ทัวร์มองโกเลียใน ส.ค.-พ.ย.68 *ไม่ลงร้านช้อป* บิน FD 6วัน 5คืน บินตรงเออร์ดอส ฮูฮอต สุสานเจงกิงข่าน ทะเลทรายเซี่ยงซาวาน ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายน 2568

รหัสสินค้า : CJN-W006-CSTDSN-06FD-INNER-MONGOLIA

ราคา

34,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 34,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

บินตรงเออร์ดอส มองโกเลียใน มณฑลทุ่งหญ้าสีทอง

เปิดประสบการณ์บนทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน ขี่อูฐชมทะเลทราย เซี่ยงซาวาน 

**ไม่ลงร้านช้อปรัฐบาล**

ราคา:เริ่มต้น 34,900 บาท

โดยสายการบิน : Air Asia (FD)

กรุงเทพฯดอนเมือง • เออร์ดอส (สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน)•เออร์ดอส • ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน • กิจกรรมแบบชาวมองโกล (ถ่ายรูปกับน้องแกะ , สวมชุดมองโกล ,ฝึกยิงธนูแบบมองโกล,กิจกรรมงานเลี้ยงรอบกองไฟ) • OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนานโฮฮอต • สุสานหวังเจาจวิน •อารามต้าเจา  • เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ ) •เนินทรายเสี่ยงซาวาน (รวมกระเช้า + ผ้าหุ้มรองเท้า) • ขี่อูฐชมทะเลทราย • งานจิตกรรมทราย • เออร์ดอส OPTIONAL TOUR : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์) •อารามซือหนี • สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว • วัดพระมหามัยมุนี • เมืองใหม่คังปาสือ  • วัดเป่าถัง • สุสานเจงกิสข่าน •ถนนคนเดินเออร์ดอส

**พักโรงแรม 5 ดาว , กระโจมสไตล์มองโก 1 คืน

**แต่งชุดมองโกเก็บภาพความประทับใจ

เดินทาง สิงหาคม - พฤศจิกายน 2568

หมายเหตุ ; โปรแกรมหน้าเวปไซด์เป็นรายการที่จัดทำล่วงหน้ากรุณาตรวจสอบและเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจองทุกครั้ง

วันแรก: กรุงเทพฯ (สนามบินดอนเมือง) – เออร์ดอส(สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน)

13.00 น.  พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมืองอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ชั้น 3 ประตู 1 เคาน์เตอร์ สายการAir Asia (FD)โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทคอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกตรวจเช็คสัมภาระและเอกสารการเดินทางให้กับทุกท่าน  ตั๋วโดยสายรวม น้ำหนักกระเป๋า 20 ก.ก. จำกัดท่านละ 1 ใบ
16.20 น. ออกเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์ดอสเออร์จิน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน โดยสายการบิน Air Asia (FD) เที่ยวบินที่ FD780  (เนื่องจากเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ไม่มีอาหารบริการอาหารบนเครื่องและที่นั่ง Hotseat)
22.00 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเออร์ดอสเออร์จิน เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
ยินดีต้อนรับทุก
ท่านสู่ เมืองออร์ดอส จุดเริ่มต้นการเดินทางอันน่าตื่นตาตื่นใจ สู่ใจกลางดินแดนแห่งประวัติศาสตร์และอารยธรรมมองโกลอันยิ่งใหญ่ ชื่อ “ออร์ดอส”  ในภาษามองโกลมีความหมายอันทรงพลังว่า “หมู่พระราชวัง อันมากมาย” ซึ่งบ่งบอกถึงความรุ่งเรืองและมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าที่สั่งสมมานับพันปี ที่นี่คือประตูบานแรกที่จะเปิดประสบการณ์ให้ท่านได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณของชนเผ่าเร่ร่อน และความภาคภูมิใจในประเพณีมองโกลโบราณที่ยังคงหายใจอยู่  จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก ãGROWNE PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว  

วันที่สอง :เออร์ดอส – ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน - กิจกรรมแบบชาวมองโกล (ถ่ายรูปกับน้องแกะ –สวมชุดมองโกล – ฝึกยิงธนูแบบมองโกล – กิจกรรมงานเลี้ยงรอบกองไฟ ) OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนาน

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ ทุ่งหญ้าซีลามู่เหริน (ระยะทาง 320 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 4 ชั่วโมง) ผืนพรมธรรมชาติสีเขียวกว้างไกลสุดสายตา ที่ซึ่งวิถีชีวิตและจิตวิญญาณของชาวมองโกลยังคงอบอวลอยู่ทุกอณู ทุ่งหญ้าแห่งนี้ได้รับการขนานนามตามชื่อวัดปู่ฮุ่ย อันเก่าแก่และแม่น้ำซีลามู่เหรินที่ไหลผ่าน เป็นดั่งหัวใจของวัฒนธรรมมองโกลที่เปี่ยมไปด้วยความอบอุ่นและการต้อนรับอันเป็นมิตร
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านสู่ ทุ่งหญ้าซีลามู่เหรินหนึ่งในทุ่งหญ้าที่งดงามและมีความสำคัญทางวัฒนธรรมของมองโกเลียใน คำว่า “ซีลามู่เหริน” ในภาษามองโกลหมายถึง  “แม่น้ำสีเหลือง” แต่สิ่งที่ท่านจะได้สัมผัสคือผืนหญ้าเขียวชอุ่มกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา นำท่านสัมผัสประสบการณ์การเรียนรู้และดำดิ่งสู่วัฒนธรรมมองโกลผ่านกิจกรรมอันหลากหลายที่เราได้คัดสรรมาเพื่อท่านโดยเฉพาะ

  1. ฝึกทักษะขี่ม้ามองโกล: ทดลองขี่ม้าท่องทุ่งหญ้ากว้าง สัมผัสอิสระดั่งชาวมองโกลในอดีต หรือชมการแสดงความสามารถบนหลังม้าอันน่าทึ่ง (รายการทัวร์ไม่รวมค่าขี่ม้า ราคาเริ่มต้นประมาณ 250-300 หยวน **ราคาแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระยะทางและเวลาในการขี่)
  2. ยิงธนูแบบมองโกล: ทดสอบความแม่นยำของท่านกับกิจกรรมยิงธนู ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของชาวมองโกลมาแต่โบราณ (ท่านละ 10 ดอก)
  3. ลิ้มลองรสชาติแห่งทุ่งหญ้า: ร่วมรับประทานอาหารมองโกลต้นตำรับ ไม่ว่าจะเป็นชาสุ่ยถี (ชานม) รสกลมกล่อม, เนื้อแกะย่างหอมกรุ่น หรืออาหารพื้นเมืองอื่นๆ ที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาในการดำรงชีวิต (รายการทัวร์ไม่รวมแกะย่าง ราคาทั้งตัวประมาณ 400 หยวน ทั้งนี้ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลง)
  4. กิจกรรมกองไฟท่ามกลางค่ำคืนแห่งมิตรภาพ: เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ร่วมวงรอบกองไฟอันอบอุ่น ชมการแสดงระบำพื้นเมืองที่สนุกสนานและเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา หรืออาจได้ร่วมขับขานบทเพลงและเต้นรำไปพร้อมกับชาวท้องถิ่น สร้างความทรงจำอันมิรู้ลืม

**OPTIONAL SHOW : ตำนานแห่งทุ่งหญ้าโม่หนาน ราคาท่านละ 280 หยวน
ละครเพลงประกอบการแสดงบนหลังม้าสุดตระการตา ที่จะพาทุกท่านย้อนเวลากลับไปสู่ยุคของเจงกิสข่านอันเกรียงไกร! ร่วมเป็นสักขีพยานในการเติบโตและความยิ่งใหญ่ของชนชาติมองโกลบนผืนแผ่นดินทุ่งหญ้าตั้งแต่การเริ่มต้น การเกณฑ์ไพร่พล เทศกาลนาดัมอันรื่นเริง การลุกขึ้นต่อต้าน สงครามอันดุเดือด จนถึงการ กลับคืนสู่ความสงบสุข เรื่องราวแต่ละฉากจะตราตรึงใจ และตื่นตาตื่นใจไปกับความสามารถของนักแสดงบนหลังม้า ที่จะมาถ่ายทอดเรื่องราวผ่านท่วงท่าอันแข็งแกร่ง คล่องแคล่ว และงดงาม ประหนึ่งท่านได้ชมการสู้รบและการใช้ชีวิตของชาวมองโกลในอดีตจริง ๆ
**ขอความกรุณาซื้อออปชั่นเพิ่มเติมผ่านไกด์หรือหัวหน้าทัวร์เท่านั้น เพื่อความสะดวกในการจัดการและความปลอดภัย                  ของทุกท่าน หากมีการซื้อออปชั่นนอกเหนือจากที่กำหนด ทางบริษัทขอเรียนว่าอาจไม่สามารถรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงได้
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร  จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก MONGOLIC LUXURY YURT  หรือเทียบเท่า (ที่พักสไตล์มองโกล พร้อมห้องน้ำในตัวและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน) สัมผัสชีวิตในกระโจม ที่พักอาศัยแบบดั้งเดิมของชาวมองโกล เรียนรู้การใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ ผสมผสานเสน่ห์ของที่อยู่อาศัยแบบดั้งเดิมเข้ากับความสะดวกสบายอย่างลงตัว

วันที่สาม:โฮฮอต - สุสานหวังเจาจวิน – อารามต้าเจา - เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ )

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่  โฮฮอต (ระยะทาง 73 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 1.5 ชั่วโมง)  เมืองหลวงอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและมนต์เสน่ห์แห่งเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ชื่อ "โฮฮอต" ในภาษามองโกล (ᠬᠥᠬᠡᠬᠣᠲᠠ) มีความหมายอันไพเราะว่า “ นครสีคราม ”  ซึ่งสะท้อนถึงความรู้สึกเป็นมิตร ความเรียบง่าย และความหวังเฉกเช่นท้องฟ้าสีครามอันกว้างใหญ่ที่โอบอุ้มดินแดนแห่งนี้
นำท่านออกเดินทางสู่สถานที่แห่งหนึ่งที่ยืนหยัดเป็นประจักษ์พยานแห่งหน้าประวัติศาสตร์อันสำคัญ และเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพอันยั่งยืนระหว่างสองชนชาติ นั่นคือ สุสานหวังเจาจวินอนุสรณ์สถานของ หวังเจาจวิน หนึ่งในสี่สตรีผู้เลอโฉมที่สุดในประวัติศาสตร์จีน หญิงสาวสามัญชน  ผู้มีความงามเป็นเลิศ ได้อาสาเดินทางไกลออกนอกด่านไปแต่งงานกับ “ฉานหยู” ผู้นำของชนเผ่าซงหนูการตัดสินใจอันกล้าหาญของเธอ ครั้งนี้ไม่เพียงแต่ยุติสงครามและ ความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์ฮั่นและชนเผ่าซงหนู แต่ยังเป็นการเปิดศักราชใหม่แห่งความสัมพันธ์ฉันมิตร การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และความสงบสุขที่ยาวนานเกือบครึ่งศตวรรษระหว่างสองแผ่นดิน ทั้งยังมีตำนานเล่าขานว่า ในขณะที่ทุ่งหญ้าโดยรอบจะแห้งเหี่ยวในยามฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว แต่ผืนหญ้าบนสุสานของหวังเจาจวินกลับยังคงเขียวชอุ่มอยู่เสมอ ราวกับว่าจิตวิญญาณแห่งความดีงามและความปรารถนาในสันติภาพของเธอยังคงหล่อเลี้ยงผืนดินแห่งนี้ มอบชีวิตชีวาและความหวังไม่รู้จบ จึงเป็นที่มาของชื่อ “ชิงจ่ง” หรือ “สุสานเขียวขจี”
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่ วัดต้าเจาอารามหลวงแห่งนิกายเกลุกปะ (นิกายหมวกเหลือง) ของพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานแบบทิเบตที่เก่าแก่และมีอิทธิพลอย่างสูงในเขตมองโกเลียใน รู้จักกันอย่างกว้างขวางที่สุดคือ วัดพระเงิน อันเนื่องมาจากพระพุทธรูปเงินอันงดงามที่ประดิษฐานอยู่ภายใน อารามถูกสร้าง ขึ้นในปี ค.ศ. 1579 โดยอัลตันข่าน ผู้นำชนเผ่าทูเม็ดมองโกลผู้ยิ่งใหญ่ในสมัยราชวงศ์หมิง ทำให้วัดแห่งนี้เป็นอารามนิกายหมวกเหลืองแห่งแรกที่สร้างขึ้น ความศักดิ์สิทธิ์ของวัดต้าจาวได้รับการยกย่องถึงขั้นที่จักรพรรดิคังซีเคยเสด็จมาประทับอยู่หลายวัน เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อองค์จักรพรรดิ ทางวัดจึงได้ยกเลิกประเพณีการสืบทอดตำแหน่งเจ้าอาวาสโดยการกลับชาติมาเกิดของพระพุทธเจ้าที่มีชีวิต ซึ่งเป็น ลักษณะพิเศษที่หาได้ยากในวัดมองโกลอื่นๆ และแม้จะเป็นวัดในนิกายทิเบต แต่การจัดวางผังโดยรวมของวัดกลับใช้รูปแบบของวัดจีน (ฮั่น) แบบดั้งเดิม ณ ประตูทางเข้าวัด ท่านจะพบกับแผ่นป้ายชื่อเสียงนี้ ซึ่งมีตำนานเล่าขานว่าจักรพรรดิคังซีเมื่อครั้งเสด็จกลับจากศึกสงคราม ม้าทรงของพระองค์ได้กระทืบกีบลงบนพื้นจนเกิดเป็นน้ำพุใสสะอาดขึ้นมาเลยทีเดียว
นำท่านเดินทางสู่ เมืองต้าลาฉี(ระยะทาง 120 ก.ม. ใช้เวลาเดินประมาณ 2.5 ชั่วโมง) หรือที่ชาวมองโกลเรียกว่า “ต๋าลาเท่อ” ซึ่งเป็นเขตปกครองระดับอำเภอ (แบนเนอร์) อันมีเอกลักษณ์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองออร์ดอส ทอดตัวอยู่ริมฝั่งทิศใต้ของแม่น้ำเหลือง และเป็นส่วนหนึ่งของที่ราบสูงออร์ดอสอันกว้าง ใหญ่ “ต๋าลาเท่อ” ในภาษามองโกลนั้นมีความหมายที่หลากหลาย บ้างก็ว่ามาจากประเพณีโบราณ หรืออีกนัยหนึ่งคือการแผลงมาจากคำว่า "ถ่าลาเท่อ" ซึ่งแปลว่า "ที่ราบ" อันสะท้อนถึงลักษณะทางภูมิศาสตร์ของดินแดนแห่งนี้ได้อย่างชัดเจน
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร    จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก ZHENJIN INTERNATIONAL HOTEL  หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว

วันที่สี่: เมืองต้าลาฉี (เขตเมืองดาลัต แบนเนอร์ ) - เนินทรายเสี่ยงซาวาน(รวมกระเช้า + ผ้าหุ้มรองเท้า) - ขี่อูฐชมทะเลทราย – งานจิตกรรมทราย – เออร์ดอส OPTIONAL TOUR : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์)

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เนินทรายเสี่ยงซาวาน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการผจญภัยในดินแดนมหัศจรรย์ ณ เนิน ทรายเสี่ยงซาวาน หรือที่รู้จักกันในนาม “อ่าวทรายร้องเพลง” ที่นี่ไม่ใช่แค่ทะเลทรายธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติอันน่าพิศวง จินตนาการถึงเนินทรายสูงตระหง่าน เมื่อคุณลื่นไถลลงมา หรือแม้แต่เมื่อสายลมพัดผ่าน เม็ดทรายนับล้านจะเสียดสีกันจนเกิดเป็นเสียงก้องกังวาน บ้างก็คล้ายเสียงกบเขียดร้องบ้างก็ดังสนั่นดุจเสียงเครื่องบินหรือฟ้าร้อง หรือแม้แต่เป็นท่วงทำนองดนตรีซิมโฟนีอันทรงพลัง ปรากฏการณ์“ทรายร้องเพลง” นี้ยังคงเป็นปริศนาที่นักวิทยาศาสตร์ต่างพยายามค้นหาคำตอบ บ้างก็ว่าเกิดจากภูมิประเทศ บ้างก็ว่าเป็นหลักการของกล่องเสียงสะท้อน หรือแม้แต่ทฤษฎีไฟฟ้าสถิต แต่ไม่ว่าสาเหตุจะเป็นเช่นไร ความลึกลับและเสียงอันน่าอัศจรรย์นี้คือสิ่งที่ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ตำนานท้องถิ่นยังเล่าขานว่า ณ ที่แห่งนี้เคยมีวัดตั้งอยู่ และแม้จะถูกพายุทรายกลบฝังไปแล้ว แต่เสียงสวดมนต์และเสียงเครื่องดนตรีของเหล่าพระลามะก็ยังคงดังก้องอยู่ในผืนทรายเริ่มต้นการผจญภัยด้วยการ นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นสู่ยอดเนินทราย ท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาของทะเลทรายคู่ปู้ฉีจากมุมสูง เป็นการเปิดประสบการณ์ที่ทั้งสะดวกสบายและน่าตื่นตาตื่นใจก่อนจะไปลุยกันต่อ และยังมี ผ้าหุ้มรองเท้าเตรียมไว้ให้ เพื่อให้ท่านเดินบนผืนทรายได้อย่างมั่นใจและสะดวกสบายที่สุดสัมผัสประสบการณ์สุดคลาสสิกที่หาได้เฉพาะในดินแดนทะเลทรายเท่านั้น! การขี่อูฐชมทัศนียภาพอันเวิ้งว้างของเนินทรายที่ทอดยาวไปจรดขอบฟ้า จะทำให้ท่านรู้สึกราวกับเป็นส่วนหนึ่งของคาราวานพ่อค้าในสมัยโบราณ เป็นความทรงจำอันแสนโรแมนติกและน่าประทับใจ ที่จะทำให้ท่านหลงรักเสน่ห์ของทะเลทรายอย่างแน่นอน
