ทัวร์กรุ๊ปสงกรานต์ 10-20 เม.ย.69 COSTA TOSCANA 11วัน8คืน บินTK ล่องเรือสำราญเที่ยวยุโรป ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน บาร์เซโลนา กาลยารี เนเปิลส์ Blue Grotto โรม วาติกัน เจนัว มาร์เซย: Costa Cruise Europe

(ศ) 10 เม.ย. 2569 : กรุงเทพฯ

19.30 น. หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 7 แถว N เคาน์เตอร์สายการบินเตอร์กิส แอร์ไลน์ (TK)
22.45 น.  บินสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 69

(ส) 11 เม.ย. 2569 : อิสตันบูล - บาร์เซโลนา

05.15 น.ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน
07.55 น.บินสู่ สนามบินบาร์เซโลนา-เอล แปรต โดยเที่ยวบิน TK 1853
10.35 น.ถึง สนามบินบาร์เซโลนา-เอล แปรต
= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
เที่ยวชมบรรยากาศของบาร์เซโลนา เช่น Palau de la Música Catalanaโรงแสดงคอนเสิร์ตที่ได้รับคำชื่นชมว่าสวยงามที่สุดในโลก สร้างขึ้นในระหว่างปี ค.ศ. 1905-1908 ด้วยศิลปะทันสมัย (Modernista) แห่งคาตาลัน ซึ่งเป็นศิลปะแบบสเปนและอาหรับ ใช้เทคนิคหลายรูปแบบทั้งอิฐ กระเบื้องเคลือบ โมเสก กระจกสี และปูนปั้น ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วยความวิจิตรของงานสถาปัตยกรรมทั้งภายนอกและภายใน, บ้านของตระกูลมิร่า (Casa Mila) เรือนหอพร้อมอพาร์ทเมนต์ของ Pere Mila นักธุรกิจและนักกฎหมายที่ออกแบบโดยเกาดี ในปี ค.ศ. 1906 อาคารสูง 6 ชั้นที่มีแนวคิดการออกแบบมาจากคลื่นทะเล จึงทำให้อาคารมีรูปร่างแปลกตาและมีความล้ำสมัย ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจาก UNESCOแต่ก็ยังมีผู้เช่าอาศัยอยู่ที่แห่งนี้, บ้านของตระกูลบัตโล่ (Casa Batllo) สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1877 ต่อมาเจ้าของบ้านได้ให้เกาดีมาปรับปรุงและออกแบบใหม่ดังรูปลักษณ์ที่เห็นในปัจจุบัน สิ่งที่โดดเด่นคือหลังคาบ้านที่ออกแบบให้ดูคล้ายกับหลังของมังกรโดยใช้กระเบื้องปูไล่เฉดสีเป็นเกล็ดบนลำตัว, เดินเล่น ถนนคนเดิน La Rambla ชื่อดังของชาวบาร์เซโลนา มีระยะทาง 1.2 กิโลเมตร สองข้างทางร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และร้านรวงต่างๆ ทั้ง ร้านดอกไม้ ร้านขายงานศิลปะ ร้านอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงงานศิลปะและประติมากรรมมากมาย เช่น รูปปั้นของ Thomas Alva Edison นักประดิษฐ์ผู้คิดค้นหลอดไฟส่องสว่าง ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บความประทับใจตลอดถนนเส้นนี้
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ที่พัก  Front Air Congress Hotel 4* หรือเทียบเท่า

