ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวฮอกไกโด Hakodate 6วัน 4คืน บิน XJ เดินทาง 15 - 20 มี.ค.2566 : HOKKAIDO

ไม่พบสินค้า

(โปรแกรมการเดินทาง)

วันแรก  สนามบินสุวรรณภูมิ

23.00 น.คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ที่เคาท์เตอร์ โดยมีเจ้าหน้าที่อำนวยสะดวกการเช็คอิน

วันที่สอง  สนามบินนิวชิโตเสะ - รับประทานอาหารเที่ยง - ฟาร์มหมีโชวะชินซัง - โรงแรม

03.05 น. ออกเดินทางจากประเทศไทย โดยสายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ620
>>ราคาทัวร์รวมอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง<<
11.40 น.  เดินทางถึงสนามบินนิวชิโตเสะ จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น (เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง โปรดปรับเวลานาฬิกาของท่านให้เป็นเวลาท้องถิ่น) ผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง
ฮอกไกโด (Hokkaido / 北海道) เป็นทั้งภูมิภาค ชื่อของเกาะ และยังเป็นหนึ่งใน 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น โดยชื่อมีความหมายของชื่อตามตัวว่า “ทางสู่ทะเลเหนือ” เกาะฮอกไกโด ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 รองจาก เกาะฮอนชู (Honshu) ซึ่งเป็นเกาะหลักของญี่ปุ่น โดยมีอุโมงรถไฟชินคันเซ็นใต้ทะเลชื่อว่า อุโมงค์เซกัง (Seikan Tunnel) เชื่อมระหว่างทั้งสองเกาะบริเวณช่องแคบช่องแคบสึงารุ (Tsugaru Strait)
เที่ยง  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหารท้องถิ่น
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน(Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับ สถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสุ(Usuzan Ropeway) ไม่รวมค่ากระเช้าขึ้นภูเขาไฟอุสุ บอกเลยว่าคนที่รักเจ้าหมีสีน้ำตาลต้องกรีดร้องให้กับความน่ารักของหมีเหล่านี้ เพราะที่นี่นั้นเป็นสถาที่เพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลที่มีตั้งแต่เจ้าหมีตัวน้อยๆไปจนถึงหมีตัวโตเลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าหมีตัวโตจะดุรึเปล่า เพราะหมีของที่นี่เค้าได้รับการดูแลและฝึกให้คุ้นเคยกับคน มีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้ายโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว นักท่องเที่ยวสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส หากยังไม่จุใจมาทั้งทีอยากใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ต้องมายังโซน ห้องสังเกตการณ์พิเศษ”กรงมนุษย์”  ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา และได้ยินเสียงและกลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆ ประหนึ่งว่าได้อยู่กับเจ้าหมีพวกนี้ระยะประชดแต่ก็มีความปลอดภัยหายห่วง ที่นี่พิเศษตรงนักท่องเที่ยวสามารถป้อนอาหารเหล่าหมีทั้งหลายด้วย ขนมปัง และแอปเปิ้ล ซึ่งเค้าจะจุดจำหน่ายอาหารหมีให้ซื้อกันแบบรัวๆเลย
เย็น   รับประทานอาหารณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก Toya Manseikaku  Hotel [ONSEN] หรือเทียบเท่า

วันที่สาม โทยะ - ฮาโกดาเตะ - สวนพฤกษศาสตร์เขตร้อน(ลิงแช่ออนเซ็น) - ป้อมปราการโกเรียวคาคุ - โกดังอิฐแดงคาเนโมริ - นั่งกระเช้าชมวิวภูเขาฮาโกดาเตะ

