ทัวร์กรุ๊ป MSC Grandiosa ล่องเรือทะเลเมดิเตอร์เรเนียน10วัน บิน WY เดินทาง ต.ค.66 :Mediteranean Cruise

ไม่พบสินค้า

#เรือสำราญ #MSC GRANDIOSA (เอ็มเอสซี แกรนดิโอซา) เรือสำราญปี 2019 ของ MSC Cruise ขนาด 181,000 ตัน จุผู้โดยสารได้กว่า 6,334 คน มีทั้งหมด 19 ชั้น
 
โปแรแกรมการเดินทาง
วันแรก    กรุงเทพมหานคร - มัสกัต - มิลาน
06.00 น.  คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินโอมาน แอร์ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
09.10 น.  ออกเดินทางสู่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน โดยเที่ยวบิน WY818 (ใช้เวลาบินประมาณ 5.55 ชั่วโมง) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์หลากหลายกับ จอทีวีส่วนตัวทุกที่นั่ง สายการบินฯ มีบริการ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่กรุงมัสกัต ประเทศโอมาน
12.00 น.  เดินทางถึงกรุงมัสกัต แวะเปลี่ยนเครื่อง เที่ยวบิน WY143 อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งสินค้าปลอดภาษีภายในสนามบินตามอัธยาศัย
14.45 น. ออกเดินทางจากสนามบินมัสกัต (MCT) สู่สนามบินมัลเพนซา (MXP)
**บริการอาหารกลางวันบนเครื่องบิน (ใช้เวลาบินประมาณ 7.05 ชม.)
19.45 น.  เดินทางถึงสนามบินมัลเพนซา เมืองมิลาน  ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรนำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าพักสู่โรงแรมที่พัก Crowne Plaza Milan Malpensa Airport Hotel **** หรือเทียบเท่า
 
วันที่สอง  มิลาน –Serravalle Shopping Outlet -  เจนัว - ขึ้นเรือสำราญ MSCCruise

เช้า  รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านถ่ายรูปมหาวิหารแห่งเมืองมิลาน หรือที่เรียกว่าดูโอโม่ (Duomo)เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสอง รองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในกรุงวาติกัน (เป็นมหาวิหารแบบโกธิคและใหญ่เป็นอันดับสามของยุโรป) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1386 แล้วเสร็จในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเรียกว่า "มหาวิหารเม่น" มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่างๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป บนยอดของมหาวิหารมีรูปปั้นทองขนาด 4 เมตร ของพระแม่มาดอนน่า   ด้านหน้าของมหาวิหารเป็นลานกว้าง เรียกว่า เปียซซ่า เดล ดูโอโม่ (Piazza Del Duomo) เป็นศูนย์กลางแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย   ด้านข้างของจตุรัสหน้าดูโอโม่ทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน
นำท่านเดินทางสู่หนึ่งในช้อปปิ้งเอาท์เลทขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป SERRAVALLE Shopping Outlet(ระยะทาง 140 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.45 ชม.) ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เมืองมิลาน สถานที่รวมสินค้าแฟชั่นแบรนด์เนมจากหลากหลายเมือง และจากดีไซเนอร์ชั้นนำระดับแถวหน้าของอิตาลี มีร้านค้าแฟชั่นและสินค้าต่างๆกว่า 180 ร้าน ทั้ง Versace, Dolce & Gabbana, Prada, Roberto Cavalli, Bulgari, Trussardi, Calvin Klein, Guess, Etro, Nike, Mariella Burani, Swarovski และอื่นๆอีกมากมาย โดยสินค้าแฟชั่นจะลดราคาตั้งแต่ 30% - 70% ตลอดปี อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าตามอัธยาศัย
***อาหารกลางวัน ตามอัธยาศัย ไม่รวมในรายการ เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง
บ่าย  นำท่านเดินทางสู่เมืองเจนัว (ระยะทาง 78 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)  นำท่านชมบริเวณอ่าวเจนัว อันเป็นท่าเทียบเรือสำราญ เรือยอร์ชหรู เรือใบสีขาวละลานตา และยังคงมีเรือโบราณจำลองขนาดยักษ์ สลักเสลาด้วยรูปปั้นอันวิจิตรคล้ายย้ำเตือนให้ระลึกถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของชาวเมืองเจนัวคนนี้
15.00 น.  นำท่านเช็คอินขึ้นเรือสำราญ MSC Cruise “MSC GRANDIOSA” ด้วยระวางเรือขนาด 181,000 ตัน พร้อม Entertainment Complex ขนาดใหญ่ ที่พร้อมให้บริการบนเรือสำราญ
17.00 น.   เรือสำราญเดินทางออกจากท่าเทียบเรือเจนัว มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือชิวิคตาเวคเคีย กรุงโรม
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่สาม   มาร์กเซย์

