Fly+Cruise แพคเกจเรือสำราญ Diamond Princess บินTG 19–25ก.พ.63 ล่องเรือสำราญ เที่ยวเกาะฮอนชู โอกินาว่า 7วัน5คืน โตเกียว-ชิมิซุ(ภูเขาไฟฟูจิ) - โกเบ-โอกินาว่า-ไทเป เอเชีย JAPAN TAIWAN กุมภาพันธ์ 2563

ไม่พบสินค้า

 
                             

 #Diamond Princes  ล่องเรือสำราญสุดหรู...เที่ยวเกาะฮอนชู & โอกินาว่า เยือน 5 เมืองสุดฮิต และภูเขาไฟฟูจิ
เส้นทาง : โตเกียว-ชิมิซุ-โกเบ-โอกินาว่า-ไทเป 7วัน 5คืน 
>>เดินทาง วันที่ 19 – 2กุมภาพันธ์ 2563 :ราคาเริ่มต้น 49,900.-บาท
**แพคเกจสุดคุ้มเที่ยวสบายเดินทางสะดวก...
รวมตั๋วไปกลับโดยการบินไทย (TG) / รวมรถรับส่ง (สนามบิน-ท่าเรือ-สนามบิน) 

19 ก.พ.2563  กรุงเทพ – สนามบินสุวรรณภูมิ

20.00 น. Check in สนามบินสุวรรณภูมิ
23.15 น.  ออกเดินทางสู่ สนามบินฮาเนดะ โดยสายการบิน Thai Airways (TG ) เที่ยวบิน TG682

20 ก.พ.2563  สนามบินฮาเนดะ – โตเกียว ( โยโกฮาม่า ) – เรือสำราญ Diamond Princess

06.55 น.  เดินทางถึงสนามบินฮาเนดะ (โตเกียว,ประเทศญี่ปุ่น)
หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากร จากนั้นเดินทางสู่ท่าเรือ“กรุณาเช็คอินขึ้นเรืออย่างน้อย 2 ชม ก่อนเรือออก”
17.00 น.  เรือออกจากท่า โยโกฮาม่า (Yokohama,Tokyo )

21 ก.พ.2563 ชิมิซุ, ญี่ปุ่น

06.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ ชิมิซุ (Shimizu) ท่าเรือชิมิซุ (Port of Shimizu) เป็นท่าเรือประมงที่อยู่เกือบใจกลางจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) เป็นที่รู้จักในฐานะท่าเรือที่มีคลื่นลมสงบสวยงาม ให้เราสามารถเก็บภาพวิวทะเลสวยๆ พร้อมท้องฟ้าสีฟ้าและภูเขาไฟฟูจิเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหลัง
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-หอศิลป์โทไคโดฮิโรชิเงะ เมืองชิซึโอกะ (Tokaido Hiroshige Art Museum) เป็นหอศิลป์จัดแสดงภาพอุคิโยะเอะแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ใช้ชื่อ “ฮิโรชิเงะ” โดยที่นี่มีผลงานศิลปะกว่า 1,400 ชิ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพแกะสลักทิวทัศน์ของอุตางาวะ ฮิโรชิเงะ
-ศาลเจ้าคุโนซังโทโชกุ (Kunozan Toshogu Shrine)ตั้งอยู่ภายในตัวเมืองชิซูโอกะ(Shizuoka) เรียกได้ว่าเป็นศาลเจ้าที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรม มีบริเวณกว้างขวางและซับซ้อนด้วยอาคารจำนวนมากที่มีสีแดงสดใสแซมด้วยสีทองและการแกะสลักที่งดงามพร้อมภาพวาดบนประตูโรมอน(Romon Gate)ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือหลังจุดจำหน่ายตั๋ว เมื่อเดินผ่านประตูจะพบกับหอกลอง และโคมไฟทองแดงนำไปสู่ห้องโถงหลัก Haiden และ Honden ลึกเข้าไปในป่าเป็นที่ตั้งของหลุมฝังศพอิเอะยะสุ(Ieyasu)
นอกบริเวณศาลเจ้าคือพิพิธภัณฑ์ของโชกุนคุโนซัง(Museum of Kunozan Toshogu) จัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว และสมบัติอื่นๆจำพวกดาบ อาวุธ และเสื้อผ้า เป็นต้น
-ภูเขาไฟฟูจิ ( Mt.Fuji):เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงทั่วโลกเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น มีความสูงที่สุดในประเทศ 3,776 เมตรเหนือระดับนํ้าทะเล  และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจากองค์กรยูเนสโก้เมื่อปีค.ศ. 2013 ด้วยรูปทรงอันสมมาตรและสวยงามของภูเขา รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ทั้งทะเลสาบ ป่าไม้ และเทือกเขาน้อยใหญ่ที่โอบคลุมไปทั่วบริเวณ จึงทำให้ชื่อเสียงของภูเขาไฟฟูจินั้นโด่งดังมานับตั้งแต่ในอดีต จนเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน
-ศาลเจ้าฟูจิโยชิดะเซนเกน (Fujisan Hongu Sengen Taisha Shrine): ศาลเจ้าที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่ามีอายุเป็นพันปี ตั้งอยู่บริเวณฐานภูเขา นอกจากจะได้ชมสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณแล้วนั้น จากทำเลที่ตั้งยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิจากบริเวณศาลเจ้าได้อีก ซึ่งถือเป็นกลมกลืนอย่างลงตัวของความเชื่อกับธรรมชาติ
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
15.00 น.  เรือออกจากท่า

