ทัวร์ยุโรป 20-29 ต.ค.66, 4-13ธ.ค.66 สแกนดิเนเวีย นอร์เวย์ ฟินแลนด์ เดนมาร์ก บิน EKเดินทาง ต.ค. , ธ.ค.2566:EUROPE PREMIUM

ไม่พบสินค้า

โปรแกรมการเดินทาง

วันแรกกรุงเทพ (สนามบินสุวรรณภูมิ)

22.00 น.คณะพร้อมกัน ณ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น4 สนามบินสุวรรณภูมิเคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์(EK) พบเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวก

วันที่สอง  กรุงทพ-ออสโล-วิกเกอร์แลนด์พาร์ค-ศาลาว่าการกรุงออสโล-พระราชวังหลวงออสโล

01.35 น.   ออกเดินทางสู่สนามบินเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์โดยสายการบิน เอมิเรตส์ แอร์ไลน์ (EK)เที่ยวบินที่ EK385 (01:35-04:45) // EK159 (07:30-12:35)ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 16.00 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
12.35 น.  เดินทางถึงสนามบินเมืองออสโล ประเทศนอร์เวย์(ปลายเดือน มี.ค.-ต.ค เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง พ.ย.-ต้นเดือน มี.ค. เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 6 ชั่วโมง)หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
นำท่านสู่เมืองออสโล (Oslo)ประเทศนอร์เวย์ (Norway)หนึ่งในเมืองสำคัญทางวัฒนธรรมในยุโรป ตั้งอยู่ขอบด้านเหนือของอ่าวฟยอร์ด (fjord) ที่ชื่อออสโลฟยอร์ด ตัวเมืองประกอบด้วยเกาะ 40 เกาะ เกาะใหญ่ที่สุดชื่อ Malmøya นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบ 343 แห่งซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดสำคัญ บางส่วนของภูมิทัศน์ธรรมชาติที่งดงามที่สุดในนอร์เวย์ล้อมรอบเมือง
นำท่านเข้าชมวิกเกอร์แลนด์พาร์ค หรือ สวนประติมากรรมวิกเกอร์แลนด์ (Vigeland Sculpture Park)ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะฟรอกเนอร์ ความพิเศษของสวนแห่งนี้อยู่ที่ผลงานศิลปะประติมากรรม การแกะสลักรูปเหมือนจากหินแกรนิต และการหล่อรูปคนด้วยสำริด ในเรื่องราวเกี่ยวกับวัฏจักรชีวิตมนุษย์ เป็นผลงานของกุสตาฟ วิกเกอร์แลนด์ ปฏิมากรชาวนอร์เวย์ชื่อดัง อีกทั้งสวนนี้ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นสวนประติมากรรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก จุดที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือ เสาโมโนลิท (Monolith) ที่มีความสูงประมาณ 17 เมตร รอบเสาแกะสลักเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับวัฎจักรชีวิตมนุษย์ เป็นรูปปั้นคนจำนวนมากมายปีนป่ายกันอยู่บนเสานี้ เพื่อไปให้ถึงจุดสูงสุดของชีวิต โดยใช้เวลาในการสร้างรวม 22 ปีเลยทีเดียว ส่วนบริเวณรอบๆ จะมีกลุ่มรูปปั้นที่ทำจากหินแกรนิต แสดงอารมณ์ต่างๆ ในหลากหลายท่าทาง แสดงความสัมพันธ์ของมนุษย์ในแต่ละวัย ให้ท่านได้อิสระเดินเล่นถ่ายรูป
จากนั้นนำท่านชมเมืองออสโลถ่ายรูปหน้าหน้าศาลาว่าการกรุงออสโล (Oslo City Hall)ตัวอาคารด้านนอกเป็นอิฐสีน้ำตาลแดงอยู่ริมน้ำ เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ด้านในโถงกว้างขนาดใหญ่ แบ่งเป็นห้องต่างๆ เช่น สถานที่ทำงานของส่วนราชการ สถานที่ประชุมของสภาเมือง และสถานที่จัดเก็บชิ้นผลงานศิลปะเก่าแก่และโบราณวัตถุต่างๆ ที่สำคัญศาลาว่าการกรุงออสโลใช้เป็นสถานที่ประกาศและพิธีมอบรางวัลโนเบลสาขาต่างๆ ของโลก
จากนั้นนำท่านชมด้านนอกพระราชวังหลวงออสโล (Royal Palace Oslo)มีอายุเกือบ 200 ปี เป็นที่ประทับของพระราชา พระราชินี และราชวงศ์ ตั้งอยู่ที่ปลายสุดของถนนคาร์ล โยฮันส์ เกต (Karl Johans Gate) เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1824 เสร็จสมบูรณ์วันที่ 26 เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1849 ระยะเวลา 25 ปี ถือเป็นสมบัติของรัฐและเป็นที่ทำงานของพระมหากษัตริย์ รวมถึงเป็นที่ประทับของราชวงศ์ต่างๆ จะเปิดให้เข้าไปเดินชมบรรยากาศภายในเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น
เย็น    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก Hotel Scandic Oslo Airportหรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่สาม  ออสโล-โลโฟเทน-หมู่บ้านชาวประมงเฮนนิงสแวร์