(อา) 12 เม.ย. 2569 : บาร์เซโลนา – COSTA TOSCANA

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
เที่ยวชมบรรยากาศของบาร์เซโลนา เช่น มหาวิหารซากราดา แฟมิเลีย (Sagrada Familia) เป็นผลงานการออกแบบสุดท้ายของ Antoni Gaudi ที่มีความแปลกตาแต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสถาปัตยกรรมแบบอาร์ตนูโว ถึงแม้ว่าปัจจุบันจะยังสร้างไม่เสร็จแต่ก็สวยงามจนไม่ควรพลาดไปเยี่ยมชม
นั่ง Cable Car ขึ้นชมวิวเมืองบาร์เซโลนาที่ เนินมองคูอิก ที่สูงถึง 180 เมตร นอกจากจะเป็นจุดชมวิวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่ตั้งของสนามกีฬาโอลิมปิก ที่จัดในปี ค.ศ. 1992 และพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติคาตาลุญญาอีกด้วย
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เช็กอินขึ้น เรือสำราญ COSTA TOSCANA
18.00 น.   เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา ... มุ่งหน้าสู่ กาลยารี (อิตาลี)
ค่ำ    รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
ที่พัก  COSTA TOSCANA

(จ) 13 เม.ย. 2569  : ล่องน่านน้ำ( At Sea )

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถร่วมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้งช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือหรือกิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศของเรือสำราญ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ

(อ) 14 เม.ย. 2569 : กาลยารี (อิตาลี)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
07.00 น. เรือจอดเทียบท่า กาลยารี (Cagliari) (อิตาลี) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะซาร์ดิเนีย มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน มีข้อบ่งชี้ว่ามีการอยู่อาศัยของมนุษย์ตลอดระยะเวลากว่า 5,000 ปีตั้งแต่ยุคหินใหม่ ผ่านมาหลายยุคหลายสมัยตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ คาร์เธจ โรมัน ไบแซนไทน์ จนถึงปัจจุบัน บอกเล่าผ่านโบราณสถานมากมาย ปัจจุบันเมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรม ศิลปะท้องถิ่น และสถาปัตยกรรมอาร์ตนูโวที่หลากหลาย
เที่ยวชมบรรยากาศของกาลยารี เช่น Piazza Palazzo จัตุรัสที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะ, Cathedral of Santa Maria มหาวิหารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 พร้อมประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 800 ปี ได้รับการบูรณะหลายครั้งจนผสมผสานศิลปะที่หลากหลายจนปัจจุบันและยังเป็นสถานที่เก็บหนามศักดิ์สิทธิ์จากมงกุฏของพระเยซู โดยจะนำมาจัดแสดงช่วงวันฉลองอัสสัมชัญมาจนถึงทุกวันนี้, ป้อมปราการแห่งเซนต์เรมี (Bastione di Saint Remy) ป้อมปราการสำคัญของซาร์ดิเนีย สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 บนกำแพงโบราณยุคกลาง เป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิกที่มีหัวเสาแบบคอรินเทียนและเสาแบบ Pietra Forte ถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมและมีการสร้างใหม่บางส่วน
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เดินเล่น ถนน Via Giuseppe Manno ถนนสายช้อปปิ้งขั้นนำของเมือง มีทั้งแฟชั่นแบรนด์ระดับโลกถึงงานฝีมือท้องถิ่นให้เลือกสรร
เดินทางกลับสู่ท่าเรือ ... เพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ
16.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เนเปิลส์ (อิตาลี)
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
ที่พัก COSTA TOSCANA

(พ) 15 เม.ย. 2569 :  เนเปิลส์ – BLUE GROTTO - เนเปิลส์ (อิตาลี)

เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
09.00 น. เรือจอดเทียบท่า เนเปิลส์ (Naples) (อิตาลี)
เดินทางสู่ เกาะคาปรี (Capri)
ชมความสวยงามของ Blue Grotto ถ้ำทะเลที่ขึ้นชื่อเรื่องของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สีน้ำเงินของทะเลส่องประกายภายในความมืดมิดของถ้ำ ผจญภัยกับการนอนราบไปกับเรือเพื่อเข้าถ้ำ (ขึ้นกับเวลาน้ำขึ้น-น้ำลงและสภาพอากาศโดยคำนึงความปลอดภัยของผู้เดินทางเป็นสำคัญ ... กรณีไม่สามารถไปได้ ขอสงวนสิทธิ์เปลี่ยนโปรแกรมเป็นท่องเที่ยวในเมืองเนเปิลส์แทน)
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เดินทางกลับสู่ท่าเรือ ... เพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ    รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
19.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองชีวีตาเวกเกีย (อิตาลี)
ที่พัก  COSTA TOSCANA

