ทัวร์มองโกเลียใน ส.ค.-ต.ค.68 บิน FD6วัน 5คืน บินตรงเออร์ดอส เที่ยวทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน เนินทรายเสี่ยงซาวาน สิงหาคม กันยายน ตุลาคม 2568: ทัวร์จีน CHINA INNER MONGOLIA
รหัสสินค้า : CJN-G002-1DSN-FD001-INNER-MONGOLIA
ราคา |
25,777.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 25,777.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
เปิดประสบการณ์ชมวิวทุ่งหญ้าสุดขอบฟ้า ผจญภัยขี่อูฐท่ามกลางทะเลทราย
ย้อนรอยมหาราชันย์ เยือนสุสานเจงกิสข่าน อุทยานวัฒนธรรมมองโกล
ราคา :เริ่มต้น 25,777 บาท
โดยสายการบิน : Air Asia (FD)
กรุงเทพ(สนามบินดอนเมือง) •เออร์ดอส(สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน)•เออร์ดอส •ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน • กิจกรรมแบบชาวมองโกล (ถ่ายรูปกับน้องแกะ - สวมชุดมองโกล • ฝึกยิงธนูแบบมองโกล • กิจกรรมงานเลี้ยงรอบกองไฟ) •OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนาน•โฮฮอต• ศูนย์แสดงสินค้าผลิตภัณฑ์โคนมเหมิงเลี่ยง• สุสานหวังเจาจวิน •อารามต้าเจา • เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ )•เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ ) •เนินทรายเสี่ยงซาวาน(รวมกระเช้า + ผ้าหุ้มรองเท้า) • ขี่อูฐชมทะเลทราย • งานจิตกรรมทราย •เออร์ดอส •OPTIONAL TOUR : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์) •ศูนย์ผลิตภัณฑ์เส้นไยขนอูฐ •อารามซือหนี •สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว •วัดพระมหามัยมุนี • เมืองใหม่คังปาสือ •วัดเป่าถัง• สุสานเจงกิสข่าน•ถนนคนเดินเออร์ดอส • เออร์ดอส (สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน) •กรุงเทพ(สนามบินดอนเมือง)
**เข้าร้านช็อปปิ้ง 2 ร้าน (ผลิตภัณฑ์โคนมและผลิตภัณฑ์อูฐ)
เดินทาง สิงหาคม - ตุลาคม 2568
หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง
วันแรก : กรุงเทพ(สนามบินดอนเมือง) – เออร์ดอส(สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน) (FD780 : 16.20-22.00) (FD781 : 22.50-02.50+1)
13.00 น.พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมืองอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 3 ประตู 1 เคาน์เตอร์สายการAir Asia (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน*** ตั๋วโดยสายรวม น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. จำกัดท่านละ 1 ใบ ***
16.20 น.ออกเดินทางสู่ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์ดอสเออร์จิน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน โดย สายการบิน Air Asia (FD) เที่ยวบินที่ FD780 (เนื่องจากเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ไม่มีอาหารบริการอาหารบนเครื่องและที่นั่ง Hotseat)
22.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์ดอสเออร์จิน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ เมืองออร์ดอส จุดเริ่มต้นการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจ สู่ใจกลางดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรมมองโกลอันยิ่งใหญ่ ชื่อ "ออร์ดอส" ในภาษามองโกลมีความหมายอันทรงพลังว่า "หมู่พระราชวังอันมากมาย" ซึ่งบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สั่งสมมานับพันปี ที่นี่คือประตูบานแรกที่จะเปิดประสบการณ์ให้ท่านได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณของชนเผ่าเร่ร่อน และความภาคภูมิใจในประเพณีมองโกลโบราณที่ยังคงหายใจอยู่
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก HOWARD JOHNSON PARKVIEW ORDOS หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)