เช้ารับประทานอาหารเช้า (แบบกล่อง)
05.00 น.ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบินออสโล
08.20 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินฮาร์สตาด นาร์วิค โดย สายการบิน นอร์วีเจียนแอร์ไลน์ (DY) เที่ยวบินที่DY360 (08.20-10.00)ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที
10.00 น.นำท่านเดินทางสู่ โลโฟเทน (Lofoten)หมู่เกาะทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ต่างๆ โดยมีเกาะใหญ่หลักๆ อยู่ด้วยกัน 5 เกาะ ได้แก่ Austvågøy, Gimsøya, Vestvågøy, Flakstadøya และ Moskenesøya แต่ละเกาะก็จะเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเพื่อความสะดวกในการสันจร บริเวณคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย รวมถึงมีประวัติเป็นดินแดนของชาวไวกิ้งนับพันปี ผู้คนส่วนใหญ่จึงประกอบอาชีพชาวประมง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านสู่หมู่บ้านที่ได้ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดบนหมู่เกาะโลโฟเทน อันเป็นจุดสิ้นสุดของถนนสายหลัก E10 ซึ่งถือว่าเป็นหมู่บ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากนักท่องเที่ยว นำชมหมู่บ้านชาวประมงเฮนนิงสแวร์ (Henningsvær) ซึ่งมีจุดขายสำคัญอย่างหนึ่ง คือ สนามฟุตบอลที่มีภูมิทัศน์อันน่าตื่นตาตื่นใจ จนได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลก นอกจากรอบสนามฟุตบอล Henningsvaer Stadium จะเต็มไปด้วยเรือนตากปลาคอด ที่เป็นสินค้าส่งออกชื่อดังของหมู่บ้านประมงที่นี่แล้ว ยังมีเนินภูเขาเล็กๆ (HenningsværPort Viewpoint) สามารถเดินขึ้นถ่ายรูปชมความงามของสถานที่ดังกล่าวได้ ให้ท่านได้เดินเล่นชมหมู่บ้าน และเก็บภาพความประทับใจตามอัธยาศัย
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
 ที่พัก Hotel Lofoten Links Lodgeหรือระดับเทียบเท่า
*** ห้องพักมีโอกาสพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น ***