เช้า   รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.  เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ (โพรวองซ์) ประเทศฝรั่งเศส
นำท่านเข้าชมโบสถ์นอเทรอดาม เดอลาการ์ด (Basilique Notre-Dame de la Garde) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นอย่างงดงามด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ โดยมีรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคนแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัยและเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของแก้บน แต่เมื่อเวลาผ่านไปทางเทศบาลเมืองได้ปรับปรุงให้สถานที่แห่งนี้เป็นอนุสรณ์สถานอันศักดิ์สิทธิ์และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองมาร์กเซย์ 
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน
บ่าย  นำท่านเข้าชมป้อมปราการซองจวน (Fort Saint Jean)เป็นป้อมปราการในมาร์กเซย์ สร้างขึ้นในปี 1660 โดย Louis XIV ที่ปากทางเข้า Old Port นับตั้งแต่ปี 2013 สะพานแห่งนี้เชื่อมโยงกันด้วยสะพานเชื่อมโยงสองแห่งกับย่านประวัติศาสตร์ Le Panier และพิพิธภัณฑ์อารยธรรมยุโรปและเมดิเตอร์เรเนียน นำท่านเข้าชมความยิ่งใหญ่ของป้อมปราการที่สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองของฝรั่งเศสในยุคก่อน สมควรแก่เวลานำท่านสู่ถนนเลอพาเนีย (Le Panier)ย่านเมืองเก่าของมาร์กเซย์ เป็นบริเวณที่ชาวกรีกได้เข้ามาตั้งรกรากที่นี่กว่า 2,600 ปี ตัวเมืองเก่าตั้งอยู่ทางตอนเหนือของท่าเรือเก่า (Old Port)
1630 น.  นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือมาร์กเซย์
18.00 น.  เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือมาร์กเซย์ มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา
ค่ำ    รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่สี่   บาร์เซโลนา