วันที่สอง : เออร์ดอส – ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน - กิจกรรมแบบชาวมองโกล (ถ่ายรูปกับน้องแกะ - สวมชุดมองโกล – ฝึกยิงธนูแบบมองโกล - กิจกรรมงานเลี้ยงรอบกองไฟ) OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนาน
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม (มื้อที่ 1)
เดินทางสู่ ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน ระยะทาง 320 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง) ผืนพรมธรรมชาติสีเขียวกว้างไกลสุดสายตา ที่ซึ่งวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของชาวมองโกลยังคงอบอวลอยู่ทุกอณู ทุ่งหญ้าแห่งนี้ได้รับการขนานนามตามชื่อวัดปู่ฮุ่ยอันเก่าแก่และแม่น้ำซีลามู่เหรินที่ไหลผ่าน เป็นดั่งหัวใจของวัฒนธรรมมองโกลที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและการต้อนรับอันเป็นมิตร
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2)
บ่าย ณ ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน หนึ่งในทุ่งหญ้าที่งดงามและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมของมองโกเลียใน คำว่า "ซีลามู่เหริน" ในภาษามองโกลหมายถึง "แม่น้ำสีเหลือง" แต่สิ่งที่ท่านจะได้สัมผัสคือผืนหญ้าเขียวชอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
นำท่านสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้และดำดิ่งสู่วัฒนธรรมมองโกลผ่านกิจกรรมอันหลากหลายที่เราได้คัดสรรมาเพื่อท่านโดยเฉพาะ:
1. ฝึกทักษะขี่ม้ามองโกล: ทดลองขี่ม้าท่องทุ่งหญ้ากว้าง สัมผัสอิสระดั่งชาวมองโกลในอดีต หรือชมการแสดงความสามารถบนหลังม้าอันน่าทึ่ง (รายการทัวร์ไม่รวมค่าขี่ม้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 250-300 หยวน **ราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลาในการขี่)
2. ยิงธนูแบบมองโกล: ทดสอบความแม่นยำของท่านกับกิจกรรมยิงธนู ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของชาวมองโกลมาแต่โบราณ (ท่านละ 10 ดอก)
3. ลิ้มลองรสชาติแห่งทุ่งหญ้า: ร่วมรับประทานอาหารมองโกลต้นตำรับ ไม่ว่าจะเป็นชาสุ่ยถี (ชานม) รสกลมกล่อม, เนื้อแกะย่างหอมกรุ่น หรืออาหารพื้นเมืองอื่นๆ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาในการดำรงชีวิต (รายการทัวร์ไม่รวมแกะย่าง ราคาทั้งตัวประมาณ 400 หยวน ทั้งนี้ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
4. กิจกรรมกองไฟท่ามกลางค่ำคืนแห่งมิตรภาพ: เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ร่วมวงรอบกองไฟอันอบอุ่น ชมการแสดงระบำพื้นเมืองที่สนุกสนานและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา หรืออาจได้ร่วมขับขานบทเพลงและเต้นรำไปพร้อมกับชาวท้องถิ่น สร้างความทรงจำอันมิรู้ลืม
OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนาน ราคาท่านละ 280 หยวน
ละครเพลงประกอบการแสดงบนหลังม้าสุดตระการตา ที่จะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่ยุคของเจงกิสข่านอันเกรียงไกร!ร่วมเป็นสักขีพยานในการเติบโตและความยิ่งใหญ่ของชนชาติมองโกลบนผืนแผ่นดินทุ่งหญ้า ตั้งแต่การเริ่มต้น การเกณฑ์ไพร่พล เทศกาลนาดัมอันรื่นเริง การลุกขึ้นต่อต้าน สงครามอันดุเดือด จนถึงการกลับคืนสู่ความสงบสุข เรื่องราวแต่ละฉากจะตราตรึงใจและตื่นตาตื่นใจไปกับความสามารถของนักแสดงบนหลังม้า ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านท่วงท่าอันแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว และงดงาม ประหนึ่งท่านได้ชมการสู้รบและการใช้ชีวิตของชาวมองโกลในอดีตจริงๆ
ขอความกรุณาซื้อออปชั่นเพิ่มเติมผ่านไกด์หรือหัวหน้าทัวร์เท่านั้น เพื่อความสะดวกในการจัดการและความปลอดภัยของทุกท่าน หากมีการซื้อออปชั่นนอกเหนือจากที่กำหนด ทางบริษัทขอเรียนว่าอาจไม่สามารถรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงได้