วันที่สี่  รีนน์-Hamnoy Bridge-หมู่บ้านซาคริซอย-หมู่บ้านนัสฟยอร์ด-นาร์วิค

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหาร
นำท่านเดินทางสู่ เมืองรีนน์ (Reine)ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ ระหว่างสองข้างทางท่านจะได้เพลิดเพลินกับธรรมชาติอันสวยงามแปลกตา ไปตามถนนสาย E10 ซึ่งเป็นถนนเส้นหลักสายเดียวของหมู่เกาะลอฟโฟเทน นำท่านเดินทางผ่านถนนเส้นเล็กๆเชื่อต่อระหว่างเกาะเล็กเกาะน้อย ข้ามสะพานต่างๆ จนกระทั่งเดินทางถึง เมือง Reine ให้ท่านได้เดินเล่นชมเมือง และถ่ายรูปเก็บภาพความประทับใจ จากนั้นนำท่านสู่ Hamnoy Bridge Photospot Viewpointพิกัดถ่ายรูปมุมเอกลักษณ์ หมู่บ้านชาวประมงขนาดเล็กที่โดดเด่นจากบ้านกระท่อมไม้สีแดงเลียบชายฝั่งซึ่งมีฉากหลังเป็นภูเขาสูง
นำท่านสู่จุดชมหมู่บ้านซาคริซอย (Sakrisoy)หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ของหมู่เกาะโลโฟเทน(Lofoten) ประเทศนอร์เวย์ มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ด้วยบ้านไม้หลังเล็กๆเรียงรายริมน้ำ กับภูเขาหิมะขาวโพลนในช่วงหน้าหนาว มีความพิเศษกว่าหมู่บ้านอื่นๆในโลโฟเทน คือตัวบ้านมีสีเหลืองสด ต่างจากหมู่บ้านอื่นๆที่มีเป็นสีแดง
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านเดินทางเมืองนัสฟยอร์ด (Nusfjord)เมืองเล็กๆที่มีทัศนียภาพอันน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งในหมู่เกาะโลโฟเทน ที่มีวิวภูเขาสลับกับแม่น้ำ และภาพสะท้อนวิวเทือกเขาบนผืนน้ำ ให้ท่านเดินชมหมู่บ้านนัสฟยอร์ด (Nusfjord Fisherman Village)ที่ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เก่าแก่ที่สุดและยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดีเยี่ยมอีกแห่งของนอร์เวย์ หมู่บ้านแห่งนี้มีกระท่อมชาวประมงทั้งสีเหลืองและแดง อีกทั้งยังอนุรักษ์บ้านเมืองเก่าไว้เป็นอย่างดี และได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก (UNESCO)
นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองนาร์วิค(Narvik)เมืองทางตอนเหนือของประเทศนอร์เวย์ที่แวดล้อมด้วยภูเขา และ ทะเลอันกว้างใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของพื้นที่การเล่นสกีที่มีความเป็นเอกลักษณ์ โดยสามารถดึงดูด นักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากในช่วงฤดูหนาว อีกทั้งยังเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงในการดูแสงเหนือ พร้อมกับ แนวชายฝั่งฟยอร์ดและวิวภูเขาที่รายล้อมเมืองอย่างสวยงาม
เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม
ที่พัก Hotel Quality Grand Royalหรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่ห้า นาร์วิค-ทรอมโซ-มหาวิหารอาร์กติก-เรือสำราญ Havila Voyage

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
นำท่านสู่เมืองทรอมโซ(Tromso)เมืองในฝันของคนล่าแสงเหนือในประเทศนอร์เวย์(Norway)ทางตอนเหนือของคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในเขตอาร์กติกเซอร์เคิล นอร์เวย์ (Norway) ดินแดนแห่งการท่องเที่ยวในกลุ่มนอร์ดิก ซึ่งตั้งอยู่ในยุโรปเหนือ เมืองที่นักท่องเที่ยวนิยมมาชมความงดงามของปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญทั้ง แสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืนในดินแดนแถบนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมของบรรดานักท่องเที่ยวอย่างมาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม มหาวิหารอาร์กติก(Arctic Cathedral)สถานที่อันโดดเด่น ที่นักท่องเที่ยวต้องมากันให้ได้ เพราะเป็นวิหารที่ถูกสร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ มีโครงสร้างและรูปทรงแปลกตา แรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์ภาคเหนือของนอร์เวย์ ที่นี่มีชื่อเสียงมากในทรอมโซ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1965 และยังเป็นสถานที่ที่ชมความงดงามของแสงเหนือ และพระอาทิตย์เที่ยงคืน
17.00 น. นำท่าน Check In เรือสำราญ Havila Voyage
เส้นทางทรอมโซ-ฮอนนิ่งสแวค (18.15-10.55 น.)
เรือสำราญลำใหม่สุดหรูหรา ที่มีชื่อเสียงและความชำนาญในแถบชายฝั่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ เรือ ประหยัดพลังงาน เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและปล่อยมลพิษสู่อากาศน้อย มาตรฐารการบริการระดับ 5 ดาว ภายในห้องพักตกแต่งสไตล์นอร์ดิก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก (Seaview)ท่านสามารถนั่งชมวิวตามจุดพักผ่อนบริเวณต่างๆภายในเรือ หรือจากภายในห้อง ภายในเรือมีหลากหลายมุมและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย อาทิ คาเฟ่ ห้องฟิตเนส บาร์และเลานจ์ อีกทั้งยังมี FREE WIFI ให้ท่านได้ใช้งานอย่างไม่จำกัดตลอดการเดินทาง ยามค่ำคืน ในวันที่อากาศเปิด ท่านยังสามารถเฝ้าชมแสงเหนือได้บนเรือ
เย็น    รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารบนเรือ
*** บนเรือมีโอกาสพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น ***
https://www.havilavoyages.com/