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.  เรือเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือ บาร์เซโลนา ประเทศสเปน
นำท่านเข้าชมมหาวิหารซากราด้า ฟามิเลียร์” (Sagrada Familia) สัญลักษณ์แห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่สูงใหญ่ถึง 170 เมตร ออกแบบก่อสร้างอย่างสวยงามแปลกตาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1882 โบสถ์ที่สร้างไม่เสร็จนี้เป็นสัญลักษณ์ของบาร์เซโลนา  เป็นงานชั้นยอดที่แสดงถึงอัจฉริยภาพของ เกาดี้ สถาปนิกผู้เลื่องชื่อ มหาวิหารแห่งนี้มีความสูง 170 เมตร ตั้งอยู่บนถนน Carrer de Mallorca งานชิ้นนี้มีความแปลกตาจากงานชิ้นอื่นของเกาดี ได้เวลานำท่านเข้าชมคาซามิลา (Casa Mila) สร้างมาตั้งแต่ปี 1906 – 1912 เป็นอพาร์ทเม้นท์หลังสุดท้ายที่ออกแบบโดยเกาดี (Gaudi) เจ้าของตึกคือ Pere Milà และ Roser Segimón ชาวอเมริกันที่มีฐานะจากการทำสวนกาแฟในประเทศกัวเตมาลา โดยได้จ้างเกาดี (Gaudi) ให้มาออกแบบอพาร์ทเม้นท์ส่วนตัวให้โดยเฉพาะ และมีแผนในการเปิดให้คนอื่นเช่าเพื่ออาศัย แม้กระทั่งเจ้าชายจากประเทศอียิปต์ก็เคยมาเช่าเพื่อพักอาศัยที่นี่มาแล้ว
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารไทย
บ่าย  นำท่านถ่ายรูปพิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติกาตาลุนญา National Museum of Catalan Art ซึ่งเดิมเคยเป็นพระราชวังหลวง ก่อนที่จะดัดแปลงให้เป็นหนึ่งในสถานที่จัดงานนิทรรศการนานาชาติปี 1929 จนกระทั่งปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อไม่นานมานี้ ภายในมีผลงานศิลปะหลายแขนงของศิลปินชาวกาตาลัน วัตถุโบราณอายุนับพันปี เรื่องมาจนถึงยุคกลาง โกธิค เรอเรสซองซ์ และศิลปะสมัยใหม่ รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้จากบ้านเกาดี และศิลปินรุ่นเดียวกัน
จากนั้นนำท่านสู่ถนนช้อปปิ้งสายใหญ่ของบาร์เซโลนา ถนนลารัมบลา (Larambla)ย่านที่มีชื่อเสียงที่สุดของบาร์เซโลนาแหล่งท่องเที่ยวอันเป็นที่ชื่นชอบของคนทุกวัย ถนนสายเล็กๆ ที่มีความยาวเพียง  1.2 กิโลเมตรแต่มีสีสันเสน่ห์น่าประทับใจทั้งกลางวันและกลางคืน อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าและเสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้ง H&M, ZARA, BENETON, TOPSHOP หรือจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมชั้นนำซึ่งมีร้าน ตั้งอยู่ตลอดแนวถนนPasseig de graciaท่านสามารถเลือกซื้อสินค้าอาทิ LOUIS VUITTON, CHANEL, GUCCI, LOEWE และอื่นๆอีกมากมาย
17.00 น. นำท่านกลับสู่ท่าเทียบเรือบาร์เซโลนา
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือบาร์เซโลนา เพื่อมุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือ La Goulette ตูนิส
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่หก   At Sea

