ทัวร์กรุ๊ปสงกรานต์ 7-16 เม.ย.69 Enchanted Princess บิน EK 10วัน7คืน ล่องเรือสำราญหรูเที่ยวยุโรป อิตาลี(โรม,ซีวิตาเวคเคีย) มอนเตเนโกร(โคตอร์) กรีซ (คอร์ฟู)เมษายน 2569:EUROPE GREECE&ADRIATIC

รหัสสินค้า : CTX-RG001-GROUP-ENCHANTED PRINCESS

ราคา

178,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 178,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ฉลองสงกรานต์ 2026 เที่ยวสนุกสุดคุ้ม แฮปปี้ทั้งครอบครัว

เช็คอินยุโรป สัมผัสความสวยของเมืองท่าต่างๆ อิตาลี ,มอนเตเนโกร, กรีซ

ราคา:เริ่มต้น 178,900.-บาท

**โปรโมชั่นสุดพิเศษ!Free Wifi บนเรือ,เครื่องดื่มพรีเมี่ยมบนเรือไม่อั้น

สายการบิน : Emirates ( EK )

รวม : ที่พักโรงแรม 2 คืน - บนเรือ 5 คืน, ตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศตามเส้นทาง , ค่าทิปบนเรือ ,รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ พร้อมพาเที่ยวบนฝั่งตามที่ระบุ ,ภาษีท่าเรือ , อาหารบนเรือทุกมื้อ ,กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ ,**มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

ไม่รวม : ค่าวีซ่าเชงเก้น, ค่าอาหารเครื่องดื่มพิเศษ,ค่าอินเตอร์เน็ต ( ถ้ามี ),ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆที่นอกเหนือจากรายการ

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : สงกรานต์ 7 - 16 เมษายน 2569 ( 10วัน 7คืน ) 

วันแรกของการเดินทาง 07 เมษายน 2569 (อังคาร) : กรุงเทพฯ – ดูไบ

18.00 น. พร้อมกันที่จุดนัดพบ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรสต์ ประตู 9 แถว T
21.05 น. เดินทางสู่กรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบินที่ EK 373

วันที่สองของการเดินทาง08 เมษายน 2569 (พุธ) : ดูไบ – กรุงโรม  - ซีวิตต้าเวคเคีย

00.50 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ   ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
เชิญท่านพักผ่อนอิริยาบถ เพื่อรอเปลี่ยนเครื่อง
03.30 น.  ออกเดินทางต่อสู่กรุงโรม ประเทศอิตาลี  โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบินที่ EK 099
07.40 น.  เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติฟูมิชิโน  (Fiumicino Airport) กรุงโรม 
นำท่านผ่านพิธีการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง และพิธีการทางศุลกากรแล้ว
เช้านี้ ขอเริ่มต้นรายการด้วยการเดินทางเข้าสู่กรุงโรม เมืองหลวงอันยิ่งใหญ่ของอดีตจักรวรรดิโรมัน กรุงโรมได้รับการยกย่องว่า เป็นศูนย์กลางแห่งอารยธรรม ศิลปะ และวัฒนธรรมตะวันตกที่รุ่งเรือง และทรงอิทธิพลมานานกว่า 2,000 ปี
นำท่านเข้าสู่ดินแดนของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก นครรัฐวาติกัน (Vatican City) ซึ่งเป็นประเทศอิสระที่เล็กที่สุดในโลก ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม นำชมมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Basilica) มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นศูนย์กลางจิตวิญญาณของชาวคริสต์ทั่วโลก ชมความงดงามของ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ (St. Peter’s Square) ซึ่งโอบล้อมด้วยระเบียงเสมือนอ้อมแขนแห่งศาสนจักรที่เปิดรับผู้ศรัทธาจากทั่วโลก
12.00 น. เชิญรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่ายนี้ ขอนำท่านเดินทางออกนอกเมืองกรุงโรม สู่ McArthurGlen Castel Romano Designer Outlet เอาท์เลทมอลล์ชื่อดังที่ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงโรมเพียงประมาณ 25 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เอาท์เลทแห่งนี้ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามในสไตล์หมู่บ้านชานเมือง ผสมผสานกับกลิ่นอายของ สถาปัตยกรรมโรมันโบราณ ภายในมีทั้งตรอกซอกซอยและลานเปิดโล่ง มอบบรรยากาศการช้อปปิ้งที่ผ่อนคลายและน่าเดินเล่น ท่านสามารถเพลิดเพลินกับการเลือกซื้อสินค้าจากร้านค้ากว่า 155 ร้านค้า ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ระดับโลก อาทิ Nike, Armani, Burberry, Coach, Salvatore Ferragamo, Roberto Cavalli และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ยังมีร้านอาหาร คาเฟ่ และสนามเด็กเล่นไว้คอยให้บริการ เพื่อความสะดวกสบายตลอดการเดินทาง
16.00 น.  พร้อมกัน ณ จุดนัดพบ แล้วขอนำท่านออกเดินทางสู่โรงแรมที่พัก ณ เมืองซีวิตาเวคเคีย(Civitavecchia) เมืองท่าริมชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองท่าหลักอิตาลี และเป็นประตูสู่กรุงโรมสำหรับนักเดินทางทางเรือ
18.30 น. เชิญรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก ณ โรงแรม HOTEL DE LA VILLE หรือเทียบเท่า

