ทัวร์กรุ๊ป ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เรือสำราญ SYMPHONY OF THE SEAS บิน EK เดินทาง 7-16 ต.ค.66 :Mediterranean Royal Caribbean 2566

รหัสสินค้า : CTX_HTC-EK-10D-RCB-SYMPHONY

ราคา

129,900.00 ฿

จำนวนที่จะซื้อ
ราคารวม 129,900.00 ฿

สินค้าไม่เพียงพอ

สินค้าหมด

ทัวร์กรุ๊ป : ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน Symphony of The Seas

สเปน ฝรั่งเศส อิตาลี 10 วัน 7คืน

ราคา : เริ่มต้น 129,900.-บาท

คลิกดูโปรแกรม

สายการบิน : เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) 

เส้นทาง : บาร์เซโลนา ปัลมา เดอ มายอร์กา โพรวองซ์ ลา สเปเซียชิงเกว่ แตร์เรริโอ แมกจิโอเรโรม ปอมเปอี เนเปิ้ล บาร์เซโลนา

รวม : ที่พักบนเรือ 7 คืน ,ตั๋วเครื่องบินระหว่างกรุงเทพ-บาร์เซโลน่า ,รถรับส่งระหว่างสนามบิน-ท่าเรือ ,ทัวร์บนฝั่งตามที่ระบุ ,ภาษีท่าเรือ ,ค่าทิปพนักงานบนเรือ ,อาหารบนเรือทุกมื้อ ,กิจกรรมตามที่ระบุในตั๋วเรือ , ค่าทิปไกด์ ,**มีหัวหน้าทัวร์ร่วมเดินทาง

ไม่รวม : ค่าวีซ่าเชงเก้น ประมาณ 4,000 บาท,ค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายอื่นๆที่ไม่ได้ระบุในรายการ

>>ขอสงวนสิทธิ์หากเรือมีการปรับเปลี่ยนท่าเทียบเรือ ซึ่งทางบริษัทจะทำการแจ้งให้ลูกค้าทราบล่วงหน้าต่อไป ,โปรแกรมการท่องเที่ยว Shore Excursion ของเรือ อาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับการเข้าออกของตารางเดินทางเรือ

**หมายเหตุ:ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น ,กรุณาเช็คที่นั่งว่างก่อนทำการจอง

เดินทาง : 7-16 ตุลาคม 2566

#เรือสำราญ #ROYAL CARIBBEAN #SYMPHONY OF THE SEA
#รอยัลแคริบเบี้ยน #ซิมโฟนี่ ออฟ เดอะ ซีส์ : เรือมีขนาด 230,000 ตัน มีทั้งหมด 16 ชั้น
ประเภทห้องพัก (เตียงสามารถแยกเป็น เตียงคู่ได้)

วันแรก  กรุงเทพมหานคร

18.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน ผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอินสายการบิน เอมิเรสต์ แอร์ไลน์ส (EK) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
21.00 น.  ออกเดินทางสู่ดูไบ โดยเที่ยวบิน EK373 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ ระหว่างเที่ยวบิน

วันที่สอง   ดูไบ – บาร์เซโลนา – เข้าชมมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์- เข้าชมคาซามิลา - เช็คอินลงเรือ

00.50 น.  เดินทางถึงดูไบ แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน EK255อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินซึ่งมีสินค้าให้เลือกซื้อมากมาย
03.25 น.  ออกเดินทางจากสนามบินดูไบ (DXB) สู่สนามบินบาร์เซโลนา (BCN)บริการอาหารเช้าบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7.10 ชม.)
08.35 น.  เดินทางถึงสนามบินบาร์เซโลนา ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
นำท่าน เข้าชมมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์” (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา  เป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี ได้เวลานำท่าน เข้าชมคาซามิลา (Casa Mila) สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 – 1912 เป็นอพาร์ทเม้นท์หลังสุดท้ายที่ออกแบบโดยเกาดี (Gaudi) เจ้าของตึกคือ Pere Milà และ Roser Segimón ชาวอเมริกันที่มีฐานะจากการทำสวนกาแฟในประเทศกัวเตมาลา โดยได้จ้างเกาดี (Gaudi) ให้มาออกแบบอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวให้โดยเฉพาะ และมีแผนในการเปิดให้คนอื่นเช่าเพื่ออาศัย แม้กระทั่งเจ้าชายจากประเทศอียิปต์ก็เคยมาเช่าเพื่อพักอาศัยที่นี่มาแล้ว
กลางวัน   รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
14.30 น.  นำท่านเช็คอินขึ้นเรือสำราญ Royal Caribbean “Symphony of the SEAs”
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ ( คืนแรก )