วันที่หก  ฮอนนิ่งสแวค-นอร์ทเคป-เรือสำราญ Havila Voyage

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ
10.55 น. เดินทางถึงเมืองฮอนนิ่งสแวค (Honningsvag)ดินแดนที่อยู่เหนือสุดของโลกทางภาคเหนือของประเทศนอร์เวย์ เป็นแคว้นกว้างใหญ่ซึ่งเป็นบริเวณแห่งทะเลน้ำแข็ง (Arctic Circle) เป็นดินแดนแห่งพระอาทิตย์เที่ยงคืน และสถานที่ชมแสงเหนืออันขึ้นชื่อ
จากนั้นนำท่านเดินทางขึ้นเหนือสู่ นอร์ทเคป (North Cape)นำท่านชมภาพถ่ายเกี่ยวกับการประพาสของรัชกาลที่ 5 เมื่อปี พ.ศ. 2450 ซึ่งพระองค์ได้จารึกพระปรมาภิไธยบนก้อนหินขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันได้จัดแสดงไว้ให้ชาวไทยได้มีความภาคภูมิใจในพระปรีชาสามารถภายในพิพิธภัณฑ์สยาม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทย นำท่านรับฟังและชมเรื่องราวของปรากฏการณ์พระอาทิตย์เที่ยงคืนในห้องAuditorium ก่อนที่จะไปชมปรากฏการณ์จริงด้านนอกเฉลิมฉลองการพิชิตแหลมนอร์ทเคปด้วยแชมเปญ และไข่ปลาคาเวียร์ พร้อมรับประกาศนียบัตรเป็นที่ระลึกสำหรับผู้มาเยือน แหลมนอร์ทเคป ยังถือว่าเป็นจุดที่มีหน้าผาที่สูงสุดของทวีปยุโรป โดยหน้าผามีความสูงอยู่ที่ 307 เมตร จากทะเลอาร์กติก ทะเลแห่งขั้วโลกเหนือ จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองฮอนนิ่งสแวค
13.45 น.นำท่าน Check In เรือสำราญ Havila Voyage
เส้นทางฮอนนิ่งสแวค-คิร์เคนเนส (14.30-09.00 น.)
กลางวันรับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือ
เรือสำราญลำใหม่สุดหรูหรา ที่มีชื่อเสียงและความชำนาญในแถบชายฝั่งฟยอร์ดของประเทศนอร์เวย์ เรือ ประหยัดพลังงาน เสียงเครื่องยนต์ที่เงียบและปล่อยมลพิษสู่อากาศน้อย มาตรฐารการบริการระดับ 5 ดาว ภายในห้องพักตกแต่งสไตล์นอร์ดิก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก (Seaview)ท่านสามารถนั่งชมวิวตามจุดพักผ่อนบริเวณต่างๆภายในเรือ หรือจากภายในห้อง ภายในเรือมีหลากหลายมุมและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย อาทิ คาเฟ่ ห้องฟิตเนส บาร์และเลานจ์ อีกทั้งยังมี FREE WIFI ให้ท่านได้ใช้งานอย่างไม่จำกัดตลอดการเดินทาง ยามค่ำคืน ในวันที่อากาศเปิด ท่านยังสามารถเฝ้าชมแสงเหนือได้บนเรือ
เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารบนเรือ
*** บนเรือมีโอกาสพบเห็นปรากฏการณ์แสงเหนือ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติไม่สามารถกำหนดหรือทราบล่วงหน้าได้โอกาสที่จะได้เห็นขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในขณะนั้น ***
https://www.havilavoyages.com/