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระให้ท่านพักผ่อน บนเรือสำราญหรูตามอัธยาศัย ท่านสามารถเลือกรับประทานอาหารหรือนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ หรือทำกิจกรรมที่มีภายในเรือสำราญมากมายได้ตามใจชอบ ไม่ว่าจะเป็นช้อปปิ้งที่ร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ (Duty Free) และส่วนสันทนาการอื่นๆอีกมากมาย กิจกรรมความบันเทิงอันหลากหลายที่ท่านสามารถเลือกใช้บริการบนเรือสำราญ เช่น
-Public Room   :บาร์และเลาจน์ ห้องสมุด ห้องอินเตอร์เนต
-Entertainment:ชมโชว์พิเศษที่ทางเรือมีจัดแสดงหรือจะเลือกนั่งเล่นในคลับ เลาจน์ บาร์ต่างๆ หลากหลาย
-Sport and Activities :สระว่ายน้ำ สปอร์ทคอร์ท ฟิตเนต มินิกอล์ฟ
-Spa and Wellness   :ห้องสปา ห้องสตรีม บิวตี้ ซาลอน โยคะ และอื่นๆ อีกมากมาย
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่หก   ตูนิส (ตูนีเซีย)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.  เรือเทียบท่า ณ ท่าเรือ ท่าเทียบเรือ La Goulette ตูนิส ประเทศตูนิเซีย
เที่ยวชมเมืองตูนิส เมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดในตูนิเซีย ตัวเมืองตั้งอยู่ในพื้นั้ราย แบะเนินตามชายฝั่งทะเลรอบอ่าว เมืองตูนิสเป็นเมืองที่ได้รับอิทธพลทางสถาปัตยกรรม ศิลปวัฒนธรรม และประเพณีจากฝรั่งเศส จึงมีความเป็นโลกตะวันตก ผสมผสานกับโลกมุสลิม นำท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์บาร์โด (Bardo Museum) ที่อดีตเป็นพระราชวังเก่าของบีย์ (Bey) ชื่อในตำแหน่งของผู้ครอบครองหรือประมุขของรัฐในอดีต อาคารพระราชวังมีความสำคัญทาง สถาปัตยกรรมในศตวรรษที่ 13 แบบดั้งเดิม และได้รับการบูรณะและขยับขยายมาโดยตลอด เป็น สถานที่ซึ่งได้รวบรวมสิ่งละอันพันละน้อย ร่องรอยในอดีตที่ดูน่าเลื่อมใส ทีถูกจัดแสดงเรียงตามวันและสถานที่แหล่งกำเนิด สะท้อนให้เห็นถึงศิลปะและวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ของชาวตูนิเซีย ตั้งแต่สมัยยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงยุคของพิวนิก ชาวนครคาร์เธจ สู่ยุคโรมัน และจากยุคโรมัน สู่ยุค ของคริสเตียนไบเซนไทน์ จนถึงยุคอิสลาม เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สามารถบ่งสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะของ การใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ในยุคสมัยนั้น ๆ เป็นอย่างดี และเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุจากยุคก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงยุคร่วมสมัย อีกทั้งยังเป็นสถานที่เก็บสะสมชิ้นงานประดับ โมเสกที่ใหญ่ที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และสวยงามที่สุดในโลก จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองคาร์เธจ Carthageโบราณสถานในยุคกรีกโบราณ นครคาร์เธจที่ถูกสร้างขึ้นโดยชาวฟินิเซีย บนแหลมบริเวณเวิ้งอ่าวตูนิส ทำให้ได้เปรียบในด้านการเดินเรือ และเป็นยุทธศาสตร์การค้าทางทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สำคัญ เป็นจุดการส่งผ่านขึ้นเรือทุกลำที่จะข้ามทะเลสู่เกาะซิซีลี แต่ประวัติศาสตร์ที่ถูกต้องแท้จริงของนครคาร์เธจนั้นสูญหายไปพร้อมๆ กับการสูญสลายจากการพ่ายแพ้ต่อกองทัพโรมันในสงครามพิวนิก ครั้งที่ 3 ที่โรมันได้เผาทำลายนครคาร์เธจจนสิ้นซาก อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาโรมันได้กลับมาสร้างเมืองคาร์เธจให้โชติช่วงขึ้น ใหม่บนซากปรักหักพัง พร้อมสิ่งปลูกสร้างที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโรงละคร วิลล่า และห้องอาบน้ำ นครคาร์เธจกลายเป็นเมืองหลวงของการบริหารในอัฟริกา นำท่านชมซากปรักหักพังแต่ทรงคุณค่าทางโบราณคดี ซึ่งได้มีการระดมนักโบราณคดีจากหลายชาติมาช่วยบูรณะพื้นที่ที่ครอบคลุม เมืองพิวนิกและโรมันโบราณ จึงได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ในปี ค.ศ.1979 ผ่านชมโรงละครโรมันโบราณซึ่งยังคงถูกใช้สำหรับงานเทศกาลฤดูรhอนของคาร์เธจในทุกวันนี้
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย   นำท่านเที่ยวชม ซิดิ บู ซาอิด (Sidi Bou Said) หมู่บ้านชาวมัวร์ หมู่บ้านสีฟ้าและสีขาว น่ารัก จากหน้าผาสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์แสนงดงามของอ่าวตูนิส ที่มีตำนานเล่าขานไว้ว่า  นักบุญหลุยส์ผู้ซึ่งเสร็จจากศึกสงครามได้มาถึงที่แห่งนี้ ได้ตกหลุมรักกับเจ้าหญิงเบอร์เบอร์ จึงตกลง  ใจอาศัยอยู่ ณ หมู่บ้านแห่งนี้อย่างสงบสุข จึงได้เปลี่ยนชื่อและกลายเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของหมู่บ้านนี้   เยี่ยมชมหมู่บ้านที่มีมนต์เสน่ห์และเรื่องราวที่แสนสุขสันต์ ชื่นชมในความงามของ แหล่งท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางทางศิลปะการใช้สีฟ้า และสีขาวไปทั่วเมืองซึ่งจะสร้างความประทับใจ  ให้แก่ท่านสุดล้นพ้น เดินสำรวจหมู่บ้านผ่านไปตามถนนที่ปูลาดด้วย  หินก้อนโตพาลัดเลาะ คดเคี้ยว ขึ้นสู่จุดชมวิว ที่จะได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลสีมรกตและชายหาดทางตอนใต้ของอ่าวตูนิส เดินเท้าสู่ประภาคารวัง เดิมของ Baron d’ Erlanger ที่ถูกใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านค้าสองข้างทางมีสินค้างาน ฝีมือของชาวตูนิส สินค้าของเก่าแก่โบราณ เครื่องประดับเงิน งานศิลปะ ส่วนด้านบริเวณตีนเขาสู่หน้าผา จะเป็นที่ตั้งของท่าเรือของหมู่บ้านซิดิ บู ซาอิด มารีน่าทันสมัย
17.00 น. นำท่านเดินทางกลับสู่ ท่าเรือ La Goulette ตูนิส
18.00 น.  เรือสำราญออกจากท่าเทียบเรือ La Goulette ตูนิส มุ่งหน้าสู่ท่าเทียบเรือปาแลร์โม
ค่ำ  รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่เจ็ด  ปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี)

เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
09.00 น.   เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองปาร์แลโม่ (เกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี) เมืองหลวงของแคว้นปกครองตนเองซิซิลี  ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ปลายรองเท้าบู๊ตของอิตาลี มีประวัติต่อเนื่องยาวนานกว่า 4,000 ปี เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของยุโรปจึงตกเป็นเป้าหมายของการยึดครองจากชนชาติที่มีอำนาจเข้มแข็งในช่วงเวลาต่างๆเริ่มตั้งแต่กรีก โรมัน คาร์เทธ อาหรับ นอร์มัง เยอรมัน ฝรั่งเศส และสเปน แต่ละชาติผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาปกครองดินแดนนี้ขณะเดียวกันก็ได้นำเอาศิลปวัฒนธรรมของตนเข้ามาด้วย เกาะนี้จึงมีสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่หลากหลายผสมผสานกันหากแต่ลงตัว นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยความงามทางธรรมชาติ ของทั้งชายหาด ทะเล และภูเขาไฟ ด้วยความที่อยู่ห่างไกลออกมาจะสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นอิตาเลียนดั้งเดิม อย่างที่หาไม่พบอีกแล้วตามเมืองใหญ่ในอิตาลีภาคพื้นทวีป
นำท่านเข้าชมพระราชวัง Palazzo dei Normanniอดีตพระราชวังหลวงที่เคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์นอร์แมน และกษัตริย์หลายๆพระองค์ ตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของเมืองใจกลางย่านเมืองเก่าทำให้เห็นมุมมองของเมืองได้อย่างทั่วถึงจากมุมสูง  อดีตราชวังของกษัตริย์นอร์แมน ปัจจุบันใช้เป็นสภาท้องถิ่นประจำเมือง
นำท่านแวะถ่ายรูป Cappella Palatina โบสถ์ส่วนพระองค์ของกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 พระราชาซึ่งเคยได้ชื่อว่ามีฐานะล่ำซำที่สุดในยุโรป โดยโบสถ์นี้ยังถือเป็นต้นแบบของวิหาร Monreale ที่สร้างขึ้นในอีก 40 ปีให้หลังด้วย
นำท่านเข้าชม โบสถ์ St. John of the Hermits โบสถ์ที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในปาร์แลโม่ได้รับการอนุรักษ์ไว้จนถึงทุกวันนี้ โดยจารึกไว้พร้อมกับอนุสรณ์สถานนอร์มัน-ไบแซนไทน์แห่งอื่นๆ ในรายการ UNESCO โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 6 แต่ในช่วงการปกครองของชาวอาหรับ โบสถ์แห่งนี้ได้กลายเป็นมัสยิด ลักษณะที่ปรากฏในปัจจุบันเป็นผลมาจากการสร้างใหม่ซึ่งได้รับคำสั่งจากกษัตริย์โรเจอร์ที่ 2 ในศตวรรษที่ 12 จากนั้นโบสถ์ และแท่นบูชาถูกปกคลุมด้วยโดมสีแดง และมีการเพิ่มระเบียงเข้าไปในวัด ซึ่งน่าจะเป็นซากของอาราม
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย   นำท่านเที่ยวเข้าชม วิหารปาร์แลโม่ Palermo Cathedraleโบสถ์ อาสนวิหารของอัครสังฆมณฑลโรมันคาทอลิกแห่งปาร์แลโม่ ด้วยสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นด้วยการมีอยู่ของสไตล์ที่แตกต่างกัน เนื่องจากประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่มีการดัดแปลง และการบูรณะ ซึ่งครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 18 วิหารที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสุดยอกสถาปัตยกรรมไบเซนไทน์ ตั้งอยู่บนยอกเขากลางใจเมือง และในช่วง คริสต์ศตวรรษที่ 15 – 18 มีการบูรณะด้วยศิลปะแบบโกธิคสไตล์กาตาโลเนีย เพืออุทิศแด่พระแม่มารี ได้เวลานำท่านชม น้ำพุ Fontana della Vergogna น้ำพุแกะสลักสไตล์ไฮเรเนอซองส์ซึ่งสั่งทำจากเมืองฟลอเรนซ์ หลังจากนั้นแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ La Matoranaโบสถ์สไตล์ไบเซนไทน์ประดับประดาด้วยโมเสกทอง แต่บริเวณทางเข้าเป็นสถาปัตยกรรมแบบบาร็อค และแวะถ่ายรูปกับ โบสถ์ San Cataldo โบสถ์ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยปี ค.ศ.1160 แต่การก่อสร้างก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อผู้ลงทุนทรัพย์ เสียชีวิตลง จึงมีสภาพเปลือยเปล่าดูคลาสสิกตามสไตล์โบสถ์ท้องถิ่น
17.00 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าเทียบเรือปาร์แลโม่
18.00 น.  เรือเดินทางออกจากท่าเรือปาร์แลโม่เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเรือเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ

วันที่แปด  เนเปิลส์ - ปอมเปอี (ประเทศอิตาลี)

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
06.00 น.  เรือจอดเทียบท่า ณ ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี 
เมืองเนเปิลส์ เมืองแห่งประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ เมืองเนเปิลส์ (Naples) หรือที่นิยมเรียกเป็นภาษาอิตาลีว่า เมืองนาโปลี (Napoli)  ตั้งอยู่ที่ชายฝั่งด้านตะวันตกของอิตาลี  เป็นเมืองที่ร่ำรวยทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและยังเป็นเมืองที่มีบทบาทสำคัญในคาบสมุทรอิตาลี มาตลอด 2,800 ปีนับแต่ก่อตั้งเมืองขึ้นมา ด้วยเหตุนี้เมืองเนเปิลส์ จึงถือว่าเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยเฉพาะบริเวณใจกลางของเมืองเนเปิลส์ยังเป็นศูนย์กลางเมืองทางประวัติศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโก (Unesco) ให้เป็นมรดกโลก ในปี 1995 เเละที่สำคัญก็คือที่เมืองเเห่งนี้เป็นเมืองแรกในโลกที่เริ่มมีการทำพิซซ่า จึงนับได้ว่าเป็นเมืองต้นตำหรับของพิซซ่าอย่างเเท้จริง
นำท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณปอมเปอี (Pompei) นำท่านชมเมืองโบราณ 2,000 ปี ที่ถูกทำลายโดยลาวาของภูเขาไฟ วิโซเวียส ซึ่งภูเขาไฟลูกนี้ระเบิดเอาดินโคลนเถ้าถ่าน และหินละลายทับถมจมลงไปในดินในชั่วเวลาไม่กี่นาทีเมื่อ พ.ศ.662 ประชาชนนับหมื่นต้องถูกฝังทั้งเป็นตายด้วยความทุกข์ทรมาน โดยไม่มีโอกาสหนีรอดออกมาได้เลย และปอมเปอี ก็ถูกลืมไปจากความทรงจำของชาวโลกต่อมาได้มีการฟื้นฟูศึกษาประวัติศาสตร์โบราณชื่อปอมเปอีจึงถูกค้นพบแต่ไม่มีใครทราบว่าอยู่ที่ไหน จนกระทั่ง พ.ศ.2291 ได้พบร่องรอยของซากเมือง เมื่อรื้อดินที่ทับถมออกมาหมดแล้วก็พบซากเมืองที่ใหญ่โต และสร้างด้วยหินอย่างแข็งแรง บางแห่งพบ “ ซากชาวปอมเปเอียน และสัตว์เลี้ยงของเขาที่ตายกลายเป็นหินยังคงสภาพเดิมทุกประการ ” แต่ทว่าภาพนั้นจะเห็นลักษณะของความหวาดกลัวต่อความตายได้เป็นอย่างดีบางคนนั่งเอามือปิดหน้าตายบางคนนั่งซบกับกำแพงบ้านตายก็มี ปอมเปอีจึงได้ชื่อว่า “ซากเมืองแห่งความตาย” จากนั้น นำท่านเดินทางสู่เมืองเนเปิลส์ แวะถ่ายรูป Pallazzo Reale di Napoli หนึ่งในสี่อดีจพระราชวังหลวงของกษัตริย์ราชวงศ์บูรบองซ์ ของฝรั่งเศสที่เคยปกครองอาณาจักรเนเปิลส์มาก่อน ปัจจุบันตัวพระราชวังยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์และมีความสวยงามอใงว่าจะเป๋น สถาปัตยกรรม จิตกรรม ภาพบนผนัง และเฟอร์นิเจอร์ ไฮไลท์ ของที่นี่คือ รูปปั้นหินอ่อนของกษัตริย์แต่ละพระองค์ ที่เคยปกครองเนเปิลส์ โดยเรียงตั้งแต่ Roger II ผู้สถาปนาอาณาจัรซิซิลี ไปจนถึง Victorio Emanuele II กษัตริย์พระองค์แรกที่ปกครองอาณาจักรอิตาลี ที่ถูกรวมเป็นหนึ่งเดียว
12.30 น.  นำท่านเดินทางสู่ท่าเทียบเรือเมืองเนเปิลส์
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
14.00 น.เรือออกเดินทางจากท่าเทียบเรือเนเปิลส์ เพื่อมุ่งหน้าสู่ ท่าเทียบเรือเจนัวสเปน
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
หลังอาหารอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัยหรือสนุกสนานกับกิจกรรมบนเรือ
**หมายเหตุก่อนเรือกลับเทียบท่าในค่ำวันนี้ท่านจะได้รับป้ายผูกกระเป๋าสีต่างๆ ซึ่งเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ ท่านจะต้องจัดกระเป๋าใบใหญ่วางไว้หน้าห้อง โดยแยกข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นไว้ในกระเป๋าเดินทางใบเล็ก เพราะเจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ของท่านไปตั้งแต่กลางดึก และบัญชีค่าใช้จ่ายต่างๆ จะถูกส่งมาให้ท่านตรวจเช็คก่อนทำการชำระในวันรุ่งขึ้น สำหรับท่านที่ต้องการชำระผ่านบัตรเครดิต ทางบริษัทเรือจะชาร์จค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตที่ท่านได้ให้หมายเลขไว้ในวันที่ท่านเช็คอินโดยอัตโนมัติ