วันที่สาม  ปัลมา เดอ มายอร์ก้า – พระราชวังหลวง – ปราสาทเบลเวอร์ – มหาวิหารปัลมา

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.   เรือจอดเทียบท่าที่ ท่าเรือปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca)
นำท่าน เที่ยวชมเมืองปัลมา เดอ มายอร์กา (Palma de Mallorca) แห่ง หมู่เกาะมายอร์กา (Mallorca)หมู่เกาะแสนสวยในประเทศสเปน ซึ่งตั้งอยู่ใน #ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเกาะใหญ่ที่สุดใน #หมู่เกาะแบลีแอริก เมืองหลวงของเกาะคือเมือง ปัลมา เมืองซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวในวันหยุดที่ได้รับความนิยมมาก นำท่าน เข้าชมปราสาทเบลเวอร์ (Bellver Castle) หนึ่งในป้อมปราการโบราณที่สร้างขึ้นช่วงต้นศตวรรษที่ 14 มีควาสูงประมาณ 112 เมตร ตั้งอยู่บนเนินเขานอกตัวเมืองปัลมา สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแก่กษัตริย์เจมส์ที่ 2 แห่ง มายอร์กา  ซึ่งแรกเริ่มเป็นที่พำนักของราชวงศ์ แต่ภายหลังถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นที่จองจำนักโทษในช่วงกลางศตวรรษที่ 18 จนถึงศตวรรษที่ 20 ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมทั่วไป นำท่านเดินทางสู่ มหาวิหารเลอซู (La Seu, Cathedral of Palma) โบสถ์โกธิคโรมันคาทอลิก คู่บ้านคู่เมืองของเกาะมายอร์กา สร้างขึ้นตามบัญชาของกษัตริย์เจมส์ที่ 1 แห่งอารากอนในปี ค.ศ. 1229 และเสร็จสิ้นในปี ค.ศ.1601 โดยใช้เวลาร่วม 370 ปีในการก่อสร้าง และได้มีการปรับปรุงตามแบบฉบับของอันโตนิโอ เกาดี้ สถาปนิกและผู้ออกแบบผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองบาร์เซโลนาในช่วงระหว่างปี ค.ศ.1901-1914 นำท่านเข้าชมความงดงามภายในมหาวิหารแห่งปัลมาชมความงามของสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคโรมันที่ตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ตกแต่งด้วยกระจกลายสีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่าน เข้าชมพระราชวังหลวงอัลมาไดนา (Royal Palace of La Almadaina) สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14 เป็นที่ประทับของกษัตริย์และราชินีสเปน ระหว่างการพำนักในมายอร์กา พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตรงข้ามกับมหาวิหารแห่งปัลมา เป็นจุดเช็คอินที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องมาเยือนหากมายังหมู่เกาะมายอร์กา นำท่านเข้าชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของพระราชวังหลวงแห่งหมู่เกาะมายอร์กา สมควรแก่เวลาอิสระให้ท่านได้เดินเล่นและเก็บภาพความสวยงามของเมือง หรือจะเลือกซื้อของฝากตามอัธยาศัย
15.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือปัลมา เดอ มายอร์กา
16.00 น.  เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือ ปัลมา เดอ มายอร์กา มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์)
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ(Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ ( คืนที่สอง )