(พฤ) 16 เม.ย. 2569 : ซีวีตาเวกเกีย - วาติกัน - โรม - ซีวีตาเวกเกีย (อิตาลี) 

เช้า   รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
08.00 น.  เรือจอดเทียบท่า ชีวีตาเวกเกีย (อิตาลี)
เดินทางสู่ นครรัฐวาติกัน (Vatican) รัฐอิสระที่เล็กที่สุดและเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
เที่ยวชมบรรยากาศของวาติกัน เช่น มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นมหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก รู้จักกันโดยชาวอิตาลีว่า Basilica di San Pietro in Vaticano หรือ เซนต์ ปีเตอร์ส บาซิลิกา (Saint Peter's Basilica) มหาวิหารนี้เป็นมหาวิหารหนึ่งในสี่ของมหาวิหารหลักในกรุงโรม ประเทศอิตาลี (อีก 3 มหาวิหารคือ มหาวิหารเซนต์จอห์นแลเตอร์รัน, มหาวิหารซานตามาเรียมายอเร และ มหาวิหารเซนต์พอลนอกกำแพง) อยู่ในนครรัฐวาติกัน เป็นดินแดนที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรมและเป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งศาสนาคริสต์ นิกาย Roman Catholic State Of The Vatican City ซึ่งนครรัฐวาติกันจัดว่าเป็นประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกซึ่งมีศูนย์กลางคือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ซึ่งได้รับการออกแบบโดยอัจฉริยะบุคคล Michelangelo
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เที่ยวชมบรรยากาศของโรม เช่น น้ำพุเทรวี่ (The Trevi Fountain) น้ำพุที่เหล่านักท่องเที่ยวนิยมมาโยนเหรียญอธิษฐานเพื่อให้ได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้ง, โคลอสเซียม (Colosseum) 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ได้รับการขนานนามว่าเป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสปาเซียนแห่งจักรวรรดิโรมันและสร้างเสร็จในสมัยจักรพรรดิไททัส (Titus) สามารถจุคนกว่า 50,000 คน, โรมันฟอรัม (Roman Forum) เขตเมืองเก่าในสมัยจักรพรรดิ์ทราจัน ซีซาร์ เรืองอำนาจ ที่เคยเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมและชีวิตของชาวโรมัน
เดินทางกลับสู่ท่าเรือ ... เพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ   รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
19.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองเจนัว (อิตาลี)
ที่พัก COSTA TOSCANA

(ศ) 17 เม.ย. 2569 : เจนัว (อิตาลี) 

เช้า   รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
08.30 น. เรือจอดเทียบท่า เจนัว (อิตาลี)
เที่ยวชมบรรยากาศในเจนัว เช่น Piazza San Matteo โบสถ์โรมันคาทอลิกที่สร้างในศตวรรษที่ 11 โดย Martino Doria ต่อมาได้รับการบูรณะใหม่ในสไตล์กอทิก, อนุสาวรีย์คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส นักเดินเรือชาวอิตาลีผู้ค้นพบทวีปอเมริกา ที่ถือกำเนิดที่เมืองเจนัวแห่งนี้
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เที่ยวชมบรรยากาศในเจนัว เช่น อ่าวเจนัว ท่าเทียบเรือสำราญ เรือยอช์ตหรูและเรือใบสีขาวละลานตา, Lighthouse of Genoa หรืออีกชื่อคือ Lanterna ประภาคารสูงเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1128 สูงถึง 76 เมตร ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและแสงไฟจากประภาคารสามารถเห็นได้จากระยะ 50 กิโลเมตรเลยทีเดียว, Cathedral of San Lorenzo หรือมหาวิหารเซนต์ลอว์เรนซ์ โบสถ์โรมันคาทอลิกประจำเมืองเจนัว สร้างขึ้นช่วงปลายศตวรรษที่ 10 แต่เกิดเหตุไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1296 ทำให้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในสไตล์กอทิกที่มีซุ้มประตูแถบขาว-ดำที่สวยงาม, Piazza De Ferrari สถานที่นัดพบของชาวเมืองเจนัว เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจใจกลางเมือง บริเวณกลางของพลาซ่ามีน้ำพุขนาดใหญ่สร้างความสดชื่นให้กับชาวเมือง
เดินทางกลับสู่ท่าเรือ ... เพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ   รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
18.00 น. เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองมาร์เซย (ฝรั่งเศส)
ที่พัก COSTA TOSCANA

