทัวร์Balloon Tourสำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณมุมสูง ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรมไปยังจุดปล่อยบอลลูน ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 280-300 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระเป็นเงินสด และ 300-320 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิตเจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด
**รถจี๊บ ทัวร์Jeep Tour  สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถจี๊บ ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน ที่รถเล็กสามารถที่จะตะลุย ลัดเลาะไปได้ โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บ อยู่ที่ท่านละ 120 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (120USD) โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
**รถเอทีวี ทัวร์ATV Tour  สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถเอทีวี ทัวร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน ที่รถเล็กสามารถที่จะตะลุย ลัดเลาะไปได้ โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ท่านละ 110 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (110USD) โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
**รถ คลาสสิคClassic Car  สำหรับท่านใดที่สนใจชมความสวยงามของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โปรแกรมรถ คลาสสิค คาร์นี้ จำเป็นต้องออกจากโรงแรม ประมาณ 05.00 น.-06.00 น. โดยจะมีรถท้องถิ่นมารับที่โรงแรม เพื่อชมความสวยามโดยรอบของเมืองคัปปาโดเกีย บริเวณภาคพื้นดิน โดยที่รถ คลาสสิคนี้ จะมีเจ้าหน้าที่เป็นคนขับรถ พาท่านนั่งไปยังจุดถ่ายภาพสวย ๆ เห็นวิวบอลลูน ขึ้นเป็นแบคกราวน์ด้านหลัง เป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ โปรแกรมรถ คลาสสิค คาร์ กำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลกที่เดินทางมาท่องเที่ยวยังเมืองคัปปาโดเกียแห่งนี้ รถ 1 คัน สามารถนั่งได้ 3-4 คน โดยใช้เวลาอยู่บนรถจี๊บ ประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการนั่งรถจี๊บอยู่ที่ท่านละ 100 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ (100USD) โปรดทราบ ประกันอุบัติเหตุที่รวมอยู่ในโปรแกรมทัวร์ ไม่ครอบคลุมกิจกรรพิเศษ ไม่ครอบคลุมการนั่งรถจี๊บ ทัวร์ ดั้งนั้นขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน
**คำแนะนำ สำหรับท่านที่เลือกซื้อทัวร์ ท่านที่เมารถ กรุณารับประทานยาแก้เมารถล่วงหน้าอย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง ก่อนออกเดินทาง ควรแจ้งให้หัวหน้าทัวร์ทราบ ตั้งแต่ก่อนวันเดินทาง (ตั้งแต่อยู่ที่ประเทศไทย เพื่อเตรียมยามาจากประเทศไทย) กิจกรรมนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ที่เป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง หรือ ตั้งครรภ์ เข้าร่วมทัวร์โดยเด็ดขาด กรณีเกิดความเสียหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบทุกก
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์ ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา St. Barbar Church โบสถ์มังกรSnake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ โรงงานพรม เป็นโรงงานทอพรมที่มีชื่อเสียงของตุรกี จะได้ชมกรรมวิธีการสาธิตการทอพรม ชมขั้นตอนต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของพรมตุรกี ให้ท่านได้เลือกซื้อพรมที่มีคุณภาพเป็นที่ระลึก
เที่ยง   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง Bizim Ev Restaurant
**เป็นร้านอาหารที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการตกแต่งร้าน การออกแบบหน้าตาของอาหารที่เป็นเฉพาะตัว
จากนั้นนำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli  เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ นำท่านเดินทางสู่ หุบเขาพาซาแบกPasabag Valley หรือ หุบเขาพระMonks Valley เป็นหินเนินทรงสูงใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายหัวเห็ด 3 หัว รูปร่างแปลกตา จากนั้นเดินทางสู่ หุบเขานกพิราบPigeon Valley เป็นหน้าผาที่ชาวเมืองโบราณได้ขุดเจาะเป็นรูเพื่อให้นกพิราบได้เข้าไปไปทำรังอาศัยอยู่ ในสมัยก่อนนั้นชาวเมืองใช้นกพิราบเป็นผู้ส่งสารในบริเวณที่อยู่อาศัยเหล่านั้น ได้เวลาพอสมควรนำท่านเดินทางสู่ หุบเขาอชิซาร์Uchisar Valley ให้ท่านได้ถ่ายภาพด้านหน้า เป็นหุบเขาจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาแห่งนี้จะมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปทั่วทั้งภูเขาบริเวณนั้น เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย อุชิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นอุชิซาร์ มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เพื่อใช้สอดส่องข้าศึกที่จะมารุกราน อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพได้ตามอัธยาศัย
จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานเพชร และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรม
จากนั้นนำท่านชม “โชว์ระบำหน้าท้อง” Belly Dance ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรเคีย
พักค้างคืน ณKalsedon Minia Cave โรงแรมสไตล์ถ้ำ
!! หมายเหตุ ในกรณีที่โรงแรมถ้ำเต็ม จะเปลี่ยนเป็นนอนโรงแรมระดับ 5 ดาว แทน !!