วันที่เจ็ด  คิร์เคนเนส-การจับปูยักษ์ (King Crab Safari)-โรงแรมหิมะ

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
09.00 น. เดินทางถึงเมืองคิร์เคนเนส (Kirkenes)
นำท่านสู่เมืองคิร์เคนเนส (Kirkenes)ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของนอร์เวย์ในเขตอาร์คติดเซอร์เคิล ซึ่งมีเขตติดกับประเทศรัสเซีย และยังเป็นเมืองหลวงของภูมิภาคบาเรนส์ เป็นอีกเมืองหนึ่งของนอร์เวย์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมมากในช่วงฤดูหนาว
นำท่านสัมผัสประสบการณ์กับ การจับปูยักษ์ (King Crab Safari) ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น โดยมีเจ้าหน้าที่ขับรถสโนว์โมบิลลากเลื่อน นำท่านสู่ทะเลสาบน้ำแข็งพร้อมสาธิตการจับปูยักษ์ ให้ท่านได้สนุกสนานกับการตกปูยักษ์ ให้ท่านได้ถ่ายรูปกับปูยักษ์และปรุงอาหารมื้อพิเศษให้ท่านได้ลิ้มรส เนื้อปูยักษ์ แบบสดๆ และรับประทานกันอย่างเต็มอิ่ม(มีบริการเครื่องแต่งกายเพื่อป้องกันความหนาวเย็น)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำท่านชม โรงแรมหิมะ (Snow Hotel) ซึ่งทำมาจากน้ำแข็งและหิมะ เปิดทำการในปี 2006 ซึ่งจะเปิดให้บริการเฉพาะช่วงฤดูหนาวในเดือนธันวาคม – เดือนเมษายนเท่านั้น ภายในโรงแรมและห้องพักถูกตกแต่งด้วยปะติมากรรมน้ำแข็งและหิมะเป็นรูปแบบต่างๆ บาร์ เตียงโต๊ะและเก้าอี้เป็นน้ำแข็ง โดยจะมีการรักษาอุณหภูมิไว้ที่ -4 องศาเซลเซียส ซึ่งภายนอกอาจติดลบได้ถึง -30 องศาเซลเซียส อิสระให้ท่านชมโรงแรมหิมะตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านเข้าที่พักโรงแรม
เย็นรับประทานอาหารเย็น ณ โรงแรม
ที่พัก Hotel Thon Kirkenesหรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่แปด คิร์เคนเนส-ออสโล-โคเปนเฮเกน-เงือกน้อยลิดเดิ้ลเมอร์เมด-ศาลาว่าการ-น้ำพุเกฟิอ้อน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม
09.00 น.ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ สนามบิน Kirkenes Airport
11.30 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินออสโล โดยสายการบิน Scandinavian Airlines เที่ยวบินที่SK4473 (11.30-13.35)ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2.05 ชม.
13.35 น.เดินทางถึง สนามบินออสโล เปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางต่อสู่สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน
***อิสระรับประทานอาหารกลางวัน ณ สนามบิน
15.10 น.ออกเดินทางสู่ สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก
โดยสายการบิน Scandinavian Airlinesเที่ยวบินที่SK1467 (11.00-12.10) ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 1.10 ชม.
16.20 น.เดินทางถึง สนามบินกรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์กหลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเข้าสู่ ประเทศที่มีความสุขที่สุดอันดับ 2 ของโลก และถูกเรียกขานเมืองนี้ว่าเป็นเมืองในเทพนิยาย โคเปนเฮเกน เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเดนมาร์ก ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกติดชายฝั่งทะเล เมืองที่เก่าแก่ในทวีปยุโรปและยังถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวียน นำท่านชมกรุงโคเปนเฮเกน(Copenhagen)เมืองเก่าแก่เมืองหนึ่งของยุโรปที่ก่อตั้งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย ซึ่งเต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และน่าตื่นตาตื่นใจ นำท่านถ่ายภาพกับเงือกน้อยลิตเติ้ล เมอร์เมด (The Little Mermaid)ตำนานแห่งความรักของเงือกน้อยสัญลักษณ์ที่สำคัญของกรุงโคเปนเฮเกน จากงานการประพันธ์อันลือชื่อของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) แอเรียล คือ ตัวละครสำคัญที่ทำให้กรุงโคเปนเฮเกนได้รับฉายาอีกอย่างหนึ่ง นอกจากสวรรค์แห่งเมืองท่า ว่าเป็นเมืองแห่งความรักในเทพนิยายอีกด้วย นอกจากจะนั่งอวดโฉมอยู่ริมชายหาดแล้ว แอเรียล ยังปรากฏตัวอยู่ในโปสการ์ด และของที่ระลึก ไม่ว่าจะเป็น แม็กเน็ต แก้วน้ำ พวงกุญแจ
นำชมด้านหน้าศาลาว่าการเมืองโคเปนเฮเกน (Copenhagen City Hall)อาคารเก่าแก่อายุกว่า 100 ปีใจกลางเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กที่ยังคงความงดงามและมีหอคอยความสูงถึง 105.6 เมตร ตั้งตระหง่านขึ้นไปบนท้องฟ้าแห่งนี้ เริ่มก่อสร้างขึ้นระหว่างปีค.ศ. 1892-1905 โดยได้รับอิทธิพลมาจากศาลาว่าการเมืองซีนา (Siena City Hall) ประเทศอิตาลี (Italy) นอกจากจะเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางการเมืองการปกครองของโคเปนเฮเกนแล้ว ศาลาว่าการแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานแต่งงานที่โรแมนติกที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ และเป็นสถานที่ถ่ายทำละครทีวียอดนิยมของประเทศเดนมาร์ก
นำท่านถ่ายภาพกับน้ำพุเกฟิอ้อน(Gefion Fountain)อนุสาวรีย์ที่เป็นที่มาแห่งตำนานในการสร้างประเทศ ลักษณะเป็นน้ำพุรูปปั้นผู้หญิงกำลังถือแส้ไล่วัว 4 ตัว ที่มีตำนานเล่าขานกันว่า เทพเจ้าผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ดลบันดาลให้พระนางกอบกู้ชาติ พระราชินีเกฟิอ้อน จึงแปลงร่างลูกชาย 4 คนให้เป็นโคเพื่อไถพื้นดินขึ้นมาจากใต้น้ำ จนเกิดเป็นประเทศเดนมาร์ก
เย็น   รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
พักที่Hotel AC Bella Sky Copenhagen หรือระดับเทียบเท่าระดับ 4 ดาว