หมายเหตุ เพื่อความปลอดภัย ทางอุทยานสงวนสิทธิ์ไม่อนุญาตให้ท่านที่มีอายุ เกิน 60 ปี และท่านที่มี ปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูกสันหลัง หรือมีอาการบาดเจ็บที่หลัง เข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้ ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นการชำระค่าตั๋วแบบ เหมารวม บริษัทฯ จึงไม่สามารถคืนค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ และต้องขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านจะเข้าใจในมาตรการเพื่อความปลอดภัยดังกล่าว
หลังจากดื่มด่ำกับธรรมชาติแล้ว มาลองปลดปล่อยจินตนาการและสร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครกับ จิตรกรรมทรายท่านจะได้เรียนรู้เทคนิคการใช้ทรายสีต่างๆ สร้างเป็นภาพวาดที่สวยงาม เป็นของที่ระลึกชิ้นเดียวในโลกที่ท่านได้สร้างขึ้นด้วยมือตัวเอง และเป็นเครื่องยืนยันถึงการมาเยือนดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้ *** รายการทัวร์ไม่รวมค่ารถ 4X4 ***
กลางวันบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
OPTIONAL SHOW : เกาะเยว่ซา (เกาะทรายหฤหรรษ์) ราคาท่านละ 280 หยวน :เกาะพักผ่อนเยว่ซา โอเอซิสแห่งความบันเทิงและความสุขที่ซ่อนตัวอยู่ใจกลางทะเลทรายเสี่ยงซาวาน ท่านจะได้พบกับ สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ที่ทอดตัวอยู่ท่ามกลางเนินทราย ปลดปล่อยร่างกายและจิตใจไปกับการว่ายน้ำในหลากหลายสไตล์ สัมผัสความ "สดชื่น" ที่ยากจะบรรยาย ท่ามกลางอ้อมกอดของทะเลทราย ที่จะพาผ่านทัศนียภาพอันงดงาม บางทีอาจได้เห็นขบวนคาราวานอูฐที่ทอดยาว หรือผ่านหมู่บ้านมองโกลโบราณก่อนจะนำท่านเข้าสู่ดินแดนแห่งความสนุกสนานไม่รู้จบ
**ขอความกรุณาซื้อออปชั่นเพิ่มเติมผ่านไกด์หรือหัวหน้า ทัวร์เท่านั้น เพื่อความสะดวกในการจัดการและความปลอดภัยของทุกท่าน หากมีการซื้อออปชั่นนอกเหนือจากที่กำหนด ทางบริษัทขอเรียนว่าอาจไม่สามารถรับผิดชอบในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์อื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือข้อตกลงได้
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ เมืองเออร์ดอส (ระยะทาง 88 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง)
ค่ำบริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร    จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก   GROWNE PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว  