วันที่สาม  เมืองคัปปาโดเกีย – เมืองคอนย่า - เมืองปามุคคาเล่

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทาง 243 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง) อดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของพวกเติร์กบนแผ่นตุรเคีย ในช่วงปี 1071-1275 ทำให้สถาปัตยกรรมแบบเซลจุกดั้งเดิมมีให้เห็นอย่างโดดเด่นที่นี่ และยังเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางของนิกายเมฟเลวี ที่ถือกำเนิดมาจากการก่อตั้งของ เมฟลาน เจลาลุดดิน ผู้ซึ่งเป็นกวีเอกชาวอัฟกานิสถาน ที่ทำให้ชาวคริสต์จำนวนไม่น้อยหันมาเข้ารับนับถือศาสนาอิสลาม เขาจึงเปรียบเสมือนผู้วิเศษในสายเหล่าบรรดาสาวก ทุกๆ กลางเดือน ธันวาคม ของทุกปี โรงแรมในเมืองคอนย่าจะถูกจองเต็มเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเหล่าสาวกของนิกายเมฟลาวี จะมาร่วมพิธีซีมา หรือ การเฉลิมฉลองเพื่อร่วมรำลึกถึง เมฟลานา เจลาลุดดิน โดยการเต้นรำ เดอร์วิช ทุกคนจะนุ่งกระโปรงสีขาวบานกรอมเท้า หมุนตัวเข้ากับเสียงดนตรี ระหว่างทางให้ท่านได้แวะพักเปลี่ยนอิริยาบถด้วยถ่ายภาพบริเวณกำแพงที่ทอดยาว และซุ้มประตูทางเข้าของ Caravansarine สถานที่พักแรมของพ่อค้าชาว เติร์ก สมัยออตโตมัน
เที่ยง  รับประทนอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทาง 394 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5.30 ชั่วโมง) ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี ค.ศ. 1988
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่Colossae Thermal hotel 5 ดาวหรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย      

วันที่สี่  เมืองปามุคคาเล่ – เมืองโบราณเอฟฟิซุส – เมืองอิซเมียร์

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย Cotton Castle โดยลักษณะที่โดดเด่นของ ปามุคคาเล่ Pamukkale เป็นเนินเขาสีขาวโพลน เนื่องจากที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยส่วนประกอบของแคลเซี่ยม มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160 เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซี่ยมคาร์บอเนตมาตกตะกอน โดยบ่อน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้นี่เองที่ได้ก่อให้เกิดทัศนียภา พของน้ำตกสีขาวเป็นชั้น ๆ หลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซี่ยมทำให้เกิดเป็นแห่งหินสีขาวราวกับหิมะไหลหลั่นเป็นทางน้ำยาว ที่มีความสวยงามมาก ๆ ปัจจุบันนี้ ปามุคคาเล่เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ในปี พ.ศ. 2531
เที่ยง  รับประทนอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus (ระยะทางประมาณ 193 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง) อดีตเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียนTemple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮเดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน  จากนั้นนำท่าน ช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูงซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors  อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย ต่อด้วยร้านขนมหวนที่ขึ้นชื่อ Turkish Delight เป็นของฝากคนที่อยู่เมืองไทย ได้เวลาพอสมควรนำท่านสู่ เมืองอิซเมียร์  Izmir (ระยะทางประมาณ 87 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.10 ชั่วโมง)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักค้างคืน ที่Kaya Izmir hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่ห้า  เมืองอิซเมียร์ – เมืองเชสเม่ – เมืองอาลาชาตึ - กรุงอิสตันบูล