วันที่สี่   โพรวองซ์

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.   เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
นำท่าน เข้าชมอาสนวิหารมาร์แซย์ (Cathedral de la Major) หรือชื่อเต็มว่า อาสนวิหารนักบุญมารีย์องค์ใหญ่แห่งมาร์แซย์ เป็นโบสถ์โรมันคาทอลิกที่มีฐานะเป็นอาสนวิหาร ที่ตั้งอยู่ที่เมืองมาร์แซย์ จังหวัดบุช-ดูว์-โรน แคว้นโพรวองซ์ซาลป์โกตดาซูร์ ประเทศฝรั่งเศส อาสนวิหารมาร์แซย์มีฐานะเป็นอาสนวิหารรองมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1896 และเป็นที่ตั้งอาสนะของอัครมุขมณฑลแห่งมาร์แซย์ จากนั้นนำท่าน เข้าชมสำนักสงฆ์เซ็นต์วิคเตอร์ (Abbey of St. Victor) ที่ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายสมัยโรมันในมาร์เซย์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศสตั้งชื่อตามนักบุญทหารและพลีชีพในท้องถิ่นวิกเตอร์ออฟมาร์เซย์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านเข้าชม ป้อมปราการซองจวน (Fort Saint Jean)เป็นป้อมปราการในมาร์กเซย์ สร้างขึ้นในปี 1660 โดย Louis XIV ที่ปากทางเข้า Old Port นับตั้งแต่ปี 2013 สะพานแห่งนี้เชื่อมโยงกันด้วยสะพานเชื่อมโยงสองแห่งกับย่านประวัติศาสตร์ Le Panier และพิพิธภัณฑ์อารยธรรมยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการที่สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองของฝรั่งเศสในยุคก่อน สมควรแก่เวลานำท่านสู่ ถนนเลอพาเนีย (Le Panier)ย่านเมืองเก่าของมาร์กเซย์ เป็นบริเวณที่ชาวกรีกได้เข้ามาตั้งรกรากที่นี่กว่า 2,600 ปี ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของท่าเรือเก่า (Old Port) ได้เวลานำท่าน เข้าชม Vieille Charite อาคารเก่าแก่ที่สร้างในปี ค.ศ. 1640 เพื่อเป็นที่พักพิงของคนยากจนในเมือง ต่อมาได้มีการสร้างโบสถ์ตามศิลปะแบบ Italian Baroque ขึ้นมาด้วย หมู่อาคารนี้ยังคงสภาพสมบูรณ์มาถึงปัจจุบันและกลายเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่เก็บรักษางานชั้นเยี่ยมอีกด้วย
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
18.00 น.เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย (La Spezia)
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ ( คืนที่สาม)       

วันที่ห้า ลา สเปเซีย – ชิงเกว่ แตร์เร – ริโอ แมกจิโอเร

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.30 น.   เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ ลา สเปเซีย (La Spezia) ประเทศอิตาลี
นําท่าน นั่งรถไฟสู่ชิงเกว่ แตร์เร (CINQUE TERRE) หมู่บ้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งริเวียร่าของอิตาลี CINQUE TERRE หมู่บ้านสีสันสดใส5หมู่บ้านที่เรียงรายกันอยู่ริมทะเลลิกูเรีย อดีตบริเวณนี้เคยเป็นชุมชนชาวประมงอาศัยการจับปลาและปลูกไร่องุ่นตามแนวชายเขา ด้วยเสน่ห์ของเมืองริมทะเลที่คงความเป็น ธรรมชาติ จึงได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกหมู่บ้านทั้งห้าคือ MONTEROSSO AL MARE, VERNAZZA, CORNIGLIA, MANAROLA และ RIOMAGGIORE
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นําท่านชมความงามของ หมู่บ้านริโอแมกจิโอเร (Riomaggiore) หมู่บ้านเล็กๆ ที่มีเสน่ห์และบรรยากาศเหมือนเมืองตุ๊กตา บ้านเรือนสีสันสดใสตั้งลดหลั่นกันบนหน้าผาที่ปกคลุมด้วยต้นไม้เขียวขจีตัดกันกับนํ้าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนสีเทอร์ควอยซ์ ทําให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตที่หากมีโอกาสต้องเข้ามาสัมผัส อิสระให้ท่านชมความงดงามและถ่ายรูปตามอัธยาศัย ได้เวลานำท่านเดินทางกลับโดยรถไฟกลับสู่ท่าเรือลาสเปเซีย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ ( คืนสี่ )
20.30 น.  เรือเดินทางออกจาก ท่าเรือ ลา สเปเซีย (La Spezia) เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเรือชิวิคตาเวคเคีย

วันที่หก  โรม – จัตุรัสนาโวนา – วิหารแพนธีออน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น.  เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือ ชิวิคตาเวคเคีย ประเทศอิตาลี
08.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (Rome) นำท่านเที่ยวชม จตุรัสนาโวนา (Piazza Navona) จตุรัสที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงโรม ที่มีองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้าง ทั้งโบสถ์ น้ำพุ และอาคารโดยรอบที่ล้วนส่งเสริมความงดงามให้แก่กัน จัตุรัสแห่งนี้ในยุคโรมันโบราณเคยใช้เป็นสนามกีฬาที่ไว้ใช้แข่งม้า แต่ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน โดยบริเวณกลางจตุรัสเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิสก์จากอียิปต์ ตั้งอยู่เบื้องหน้าโบสถ์เซนต์แอกเนสอินอะโกนี จากนั้นนำท่านชม "น้ำพุจตุมหานที" (Fountain of the Four Rivers)ซึ่งแต่ละมุมจะมีรูปปั้นซึ่งแทน แม่น้ำสายสำคัญจาก 4 ทวีป ได้แก่ แม่น้ำคงคา แม่น้ำดานูป แม่น้ำไนล์ และ แม่น้ำพลาต้า (Rio de la Plata ในทวีปอเมริกาใต้) ซึ่งน้ำพุแห่งนี้ จานโลเรนโซ เเบร์นินี ศิลปินฝีมือเยี่ยมอีกคนหนึ่งของอิตาลีเป็นผู้ออกแบบ อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามโดยรอบ ได้เวลานำท่าน เข้าชมวิหารแพนธีออน (Pantheon)วิหารขนาดใหญ่อายุ 2,000 กว่าปีมาแล้ว และยังถือเป็นอาคารในยุคโรมันที่มีสภาพสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งที่ยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบันอีกด้วย แต่เดิมวิหารแพนธีออน สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้าของชาวโรมัน แต่ในช่วงที่คริสตจักรเรืองอำนาจ วิหารแห่งนี้ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นโบสถ์ในคริสต์ศาสนาจนถึงทุกวันนี้ สถาปัตยกรรมของตัววิหารด้านหน้ามีลักษณะเป็นเสาสูงต้นใหญ่ รับกับหลังคาหน้าจั่วสามเหลี่ยม ส่วนอาคารด้านหลังมีหลังคาทรงโดมครอบอาคารทรงกลม ส่วนบนสุดของโดมมีช่องแสงรูปวงกลมขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า "โอคูลัส" ช่องแสงนี้เชื่อว่าเป็นทางเชื่อมระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า เมื่อแสงแดดส่องกระทบลงมาก็ทำให้เกิดภาพที่งดงาม อีกทั้งอาคารแห่งนี้ยังมีความน่าทึ่งตรงที่ไม่ต้องมีเสาค้ำกลางทั้งที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร  ภายในวิหารแห่งนี้ยังได้ใช้เป็นสถานที่ฝังศพกษัตริย์ บุคคลในราชวงศ์และบุคคลสำคัญ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ราฟาเอล จิตรกรชื่อดังผู้สร้างสรรค์งานศิลปะชิ้นงามเอาไว้ที่โรมจำนวนมาก
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่ ช้อปปิ้งเอาท์เลตขนาดใหญ่ใกล้กรุงโรม Castel Romano Designer Outlet ช้อปปิ้งเอาท์เลตที่รวมเอาแบรนด์สินค้าจากดีไซน์เนอร์ชั้นนำมาลดราคาตลอดทั้งปี อิสระให้ท่านช้อปปิ้งเลือกซื้อของฝากหรือเลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนมต่างๆได้ตามอัธยาศัย
17.00 น.  นำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเรือชิวิคตาเวคเคีย
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
20.00 น.  เรือสำราญออกจากท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคียมุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือเนเปิ้ล ประเทศอิตาลี
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ  ( คืนที่ห้า )

