ทัวร์สงกรานต์ สวิส ก.พ.-เม.ย.67 คลาสสิคสวิตเซอร์แลนด์ บิน LX 9วัน 7คืน เที่ยวยโรป กุมภาพันธ์ มีนาคม เมษายน 2567 : EUROPE

รหัสสินค้า : CJN-H002-LX-9D-CLS-GRDSWISS

ราคา

149,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 149,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

โปรแกรม : คลาสสิคสวิตเซอร์แลนด์ 9 วัน 7 คืน

ราคา:เริ่มต้น 149,900.-บาท

โดยสายการบิน : Swiss Air (LX ) 

ซูริค•น้ำตกไรน์•ดาวอส•เซนต์โมริตส์•อันเดอร์มัท•นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอกซ์เพรส•เซอร์แมท•ขึ้นเขาแมทเทอร์ฮอร์น•มองเทรอ•เวเว่ย์•โลซานน์•เจนีวา•เบิร์น•อินเตอร์ลาเคน•ขึ้นเขาจุงเฟรา•ลูเซิร์น

**ราคาไม่รวมค่าวีซ่า แต่รวมทิปทุกอย่างแล้ว

เดินทาง 14 – 22 ก.พ. 67 / 13 – 21 มี.ค. 67,8-16 เม.ย.67 / 9-17 เม.ย. 67/10 – 18 เม.ย.67/ 25 เม.ย. – 3 พ.ค. / 29 เม.ย. – 6 พ.ค 67

หมายเหตุ กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

วันแรก :กรุงเทพมหานคร – ซูริค

09.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินสวิสแอร์ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
12.45 น. ออกเดินทางสู่นครซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (บินตรง) โดยสายการบินสวิสแอร์ เที่ยวบิน LX181 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.45 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง และสายการบินมีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินตรง สู่นครซูริค
19.35 น.  เดินทางถึงสนามบินซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Airport Mess **** หรือเทียบเท่า

วันที่สอง:ซูริค – น้ำตกไรน์ – ดาวอส – เซนต์โมริตส์

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองชาฟฟ์เฮาเซิน (Schaffhausen) (ระยะทาง 50 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที) เมืองซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของแม่น้ำไรน์ เมืองที่มีความสวยงามเต็มไปด้วยกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมเรอเนซองซ์ และอาคารสไตล์คลาสสิก นำท่านเที่ยวชมและสัมผัสความงามของน้ำตกไรน์ น้ำตกที่ได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ชมความแรงของกระแสน้ำที่กระทบกับโขดหินกลางน้ำดังสนั่นทั่วบริเวณ ละอองน้ำที่กระจายปกคลุมไปทั่วเสมือนเมืองมายา อิสระให้ท่านได้สูดอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสต้นไม้ใหญ่เรียงรายทั่วบริเวณและเก็บภาพความงามตามอัธยาศัย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่เมืองดาวอส (Davos) (ระยะทาง 172 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) เมืองนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Economic Forum (WEF) ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีของทั่วโลก ในทุกๆปี เมืองดาวอส (Davos) ตั้งอยู่เขตรอบแม่น้ำ Landwasser ซึ่งอยู่ในเทือกเขาแอลป์ ระหว่าง ภูเขา Plessur และ ภูเขา Albula ที่ความสูง 1,560 เมตร (5,120 ฟุต) ซึ่งเป็นเมืองที่สูงที่สุดในยุโรป และเมืองนี้ถูกจัดให้เป็นเมืองสกีรีสอร์ท ที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ และสูงที่สุดในยุโรป นอกจากนี้เมืองนี้ยังโด่งดัง เรื่องของอากาศที่ดี สภาพแวดล้อมเหมาะแก่การรักษา และฟื้นตัวจากโรคปอด เมืองนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยในธนบัตรที่ระลึกฉบับละ 20 บาท ที่ทาง ธนาคารแห่งประเทศไทยได้จัดพิมพ์ขึ้นโดย ได้เชิญพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ในหลวง ร.9 เมื่อสมัยยังทรงพระเยาว์ ซึ่งทรงฉาย ณ โรงแรมเซโฮฟ (Seehof hotel) ซึ่งอยู่ที่เมืองดาวอส (Davos) มาเป็นภาพประธาน
นำท่านแวะถ่ายรูปกับโรงแรมเซโฮฟ
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่เมืองเซนต์โมริตส์ (St. Moritz) (ระยะทาง 67 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชั่วโมง) เมืองที่อยู่ในหุบเขา Engadine ของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่บนส่วนหนึ่งของเทือกเขาแอลป์ในระดับความสูงที่ 1,775 เมตรเหนือน้ำทะเล ซึ่งทางตะวันออกของเทือกเขามียอดภูเขา Piz Bernina ตระหง่านสูงที่สุด ที่ระดับ 4,049 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เมืองเซนต์โมริตส์ แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่อยู่บนเขา และส่วนที่ราบโดยมีทะเลสาบขั้นอยู่ตรงกลาง เมืองนี้ได้ชื่อว่าเป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงและศูนย์กลางกีฬาสกีที่มีชื่อเสียงระดับโลก ตัวเมืองตั้งอยู่ในรัฐเกราบึนเดิน(Graubünden) เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ ตั้งอยู่บนยอดที่สูงที่สุดของเทือกเขาแอลป์ นำท่านแวะถ่ายรูปกับเซนต์โมริตส์ (Lake St. Moritz) ซึ่งจะพบกับความงดงามของน้ำใสสีเขียวมรกตในช่วงฤดูร้อน แต่ถ้าเป็นหน้าหนาวน้ำในทะเลสาบจะกลายเป็นน้ำแข็ง อิสระให้ท่านได้เดินเล่น หรือเลือกซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นสินค้าแบรนด์เนม หรือ สินค้าพื้นเมือง ในย่านจัตุรัสพลาซาดาสโกวล่า(Plazza da Scoula) หรือจะเดินเล่นชมความงามของเมืองสกีรีสอร์ทแห่งนี้
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Hotel Davos / Hotel Europa St. Mortiz **** หรือเทียบเท่า