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 3) ลิ้มรสเนื้อแกะต้มน้ำแข็ง
วิธีการปรุงเนื้อแกะอันเป็นเอกลักษณ์ ท่านอาจจะแปลกใจที่เห็นการนำน้ำแข็งก้อนใสๆ มาใส่ในหม้อก่อน จากนั้นจึงใส่เนื้อแกะตามลงไป น้ำแข็งจะค่อยๆ ละลายกลายเป็นน้ำ และน้ำนั้นจะค่อยๆ ต้มเนื้อแกะจนสุก วิธีการนี้จะทำให้เนื้อแกะที่ได้นั้นมีความแตกต่างจากปกติอย่างเห็นได้ชัดเจน ด้วยความนุ่มละมุนและคงความสดใหม่ของรสชาติได้มากกว่าเดิม **กรณีที่ท่านใดไม่ท่านแกะและวัวจะมีเนื้อหมูบริการ **
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก MONGOLIC LUXURY YURT หรือเทียบเท่า (ที่พักสไตล์มองโกล พร้อมห้องน้ำในตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน)
สัมผัสชีวิตในกระโจม ที่พักอาศัยแบบดั้งเดิมของชาวมองโกล เรียนรู้การใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ผสมผสานเสน่ห์ของที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมเข้ากับความสะดวกสบายอย่างลงตัว
วันที่สาม : โฮฮอต - ศูนย์แสดงสินค้าผลิตภัณฑ์โคนมเหมิงเลี่ยง– สุสานหวังเจาจวิน – อารามต้าเจา – เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ )
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 4)
นำท่านเดินทางสู่ โฮฮอต ระยะทาง 73 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5 ชั่วโมง) เมืองหลวงอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและมนต์เสน่ห์แห่งเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ชื่อ "โฮฮอต" ในภาษามองโกล (ᠬᠥᠬᠡᠬᠣᠲᠠ) มีความหมายอันไพเราะว่า "นครสีคราม" ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกเป็นมิตร ความเรียบง่าย และความหวัง เฉกเช่นท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ที่โอบอุ้มดินแดนแห่งนี้
นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์แสดงสินค้าผลิตภัณฑ์โคนมเหมิงเลี่ยง ศูนย์รวมวัฒนธรรมมองโกล ขนาดใหญ่และมีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค ที่ซึ่งท่านจะได้ทั้งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองคุณภาพเยี่ยม ลิ้มลองอาหารมองโกลเลิศรส และเรียนรู้วัฒนธรรมทุ่งหญ้าอันน่าทึ่ง ทั้งหมดนี้ครบจบในที่เดียว พบกับผลิตภัณฑ์กว่าหนึ่งหมื่นรายการ! ไม่ว่าจะเป็น: งานฝีมือที่ได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมมองโกลอันล้ำลึก เช่น มีดมองโกลอันเลื่องชื่อ, เครื่องใช้และภาชนะลวดลายสวยงาม, เครื่องดนตรีพื้นเมือง, ผลิตภัณฑ์จากเขาสัตว์ และของตกแต่งบ้านที่มีเอกลักษณ์ สินค้าเครื่องหนังมองโกลแท้ๆ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและดีไซน์เฉพาะตัว เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายพื้นเมือง และอาหารมองโกลขึ้นชื่อ: ขนม นม เนย และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากทุ่งหญ้า เหมาะสำหรับซื้อเป็นของฝากหรือลิ้มลองด้วยตัวเอง ทั้งยังมีของที่ระลึกและของขวัญ หลากหลายให้ท่านได้เลือกสรรเพื่อเป็นความทรงจำจากการมาเยือนมองโกเลียใน
นำท่านออกเดินทางสู่สถานที่แห่งหนึ่งที่ยืนหยัดเป็นประจักษ์พยานแห่งหน้าประวัติศาสตร์อันสำคัญ และเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่างสองชนชาติ นั่นคือ สุสานหวังเจาจวิน อนุสรณ์สถานของ หวังเจาจวิน หนึ่งในสี่สตรีผู้เลอโฉมที่สุดในประวัติศาสตร์จีน หญิงสาวสามัญชนผู้มีความงามเป็นเลิศ ได้อาสาเดินทางไกลออกนอกด่านไปแต่งงานกับ "ฉานหยู” ผู้นำของชนเผ่าซงหนู การตัดสินใจอันกล้าหาญของเธอครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ยุติสงครามและความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ฮั่นและชนเผ่าซงหนู แต่ยังเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์ฉันมิตร การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความสงบสุขที่ยาวนานเกือบครึ่งศตวรรษระหว่างสองแผ่นดิน ทั้งยังมีตำนานเล่าขานว่า ในขณะที่ทุ่งหญ้าโดยรอบจะแห้งเหี่ยวในยามฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่ผืนหญ้าบนสุสานของหวังเจาจวินกลับยังคงเขียวชอุ่มอยู่เสมอ ราวกับว่าจิตวิญญาณแห่งความดีงามและความปรารถนาในสันติภาพของเธอยังคงหล่อเลี้ยงผืนดินแห่งนี้ มอบชีวิตชีวาและความหวังไม่รู้จบ จึงเป็นที่มาของชื่อ "ชิงจ่ง" หรือ "สุสานเขียวขจี"