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
สวนพฤษศาสตร์ฮาโกดาเตะ Hakodate Tropical Botanical Garden เป็นสวนพืชเขตร้อนขนาดใหญ่ ด้านในมีเรือนกระจกที่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืชเขตร้อนกว่า 3000 สายพันธุ์ นอกจากสวนแล้วก็ยังมีโซนอื่นๆที่น่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะลิงภูเขาที่ในช่วงหน้าหนาวลงไปแช่ออนเซ็น คล้ายกับที่นากาโน่นั่งเอง เวลาชมก็ต้องยืนชมจากด้านบนไม่สามารถเข้าไปใกล้ลิงได้ ส่วนในหน้าร้อนนั้นก็มีสวนน้ำและสนามเด็กเล่นซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของเด็กๆ พ่อแม่สามารถพาลูกมาเที่ยวชมธรรมชาติพร้อมกันเล่นน้ำได้ จึงทำให้สวนแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวยอดนิยมเพราะสามารถเที่ยวชมหลายๆอย่างได้ในที่เที่ยว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ ป้อมปราการรูปดาวโกเรียวคาคุ เป็นป้อมปราการสไตล์ตะวันตกที่สร้างเสร็จเมื่อเกือบ 150 ปีมาแล้ว และได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์แห่งพิเศษของญี่ปุ่น หอคอยโกเรียวคาคุที่อยู่ใกล้เคียงมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นวิวในมุมกว้างของป้อมปราการรูปดาวอันสวยงามได้ทั้งหมดรวมถึงคูป้อมที่อยู่โดยรอบ โกเรียวคาคุเป็นป้อมปราการแบบตะวันตกที่สร้างเสร็จเมื่อ 150 ปีมาแล้ว วิวมุมกว้างอันงดงามของป้อมปราการรูปดาวและคูป้อมโดยรอบจะปรากฏแก่สายตาของผู้ชมจากลานสังเกตการณ์ของหอคอยโกเรียวคาคุที่มีความสูง 107 เมตร ซึ่งอยู่ติดกับตัวป้อม คูป้อมรายล้อมไปด้วยต้นซากุระกว่า 1,600 ต้น ทำให้หอคอยโกเรียวคาคุกลายเป็นจุดชมซากุระลำดับต้นๆ ของฮอกไกโดในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ในฤดูร้อน คูป้อมจะรายล้อมไปด้วยความเขียวชอุ่ม ซึ่งเปลี่ยนเป็นสีสันเจิดจ้าจากใบไม้สีแดงสดในฤดูใบไม้ร่วง ก่อนจะถูกปกคลุมด้วยหิมะในฤดูหนาว เกิดเป็นทิวทัศน์ที่งดงามเกินบรรยายในทุกๆ ฤดูกาล (ไม่รวมค่าขึ้นหอคอยโกเรียวคาคุ)
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยง  ณ ร้านอาหาร
หลังอาหารเที่ยงอิสระเดินเล่นที่ โกดังอิฐแดง ผู้ที่เป็นคนค้นพบโกดัง Kanemori คือ Watanabe Kumashiro บุคคลสำคัญที่มาจาก Nagasaki เพียงวัย 24 ปี ที่โกดังแห่งนี้ได้เปิดในปี 1869 เป็นร้านขายเสื้อผ้าสไตล์ตะวันตก หลังจากนั้นบริเวณแห่งนี้เริ่มมีการทำธุรกิจที่หลากหลายและเริ่มเป็นโกดังที่สำคัญทางธุรกิจในปี 1887 แต่แล้วโกดังแห่งนี้ได้เกิดความเสียหายจากไฟไหม้แต่ก็ได้รับการปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ในปี 1988 และกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ลานเบียร์ ฮอลล์สำหรับจัดงานต่างๆไปในที่สุด ที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของการทำอุตสาหกรรมทางเรือในสมัยก่อนหลงเหลืออยู่ และในปัจจุบันถือเป็นสัญลักษณ์ของอ่าวบริเวณ Hakodate ไปในที่สุด อาคารเจ็ดหลังที่ทำเป็นคลังสินค้าหรือโกดังอิฐสีแดง Kanemori แบ่งออกเป็น "Hakodate History Plaza", "Kanemori Hall", "Kanemori Western Museum", "BAY Hakodate" และยังมีร้านอาหาร คาเฟ่และของที่ระลึก ร้านค้า ฯลฯ อีกมากมาย ทำให้พื้นที่ของที่นี่สะดวกสุดๆ นอกจากนี้ Kanemori Hall ยังมีให้บริการสำหรับการจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการศึกษาแต่จำเป็นต้องจองล่วงหน้า และที่นี่ยังมีสินค้าที่เป็นแบบดั้งเดิมที่ขายเฉพาะในที่นี่เท่านั้น โดยเป็นสินค้าดั้งเดิมที่ออกแบบในสไตล์โกดังอิฐสีแดง Kanemori อาทิเช่น คุกกี้คาราเมลที่ให้ความรู้สึกโรแมนติกในแบบของวันตก
จากนั้นนำท่านขึ้นกระเช้าลอยฟ้าสู่ยอดภูเขาฮาโกดาเตะ ที่ขึ้นชื่อเรื่อง "ทัศนียภาพยามค่ำคืนอันงดงาม" ใช้เวลาประมาณ 3 นาที เราจะได้สัมผัสความงดงามของทัศนียภาพยามค่ำคืนที่เกิดจากการตัดกันระหว่างแสงไฟภายในเมืองและทะเลอันมืดสนิท ซึ่งเป็นทิวทัศน์ที่สวยงดงามมาก ที่นี่ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น
เย็น   รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ที่พัก Hakodate Hotel [Onsen] หรือเทียบเท่า