วันที่สาม : อันเดอร์มัท - นั่งรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส – เซอร์แมท – บริค

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่เมืองอันเดอร์มัท (Andermatt) (ระยะทาง 224 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง)หมู่บ้านในรัฐอูรี สวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เรียกว่าอัวร์เซอเริน อันเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำร็อยส์ อันเดอร์มัทถือเป็นหมู่บ้านที่เป็นจุดบรรจบกันของช่องเขาที่สำคัญสามช่องเขา ได้แก่ ช่องเขาโอเบอร์อัลพ์ทางทิศตะวันออก, ช่องเขาก็อทฮาร์ททางทิศใต้ และช่องเขาฟัวร์คาทางทิศตะวันออก เมืองนี้จึงเป็นเมืองที่อากาศดีอีกแห่งและมีทัศนียภาพที่สวยงาม ระหว่างการเดินทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์อันสวยงามสองข้างทาง นอกจากนี้อันเดอร์มัทยังเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาขึ้นรถไฟกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส ซึ่งเป็นรถไฟที่นั่งชมวิวทิวทัศน์และบรรยากาศของเมืองเล็กๆตลอดเส้นทางท่องเที่ยวที่สวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านสัมผัสบรรยากาศ นั่งไฟสายโรแมนติกสายกลาเซียร์ เอ็กซ์เพรส (Glacier Express) รถไฟที่ได้ชื่อว่าวิ่งช้าที่สุดในโลก และเป็นเส้นทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้สัมผัส ตลอดการนั่งรถไฟกว่า 3 ชั่วโมงจากเมืองอันเดอร์แมท (Andermatt) สู่ เมืองเซอร์แมท (Zermatt)เมืองเล็กๆ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขาแอลป์ ระหว่างทางท่านจะได้ชมทิวทัศน์ที่สวยที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ที่ถูกโอบล้อมอยู่ในอ้อมกอดของหุบเขาและสายน้ำสีฟ้าครามสดใสของทะเลสาบ หรือจะเป็นทัศนียภาพของภูเขาที่พาดผ่านกลางเทือกเขาแอลป์ ยอดเขาความสูงกว่า 3,000 เมตร ที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านได้พักผ่อนและเก็บภาพธรรมชาติอันสวยงามและขึ้นชื่อของสวิตเซอร์แลนด์ รถไฟสิ้นสุดการเดินทาง ณ เมืองเซอร์แมท (Zermatt)ตั้งอยู่เชิงเขาแมทเทอร์ฮอร์นยอดเขาแหลมสูงชันสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ ครอบคลุมพื้นที่สกีฤดูหนาวและฤดูร้อนที่กว้างใหญ่ เมืองเซอร์แมทนี้ถือว่าเป็นเมืองที่ปราศจากมลภาวะโดยสิ้นเชิงเพราะเป็นเมืองที่ห้ามนำเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเข้าไปในตัวเมืองเด็ดขาด
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Badehotel Salina Maris / Alex Hotel Brig / Alpen Hotel Zermatt หรือเทียบเท่า (คืนที่ 1)