วันที่สามของการเดินทาง 09 เมษายน 2569 (พฤหัสบดี): ซีวิตาเวคเคีย–CIVITA DI BAGNOREGIO-ซีวิตาเวคเคีย

เช้า  รับประทานเช้า ณ ห้องอาหารภายในโรงแรม
09.00 น.   พร้อมกัน ณ ล้อบบี้ของโรงแรม
เช้านี้ นำท่านเดินทางสู่CIVITA DI BAGNOREGIO (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1  ชั่วโมง 30 นาที) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนเขา ซึ่งแต่ก่อนแผ่นดินระหว่างหมู่บ้าน CIVITA กับเมือง BAGNOREGIO จะเชื่อมกันเป็นแผ่นดินเดียวกัน แต่เมื่อเจอเหตุแผ่นดินไหว โดนฝน โดนลมกัดเซาะ ดินถล่มบ้าง ทำให้พื้นดินของตัวเมือง CIVITA ในอดีตค่อย ๆ ถล่มหายไปเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอก ผู้อยู่อาศัยก็พากันอพยพออกไปหมด ทำให้หมู่บ้านนี้ถูกขนานนามว่า เป็นเพียงเมืองที่กำลังจะตาย หรือ THE DYING CITY โชคดีที่ยังมีคนที่ยังมีความพยายามที่จะอนุรักษ์หมู่บ้านนี้ให้ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป ทำให้มีการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างตัวหมู่บ้านกับตัวเมืองขึ้นมา กลายเป็นหนทางติดต่อสู่โลกภายนอกเพียงหนทางเดียวในปัจจุบัน
12.30 น.   รับประทานกลางวัน ณ ภัตตาคาร
ช่วงบ่าย นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองซีวิตาเวคเคีย เพื่อนำท่านชมสถานที่สำคัญๆ และน่าสนใจของเมือง ได้แก่
-ป้อม Michelangelo (Forte Michelangelo)ป้อมปราการโบราณริมชายฝั่ง สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 16 โดยมีส่วนที่ออกแบบโดย Michelangelo Buonarroti ศิลปินชื่อดังของยุคเรอเนซองส์ ตัวป้อมตั้งตระหง่านอย่างสวยงามติดทะเล ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมือง
-วิหารซานฟรานเชสโก (Cattedrale di San Francesco d’Assisi)โบสถ์เก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก โดดเด่นด้วยหน้าจั่วและเสาหินโบราณด้านหน้า
-ท่าเรือ Civitavecchia (Port of Civitavecchia) : เดินเล่นริมชายฝั่งท่าเรือ ชมวิวเรือเฟอร์รี่เรือยอชต์ และเรือสำราญที่เทียบท่าอยู่เป็นระยะ พร้อมสัมผัสบรรยากาศทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอันสดชื่น
-ถนนช้อปปิ้ง Corso Centocelle : ถนนสายหลักของเมืองที่เต็มไปด้วยร้านค้าเล็กๆ ร้านกาแฟ และบรรยากาศแบบอิตาเลียนท้องถิ่น เหมาะแก่การเดินเล่นหรือหาของที่ระลึกน่ารักๆ
18.30 น.   เชิญรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
พัก ณ โรงแรม HOTEL DE LA VILLE หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ของการเดินทาง 10 เมษายน 2569 (ศุกร์) : ท่าเรือซีวิตาเวคเคีย – เรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส

07.00 น. เชิญรับประทานเช้าภายในโรงแรม
เช้านี้ เชิญท่านพักผ่อนอิสระตามอัธยาศัย และเดินเล่นใกล้บริเวณที่พัก
นำท่านเดินทางต่อสู่ ท่าเรือซีวิตาเวคเคีย   เพื่อนำท่านเช็คอินขึ้นสู่เรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส ด้วยแอป PrincessMedallionClassที่ล้ำสมัย และอำนวยความสะดวกให้ท่าน
Welcome Aboard Enchanted Princess!
หลังขึ้นเรือและจัดเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
13.00 น. เชิญท่านรับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารบนเรือ
สนุกสนานเพลิดเพลินกับการเดินทางอันสุดแสนอิสระ และกิจกรรมอันหลากหลาย บนเรือสำราญ
17.30 น. เชิญรับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหารใหญ่บนเรือสำราญ เอนเชนท์เต็ด ปริ๊นเซส
18.00 น.  เรือสำราญปริ๊นเซส ออกจากท่าเมืองซีวิตาเวคเคีย มุ่งหน้าสู่เมืองโคตอร์  ประเทศมอนเตเนโกร
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ENCHANTED PRINCESS

วันที่ห้าของการเดินทาง 11 เมษายน 2569 (เสาร์) : ล่องเรือสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

วันนี้ เรือสำราญ เอนแชนท์เต็ดปริ๊นเซส จะล่องผ่านผืนน้ำของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ท่ามกลางอากาศที่บริสุทธิ์และสดชื่น เชิญทุกท่านใช้เวลาช่วงเช้า เดินชมส่วนต่าง ๆ ของเรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซสเรือรุ่น Royal Class ลำนี้ ออกแบบอย่างหรูหราและครบครัน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกระดับโลก  ไฮไลต์ที่น่าสนใจ ภายในเรือ เช่น

  • The Piazza โถงกลางสุดอลังการ สไตล์อิตาเลียน
  • Lotus Spa สปาหรูพร้อมห้องซาวน่าและห้องทรีตเมนต์   (บางรายการอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม)
  • Princess Theater โรงละครขนาดใหญ่สำหรับโชว์สุดตระการตา
  • ร้านอาหารนานาชาติ หลากหลายสไตล์ พร้อมบริการสุดประทับใจ
  • Sky Deck & Pools พื้นที่กลางแจ้งสำหรับพักผ่อน ชมวิว หรือว่ายน้ำ
  • ร้านค้าปลอดภาษี (Duty Free) ให้ท่านได้เลือกซื้อของแบรนด์ดัง
  • ศูนย์กิจกรรมต่างๆ เช่น ฟิตเนส, สตูดิโอศิลปะ, สนามกีฬา และเวิร์กช็อป น่าสนใจอีกมากมาย

ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินกับการพักผ่อนในวันเดินเรืออย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายอย่างเงียบสงบ หรือสนุกสนานกับกิจกรรมอันหลากหลายบนเรืองานเลี้ยงอาหารค่ำ GALA DINNER และกัปตันเรือสำราญเอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่านด้วยงานเลี้ยงรับรอง
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ENCHANTED PRINCESS