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเชสเม่ Cesme (ระยะทาง 68 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลอีเจี้ยน อยู่ไม่ไกลาจาก เกาะคีออส Chios Island ของประเทศกรีซ ด้วยทำเลที่ตั้งของเมืองอยู่ไม่ไกลาจากประเทศกรีซ จึ่งทำให้ได้รับอิทธิพลมาจากกรีซพอสมควร จึงทำให้บ้านเรือน รวมไปถึงร้านรวงต่าง ๆ จะตกแต่งสไตล์กรีก นำท่านเดินเล่นชมเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างให้คำนิยามว่า “เมืองรัก โรแมนติก ของดินแดนแห่งสองทวีป” ตื่นตาตื่นใจกับท่าเทียบเรือ ยอร์ช ที่จอดอยู่เรียงราย และเต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟต์ นำท่านเข้าชม ปราสาทเชสเม่ Cesme Castle ในช่วงที่จักรวรรดิออตโตมันเรื่องอำนาจ เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นอยู่ริมทะเลตั้งแต่สมัยเบยาซิต สร้างขึ้นเพื่อป้องการการรุกรานของข้าศึกที่มาทางทะเล ด้านปราสาทท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของท้องทะเลอีเจี้ยนได้เต็มคาราเบล ปราสาทเชสเม่แห่งนี้ยังเป็นศูนย์รวมการจัดกิจกรรมตามเทศกาลต่าง ๆ ตลอดจนเทศกาลาดนตรีนานาชาติ ยังจัดขึ้นที่ปราสาทเชสเม่ แห่งนี้อีกด้วย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองอลาชาตึ Alacati (ระยะทาง 15 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) เนื่องจาก เมืองอลาชาตึ อยู่ไม่ไกลจากเมืองเชสเม่จึงทำให้เมืองนี้ยังคงมีกลิ่นอายเหมือน เกาะซานโตรินี่ ของประเทศกรีซ บ้านเรือน รีสอร์ท รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหาร ต่างออกแบบตกแต่งสไตล์กรีซ ส่วนใหญ่จะทาสี ฟ้า ขาว โทนเดียวกันกับรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่บนเกาะซานโตรีนี่ ฟิน แล้ว ฟิน อีก
เที่ยง   รับประทนอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ สนามบิน เมืองอิซเมียร์ Izmir Adnan Menderes Airport
(ระยะทาง 85 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง)
16.55   ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2327 (ใช้เวลาในการบินประมาณ 1.10 ชั่วโมง)
18.05   เดินทางถึง สนามบิน กรุงอิสตันบูล นำท่านเดินทางสู่ร้านอาหาร
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารพื้นเมือง
พักค้างคืน ที่Pullman Hotel 5 ดาวหรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่หก  กรุงอิสตันบูล