วันที่สี่ :เซอร์แมท – เคเบิ้ลสู่ยอดเขาไคลน์แมทเทอร์ฮอร์น

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่าน นั่งกระเช้าสู่แมทเทอร์ฮอร์นกลาเซียร์พาราไดซ์ (Matterhorn Glacier Paradise) เพื่อชมภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีชื่อเสียงในเทือกเขาแอลป์ (Alps) ตั้งอยู่ระหว่างประเทศสวิตเซอร์แลนด์และอิตาลี ภูเขาที่สูงกว่า 4,478 เมตร รูปทรงพีระมิดตั้งอยู่บนพื้นที่เมืองเซอร์แมท (Zermatt) เป็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุมตลอดทั้งปี มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาชมความงามไม่เว้นแต่ละวัน “ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นนี้มีความสวยงาม มีเสน่ห์ เป็นเครื่องหมายการค้าของลูกอม “ริกัวล่าร์”และ “พาราเมาต์พิกเจอส์” โดยบริษัทภาพยนตร์ พาราเมาต์พิกเจอส์ ของฮอลลีวูด ได้นำมาเป็นตราสัญลักษณ์ของบริษัทอีกด้วย ท่านสามารถชมวิวสวยของภูเขาที่มีรูปทรงงดงามที่สุดในสวิสด้วยความสูงของยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นที่มีความสูงกว่า 4,478 เมตร จึงสามารถมองเห็นยอดเขาสูงยอดอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงได้ชัดเจน อิสระให้ท่านเดินเล่นและถ่ายรูปตามอัธยาศัย จากนั้นได้เวลานำท่านนั่งกระเช้าเดินทางกลับสู่ เมืองเซอร์แมท (การให้บริการของกระเช้า ขึ้นกับสภาวะอากาศ ณ วันนั้นๆ ขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการหากสภาวะอากาศไม่เอื้ออำนวย)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น บน Matterhorn Glacier Paradise
(หากห้องอาหารไม่สามารถรองรับคณะได้ บริษัทจะนำท่านรับประทานอาหารที่เมืองเซอร์แมทแทน)
บ่าย  นำท่านเที่ยวชมความงามของเมืองเซอร์แมทเมืองที่ปราศจากรถยนต์และไร้มลพิษอีกแห่งหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปเก็บภาพความสวยงามของเมืองที่มีฉากหลังคือ ยอดเขาแมเทอร์ฮอร์น หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้า และ ของฝาก หรือ นาฬิกา และ สินค้าแฟชั่นที่มีให้เลือกชม ณ เมืองแห่งนี้
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Badehotel Salina Maris / Alex Hotel Brig / Alpen Hotel Zermatt หรือเทียบเท่า (คืนที่ 2)