วันที่เก้า  โคเปนเฮเกน-พระราชวังอะมาเลียนบอร์ก-พระราชวังคริสเตียนบอร์ก-โบสถ์เฟรเดอร์ริก-นูฮาวน์

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ภัตตาคารบนเรือ
นำท่านถ่ายรูปบริเวณลานกว้างหน้าพระราชวังอะมาเลียนบอร์ก (Amalienborg Palace)ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของบรรดาเหล่าพระราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก พระราชวังแห่งนี้ก่อสร้างตามแบบสถาปัตยกรรมร็อคโคโค ด้านหน้าของพระราชวังจะมีการเปลี่ยนทหารยามหน้าวังทุกวัน เหมือนกับพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมในอังกฤษ อาคารของพระราชวังตั้งต่อกันคล้ายเป็นวงกลม บริเวณตรงกลางเป็นลานกว้างซึ่งรถสามารถแล่นผ่านไปมาได้อย่างสบาย เนื่องจากพระราชวังแห่งนี้ไม่มีรั้วกั้น จัตุรัสด้านหน้าของพระราชวังท่านจะพบกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์เดนมาร์กทรงม้า ดูสง่างามยิ่งนัก
นำท่านถ่ายรูปด้านหน้าพระราชวังคริสเตียนบอร์ก (Christiansborg Palace)หนึ่งในพระราชวังที่สวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ทั้งยังเป็นที่ตั้งของสถานที่ราชการที่สำคัญๆ ของประเทศหลายแห่ง อาทิ รัฐสภาแห่งประเทศเดนมาร์ก (The Danish Parliament) ศาลฎีกาและห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ หลายๆ ส่วนของพระราชวังยังใช้ในการจัดงานราชพิธีของราชวงศ์เดนมาร์ก ซึ่งหนึ่งในห้องที่ยิ่งใหญ่และอลังการที่สุดในพระราชวังคริสเตียนบอร์กคือ เดอะเกรตฮอลล์ (The Great Hall) เป็นสถานที่จัดงานกาล่าดินเนอร์ที่งดงามเมื่อมีการเยี่ยมชมรัฐ ด้วยห้องโถงที่มีความยาว 40 เมตร กว้าง 14 เมตร และสูง 10 เมตร สามารถรองรับแขกสำหรับงานเลี้ยงได้มากถึง 400 คน เป็นห้องที่จะบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์กว่า 1,000 ปีของประเทศเดนมาร์กได้เป็นอย่างดี
นำชมโบสถ์เฟรเดอร์ริก (Frederik’s Church)เป็นที่รู้จักกันดีในชื่อเรียกว่าโบสถ์หินอ่อน (Marble Church) หรือ Marmorkirken ในภาษาเดนมาร์ก เป็นโบสถ์ทรงโดมสีเขียวงดงามความสูงราว 46 เมตรสร้างด้วยสถาปัตยกรรมรูปแบบร็อคโคโค โดยมีวัสดุหลักในการก่อสร้างคือหินอ่อน โบสถ์แห่งนี้ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 145 ปีจึงเสร็จสมบูรณ์ ความโดดเด่นของโบสถ์หินอ่อนอยู่ที่เพดานโดมขนาดมหึมาซึ่งมีความงดงามมาก กล่าวกันว่าโบสถ์เฟรเดอร์ริกหรือโบสถ์หินอ่อนนี้ได้แรงบันดาลใจในการสร้างมาจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ (St Peter’s Basilica) ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี โบสถ์อันงดงามแห่งนี้ถือเป็นโบสถ์ที่มีความสำคัญที่สุดในโคเปนเฮเกน และยังเป็นโบสถ์รูปทรงโดมที่ใหญ่ที่สุดในสแกนดิเนเวี
นำท่านเดินทางสู่นูฮาวน์ (Nyhavn)แหล่งท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมือง เพราะมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึกที่สวยงามทันสมัยประกอบกับมีเรือใบ และเรือสินค้าโบราณที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมอย่างดีถูกนำมาจอดทอดสมออยู่ริมสองข้างฝั่งแม่น้ำ บริเวณแห่งนี้ยังเคยเป็นที่พำนักของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์ซัน ราชานักเขียนแห่งโลกนิทานผู้เลื่องชื่อที่มีผลงานมากมาย อาทิ เงือกน้อย ลูกเป็ดขึ้เหล่ และอื่นๆ ซึ่งมีคนว่ากันว่าเขาเขียน นิทานเรื่องแรกในปี ค.ศ.1835 ที่บ้านของเขาในนูฮาวน์ ยิ่งทำให้ย่านนูฮาวน์เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องไปเยี่ยมชมให้ได้
ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่สนามบินกรุงโคเปนเฮเกนเพื่อตรวจเช็คเอกสารการเดินทางและสัมภาระเตรียมตัวเดินทางกลับ
15.35 น.ออกเดินทางจากเมืองโคเปนเฮเกน กลับกรุงเทพฯ โดยสายการบินเอมิเรตส์แอร์ไลน์ (EK) เที่ยวบินที่ EK152 (15.35-23.55) / EK376 (03.45(+1)-13.25)ใช้ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 15.55 ชั่วโมง (รวมเวลาแวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินเมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