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 5)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ วัดต้าเจา อารามหลวงแห่งนิกายเกลุกปะ (นิกายหมวกเหลือง) ของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานแบบทิเบตที่เก่าแก่และมีอิทธิพลอย่างสูงในเขตมองโกเลียใน รู้จักกันอย่างกว้างขวางที่สุดคือ วัดพระเงิน อันเนื่องมาจากพระพุทธรูปเงินอันงดงามที่ประดิษฐานอยู่ภายใน อารามถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1579 โดยอัลตันข่าน ผู้นำชนเผ่าทูเม็ดมองโกลผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิง ทำให้วัดแห่งนี้เป็นอารามนิกายหมวกเหลืองแห่งแรกที่สร้างขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดต้าจาวได้รับการยกย่องถึงขั้นที่จักรพรรดิคังซีเคยเสด็จมาประทับอยู่หลายวัน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิ ทางวัดจึงได้ยกเลิกประเพณีการสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยการกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้าที่มีชีวิต ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษที่หาได้ยากในวัดมองโกลอื่นๆ และแม้จะเป็นวัดในนิกายทิเบต แต่การจัดวางผังโดยรวมของวัดกลับใช้รูปแบบของวัดจีน (ฮั่น) แบบดั้งเดิม ณ ประตูทางเข้าวัด ท่านจะพบกับแผ่นป้ายชื่อเสียงนี้ ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าจักรพรรดิคังซีเมื่อครั้งเสด็จกลับจากศึกสงคราม ม้าทรงของพระองค์ได้กระทืบกีบลงบนพื้นจนเกิดเป็นน้ำพุใสสะอาดขึ้นมาเลยทีเดียว
นำท่านเดินทางสู่ เมืองต้าลาฉี (ระยะทาง 120 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 2.5 ชั่วโมง) หรือที่ชาวมองโกลเรียกว่า "ต๋าลาเท่อ" ซึ่งเป็นเขตปกครองระดับอำเภอ (แบนเนอร์) อันมีเอกลักษณ์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองออร์ดอส ทอดตัวอยู่ริมฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเหลือง และเป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสูงออร์ดอสอันกว้างใหญ่ "ต๋าลาเท่อ" ในภาษามองโกลนั้นมีความหมายที่หลากหลาย บ้างก็ว่ามาจากประเพณีโบราณ หรืออีกนัยหนึ่งคือการแผลงมาจากคำว่า "ถ่าลาเท่อ" ซึ่งแปลว่า "ที่ราบ" อันสะท้อนถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 6)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก ZHENJIN INTERNATIONAL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)
วันที่สี่ : เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ ) - เนินทรายเสี่ยงซาวาน (รวมกระเช้า + ผ้าหุ้มรองเท้า) - ขี่อูฐชมทะเลทราย – งานจิตกรรมทราย – เออร์ดอส OPTIONAL TOUR : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 7)
นำท่านเดินทางสู่ เนินทรายเสี่ยงซาวาน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ ณ เนินทรายเสี่ยงซาวาน หรือที่รู้จักกันในนาม "อ่าวทรายร้องเพลง" ที่นี่ไม่ใช่แค่ทะเลทรายธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าพิศวง จินตนาการถึงเนินทรายสูงตระหง่าน เมื่อคุณลื่นไถลลงมา หรือแม้แต่เมื่อสายลมพัดผ่าน เม็ดทรายนับล้านจะเสียดสีกันจนเกิดเป็นเสียงก้องกังวาน บ้างก็คล้ายเสียงกบเขียดร้อง บ้างก็ดังสนั่นดุจเสียงเครื่องบินหรือฟ้าร้อง หรือแม้แต่เป็นท่วงทำนองดนตรีซิมโฟนีอันทรงพลัง! ปรากฏการณ์ "ทรายร้องเพลง" นี้ยังคงเป็นปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามค้นหาคำตอบ บ้างก็ว่าเกิดจากภูมิประเทศ บ้างก็ว่าเป็นหลักการของกล่องเสียงสะท้อน หรือแม้แต่ทฤษฎีไฟฟ้าสถิต แต่ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเช่นไร ความลึกลับและเสียงอันน่าอัศจรรย์นี้คือสิ่งที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตำนานท้องถิ่นยังเล่าขานว่า ณ ที่แห่งนี้เคยมีวัดตั้งอยู่ และแม้จะถูกพายุทรายกลบฝังไปแล้ว แต่เสียงสวดมนต์และเสียงเครื่องดนตรีของเหล่าพระลามะก็ยังคงดังก้องอยู่ในผืนทราย