วันที่ห้า :มองเทรอ – ปราสาทชิลยอง – เวเวย์  – โลซานน์  – เจนีวา

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองทาซ (Tasch) โดยรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 12 นาที นำท่านเดินทางสู่ เมืองมองเทรอ (Montreux) (ระยะทาง 139 กม. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชม.) เมืองตากอากาศที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา ได้ชื่อว่าริเวียร่าของสวิส ชมความสวยงามของทิวทัศน์ บ้านเรือนริมทะเลสาบ นำท่านเข้าชมปราสาทชิลยอง (Chillon castle) ปราสาทโบราณอายุกว่า 800 ปี สร้างบนเกาะหินริมทะเลสาบเจนีวาตั้งแต่ยุคโรมันเรืองอำนาจโดยราชวงศ์ซาวอย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมการเดินทางของนักเดินทางและขบวนสินค้าที่จะสัญจรผ่านไปมาจากเหนือสู่ใต้หรือจากตะวันตกสู่ตะวันออกของสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากเป็นเส้นทางเดียวที่ไม่ต้องเดินทางข้ามเทือกเขาสูงชัน ปราสาทแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนด่านเก็บภาษีซึ่งเอาเปรียบชาวสวิสมานานนับร้อยปี
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองเวเว่ย์ (Vevey)เมืองเล็กๆระหว่างทางสู่เมืองโลซานน์นำท่านแวะถ่ายรูปกับรูปปั้นชาร์ลี แชปลิน (Chaplin Statue) ผู้เป็นศิลปินตลกแห่งฮอลลีวู้ด ซึ่งในอดีตได้เคยใช้บั้นปลายชีวิตที่เมืองนี้ ได้เวลานำท่านเดินทางสู่ เมืองโลซานน์ (Lausanne)นำท่านชมเมืองโลซานน์  ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งเหนือของทะเลสาบเจนีวา เมืองโลซานน์นับได้ว่าเป็นเมืองที่มีเสน่ห์โดยธรรมชาติมากที่สุดเมืองหนึ่งของสวิตเซอร์แลนด์ มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 4 เมืองโลซานน์ตั้งอยู่บนเนินเขาริมฝั่งทะเลสาบเจนีวา จึงมีความสวยงามโดยธรรมชาติ ทิวทัศน์ที่สวยงาม และอากาศที่ปราศจากมลพิษ จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาพักผ่อนตากอากาศที่นี่ เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่มีความสำคัญสำหรับชาวไทยเนื่องจากเป็นเมืองที่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่านำท่านผ่านชมอพาทเม้นท์หมายเลข 16(Apartment no.16 ) บนถนนทิซโซ (Avenue Auguste Tissot) ซึ่งในอดีตเป็นที่ประทับของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และบุตรธิดาที่สามพระองค์ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระยะเวลาสองปี ระหว่างปี พ.ศ. 2476-2478นำท่านเดินชม สวนสาธารณะที่มีรูปปั้นลิง 3 ตัว ปิดหู ปิดปาก ปิดตา อันเป็นสถานที่ทรงโปรดของยุวกษัตริย์ทั้งสองพระองค์เมื่อทรงพระเยาว์ และถ่ายรูปกับ ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ (Le PavillonThailandais) ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะเดอนองตูเขตเมืองโลซานน์ จัดสร้างโดยรัฐบาลไทย สร้างขึ้นจากไม้สัก และมียอดศาลาสูง 9 เมตร เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงครองศิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสวิตเซอร์แลนด์รอบ 75 ปี โดยมีสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารีเสด็จไปประกอบพิธีเปิดศาลาและส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2552
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่เจนีวา (Geneva)(ระยะทาง 68 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง)เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตัวเมืองนั้นตั้งอยู่บริเวณที่ทะเลสาบเจนีวาไหลเข้ารวมกับแม่น้ำโรน (Rhone river) โดยทะเลสาบเจนีวานั้นตั้งอยู่ทางตะวันตกของประเทศ เป็นแหล่งน้ำจืดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของทวีปยุโรปกลาง รองจากทะเลสาบบาลาต้นในประเทศฮังการี สำหรับ กรุงเจนีวา ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองนานาชาติ (Global City) เนื่องจากเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างชาติสำคัญๆ หลายองค์กร นำท่านชมน้ำพุเจดโดกลางทะเลสาบเลคเลมังค์ น้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าสูงและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงเจนีวา โดยสามารถมองเห็นได้จากทุกจุดในเมือง น้ำพุเจดโดเป็นน้ำพุที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น "สัญลักษณ์ของกรุงเจนีวา" โดยน้ำพุสามารถพุ่งได้สูงสุดประมาณ 140 เมตร (459 ฟุต) น้ำพุถูกติดตั้งในปี 1886 นำท่านถ่ายรูปกับนาฬิกาดอกไม้ที่สวนอังกฤษ (Jardin Anglais)ริมทะเลสาบเจนีวา ซึ่งบ่งบอกถึงความสำคัญของอุตสาหกรรมการผลิตนาฬิกาในประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารจีน
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hilton Geneva Hotel/ Movenpick Hotel & Casino Geneva หรือเทียบเท่า

วันที่หก :เจนีวา – อินเตอร์ลาเคน – ขึ้นเขาจุงเฟรา (มรดกโลก)