22 ก.พ.2563  โกเบ, ญี่ปุ่น

08.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ โกเบ (Kobe) จังหวัดเฮียวโงะ เมืองท่าขนาดใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น ตลอดสองข้างทางจะเห็นอาคารบ้านเมือง ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและตะวันตก ตั้งเรียงรายตลอดสองข้างทางถนน
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
-วัดคินคะคุจิ (Kinkakuji) หรือ วัดทอง (Golden Pavilion ,Kyoto):เป็นวัดในนิกายเซน ตั้งอยู่ทางเหนือของเกียวโต (Kyoto) ที่มีชั้นบนสุดของตัวอาคารตกแต่งด้วยทองคำเปลวสุกอร่ามตา แต่เดิมนั้น วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักในชื่อโรคุออนจิ (Rokuonji) โดยเป็นบ้านพักสำหรับบั้นปลายชีวิตของโชกุนอะชิคางะ โยชิมิทสึ (Ashikaga Yoshimitsu) และตามเจตน์จำนงค์ของท่าน ได้อุทิศให้กับนิกายเซนลัทธิรินไซ (Rinzai sect) ภายหลังจากที่ท่านสิ้นอายุขัยในปี 1408 คินคะคุจิเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างวัดกินคะคุจิ (Ginkakuji) หรือวัดเงิน ซึ่งก่อสร้างโดยหลานของโยชิมิทสึ นั่นคือโชกุนอะชิคางะ โยชิมาสะ (Ashikaga Yoshimasa) ในอีกสองสามทศวรรษถัดมา โดยตั้งอยู่อีกฝั่งหนึ่งของเมือง
-วัดเรียวอังจิ Ryoanji TempleKyoto : วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงใน เรื่อง สวนหินอันงดงามนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยเฮอัน เพื่อใช้เป็นบ้านพักของขุนนาง ต่อมาได้ถูกดัดแปลงเป็นวัดในนิกายเซนและโรงเรียนสอนศาสนา โดยสวนหินแห่งนี้ สวนเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าประมาณ 1,000 ตารางเมตร โดยการจัดเรียงที่เรียบง่ายของเพียง 15 ก้อนหินใหญ่และกรวดทรายสีขาวเป็นการแสดงออกถึงโลกของเซน บริเวณรอบวัดปลูกต้นเมเปิลไว้มากมาย ทำให้ที่วัดแห่งนี้ได้รับความนิยมในการชมใบไม้เปลี่ยนสีอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วง
-ปราสาทนิโจ (Nijo Castle ):ตั้งอยู่ที่เมืองเกียวโต โดยถือเป็นอีกสิ่งปลูกสร้างหนึ่งของเมืองที่ได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลกของยูเนสโก้ ปราสาทแห่งนี้นั้นมีอายุมานานหลายร้อยปีโดยถูกสร้างขึ้นเมื่อประมาณปี ค.ศ. 1603 เป็นที่พำนักอาศัยของท่านโชกุนโทคุกาวะ ที่ถือเป็นบุคคลสำคัญ โดยมีโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของญี่ปุ่นดั้งเดิมที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นสถานที่ทางมรดกโลกแห่งองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ.1994 ภายในปราสาทนิโจนั้นสามารถแบ่งออกเป็นสามส่วนหลักใหญ่ๆอย่างฮอนมารุ (ปราสาทชั้นใน) นิฮอนมารุ (ปราสาทชั้นนอก) และสวนรวมไปถึงกำแพงหินที่โอบล้อมปราสาททั้งหมด
-ภูเขาร็อคโค (M.t Rokko): ตั้งอยู่ที่เมืองโกเบ ในจังหวัดเฮียวโงะ ด้วยระดับความสูง 931 เมตรจากระดับน้ำทะเล หนึ่งในแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติจะต้องหลงรักเข้าอย่างจัง ด้วยบรรยากาศและทัศนียภาพที่สวยงาม ยิ่งถ้าใครมาเที่ยวช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น (ระหว่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) สองข้างทางระหว่างขึ้นภูเขา จะประดับประดาด้วยหิมะขาวโพลน แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่วิวสวยอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด็ด ๆ อยู่อีกหลายแห่ง เช่น  Rokko International Musical Box Museum พิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมกล่องดนตรีเอาไว้เยอะมาก มีทั้งแบบน่ารักมุ้งมิ้ง ทั้งแบบหาดูยาก แต่ละชิ้นมีความพิเศษที่ไม่ธรรมดา Rokko Garden Terrace หนึ่งในจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่น่าชมที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น มองออกไปเบื้องหน้า คุณจะได้ดื่มด่ำกับวิวอ่าวโอซาก้าและเมืองโกเบแบบเต็ม ๆ
-วัดอิชิยะมะ เดอระ(Ishiyama-dera Temple) :เป็นวัดที่เก่าแก่มากประจำศาสนาพุทธนิกายชินงอน มีจุดน่าสนใจอยู่ที่ความเก่าแก่ของอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เช่น ประตูซันม่อน, เจดีย์ , หอระฆัง, และวิหารหลัก
ที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่เกียวข้องกับวัฒนธรรมญี่ปุ่นในยุคสมัยเฮอันด้วย เพราะเป็นสถานที่ที่อยู่ในงานวรรณกรรมที่มีชื่อเสียงมากของยุคที่ชื่อว่า Tale of Genji
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
18.00 น.  เรือออกจากท่า 

23 ก.พ.2563  ล่องทะเล ( At Sea )  

**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
วันนี้เป็นวันที่ท่านจะได้สนุกสนาน และเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายบนเรือ ที่มีให้ทุกท่านร่วมสนุกกันตลอดทั้งวัน