วันที่ห้า:อารามซือหนี - สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว – วัดพระมหามัยมุนี-เมืองใหม่คังปาสือ – ผ่านชมน้ำพุที่สูงที่สุดในเอเชีย

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านสัมผัส อารามซื่อหนี หนึ่งในมรดกทางพระพุทธศาสนาที่สำคัญยิ่ง ที่ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับการผสมผสานอันเป็นเอกลักษณ์ระหว่างพระพุทธศาสนานิกายวัชรยานแบบทิเบตและวัฒนธรรมมองโกลอันรุ่มรวย ท่านจะได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานรูปแบบของวัดทิเบตเข้ากับองค์ประกอบการตกแต่งแบบดั้งเดิมของชาวมองโกล และยังได้รับอิทธิพลจากพุทธศิลป์แบบจีนฮั่นด้วย ทั้งภาพจิตรกรรมฝาผนัง, ผ้าทังกาและพระพุทธรูปต่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของศิลปะทิเบต และบางชิ้นงานอาจมีเอกลักษณ์ทางสุนทรียะแบบมองโกล เช่น การใช้สีสันที่เข้มข้น และลายเส้นที่ทรงพลัง
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร 
นำท่านเดินทางสู่ สวนวัฒนธรรมมองโกลหยวนหลิว ที่ซึ่งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความบันเทิงมาบรรจบกัน ย้อนเวลาสู่ความรุ่งเรืองแห่งราชวงศ์หยวนกับ สามนครหลวงหนึ่งค่ายทองคำ สัมผัสความยิ่งใหญ่ของจักรวรรดิมองโกลเมื่อ 700 ปีก่อน โดดเด่นตั้งแต่ ประตูเมืองฉงเทียนอันโอ่อ่าตระการตา สัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของจักรพรรดิมองโกล ด้วยความยาวกว่า 399 เมตร และความสูงถึง 33 เมตร ประดับด้วยกระโจมทองแดง 9 หลัง และประตูโค้ง 5 ช่อง สื่อถึงแนวคิด "เคารพเก้าชั้นฟ้า ปกครองห้าคาบสมุทร"และ "เก้าห้าจือจุน"  ผสมผสานสถาปัตยกรรมมองโกลและเอเชียตะวันตกได้อย่างงดงาม จากนั้นชมสถาปัตยกรรมจำลองสถาปัตยกรรมของ สามนครหลวง อันเลื่องชื่อ อันได้แก่ นครหลวงต้าตู (กรุงปักกิ่ง)นครหลวงฤดูร้อนซ่างตู (ซานาดู) และ นครหลวงโบราณคาราโครัม  ตื่นตาตื่นใจกับ ค่ายทองคำแห่งจักรวรรดิกระโจมทองคำ (Golder Horde) ค่ายพักสีทองคำอันโอ่อ่าของจอมข่าน จากนั้นชมสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ลานบูชาเทพเท็งกรี ด้วยโคมไฟทองแดงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย เป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาไฟอันเป็นมงคลของชาวมองโกล พระที่นั่งต้าหมิงจำลองพระที่นั่งสำคัญในสมัยราชวงศ์หยวนที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ แสดงถึงความโอ่อ่าและสง่างาม
นำท่านเดินทางสู่ วัดพระมหามัยมุนีหนึ่งในศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและศาสนาที่สำคัญยิ่งของพระพุทธศาสนานิกายทิเบตในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน ที่ซึ่งท่านจะได้สัมผัสกับการผสมผสานอันงดงามระหว่างวัฒนธรรมมองโกลอันเป็นเอกลักษณ์และแก่นแท้แห่งพุทธธรรม สถาปัตยกรรมของอารามเป็นการผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างรูปแบบวัดทิเบต เข้ากับองค์ประกอบแบบมองโกล สะท้อนถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของสองวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ ผ่านผลงาน ภาพเขียนถังข่า พระพุทธรูป และภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในอาราม มักจะผสมผสานเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของมองโกลเข้าไปด้วย ทำให้ผลงานเหล่านี้มีทั้งคุณค่าทางศิลปะและความหมายทางศาสนาอย่างลึกซึ้ง
นำท่านผ่านชม เมืองคังปาสือศูนย์กลางเมืองยุคใหม่ของออร์ดอส ที่ซึ่งชื่อ "คังปาสือ" ในภาษามองโกลมีความหมายอันทรงเกียรติว่า "ครูผู้ยอดเยี่ยม" สะท้อนถึงวิสัยทัศน์และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ชุมชนที่เปี่ยมด้วยความรู้และนวัตกรรม ตื่นตาตื่นใจไปกับอาคารสถาปัตยกรรมร่วมสมัยขนาดใหญ่ที่มีดีไซน์โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ในการวางผังเมืองยุคใหม่ ท่านอาจได้เห็น ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติออร์ดอส และอาคารสำคัญอื่นๆ ที่ตั้งตระหง่านอย่างสง่างาม นำท่านชมน้ำพุที่สูงที่สุดในเอเชีย คือ น้ำพุดนตรีทะเลสาบอูหลานมู่หลุนที่ตั้งอยู่ในเขตคังปาสือ จังหวัดเอ้อเอ่อตัวสือ เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร    จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก ã  GROWNE PLAZA HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว  