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ กรุงเบิร์น (Berne)เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์ เมืองโบราณเก่าแก่สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้ว โดยมีแม่น้ำอาเร่ (Aare) ล้อมรอบตัวเมือง เสมือนเป็นป้อมปราการทางธรรมชาติไว้ 3 ด้าน คือ ทางด้านทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ส่วนทิศตะวันตกชาวเมืองได้สร้างกำแพง และสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ นำท่านชมกรุงเบิร์นซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี ค.ศ. 1863นอกจากนี้เบิร์นยังถูกจัดอันดับอยู่ใน 1 ใน 10 ของเมืองที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดของโลกในปี ค.ศ.2010นำท่านชมบ่อหมีสีน้ำตาล สัตว์ที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงเบิร์น นำท่าน ชมมาร์กาสเซ ย่านเมืองเก่า ปัจจุบันเต็มไปด้วยร้านดอกไม้และบูติค   เป็นย่านที่ปลอดรถยนต์ จึงเหมาะกับการเดินเที่ยวชมอาคารเก่า อายุ 200-300 ปี นำท่านลัดเลาะชม ถนนจุงเคอร์นกาสเซ ถนนที่มีระดับสูงสุดของเมืองนี้ ถนนกรัมกาสเซ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านภาพวาดและร้านขายของเก่าในอาคารโบราณ ชมนาฬิกาไซ้ท์คล็อคเค่นทรัม อายุ 800 ปี ที่มี “โชว์” ให้ดูทุกๆชั่วโมงในการตีบอกเวลาแต่ละครั้ง หอนาฬิกานี้ ในช่วงปี ค.ศ. 1191 - 1256 ใช้เป็นประตูเมืองแห่งแรก แต่พอมีการสร้าง Prison Tower จึงเปลี่ยนไปใช้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน และดัดแปลงไซ้ท์คล็อคเค่นทรัมเป็นหอนาฬิกาพร้อมติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken) หรือ เมืองระหว่างทะเลสาบ (ระยะทาง 62 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลสาบทูน (Tune lake) และทะเลสาบเบรียนซ์ (Brienz lake) อิสระให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติแบบสวิตเซอร์แลนด์ในเมืองเล็กๆ พร้อมช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อนาฬิกายี่ห้อดังหลากหลายที่ผลิตในสวิส ไม่ว่าจะเป็น ROLEX, OMEGA, CHOPARD, TAG HEUER, PATEK PHILIPPE, LONGINES และอื่นๆ นำท่านเดินทางสู่ เมืองกรินเดอวาล (Grindelwald) อันได้ชื่อว่าเป็นเมืองสกีรีสอร์ทที่สวยที่สุดในโลกตั้งอยู่ใน     หุบเขารายล้อมด้วยภูเขาที่สวยงามและโรแมนติกที่สุด นำท่านสู่สถานีรถไฟฟ้าเพื่อขึ้นรถไฟสายจุงเฟราบาห์เนนสู่ ยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งของสวิส ระหว่างทางก่อนถึงจุงเฟรานั้น ท่านสามารถพบเห็นบ้านสไตล์สวิสน่ารักๆ  ที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป มีทั้งบ้านสีน้ำตาลเข้มตัดกับหน้าต่างสีแดงสด, สีครีมอ่อนตัดกับประตูหน้าต่างสีเขียวสด สวยงามแปลกตาและมีเสน่ห์ วิวธรรมชาติที่สลับกันระหว่างสีเขียวของภูเขา ทุ่งหญ้า กับพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาว ระหว่างการเดินทางรถไฟจะจอดให้ท่านได้ชมความงดงามของเทือกเขาแอลป์ จนถึงยอดเขาจุงเฟรา (Jungfraujoch) ซึ่งมีความสูงถึง 13,642 ฟุต เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในทวีปยุโรป (Top of Europe)นำท่านชม กลาเซียร์หรือธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ จากนั้นสนุกสนานกับการเล่นหิมะในลานกว้าง เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในยุโรปสามารถมองเห็นได้กว้างไกลที่สุด ณ จุด 3,571 เมตร นำท่านชมถ้ำน้ำแข็งที่แกะสลักให้สวยงาม อยู่ใต้ธารน้ำแข็ง 30 เมตร สัมผัสกับภาพของธารน้ำแข็ง Alestsch ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ยาวถึง 22 กม. และหนา 700 เมตร สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางจากจุงเฟราสู่ เมืองเวนเก้น และเมืองเลาเท่นบรุนเน่น โดยรถไฟอีกด้านหนึ่งของยอดเขา (แวะเปลี่ยนรถไฟที่สถานีไคลน์ไชเด็ด จุดเปลี่ยนรถไฟ ซึ่งรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จมาเมื่อปี 2440)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารบนเขา
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Du Nord Interlaken/ The Hey Interlaken  หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด : ลูเซิร์น – ซุก – ซูริค