(ส) 18 เม.ย. 2569 :  มาร์เซย (ฝรั่งเศส)

เช้า    รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
09.00 น.  เรือจอดเทียบท่า มาร์เซย (ฝรั่งเศส)
เที่ยวชมบรรยากาศของมาร์เซย เช่น มหาวิหารนอเทรอดาม เดอ ลา การ์ด (Basilique Notre-Dame de la Garde) ตั้งอยู่บนยอดเขา มีรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคนแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัยและเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของสักการะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเทศบาลเมืองได้ปรับปรุงให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานอันศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมาร์เซย, สวน The Palais Longchamp สวนสวยกลางใจเมืองที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองถึงความอุดมสมบูรณ์ ภายในตัวอาคารแสดงรูปปั้นที่สื่อถึงความสมบูรณ์ เช่น รวงข้าวและพวงองุ่น ใจกลางมีน้ำพุที่สื่อถึงการมีน้ำท่าที่สมบูรณ์, มหาวิหารมาร์เซย (Marseilles Cathedral) วิหารที่สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 19 ที่มีเอกลักษณ์ด้วยศิลปะแบบไบแซนไทน์ ภายในตกแต่งด้วยเรือลำเล็กๆ ไว้หลายสิบลำบนเพดานเพื่อเป็นการอวยพรให้กับนักเดินเรือที่ผ่านไป-มาที่ท่าเรือแห่งนี้
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เดินเล่นบริเวณท่าเรือเก่า (The Old Port) ท่าเรือเก่าแก่ของเมืองมาร์เซยที่เป็นที่รู้จักกันในนาม “ประตูสู่เมดิเตอร์เรเนียน” สมัยโบราณเคยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่สำคัญในการค้าขายระหว่างประเทศแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศส เป็นแหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่ต้องมาชม บริเวณใกล้ๆ กันมี Shopping Street และห้างร้านรวมเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าทั้งแบรนด์ดังและแบรนด์ท้องถิ่นให้เลือกซื้อมากมาย
เดินทางกลับสู่ท่าเรือ ... เพื่อเตรียมตัวกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ     รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
18.00 น.  เรือล่องออกจากท่าเทียบเรือ ... มุ่งหน้าสู่ เมืองบาร์เซโลนา (สเปน)
ที่พัก COSTA TOSCANA

หมายเหตุ: ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป จะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็กเอาต์ออกจากเรือดังนี้

1.  จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
2.  จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็กความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็กอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)

(อา) 19 เม.ย. 2569 : บาร์เซโลนา (สเปน) - อิสตันบูล

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารบนเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่า บาร์เซโลนา (สเปน) เช็กเอาต์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
เดินทางสู่ La Roca Village (ระยะทางประมาณ 70 กม.) เอาต์เลตที่รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมมากกว่า 100 ร้านค้า เช่น ARMANI, BURBERRY, COACH, GUCCI, GEOX, GUESS, LACOSTE, LONGCHAMP, MICHAEL KORS, PANDORA, POLO RALPH LAUREN, SAMSONITE, THE NORTH FACE, TOD’S, TUMI, และอื่นๆ อีกมากมาย
**อิสระรับประทานอาหารตามอัธยาศัย
เดินทางสู่สนามบินเพื่อเดินทางกลับ
18.30 น. บินสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 1856
23.00 น.  ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน

(จ) 20 เม.ย. 2568 : อิสตันบูล - กรุงเทพฯ

01.40 น. บินสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน TK 68
15.25 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