วันที่หก :วัดเป่าถัง – สุสานเจงกิสข่าน  –ถนนคนเดินเออร์ดอส – (สนามบินเออร์ดอสเออร์จิน)สนามบินดอนเมือง

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
นำท่านชม วัดเป่าถัง อารามแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดพุทธศาสนานิกายทิเบตสายเกลุกปะ (นิกายหมวกเหลือง)ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความสำคัญอย่างยิ่งในมองโกเลียใน ก่อตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์ชิง วัดแห่งนี้คือศูนย์รวมแห่งการผสมผสานวัฒนธรรมมองโกล ทิเบต และฮั่นเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน ก่อเกิดเป็นเอกลักษณ์ทางศาสนาและสถาปัตยกรรมที่น่าค้นหา ด้วยพุทธศิลป์อันวิจิตร ภายในวัดประดิษฐานผ้าทังกาภาพจิตรกรรมฝาผนัง และพระพุทธรูปอันงดงาม ซึ่งบางชิ้นเป็นโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง แสดงให้เห็นถึงทักษะอันยอดเยี่ยมของศิลปะทิเบตแม้การสวดมนต์จะใช้ภาษาทิเบตเป็นหลัก แต่พระภิกษุและผู้มีจิตศรัทธาส่วนใหญ่เป็นชาวมองโกล ในพิธีธรรมบางครั้งจึงมีการอธิบายหลักธรรมเป็นภาษามองโกล เพื่อให้ชาวท้องถิ่นสามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางสู่หนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดของชนชาติมองโกลสุสานเจงกิสข่านความลึกลับแห่ง "สุสานเสื้อผ้าและหมวก" เป็นที่ทราบกันดีว่าตามประเพณี การฝังศพอย่างลับๆ ของชาวมองโกล ทำให้สถานที่ฝังพระบรมศพที่แท้จริงของเจงกิสข่านยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม สุสานเจงกิสข่านแห่งนี้คือ "สุสานเสื้อผ้าและหมวก" ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการประกอบพิธีบวงสรวงและระลึกถึงพระองค์มานานหลายศตวรรษ ตำนานเล่าขานว่า ขนอูฐที่ใช้ซับลมหายใจเฮือกสุดท้ายของเจงกิสข่าน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สถิตแห่งดวงวิญญาณของพระองค์ ได้ถูกเก็บรักษาไว้ ณ สถานที่แห่งนี้ ทำให้สุสานแห่งนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะสูงสุดของชาวมองโกล สุสานเจงกิสข่านที่ท่านจะได้เห็นในปัจจุบัน ได้รับการบูรณะและก่อสร้างขึ้นใหม่อย่างยิ่งใหญ่สง่างาม ประกอบด้วยพระตำหนักหลักสามหลัง สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมมองโกลอันเป็นเอกลักษณ์ คล้ายกระโจมขนาดใหญ่เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน ประดิษฐานพระบรมรูปของเจงกิสข่านสูง 5 เมตร ทรงเครื่องรบเต็มยศอย่างองอาจสง่างาม ด้านหลังเป็นภาพแผนที่ "สี่อาณาจักรข่าน” อันได้แก่ อาณาจักรข่านชากาไต, อาณาจักรอิลข่าน, อาณาจักรโกลเดนฮอร์ด, และอาณาจักรหยวนของกุบไลข่าน (หลังก่อตั้งราชวงศ์หยวน)  อันกว้างใหญ่แสดงถึงความเกรียงไกรของจักรวรรดิมองโกล