วันที่หกของการเดินทาง 12 เมษายน 2569 (อาทิตย์) : โคตอร์ ประเทศมอนเตเนโกร

เรือจอดเทียบท่าเมืองโคตอร์ เวลา 08.00 – 18.00 น.
โคตอร์(Kotor) เมืองโบราณเลียบชายฝั่งอันเงียบสงบของประเทศ มอนเตเนโกร ที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ ด้วยสถาปัตยกรรมแบบยุคกลาง ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รวมถึงตรอกซอกซอยหินเก่าแก่ โบสถ์โบราณ และกำแพงเมืองที่อดตัวขึ้นไปตามไหล่เขา โคตอร์จึงเป็นหนึ่งในเมืองเก่าแห่งยุโรปที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เมืองนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (UNESCO) ตั้งแต่ปี1979 ในฐานะเมืองที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรม กรีก-โรมัน-ไบแซนไทน์ และเวนิส อย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเดินชมเมืองเก่าที่มีเปี่ยมชีวิตชีวาแวะจิบกาแฟในจัตุรัสกลางเมือง หรือปีนขึ้นไปบนป้อมปราการ เพื่อชมวิวอ่าวโคตอร์จากมุมสูง ทุกก้าวของการเดินทางในโคตอร์ ล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวและกลิ่นอายของอดีตกาล
ช่วงเช้า รายการท่องเที่ยวบนฝั่งEASY KOTOR
นำท่านขึ้นฝั่งสู่เมืองเก่า โคตอร์ เมืองมรดกโลกอันเก่าแก่ที่โอบล้อมด้วยกำแพงหินโบราณ ท่านกลางบรรยากาศเสน่ห์แห่งยุคกลาง นำท่านเดินเที่ยวชมเมืองตามสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของโคตอร์ที่น่าสนใจ  ชมวิหารเซ็นต์ทริฟอน (ST. Tryphon Cathedral) ที่เก่าแก่สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1166 เป็นตัวอย่างอันงดงามของของสถาปัตยกรรมแบบโรมันเนสก์ผสมไบเซนไทน์ ภายในวิหารมีแท่นบูชาประดับทองคำ อันวิจิตร พร้อมด้วยงานศิลปะแบบปูนปั้นเวเนเชียน จากศตวรรษที่ 14
จากนั้น  เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทางทะเล  (Maritime Museum)  ตั้งอยู่ในพระราชวังเก่าการีน่า ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จัดแสดงเรื่องราวและวัตถุโบราณที่สะท้อนถึงอดีตอันรุ่งเรืองของโคตอร์ ในฐานะศูนย์กลางอำนาจทางทะเลที่สำคัญแห่งหนึ่งของแถบทะเลเอเดรียติก
ก่อนพาท่านกลับขึ้นเรือ เชิญท่านเพลิดเพลินกับการเดินชมเมืองเก่าในบรรยากาศย้อนยุค ริมถนนปูหินแคบๆ ที่รายล้อมด้วยบ้านเรือนสไตล์เวนิส ร้านค้าเล็กๆ และกลิ่นอายวัฒนธรรมที่ผสมผสานอย่างลงตัว
**อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ENCHANTED PRINCESS

วันที่เจ็ดของการเดินทาง 13 เมษายน 2569 (จันทร์) : คอร์ฟู ประเทศกรีซ

เรือจอดเทียบท่าเมืองคอร์ฟู เวลา 09.00 – 19.00 น.
คอร์ฟู (Corfu) เมืองเก่าที่งดงามของกรีซ ตั้งอยู่บนหนึ่งในเกาะที่เขียวชอุ่มที่สุดของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้วยภูมิทัศน์ที่ปกคลุมด้วยต้นมะกอกกว่าสามล้านต้น ทำให้คอร์ฟูเป็นสวรรค์ของผู้ที่รักธรรมชาติ ผสานกับภูมิอากาศที่อบอุ่น สบายตลอดปี จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนอย่างแท้จริง
เมืองเก่าคอร์ฟู ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO)ด้วยเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบเวเนเชียน ผสมผสานกับวัณมนธรรมกรีกที่ยังคงมีชีวิตชีวา ซอกซอยแคบๆ ที่เรียงรายด้วยร้านกาแฟ โบสถ์เล็กๆ และบ้านเรือนโบราณ สะท้อนถึงเสน่ห์แบบยุโรปตอนใต้ที่ไม่มีวันจางหาย
รายการท่องเที่ยวบนฝั่งPALEOKASTRITSA, MONASTERY AND CORFU TOWN
เริ่มต้นการเดินทางด้วยการนำท่านเข้าสู่ หมู่บ้านชายฝั่งที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะคอร์ฟู หมู่บ้านปาลิโอคาสทริทซา (Paleokastritsa) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะคอร์ฟู ทอดตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเขียวขจีและน้ำทะเลสีฟ้าใส แวะชม โบสถ์แห่งพระแม่มารี (Theotokos Monastery) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1288 ตั้งอยู่บนเนินเขา มองเห็นวิวทะเลเมดิเตอร์เรเนียนแบบพาโนรามา ภายในโบสถ์ยังเก็บรักษาภาพเขียนไอคอนเก่าแก่ และสิ่งของทางศาสนาอันทรงคุณค่า
จากนั้น เดินทางต่อสู่ใจกลางของเมืองเก่า คอร์ฟู เดินชมเมืองเก่า ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น มรดกโลกโดย UNESCOแม้จะเป็นเมืองเก่าที่ซอยเล็กและวกวน แต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมแบบเวเนเชียนผสมผสานกับกลิ่นอายกรีกแท้ๆ บรรยกาศสงบ สะอาดสะอ้าน และอบอวลด้วยวิถีชีวิตท้องถิ่น  แล้วอิสระให้ท่านเก็บภาพความประทับใจ หรือเลือกซื้อของที่ระลึกตามอัธยาศัย
จนได้เวลาพอสมควร  นำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือ เพื่อขึ้นเรือสำราญ
**อาหารกลางวัน และอาหารค่ำ บนเรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ENCHANTED PRINCESS