วันที่สิบ กรุงเทพ(สนามบินสุวรรณภูมิ)

13.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ

*****Travel Around The World by Chic Journey*****
หมายเหตุ โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร การล่าช้าของสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น  เพื่อความเหมาะ และความปลอดภัยในการเดินทาง

อัตราค่าบริการและวันเดินทาง

รายละเอียดเที่ยวบิน

กำหนดการเดินทาง

ราคา

ผู้ใหญ่

เด็ก

พักเดี่ยว
เพิ่ม

BKK-OSL EK385 01:35-04:45 // EK159 07:30-12:35
CPH-BKK EK152 15:35-23:55// EK376 03:45-13:25(+1)

12-21 ตุลาคม 66

179,999.-

179,999.-

45,000.-

BKK-OSL EK385 01:35-04:45 // EK159 07:30-12:35
CPH-BKK EK152 15:35-23:55// EK376 03:35-12:45(+1)

20-29 ตุลาคม 66

179,999.-

179,999.-

45,000.-

BKK-OSL EK385 01:05-05:00 // EK159 07:45-12:00
CPH-BKK EK152 14:20-23:45// EK376 03:35-12:45(+1)

17-26 พฤศจิกายน 66

179,999.-

179,999.-

45,000.-

BKK-OSL EK385 01:05-05:00 // EK159 07:45-12:00

CPH-BKK EK152 14:20-23:45// EK376 03:35-12:45(+1)

04-13 ธันวาคม 66

179,999.-

179,999.-

45,000.-

BKK-OSL EK385 01:05-05:00 // EK159 07:45-12:00
CPH-BKK EK152 14:20-23:45// EK376 03:35-12:45(+1)

23 ธันวาคม 66 - 1 มกราคม 67

189,999.-

189,999.-

50,000.-

BKK-OSL EK385 01:05-05:00 // EK159 07:45-12:00
CPH-BKK EK152 14:20-23:45// EK376 03:35-12:45(+1)

27 ธันวาคม 66 - 5 มกราคม 67

189,999.-

189,999.-

50,000.-

Visitors: 116,186