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชมสถานที่ซึ่งเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง สุเหร่าเซนต์โซเฟียMosque of Hagia Sophia ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตโบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ ภายในมีเสางามค้ำ ที่สลักอย่างวิจิตร และประดับไว้งดงาม 108 ต้น นำท่านชม ฮิปโปโดรม Hippodromeหรือ สนามแข่งม้าโบราณ มีเสาโอเบลิสค์ซึ่งเหลือแค่ส่วนปลายที่ยาว 20 เมตร แต่กระนั้นก็ยังสวยงามน่าดูมาก เพราะทั้งเสามีงานแกะสลักอันมีความหมายและมีค่ายิ่ง จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque (ถ่ายภาพด้านอก เนื่องจากปิดปรับปรุง) ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace สร้างขึ้นในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 และเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ในปี ค.ศ. 1924 พิพิธภัณฑ์พระราชวังทอปกาปิ ซึ่งห้องที่โด่งดังและเป็นที่สนใจคือห้องท้องพระคลังอันเป็นที่เก็บสมบัติ และวัตถุล้ำค่ามากมาย โดยมีกริชแห่งทอปกาปึ ด้ามประดับมรกตใหญ่ 3 เม็ด กับเพชร 86 กะรัต เป็นไฮไลท์สำคัญเรียกความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
กลางวัน   พิเศษ !!!รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร Seven Hill Restaurant เป็นร้านอาหารที่เหล่าบรรดาเหล่าBlogger และCelebrityทั้งหลายต่างก็ให้การยอมรับว่า เป็นร้านอาหารที่มีวิวที่สวยที่สุดในอิสตันบูล
จากนั้นนำท่าน ล่องเรือยอร์ช ช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบขนาดใหญ่และสองฝั่งมีความสวยงามมาก ช่องแคบนี้ทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรป และเอเชีย เชื่อมระหว่าง ทะเลดำ The Black Seaเข้ากับ ทะเลมาร์มาร่า Sea of Marmara มีความยาว 32 กิโลเมตร ให้ท่านได้ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ ช่องแคบบอสฟอรัสที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกีอีกด้วย เพราะมีป้อมปืนตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบเหล่านี้
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ Emirgan Park เป็นสวนสาธารณะที่สวยที่สุดและมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศตุรกี โดยที่ช่วงระหว่างเดือน เมษายน-กลางเดือน พฤษภาคม ของทุกๆ ปี ณ สวนสาธารณะแห่งนี้จะมีจัดงานเทศกาลดอกทิวลิป ซึ่งแท้จริงแล้ว ประเทศตุรกีเป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกไม่ใช่ประเทศเนเธอร์แลนด์ บริษัทฯ มีความยินดีที่จะมอบสิ่งพิเศษให้กับนักท่องเที่ยวทุกท่านได้สัมผัสดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดดอกทิวลิปของโลกอย่างแท้จริง ให้ท่านได้อิสระกับการถ่ายภาพดอกทิวลิป หลากสี หลายสายพันธุ์ นับเป็นล้าน ๆ ดอก ได้ตามอัธยาศัย
(เฉพาะกรุ๊ปเดือน เมษายน-พฤษภาคม เท่านั้น เนื่องจากเดือน มีนาคม ดอกทิวลิปยังไม่บานสะพรั่ง)
ได้เวลาพอสมควร นำท่านมาเดินเล่นถ่ายภาพสวย ๆ บริเวณ หอคอยกาลาตา Galata Tower (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอย) เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวยอดนิยมของอิสตันบูล ตั้งอยู่เขตเบโยกลู Beyoglu ของอิสตันบูลฝั่งยุโรป เดิมสร้างขึ้นเพื่อเป็นหอสังเกตการณ์ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกำแพงกาลาตา ปัจจุบันหอคอยนี้ถูกใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการและพิพิธภัณฑ์หอคอยกาลาตา ภายใต้ชื่อ Galata Kulesi Museum ความโดดเด่นของที่ไม่เพียงแค่เป็นแลนด์มาร์คที่โดดเด่นของเมืองเท่านั้น แต่ตามริมสองฝากฝั่งของถนนยังมีร้านคาเฟต์เก๋เก๋ ร้านขายของที่ระลึก ให้ท่านได้ถ่ายภาพสวยๆ  โดยมีภาพด้านหลังที่มีหอคอยกาลาตา
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร อาหารไทย
ส่งท้ายกันด้วยช้อปปิ้งย่าน จัตุรัสทักซิมสแควร์Taksim Square ตั้งอยู่ใน ย่านเบโลกลูBeyoglu ในเขตยุโรปของนครอีสตันบูล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง และถือเป็นหัวใจของนครอีสตันบูล สมัยใหม่ เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมสาธารณะ เช่น ขบวนพาเหรด ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ หรือการพบปะทางสังคม มีสถานบันเทิง ร้านค้าตกตกแต่งหลากหลายสไตล์ คาเฟต์นั่งชิลด์ ชิลด์ เป็นถนนที่ไม่เคยหลับใหล จึงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ไฮไลท์ที่สำคัญของ Taksim Square อีกอย่างหนึ่งก็คือ รถรางสีแดงแสด ที่วิ่งจากจัตุรัสทักซิมไปตามถนนใกล้กันกับสถานีทูเบล ซึ่งเป็นสถานีรถไฟใต้ดินที่เก่าแห่งหนึ่งในกรุงอิสตันบูล
พักค้างคืน ที่Pullman Hotel 5 ดาว หรือเทียบเท่า มาตรฐานตุรเคีย

วันที่เจ็ด  กรุงอิสตันบูล - กรุงเทพมหานคร

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม พระราชวังโดลมาบาเช่ Dolmabahce Palace เป็นพระราชวังที่สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญอย่างสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของจักรวรรดิออตโตมัน ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออกที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม และไม่คำนึงถึงความสิ้นเปลืองใด ๆ ทั้งสิ้น ภายนอกประกอบด้วยสวนไม้ดอกรายล้อมพระราชวังซึ่งอยู่เหนืออ่าวเล็ก ๆ ที่ ช่องแคบบอสฟอรัส Bosphorus ภายในประกอบด้วยห้องหับต่าง ๆ และฮาเร็ม ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรงแก้วเจียระไน และโคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน ส่งท้ายก่อนอำลา ตุรเคียไปต่อกันที่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ มาร์เก็ตSpice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ฯลฯ
13.00   นำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร
16.55   ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 58 (ใช้เวลาในการบินประมาณ 9.30 ชั่วโมง)

วันที่แปด  กรุงเทพมหานคร

06.20 เดินทางถึงสนามบิน สุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

*****Travel Around The World by Chic Journey*****
 หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร การล่าช้าของสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น  เพื่อความเหมาะ และความปลอดภัยในการเดินทาง

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

ราคาทัวร์/ท่าน
พักห้องละ 2-3 ท่าน

วันเดินทาง

ราคา
ห้องพักเดี่ยวเพิ่ม

67,999.-

เมษายน 66 :8 - 15 เม.ย. / 9 - 16 เม.ย. / 10 – 17 เม.ย. / 11 - 18 เม.ย.

9,000. -

JOINLAND 37,999. -

Visitors: 119,102