ด้านหลังเป็นที่ตั้งของพระตำหนักที่ประดิษฐานหีบพระศพจำลอง ที่คลุมด้วยผ้าแพรสีเหลือง ซึ่งบรรจุสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเจงกิสข่านและพระมเหสีสามพระองค์ พระตำหนักตะวันตก ประดิษฐานธงเก้าชาย (สัญลักษณ์ของนายทหารเอกทั้งเก้า) และ หอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นอาวุธคู่พระทัยของเจงกิสข่านที่ใช้ในการบัญชาการรบ และเชื่อว่าเป็นที่สถิตแห่งดวงพระวิญญาณของพระองค์ 
(รายการทัวร์ไม่รวมค่าเข้าชมภายในตัวสุสาน ราคาท่านละ 90 หยวน)
 ปิดท้ายวันแห่งการผจญภัยด้วยการเดินทางสู่ ถนนคนเดินเออร์ดอสถนนสายวัฒนธรรมสไตล์ย้อนยุคที่ผสมผสานมนต์เสน่ห์ของวัฒนธรรมมองโกล-หยวน ประเพณีพื้นบ้านของส่านเป่ย (มณฑลส่านซีตอนเหนือ)และความคึกคักของร้านค้าสมัยใหม่เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถึงแม้ว่าถนนสายนี้จะถูกสร้างขึ้นใหม่ในรูปแบบสถาปัตยกรรมโบราณ แต่ทุกย่างก้าวที่ท่านได้สัมผัส จะเต็มไปด้วยกลิ่นอายและเอกลักษณ์ของดินแดนออร์ดอสอย่างแท้จริง ท่ามกลางกลิ่นอายผสมผสานของสองวัฒนธรรม อาคารบ้านเรือนบนถนนสายนี้จำลองมาจากสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์หมิงและชิง แต่ได้สอดแทรกสัญลักษณ์ของชาวมองโกลเข้าไปอย่างกลมกลืนเช่น ลวดลายผ้าฮาดาสีฟ้า หรือองค์ประกอบของโอโบ บางร้านค้ายังออกแบบให้เป็นการผสมผสานระหว่าง กระโจมมองโกลและบ้านสี่ลาน ของจีน ทำให้เกิดเป็นทัศนียภาพ ที่ไม่เหมือนใคร อย่าพลาดที่จะลิ้มลอง เนื้อแกะย่าง/ต้ม, ชานมผสมข้าวคั่ว , หรือ เค้กโยเกิร์ต และที่แนะนำเป็นพิเศษคือ  “เนื้อแกะเสียบไม้ย่างรมควัน”
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร 
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ สนามบินเออร์ดอส เช็คอิน ณ เคาน์เตอร์สายการบินAir Asia
**รวมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม/ท่านละ 1 ใบ**
22.45 น.   ออกเดินทางสู่ สนามบินดอนเมืองโดยสายการบินAir Asia (FD) เที่ยวบินที่ FD781
(เนื่องจากเป็นเที่ยวบินเช่าเหมาลำ ไม่มีอาหารบริการอาหารบนเครื่องและที่นั่ง Hotseat)
02.35 น.+1   เดินทางถึง สนามบินดอนเมืองโดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ **เดินทางถึงในวันถัดไป **

รายละเอียด

ราคาผู้ใหญ่ท่านละ 
 (พักห้องคู่)

พักเดี่ยว
เพิ่ม

วันที่ 08 – 13 , 17 – 22 , 22 – 27 สิงหาคม 2568

35,900 บาท

6,500 บาท

วันที่ 05 – 10 , 14 – 19 , 19 - 24 กันยายน 2568

35,900 บาท

6,500 บาท

วันที่ 12 – 17 , 17 – 22 , 26 - 31 ตุลาคม 2568

36,900 บาท

6,500 บาท

วันที่ 31 ตุลาคม – 05 พฤศจิกายน  2568

34,900 บาท

6,500 บาท

หมายเหตุ ! คณะออกเดินทาง 15 ท่านขึ้นไปมีหัวหน้าทัวร์

Visitors: 181,128