วันที่สี่  ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ - ลานสกี - ซัปโปโร

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ตลาดเช้าฮาโกดาเตะอยู่ติดกับสถานีฮาโกดาเตะ ออกจากสถานีแล้วก็ถึงทันที เป็นตลาดที่สามารถมาลิ้มรสอาหารทะเลสดๆ ได้ตั้งแต่เช้าตรู่ นอกจากการลิ้มลองข้าวหน้าอาหารทะเลสด ไคเซ็นด้ง ที่ร้านอาหารแล้ว ภายในตลาดยังมีร้านที่สามารถตกหมึกขึ้นชื่อของฮาโกดาเตะได้ด้วย หมึกที่ตกได้ จะมีพ่อครัวทำเป็นซาชิมิให้รับประทานกันสดๆ ตรงนั้นเลย ที่ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ ไม่ได้มีแค่อาหารทะเลเท่านั้น ยังเต็มไปด้วยผลไม้ตามฤดูกาลอีกเพียบ แต่ถ้าเลยเที่ยงไปแล้วร้านค้าส่วนใหญ่ก็จะเริ่มปิด ฉะนั้นควรไปเยือนแต่เช้าตรู่
เที่ยง    รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ลานสกีนิเซโกะ อิสระเล่นสกีตามอัธยาศัย  (ไม่รวมค่าอุปกรณ์และค่าใช้จ่ายอื่นๆในการเล่น) ที่นิเซโกะวิลเลจ ท่านสามารถร่วมกิจกรรมได้หลากหลายชนิด เช่น  
**Snow rafting คล้ายกับการขับเจ็ทสกีในทะเลแล้วมีแพพ่วงอยู่
ค่าใช้จ่าย • ผู้ใหญ่ (อายุ 13 ปีขึ้นไป) 3,500 เยน / คน • เด็ก (อายุต่ำกว่า 12 ปี) 2,500 เยน / คน
**ขับ Snowmobile
ค่าใช้จ่าย50 นาที• 1 ที่นั่ง 15,000 เยน / คน• สองที่นั่ง 20,000 เยน / คน
30 นาที • 1 ที่นั่ง 8,000 เยน / คน  • สองที่นั่ง 10,000 เยน / คน
*ราคาค่าใช้จ่ายของการเล่นสกี สโนวโมบิล และอื่นๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดสอบถามไกด์นำเที่ยวประจำกรุ๊ปของท่าน ณ วันเดินทาง
เย็น  รับประทานอาหาร  ณ ร้านอาหาร
ที่พัก Tokyu Rei Sapporo Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า   โอตารุ - คลองโอตารุ - ถนนซาไกมาจิ - โรงเป่าแก้วคิตาอิชิ - พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี - ซัปโปโร - JTC ร้านค้าปลอดภาษีดิวตี้ฟรี - ทานุกิโคจิ