วันที่เจ็ด   เนเปิ้ล – ปอมเปอี

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น.เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือเนเปิ้ล ประเทศอิตาลี
08.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ เมืองปอมเปอี (Pompeii) (ระยะทาง 30 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) นำท่าน เข้าชมพิพิธภัณฑ์ปอมเปอีเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่จัดแสดงเรื่องราวไว้อย่างน่าสนใจ อดีตเมืองปอมเปอี (Pompei) มีฐานะเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้าที่แน่นขนัดไปด้วยร้านค้า, ตลาด และห้องแถว นอกจากนี้ยังมีสนามกีฬา, โรงละคร, วิหาร, โรงอาบน้ำสาธารณะ, หอนางโลม เมืองปอมเปอีสูญหายจากหน้าประวัติศาสตร์ อันเนื่องจากถูกทับถมด้วยเถ้าลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟวิซูเวียสในปีค.ศ. 79 หลังการขุดสำรวจในศตวรรษที่ 16 ภาพชีวิตของชาวโรมันกว่าสองพันปี ได้ปรากฏแก่สาธารณะชน นำท่านชมสภาพของเมืองที่ขุดค้นขึ้นมาบ่งบอกถึงร่องรอยความเจริญและความยิ่งใหญ่ของเมืองนี้ในอดีต
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านเดินทางกลับสู่เมืองเนเปิ้ล (Naples)หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli)คืออีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม สถาปัตยกรรม ดนตรี และศาสตร์การทำอาหาร ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงของจังหวัดเนเปิ้ล (Province of Naples) และแคว้นกัมปาเนีย (Campania) แคว้นที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของประเทศอิตาลีนั่นเองเมืองเนเปิ้ลตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลีติดกับอ่าวเนเปิ้ล (Naples Bay) กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ภูเขาไฟสองแห่ง คือ ภูเขาไฟ วิสุเวียส และกัมปีเฟลเกรย์และยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิ้ลจึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกโดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิ้ลยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก้ (Unesco) ให้เป็นเมืองมรดกโลก ในปี ค.ศ.1995 นำท่านชมและถ่ายรูปกับ จตุรัสเพิลบิสซิโต (Piazza del Plebiscito)หนึ่งในจตุรัสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองเนเปิ้ล ตั้งอยู่ใกล้ๆกับบริเวณอ่าว ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยเหล่าอาคารสถานที่ที่มีความสำคัญของเมือง นำท่าน เข้าชมพระบรมมหาราชวังแห่งเมืองเนเปิ้ล (Royal Palace of Naples)เป็น 1 ใน 4 ของที่พำนักของกษัตริย์แห่งราชวงศ์บูร์บง (Bourbon Kings) หนึ่งในราชวงศ์ที่สำคัญที่สุดในทวีปยุโรป (***หากราชวังปิดให้เข้าชม ทางทัวร์จะจัดหาโปรแกรมอื่นที่เหมาะสมให้แทน)อิสระให้ท่านได้มีเวลาช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม และ สินค้าพื้นเมืองตามอัธยาศัย หรือจะเลือกเก็บภาพความน่าประทับใจของเมืองเนเปิ้ล กับงานสถาปัตยกรรมของหมู่อาคารเก่าแก่มากมายที่ยังคงสะท้อนความรุ่งเรืองของอาณาจักรโรมันในอดีตได้อย่างดีเยี่ยม
17.30 น.   นำท่านเดินทางกลับสู่ท่าเทียบ เรือเนเปิ้ล
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ ( คืนที่หก )
19.00 น.  เรือเดินทางออกจากท่าเรือเนเปิ้ล เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน

วันที่แปด  Cruising

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room   : บาร์และเลาจน์, ห้องสมุด, ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment:ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆ หลากหลายสไตล์คาสิโน, ดิสโก้เธค, ห้องเล่นเกมส์
-Sport and Activities  : สระว่ายน้ำ, สปอร์ทคอร์ท, ฟิตเนต, มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness : ห้องสปา, ห้องสตรีม, บิวตี้ ซาลอน, โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ (คืนที่เจ็ด)