วันที่เก้า  เจนัว -ปอร์โตฟิโน -  มิลาน

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
10.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ท่าเรือเจนัว (อิตาลี)
นำท่านเดินทางสู่ เมืองปอร์โตฟีโน (Portofino) (ระยะทาง 40 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)
กลางวัน  รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย  นำท่านเที่ยวชม  เมืองปอร์โตฟีโน (Portofino) เมืองท่าแห่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงในระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเขต จังหวัดของเจนัว ที่ถูกล้อมรอบด้วยท่าเรือเล็กๆ จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "สวรรค์แห่งเมืองท่า" เมืองปอร์โตฟิโน เป็นเมืองเล็กๆ ที่แสนน่ารัก ภายในตัวเมืองประกอบไปด้วยด้วยบ้านเรือนหลากสีสัน ซึ่งตั้งเบียดเสียดกันไปตามเชิงเขาเขียวชอุ่ม โอบล้อมอ่าวที่มี เรือยอร์ช (Yatch)จอดเต็มไปหมด นำท่านชมความงดงามของ โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St. Martin) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 12 โดยตัวโบสถ์นั้นมีขนาดที่ไม่ใหญ่โต แต่ก็มีความสวยงามมากพอสมควร จากนั้นนำท่านชมความยิ่งใหญ่ของ ปราสาทและป้อมปราการ Castello Brown ซึ่งสร้างมาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 16 ในอดีตเคยใช้เป็นป้อมปราการป้องกันข้าศึก แต่ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ และยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงามอีกแห่งของเมืองอีกด้วย 
16.30 น. นำท่านเดินทางสู่สนามบินมิลาน (MXP) เพื่อเชคอินและทำ Tax Refund
22.05 น.  ออกเดินทางจากสนามบินมิลาน สู่ สนามบินมัสกัต โดยเที่ยวบินที่ WY144 (ใช้เวลาบินประมาณ 6.20 ชั่วโมง) สายการบินมีบริการอาหาร เครื่องดื่ม และพักผ่อน บนเครื่องบิน

วันที่สิบ  กรุงเทพมหานคร

06.25 น. เดินทางมาถึงสนามบินมัสกัต แวะเปลี่ยนเที่ยวบิน
08.50 น.   ออกเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ WY815
18.00 น.   เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)

**กรุณาตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ**

…Cruise Vacations Start Here…Cruise Tour eXperts by Chic Journey
หมายเหตุ : ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆแทนได้
รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ทั้งนี้ขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ 

อัตราค่าบริการ

ตุลาคม 2566

ราคาผู้ใหญ่ (พักห้องคู่ INSIDE) ท่านละ

105,000

อัพเกรดเป็นห้องพักแบบมีระเบียงวิวทะเล (พักห้องคู่Sea-View Balcony)
เพิ่มเงินท่านละ

15,000

พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ (คิดที่ห้องพักแบบ INSIDE ซึ่งเป็นราคาเริ่มต้น)

25,000

ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์ เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคายืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น)

95,000-130,000

ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักค่าใช้จ่าย (ผู้ใหญ่)

25,000

กรณีมีวีซ่าแล้วหรือไม่ต้องยื่นวีซ่า หักค่าใช้จ่าย

ไม่รวมค่าวีซ่า

ราคาไม่รวม :
**ค่าวีซ่าเชงเก้นท่านละ 4,500 บาท
**ค่าบริการเรือ (Service Fee) ท่านละประมาณ USD 84 ซึ่งเรือจะชาร์ตเข้าครุยส์การ์ดของลูกค้าแต่ละท่าน
ราคาอาจมีการปรับขึ้น – ลง ตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นลง แต่จะปรับตามความเป็นจริง
ที่สายการบินประกาศปรับ และที่มีเอกสารยืนยันเท่านั้น (คิด ณ วันที่  19/5/2023) **

Visitors: 173,776