วันที่แปดของการเดินทาง 14 เมษายน 2569 (อังคาร) : ท่องทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

วันนี้ เรือสำราญ เอนแชนท์เต็ด ปริ๊นเซส จะล่องไปอย่างสง่างามบนผืนน้ำของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ท่ามกลางบรรยากาศแสนบริสุทธิ์และอากาศสดชื่น
ขอเชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย เพลิดเพลินกับวันสบายๆ บนดาดฟ้า หรือสระว่ายน้ำ ลิ้มลองอาหารนานาชาติรสเลิศในห้องอาหารหลากหลายสไตล์ สนุกสนานกับกิจกรรมและความบันเทิงบนเรือ อาทิ โชว์สุดตระการตา เวิร์กช็อปศิลปะ เกม และกิจกรรมกลางแจ้ง หรือเลือกช้อปปิ้งในร้านค้าปลอดภาษีบนเรือ  ไม่ว่าคุณจะเลือกพักผ่อนเงียบๆ หรือร่วมกิจกรรมสุดคึกคัก นี้คือวันที่สมบูรณ์แบบเพื่อเติมพลังให้กับการเดินทางแสนพิเศษของคุณ
17.30 น.  เชิญรับประทานอาหารค่ำ ที่ห้องอาหารใหญ่บนเรือ
พักค้างคืนบนเรือสำราญ ENCHANTED PRINCESS
**กระเป๋าใบใหญ่**คืนนี้ ขอให้ท่านเก็บสัมภาระกระเป๋าใบใหญ่ และผูกป้ายติดกระเป๋าชุดใหม่ที่ได้รับจากเจ้าหน้าที่เรือ ให้เรียบร้อย แล้ววางไว้หน้าห้องพักของท่านก่อนเวลา 21.00 น. เพื่อที่เจ้าหน้าที่เรือจะได้รวบรวมไปเก็บไว้ที่ห้องสโตร์ และนำลงจากเรือให้ท่านในวันรุ่งขึ้น
**ของใช้จำเป็น**ขอให้ท่านแยกของใช้จำเป็น เช่น เสื้อผ้าที่จะใส่ในวันรุ่งขึ้น, หนังสือเดินทาง, เอกสารสำคัญต่างๆ, เครื่องสำอาง, รวมถึงยาประจำตัว แยกใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพื่อถือลงเรือในวันรุ่งขึ้น
**ตรวจสอบค่าใช้จ่าย**ก่อนลงจากเรือ กรุณาตรวจสอบค่าใช้จ่ายของท่านกับทางเรือ ว่าถูกต้องหรือไม่
**เคลียร์ค่าใช้จ่าย**

  • ท่านที่ชำระด้วยเงินสด (USD) ทางเรือจะให้ท่านเคลียร์บัญชีก่อนเวลา 23.00 น. ท่านสามารถเช็คเคลียร์ค่าใช้จ่ายของท่านได้ที่ Counter Passenger Service ชั้น 5
  • ท่านที่ชำระบัตรเครดิต หากตรวจเช็คแล้วรายการท่านถูกต้อง ท่านสามารถลงเรือได้เลยในวันรุ่งขึ้น

วันที่เก้าของการเดินทาง 15 เมษายน 2569 (พุธ) : ซิวิตาเวคเคีย – กรุงโรม – กรุงเทพฯ

Welcome back to Italy เรือสำราญเอนแชนท์เต็ด เทียบท่าปลายทาง ณ ท่าเรือซีวิตาเวคเคีย ประเทศอิตาลีเวลา 06.00 น.