หมายเหตุ : ก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ

วันที่เก้า   บาร์เซโลนา – เขามงเซอร์รัต – ช้อปปิ้ง

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
05.00 น. เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
08.00 น. นำท่านเช็คเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
นำท่านเดินทางสู่ ยอดเขามงเซอร์รัต (Montserrat) นำท่าน เข้าชมวิหารมงเซอร์รัต ซึ่งตั้งอยู่บนเขามงเซอร์รัตที่สูงถึง 1,236 เมตรจากน้ำทะเล ภูเขามงเซอร์รัต มีลักษณะรูปทรงเป็นหินตะปุ่มตะป่ำแปลกประหลาดโดยคำว่า Montserrat หมายถึง ปุ่มปม ซึ่งในภาษาคาตาลัน ซึ่งเป็นภาษาหลักของคนในแถบนี้ใช้สื่อสารกัน ว่ากันว่าบริเวณนี้เดิมเคยเป็นทะเลมาก่อนเพราะยังมีซากเศษหอยอยู่ทั่วไปรวมไปถึงหินรูปทรงประหลาดของยอดเขาก็คาดว่าเกิดจากแรงดันตามธรรมชาตินับล้านปีมาแล้ว อาณาบริเวณที่ตั้งของวิหารมงเซอร์รัตซึ่งซ่อนตัวอยู่บนยอดเขาได้อย่างตระการตานั้น มีพื้นที่กว้างขวางจนทำให้ฉงนว่าผู้คนในอดีตนำวัสดุก่อสร้างมากมายขึ้นมาสร้างบนเขาที่สูงขนาดนี้ได้อย่างไร เหมือนเมืองในฝันอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว ภายในวิหารมีศิลปกรรมที่งดงามตระการตามากมายให้ชม โดยเฉพาะอย่างยิ่งประติมากรรมรูปปั้นที่ตกแต่งบนอาคารทั้งหลายที่งดงามเกินบรรยาย รอบๆบริเวณวิหารมีทั้งโบสถ์คริสต์นิกายคาทอลิค โรงแรม ภัตตาคาร ร้านค้าขายของที่ระลึก ห้องสมุด ห้องแสดงศิลปะ และสำนักนักบวชเบนาดิก(Benedictine) ซึ่งเป็นองค์กรนักบวชคาทอลิคบริหารวิหารอยู่บนนี้ สถานที่ทั้งหมดจึงเป็นบรรยากาศแบบเงียบเรียบสงบตามแบบฉบับสำนักปฎิบัติธรรมของนักบวช โดยมีจุดเด่นที่มี พระแม่มารีดำ (Black Madonna หรือ The Virgin of Montserrat)ที่มีชื่อเสียงประดิษฐานอยู่ ซึ่งชาวสเปนซึ่งนับถือศาสนาคริสต์คาทอลิคส่วนใหญ่เขามีความเชื่อว่าภูเขานี้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมักมาสักการะพระแม่มารีที่นี่
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา ถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง  1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้ง ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนน Passeig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆ อีกมากมาย นำท่านเดินทางสู่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ El Corte Ingles ซึ่งเป็นห้างที่รวมสินค้าแบรนด์เนมต่างๆมากมายให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้าแบรนด์เนม หรือ ของฝากตามอัธยาศัย
18.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ สนามบินบาร์เซโลนา (BCN) เพื่อเช็คอินและทำ Tax Refund
21.00 น.  ออกเดินทางจาก สนามบินบาร์เซโลนา กลับกรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK188   (ใช้เวลาบินประมาณ 7 ชั่วโมง) บริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อนบนเครื่องบิน

วันที่สิบ  กรุงเทพมหานคร

05.55 น. เดินทางมาถึง นครอิสตันบูล แวะเปลี่ยนเครื่อง
09.30 น.  ออกเดินทางสู่ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่ EK372 (ใช้เวลาบินประมาณ 6 ชั่วโมง) 
สายการบินมีบริการอาหาร บนเครื่องบิน
18.40 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

…Cruise Vacations Start Here…Cruise Tour eXperts by Chic Journey

หมายเหตุ : ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆแทนได้
**รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

Visitors: 119,060