เริ่มต้นการผจญภัยด้วยการ นั่งกระเช้าไฟฟ้า ขึ้นสู่ยอดเนินทราย ท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของทะเลทรายคู่ปู้ฉีจากมุมสูง เป็นการเปิดประสบการณ์ที่ทั้งสะดวกสบายและน่าตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะไปลุยกันต่อ และยังมี ผ้าหุ้มรองเท้า เตรียมไว้ให้ เพื่อให้ท่านเดินบนผืนทรายได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายที่สุด
สัมผัสประสบการณ์สุดคลาสสิกที่หาได้เฉพาะในดินแดนทะเลทรายเท่านั้น! การขี่อูฐ ชมทัศนียภาพอันเวิ้งว้างของเนินทรายที่ทอดยาวไปจรดขอบฟ้า จะทำให้ท่านรู้สึกราวกับเป็นส่วนหนึ่งของคาราวานพ่อค้าในสมัยโบราณ เป็นความทรงจำอันแสนโรแมนติกและน่าประทับใจ ที่จะทำให้ท่านหลงรักเสน่ห์ของทะเลทรายอย่างแน่นอน
**หมายเหตุ เพื่อความปลอดภัย ทางอุทยานสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ท่านที่มีอายุ เกิน 60 ปี และท่านที่มี ปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลัง หรือมีอาการบาดเจ็บที่หลัง เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการชำระค่าตั๋วแบบเหมารวม บริษัทฯ จึงไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ และต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะเข้าใจในมาตรการเพื่อความปลอดภัยดังกล่าว
หลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว มาลองปลดปล่อยจินตนาการและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครกับ จิตรกรรมทราย ท่านจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้ทรายสีต่างๆ สร้างเป็นภาพวาดที่สวยงาม เป็นของที่ระลึกชิ้นเดียวในโลกที่ท่านได้สร้างขึ้นด้วยมือตัวเอง และเป็นเครื่องยืนยันถึงการมาเยือนดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 8)
บ่าย OPTIONAL SHOW : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์) ราคาท่านละ 280 หยวน
เกาะพักผ่อนเยว่ซา โอเอซิสแห่งความบันเทิงและความสุขที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางทะเลทรายเสี่ยงซาวาน ท่านจะได้พบกับ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ทอดตัวอยู่ท่ามกลางเนินทราย ปลดปล่อยร่างกายและจิตใจไปกับการว่ายน้ำในหลากหลายสไตล์ สัมผัสความ "สดชื่น" ที่ยากจะบรรยาย ท่ามกลางอ้อมกอดของทะเลทราย ที่จะพาผ่านทัศนียภาพอันงดงาม บางทีอาจได้เห็นขบวนคาราวานอูฐที่ทอดยาว หรือผ่านหมู่บ้านมองโกลโบราณ ก่อนจะนำท่านเข้าสู่ดินแดนแห่งความสนุกสนานไม่รู้จบ
**ขอความกรุณาซื้อออปชั่นเพิ่มเติมผ่านไกด์หรือหัวหน้าทัวร์เท่านั้น เพื่อความสะดวกในการจัดการและความปลอดภัยของทุกท่าน หากมีการซื้อออปชั่นนอกเหนือจากที่กำหนด ทางบริษัทขอเรียนว่าอาจไม่สามารถรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงได้
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ เมืองเออร์ดอส (ระยะทาง 88 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 9)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก HOWARD JOHNSON PARKVIEW ORDOS หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)
วันที่ห้า : ศูนย์ผลิตภัณฑ์เส้นไยขนอูฐ - อารามซือหนี - สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว – วัดพระมหามัยมุนี - เมืองใหม่คังปาสือ - ผ่านชมน้ำพุที่สูงที่สุดในเอเชีย