06.00 น. เรือเทียบท่าที่เมืองซีวิตาเวคเคีย  เชิญท่านรับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
พร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย เพื่อรอฟังประกาศเรียกลงจากเรือ โดยเจ้าหน้าที่เรือ
09.00 น.    เช็ค-เอาท์ ออกจากเรือสำราญ แอนเชนท์เต็ด
รับกระเป๋าสัมภาระของท่าน ด้วยตนเอง ณ ห้องโถงใหญ่ของท่าเรือ
จากนั้น ขอเริ่มต้นรายการด้วยการเดินทางเข้าสู่กรุงโรม ด้วยการพาท่านสู่โคลอสเซียม(Colosseum) แวะบันทึกภาพกับสนามกีฬากลางแจ้งอันยิ่งใหญ่ในยุคโรมัน ซึ่งเคยใช้เป็นเวทีต่อสู้ของเหล่านักสู้กลาดิเอเตอร์  โรมันฟอรัม (Roman Forum) ซากโบราณสถานที่เคยเป็นศูนย์กลางทางการเมือง การปกครอง และเศรษฐกิจ ในสมัยจักรวรรดิโรมัน
จากนั้น พาท่านเดินเที่ยวชมเมืองเก่าของกรุงโรม เช่น Piazza Navona จัตุรัสที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและสวยที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรม ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา ทั้งน้ำพุสวยๆ อย่างน้ำพุสี่แม่น้ำ และตึกอาคารสีสันสดใส วิหารแพนธีออน วิหารโบราณรูปทรงจตุรัสที่เก่าแก่ที่สุดในกรุงโรม ที่มีโคมเปิดตรงกลางเหมือนดวงตาสวรรค์ที่เชื่อมระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ น้ำพุ เทรวี น้ำพุแบบบารอคที่ใหญ่และมีชื่อเสียงที่สุดในกรุงโรม สิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดคือ การโยนเหรียญลงไปในสระน้ำพุที่อยู่ด้านหน้า โดยมีความเชื่อกันว่า หากโยนเหรียญลงไป จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง
12.00 น. เชิญรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่ายนี้ พาท่านสู่บันไดสเปน (Spanish Steps)  บันไดที่กว้างและยาวที่สุดในทวีปยุโรป ที่ได้รับการตกแต่งสวยงามและล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมแกะสลักอันงดงามอันเป็นเอกลักษณ์แบบโรมันของกรุงโรม อีกทั้งที่แห่งนี้ยังเป็นจุดนัดพบยอดนิยม และย่านช้อปปิ้งระดับโลก ที่รายล้อมด้วยร้านค้าแบรนด์เนมหรู เช่น Gucci, Prada และ Louis Vuitton ศูนย์รวมสินค้าชั้นนำของโลก
**เชิญท่านอิสระเลือกซื้อของฝากและสินค้าชั้นนำตามอัธยาศัย
17.00 น.   เชิญรับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ได้เวลาพอสมควร  เดินทางสุ่ท่าอากาศยานเลโอนาร์โด ดาวินชี ฟิอูมิชิโน
22.10 น. เดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรสต์ เที่ยวบินที่ EK 096 / EK 370
แวะเปลี่ยนเครื่องที่ท่าอากาศยานดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์

วันที่สิบของการเดินทาง 16 เมษายน 2569 (พฤหัสบดี) : กรุงเทพฯ

18.20 น. ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความสุข และความประทับใจ.

อัตราค่าบริการ

ราคาแพคเกจทัวร์

ห้องพักด้านใน (Interior)  พัก 2 ท่าน

ท่านละ

178,900.-บาท

ห้องพักมีหน้าต่าง (Oceanview)   พัก 2 ท่าน

ท่านละ

189,900.- บาท

ห้องพักแบบมีระเบียง (Balcony)  พัก 2 ท่าน

ท่านละ

195,900.- บาท

Upgrade เป็นตั๋วเครื่องบินชั้นธุรกิจ (Business Class)

 จ่ายเพิ่ม ท่านละ

สอบถามเพิ่มเติม

Visitors: 199,381