เช้า  รับประทานอาหาร  ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นออกเดินทางสู่ เมืองโอตารุ เป็นเมืองท่าสำคัญของซัปโปโร และบางส่วนของเมืองตั้งอยู่บนที่ลาด  ต่ำของภูเขาเท็งงุ ซึ่งเป็นแหล่งสกีและกีฬาฤดูหนาวที่มีชื่อเสียง ชม คลองโอตารุ หรือ “โอตารุอุนงะ” มีความยาว 1.5 กิโลเมตร ถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง โดยมีโกดังเก่าบริเวณโดยรอบซึ่งได้รับการปรับปรุงเป็นร้านอาหารเรียงรายอยู่ ไฮไลท์ของที่นี่ คือ บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก คลองแห่งนี้สร้างเมื่อปี 1923 จากการถมทะเล เพื่อใช้สำหรับเป็นเส้นทางการขนถ่ายสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดัง แต่ภายหลังได้เลิกใช้และมีการถมคลอง ครึ่งหนึ่งเพื่อทำถนนหลวงสาย 17 แล้วเหลืออีกครึ่งหนึ่งไว้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีการสร้างถนนเรียบคลองด้วยอิฐแดงเป็นทางเดินเท้ากว้างประมาณ 2 เมตร อิสระเดินชมตามอัธยาศัย
ชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมืองชม พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี เป็นหนึ่งในร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีในญี่ปุ่น โดยตัวอาคารมีความเก่าแก่สวยงาม และถือเป็นอีกหนึ่งในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์เมือง  เครื่องแก้วนับเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่ขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ Kitaichi Glass เป็นแบรนด์เครื่องแก้วชั้นนำของโอตารุ โดยโรงงานเป่าแก้วคิตะอิจินั้นถือเป็นแหล่งผลิตเครื่องแก้วคุณภาพสูงที่เป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน โรงงานแห่งนี้มีประวัติเก่าแก่นับร้อยปี มีทั้งหมด 8 สาขาในเมือง มีสาขาที่ใหญ่ที่สุดคือ สาขาที่ 3 มีโซนร้านค้าและคาเฟ่ “Kitaichi Hall” ที่ประดับตกแต่งด้วยตะเกียงน้ำมันจำนวน 167 ชิ้น และตกแต่งกระจกสีที่ฝ้าทั้งแถบสร้างบรรยากาศสุดพิเศษ ใครชื่นชอบการประดิษฐ์หรืออยากได้แก้วที่ไม่เหมือนใคร ก็สามารถเข้าร่วมเวิร์คช็อปทำเครื่องแก้วของตัวเองที่มีแค่ชิ้นเดียวในโลกได้ในเวลาเพียง 1-2 ชั่วโมง
จากนั้นเดินทางกลับมายังเมืองซัปโปโร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที
เที่ยง รับประทานอาหาร  ณ ร้านอาหาร **เมนูบุฟเฟ่ต์ขาปูยักษ์**
นำท่านเดินทางสู่ JTC ร้านค้าปลอดภาษี เลือกซื้อสินค้า ของฝาก ทั้งเครื่องสำอาง โฟมล้างหน้า ขนม และอื่นๆ อีกมากมาย
อิสระช้อปปิ้งที่ทานุกิโคจิ  แหล่งชอปปิ้งที่อยู่ภายใต้หลังคาคลุมยาวระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ถูกแบ่งเป็น 7 ส่วนหรือ 7 บล็อค สองข้างทางเต็มไปด้วยร้านขายสินค้ามากมายกว่า 100 ร้าน ทั้งร้านขนม อาหาร ยา เสื้อผ้า รองเท้า ABC Mart หรือแม้แต่ร้านDon Quijote สารพัดร้านค้าในย่านนี้ นอกจากสถานที่แห่งนี้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี จะเป็นแหล่งชอปปิ้งแล้วยังใช้เป็นที่จัดกิจกรรม เทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลทะนุกิ ช่วงฤดูหนาว หรือจะใช้เป็นจุดรวมพลของหนุ่มสาวชาวญี่ปุ่น เพื่อนัดไปปาร์ตี้สังสรรค์กันต่อยามดึก บางทีก็เห็นคนมาเปิดหมวกร้องเพลงกันด้วยนะ
 อิสระรับประทานอาหาร เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน
ที่พัก Tokyu Rei Sapporo Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่หก สนามบินชิโตเสะ - กรุงเทพฯ

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางไปยังสนามบินนิวชิโตเสะ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
11.00 น. ออกเดินทางจากสนามนิวบินชิโตเสะ โดยสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่   XJ621
17.00 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ

*****Travel Around The World by Chic Journey*****
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงรายการการเดินทางตามความเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ภูมิอากาศและเวลา ณ วันที่เดินทางจริงของประเทศที่เดินทางทั้งนี้ บริษัทจะคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

วันเดินทาง

ราคาผู้ใหญ่

ราคาเด็ก2 - 12 ปี

ราคาไม่เอาตั๋วเครื่องบิน

พักเดี่ยว
เพิ่ม

16 - 21 ม.ค. 66

46,999.-

ไม่มีราคาเด็ก

34,999.-

11,000.-

18 - 23 ม.ค. 66

46,999.-

34,999.-

11,000.-

15 - 20 มี.ค. 66

46,999.-

34,999.-

11,000.-

Visitors: 185,677