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 10)
นำท่านเดินทางสู่ ศูนย์ผลิตภัณฑ์เส้นไยขนอูฐ หนึ่งในสมบัติล้ำค่าจากธรรมชาติของมองโกเลียใน ขนอูฐที่คัดสรรมานั้น ส่วนใหญ่มาจากอูฐสองหนอก ซึ่งมีขนที่ละเอียดและให้ความอบอุ่นเป็นพิเศษ ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณสมบัติอันโดดเด่น ขนอูฐขึ้นชื่อในเรื่องการให้ความอบอุ่นได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะในยามที่อากาศเย็น น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย แม้จะให้ความอบอุ่นสูง แต่กลับมีน้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่สบาย ไม่อึดอัด พบกับผลิตภัณฑ์จากขนอูฐหลากหลายรูปแบบ ที่ผสมผสานภูมิปัญญาดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบที่ทันสมัย ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปูที่นอนและเครื่องนอน เสื้อเชิ้ตและเสื้อผ้าขนอูฐที่ทำจากขนอูฐละเอียดโดยเฉพาะ มีน้ำหนักเบา ให้ความอบอุ่นได้ดี และมีรูปลักษณ์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับเป็นเสื้อผ้าคู่ใจในทุกโอกาส
นำท่านสัมผัส อารามซื่อหนี หนึ่งในมรดกทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่ง ที่ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานแบบทิเบตและวัฒนธรรมมองโกลอันรุ่มรวย ท่านจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานรูปแบบของวัดทิเบตเข้ากับองค์ประกอบการตกแต่งแบบดั้งเดิมของชาวมองโกล และยังได้รับอิทธิพลจากพุทธศิลป์แบบจีนฮั่นด้วย ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง, ผ้าทังกา, และพระพุทธรูปต่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของศิลปะทิเบต และบางชิ้นงานอาจมีเอกลักษณ์ทางสุนทรียะแบบมองโกล เช่น การใช้สีสันที่เข้มข้น และลายเส้นที่ทรงพลัง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 11)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว ที่ซึ่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความบันเทิงมาบรรจบกัน ย้อนเวลาสู่ความรุ่งเรืองแห่งราชวงศ์หยวนกับ สามนครหลวงหนึ่งค่ายทองคำ สัมผัสความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิมองโกลเมื่อ 700 ปีก่อน โดดเด่นตั้งแต่ ประตูเมืองฉงเทียน อันโอ่อ่าตระการตา สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิมองโกล ด้วยความยาวกว่า 399 เมตร และความสูงถึง 33 เมตร ประดับด้วยกระโจมทองแดง 9 หลัง และประตูโค้ง 5 ช่อง สื่อถึงแนวคิด "เคารพเก้าชั้นฟ้า ปกครองห้าคาบสมุทร" และ "เก้าห้าจือจุน" ผสมผสานสถาปัตยกรรมมองโกลและเอเชียตะวันตกได้อย่างงดงาม จากนั้นชมสถาปัตยกรรมจำลองสถาปัตยกรรมของ สามนครหลวง อันเลื่องชื่อ อันได้แก่ นครหลวงต้าตู (กรุงปักกิ่ง) นครหลวงฤดูร้อนซ่างตู (ซานาดู) และ นครหลวงโบราณคาราโครัม ตื่นตาตื่นใจกับ ค่ายทองคำแห่งจักรวรรดิกระโจมทองคำ (Golder Horde) ค่ายพักสีทองคำอันโอ่อ่าของจอมข่าน จากนั้นชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ลานบูชาเทพเท็งกรี ด้วยโคมไฟทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาไฟอันเป็นมงคลของชาวมองโกล พระที่นั่งต้าหมิง จำลองพระที่นั่งสำคัญในสมัยราชวงศ์หยวนที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ แสดงถึงความโอ่อ่าและสง่างาม