24 ก.พ.2563  โอกินาว่า , ญี่ปุ่น

07.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ โอกินาวะ(Okinawa) จังหวัดโอกินาวะ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากมายราว 160 เกาะ โดยมีเกาะหลักโอกินาวะ(Okinawa Main Island) เป็นศูนย์กลาง มีความรุ่งเรื่องในยุคสมัยริวกิว ซึ่งสามารถสร้าง วัฒนธรรมในแบบฉบับของตัวเองไปพร้อมกับการรับอิทธิพลจากประเทศต่างๆ อาทิ จีน อเมริกา เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นต้น มีสภาพอากาศแบบเขตร้อน มีท้องทะเลสีฟ้าอมเขียวสะอาดใสดุจดั่งสีมรกตประกายแดด และเป็นที่พักผ่อนตากอากาศทางทะเลติดอันดับโลก
**รับประทานอาหาร เช้า กลางวัน เย็น บนเรือสำราญ
-อิสระกับกิจกรรมบนเรือตามอัธยาศัยหรือสามารถเลือกซื้อทัวร์เสริมได้บนเรือ
>>คลิ๊ก:รายการทัวร์ชายฝั่ง ( Shore Excursions)
>>สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
- ปราสาทชูริ (Shurijo Castle)เป็นปราสาทที่ประทับของเชื้อพระวงศ์แห่ง อาณาจักรริวกิว (Ryukyu Kingdom) และนับเป็นปราสาทที่งดงามตระการตาสมฐานะศูนย์กลางของอาณาจักร ซึ่งกลิ่นอายของบรรยากาศในยุคก่อนก็ยังคงหลงเหลืออยู่ในปราสาทแห่งนี้ อาคารทั้งหมดของปราสาทชูริได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง แต่ต่อมาภายหลังเมื่อสงครามสงบลงก็ได้รับการบูรณะฟื้นฟูให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิมและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จุดเด่นที่ไม่ควรพลาดชมก็คือสถาปัตยกรรมสไตล์ริวกิว อย่างเช่น ห้องโถงใหญ่เซอิเด็น และ ประตูชูเรอิมง สีแดงเข้มสวยงามตัดกับสีของท้องฟ้า  รวมถึง ประตูคังไคมง ที่สร้างขึ้นบริเวณกำแพงปราสาท เป็นต้น
-สวนแห่งสันติภาพ (Peace Memorials Park): ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ จุดท่องเที่ยวหลักคือพิพิธภัณฑ์อนุสรณ์สถานสันติภาพ(Peace Memorial Museum) จัดแสดงข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับสงคราม การต่อสู้ และการบูรณะฟื้นฟูเมืองโอกินาว่า ห่างออกไปไม่กี่กิโลเมตรทางทิศตะวันตกของสวนสันติภาพ เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์ฮิเมยูริ(Himeyuri Monument) และพิพิธภัณฑ์ เพื่อระลึกถึงนักเรียนมัธยมหญิงที่ทำงานในโรงพยาบาลของกองทัพ ซึ่งสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลง
-สวนชิคินาเอน(Shikinaen Gardens)สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 18 เป็นที่พักอาศัยแห่งที่ 2 ของกษัตริย์ริวกิว ภายในสวนตกแต่งไว้อย่างสวยงามแต่เรียบง่าย อาคารพระราชวังเป็นสไตล์โอกินาว่าดั้งเดิม ซึ่งใช้กระเบื้องสีแดง สวนแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวาง มีบ่อน้ำท่ามกลางภูมิทัศน์อันรื่นรมย์ ในปี 1945 สวนชิคินาเอนได้ถูกทำลายในช่วงสงคราม และได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่ในปี 2000 และได้รับการขึ้นบัญชีเป็น UNESCO World Heritage ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรริวกิวในอดีต
-สวนสนุกริวกิวมูระ(Ryukyu Mura) :เป็นสวนสนุกขนาดเล็กที่จำลองเป็นหมู่บ้านดั้งเดิมของอาณาจักรริวกิวในสมัยโบราณ พร้อ มมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมโอกินาว่า ซึ่งประกอบด้วย อาคารแต่ละหลังที่มุงด้วยกระเบื้องสีแดง ล้อมรอบด้วยกำแพงหินที่ป้องกันพายุไต้ฝุ่น ศาลเจ้า และกลุ่มเวิร์คช้อปต่างๆที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ เช่น การปั้นเครื่องปั้นดินเผา เล่นดนตรีเครื่องสายของโอกินาว่าซันชิน(sanshin) รถไฟเหาะ และระบายสีรูปปั้นชิซะขนาดเล็ก(shisa)
-แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเซฟา อูทากิ( Seifa Utaki ) :เป็นพื้นที่สำคัญและศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาประจำเมืองโอกินาว่า คล้ายกับศาสนาชินโตที่ให้ความสำคัญในการเคารพบูชาธรรมชาติ พื้นที่แห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในป่าทึบที่ตั้งขนานกับทะเล โดยได้รับการขึ้นบัญชีเป็นพื้นที่มรดกโลกประจำโอกินาว่า แม้ว่าจะเคยเป็นพื้นที่ประกอบพิธีทางจิตวิญญาณในช่วงศตวรรษที่ 16 แต่ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้ได้รับการดูแลจากรัฐบาลและใช้เป็นที่ประกอบพิธีทางศาสนา และได้นำชื่อไปตั้งให้กับสถานที่สำคัญในปราสาทชูริอีกด้วย
-พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชุราอูมิ (Churaumi Aquarium):เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ดีที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมตั้งแต่ปี 2002 ตั้งอยู่ใน Ocean Expo Park ที่เคยจัดแสดงงานนานาชาติเอ็กซ์โปในปี 1975 ไฮไลท์ของการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้คือแท็งก์น้ำคุโรชิโอะ(Kuroshio Tank) ซึ่งเป็น 1 ในแท็งก์น้ำที่ใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งภายในนั้นเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตในทะเลแถบโอกินาว่าที่หลากหลาย สัตว์น้ำที่โดดเด่นที่สุดคือฉลามวาฬยักษ์ และกระเบนราหู
**แนะนำเวลากลับมาที่เรือ อย่างช้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก
14.30 น.  เรือออกจากท่า