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองลูเซิร์น(ระยะทาง 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)อดีตหัวเมืองโบราณของสวิตเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม นำท่านเดินเล่นและถ่ายรูปกับสะพานไม้ชาเพล หรือสะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว จากนั้นนำท่านชมรูป แกะสลักสิงโตร้องไห้ หรือ อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน เป็นอนุสาวรีย์ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ไม่ไกลจากสะพานไม้มากนัก อนุสาวรีย์รูปสิงโตหิน แกะสลักอยู่บนหน้าผา ที่หัวของสิงโตจะมีโล่ห์ ซึ่งมีกากบาทสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์อยู่ อนุสาวรีย์รูปสิงโตแห่งนี้ออกแบบและแกะสลักโดย ธอร์ วอลเส้น ใช้เวลาแกะสลักอยู่ราว 2 ปี ตั้งแต่ ค.ศ.1819-1821 โดยสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ทหารสวิสฯ ในด้านความกล้าหาญ ซื่อสัตย์ จงรักภักดี ที่เสียชีวิตในประเทศฝรั่งเศส ระหว่างการต่อสู้ป้องกันพระราชวังในครั้งปฏิวัติใหญ่สมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่เมืองซุก (Zug) เมืองเล็กๆริมทะเลสาบที่มีประวัติยาวนานและสวยงามอีกแห่งของสวิตเซอร์แลนด์ นำท่านเที่ยวชมย่านเมืองเก่าซุก (Old town) ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนโบราณได้เป็นอย่างดี นำท่านแวะถ่ายรูปกับหอนาฬิกาดาราศาสตร์ที่สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 13 อิสระให้ท่านได้เก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่าได้แบบเต็มอิ่ม สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมืองซูริค (Zurich)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Novotel Zurich Airport Mess หรือเทียบเท่า

วันที่แปด :ซูริค - กรุงเทพมหานคร

เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปกับ Munsterbrucke ซึ่งเป็นสะพานข้ามถนนและทางเดินทางในเมืองเก่า เป็นสะพานข้ามแม่น้ำลิมมัต และเป็นจุดถ่ายทำภาพยนตร์ Crash Landing on You นอกจากนี้บริเวณนี้ยังมีวิหาร Fraumunster and Gross Munster อีกด้วย จากนั้นนำท่านสู่ Linderhof Strasseซึ่งเป็น ฉากเปิดเรื่อง และเป็นจุดชมวิวเมืองซูริคอันเลื่องชื่อ พร้อมกับวิวแม่น้ำลิมมัต อิสระให้ท่านได้เก็บภาพและเดินเล่นตามอัธยาศัย หรือ จะเลือกช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมต่างๆ
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่Lindt Home of Chocolateซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตลินด์ ส่งออกที่มีชื่อเสียงของสวิตเซอร์แลนด์ ให้ท่านได้เลือกซื้อช็อกโกแลตเป็นของฝากได้ตามอัธยาศัย
15.00 น. นำท่านสู่สนามบิน เพื่อเช็คอิน และทำ Tax Refund
18.00 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพ เที่ยวบินที่ LX180 (ใช้เวลาในการเดินทาง 10.50 ชั่วโมง)

วันที่เก้า :กรุงเทพมหานคร

10.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

หมายเหตุ : กรุ๊ป 13-21 มีนาคม 67 เที่ยวบินขากลับ เป็น LX1110/LH772 (ออกจากซูริค 19.25 น. ถึงไทย 14.55 น.)

*****Travel Around The World by Chic Journey****

อัตราค่าบริการ 

ก.พ. - มี.ค 67

สงกรานต์

ผู้ใหญ่พัก 2 ท่านต่อห้อง หรือ เด็กอายุมากกว่า 11 ปีบริบูรณ์ พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน หรือ พัก 3 ท่านต่อห้อง ราคาท่านละ

149,900

158,900

พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ

31,000

34,000

เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง

145,900

154,900

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์(LX) เริ่มต้นที่ท่านละ
(ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่งconfirm เท่านั้น)

100,000 – 170,000

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืน (BKK-ZRH-BKK)

30,000

37,000

Visitors: 120,560