นำท่านเดินทางสู่ วัดพระมหามัยมุนี หนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนานิกายทิเบตในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ที่ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับการผสมผสานอันงดงามระหว่างวัฒนธรรมมองโกลอันเป็นเอกลักษณ์และแก่นแท้แห่งพุทธธรรม สถาปัตยกรรมของอารามเป็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างรูปแบบวัดทิเบต เข้ากับองค์ประกอบแบบมองโกล สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของสองวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ ผ่านผลงาน ภาพเขียนถังข่า พระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอาราม มักจะผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของมองโกลเข้าไปด้วย ทำให้ผลงานเหล่านี้มีทั้งคุณค่าทางศิลปะและความหมายทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง
นำท่านผ่านชม เมืองคังปาสือ ศูนย์กลางเมืองยุคใหม่ของออร์ดอส ที่ซึ่งชื่อ "คังปาสือ" ในภาษามองโกลมีความหมายอันทรงเกียรติว่า "ครูผู้ยอดเยี่ยม" สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ชุมชนที่เปี่ยมด้วยความรู้และนวัตกรรม ตื่นตาตื่นใจไปกับอาคารสถาปัตยกรรมร่วมสมัยขนาดใหญ่ที่มีดีไซน์โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการวางผังเมืองยุคใหม่ ท่านอาจได้เห็น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติออร์ดอส และอาคารสำคัญอื่นๆ ที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 12)
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก HOWARD JOHNSON PARKVIEW ORDOS หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว (มาตรฐานประเทศจีน)
วันที่หก:วัดเป่าถัง – สุสานเจงกิสข่าน – ถนนคนเดินเออร์ดอส – เออร์ดอส (สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน) -กรุงเทพ(สนามบินดอนเมือง) (FD781 : 22.50-02.50+1)
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 13)
นำท่านชม วัดเป่าถัง อารามแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดพุทธศาสนานิกายทิเบตสายเกลุกปะ (นิกายหมวกเหลือง) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญอย่างยิ่งในมองโกเลียใน ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง วัดแห่งนี้คือศูนย์รวมแห่งการผสมผสานวัฒนธรรมมองโกล ทิเบต และฮั่นเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์ทางศาสนาและสถาปัตยกรรมที่น่าค้นหา ด้วยพุทธศิลป์อันวิจิตร ภายในวัดประดิษฐานผ้าทังกา ภาพจิตรกรรมฝาผนัง และพระพุทธรูปอันงดงาม ซึ่งบางชิ้นเป็นโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง แสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของศิลปะทิเบตแม้การสวดมนต์จะใช้ภาษาทิเบตเป็นหลัก แต่พระภิกษุและผู้มีจิตศรัทธาส่วนใหญ่เป็นชาวมองโกล ในพิธีธรรมบางครั้งจึงมีการอธิบายหลักธรรมเป็นภาษามองโกล เพื่อให้ชาวท้องถิ่นสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 14)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดของชนชาติมองโกล สุสานเจงกิสข่าน ความลึกลับแห่ง "สุสานเสื้อผ้าและหมวก" เป็นที่ทราบกันดีว่าตามประเพณี การฝังศพอย่างลับๆ ของชาวมองโกล ทำให้สถานที่ฝังพระบรมศพที่แท้จริงของเจงกิสข่านยังคงเป็นปริศนามา
จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม สุสานเจงกิสข่านแห่งนี้คือ "สุสานเสื้อผ้าและหมวก" ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีบวงสรวงและระลึกถึงพระองค์มานานหลายศตวรรษ ตำนานเล่าขานว่า ขนอูฐที่ใช้ซับลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเจงกิสข่าน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตแห่งดวงวิญญาณของพระองค์ ได้ถูกเก็บรักษาไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ ทำให้สุสานแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวมองโกล สุสานเจงกิสข่านที่ท่านจะได้เห็นในปัจจุบัน ได้รับการบูรณะและก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่สง่างาม ประกอบด้วยพระตำหนักหลักสามหลัง สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมมองโกลอันเป็นเอกลักษณ์ คล้ายกระโจมขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน ประดิษฐานพระบรมรูปของเจงกิสข่านสูง 5 เมตรทรงเครื่องรบเต็มยศอย่างองอาจสง่างาม ด้านหลังเป็นภาพแผนที่ "สี่อาณาจักรข่าน” อันได้แก่ อาณาจักรข่านชากาไต, อาณาจักรอิลข่าน, อาณาจักรโกลเดนฮอร์ด, และอาณาจักรหยวนของกุบไลข่าน (หลังก่อตั้งราชวงศ์หยวน) อันกว้างใหญ่ แสดงถึงความเกรียงไกรของจักรวรรดิมองโกล ด้านหลังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักที่ประดิษฐานหีบพระศพจำลอง ที่คลุมด้วยผ้าแพรสีเหลือง ซึ่งบรรจุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเจงกิสข่านและพระมเหสีสามพระองค์ พระตำหนักตะวันตก ประดิษฐานธงเก้าชาย (สัญลักษณ์ของนายทหารเอกทั้งเก้า) และ หอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอาวุธคู่พระทัยของเจงกิสข่านที่ใช้ในการบัญชาการรบ และเชื่อว่าเป็นที่สถิตแห่งดวงพระวิญญาณของพระองค์ (รายการทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายในตัวสุสาน ราคาท่านละ 90 หยวน)
ปิดท้ายวันแห่งการผจญภัยด้วยการเดินทางสู่ ถนนคนเดินเออร์ดอส ถนนสายวัฒนธรรมสไตล์ย้อนยุคที่ผสมผสานมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมมองโกล-หยวน ประเพณีพื้นบ้านของส่านเป่ย (มณฑลส่านซีตอนเหนือ) และความคึกคักของร้านค้าสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถึงแม้ว่าถนนสายนี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ทุกย่างก้าวที่ท่านได้สัมผัส จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายและเอกลักษณ์ของดินแดนออร์ดอสอย่างแท้จริง ท่ามกลางกลิ่นอายผสมผสานของสองวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนบนถนนสายนี้จำลองมาจากสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิง แต่ได้สอดแทรกสัญลักษณ์ของชาวมองโกลเข้าไปอย่างกลมกลืน เช่น ลวดลายผ้าฮาดาสีฟ้า หรือองค์ประกอบของโอโบ บางร้านค้ายังออกแบบให้เป็นการผสมผสานระหว่างกระโจมมองโกลและบ้านสี่ลาน ของจีน ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพ ที่ไม่เหมือนใคร อย่าพลาดที่จะลิ้มลอง เนื้อแกะย่าง/ต้ม, ชานมผสมข้าวคั่ว , หรือ เค้กโยเกิร์ต และที่แนะนำเป็นพิเศษคือ "เนื้อแกะเสียบไม้ย่างรมควัน"
**ค่ำ อิสระรับประทานอาหารเย็นตามอัธยาศัย
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเออร์ดอส เช็คอิน ณ เคาน์เตอร์สายการบิน Air Asia
**รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่านละ 1 ใบ**
22.45 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมือง โดยสายการบิน Air Asia (FD) เที่ยวบินที่ FD781
เนื่องจากเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ไม่มีอาหารบริการอาหารบนเครื่องและที่นั่ง Hotseat)
02.35 น.+1 เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ **เดินทางถึงในวันถัดไป **
วันเดินทาง |
ผู้ใหญ่พัก 2-3 ท่าน |
พักเดี่ยว |
08 – 13 ส.ค. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
17 – 22 ส.ค. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
22 – 27 ส.ค. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
31 ส.ค. – 5 ก.ย. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
05 – 10 ก.ย. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
14 – 19 ก.ย. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
19 – 24 ก.ย. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
28 ก.ย. – 3 ต.ค. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
12 – 17 ต.ค. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
17 – 22 ต.ค. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
26 – 31 ต.ค. 68 |
26,777 .- |
6,000.- |
31 ต.ค. – 5 พ.ย. 68 |
25,777 .- |
6,000.- |
ราคาทัวร์ข้างต้นยังไม่รวมค่าทิปมัคคุเทศน์ท้องถิ่นและคนขับรถ 2,000 บาท/ท่าน/ทริป |