25 ก.พ.2563  ไทเป , ไต้หวัน – กรุงเทพ

**รับประทานอาหาร เช้า บนเรือสำราญ
09.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ พอร์ตของคีลุง (Keelung)ไทเป ประเทศไต้หวัน
เชคเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระจากนั้นเดินทางสู่สนามบินไทเป
***สำคัญมาก: ตรวจสอบสัมภาระของท่านก่อนออกจากท่าเรือ
20.10 น.  ออกเดินทางด้วยเที่ยวบิน TG635   
23.05 น.  เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ โดย สวัสดิภาพ….

….Cruise Vacations Start Here….Cruise Tour eXperts by Chic Journey
รายการท่องเที่ยวอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยมิต้องแจ้งล่วงหน้า
ทั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงขึ้นกับสายการเดินเรือ และความปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นสำคัญ

หมายเหตุ ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใด ๆ ทางบริษัทฯ ไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ แทนได้

อัตราค่าบริการ : วันที่ 19 – 25 กุมภาพันธ์ 2563 

ประเภทห้องพัก

ราคา ( ต่อท่าน )

ห้องพักแบบไม่มีหน้าต่าง ( Inside Cabin ) พัก 2 ท่าน

49,900.- บาท

ห้องพักแบบไม่มีหน้าต่าง ( Inside Cabin ) พัก 1 ท่าน

71,900.- บาท

ห้องพักแบบไม่มีหน้าต่าง ( Inside Cabin ) พัก3ท่าน (ราคาท่านที่3)

44,900.- บาท

ห้องพักแบบมีระเบียง ( Balcony Cabin ) พัก 2 ท่าน

66,900.- บาท

ห้องพักแบบมีระเบียง ( Balcony Cabin ) พัก3ท่าน (ราคาท่านที่3)

49,900.- บาท

**ราคาไม่รวม :  ค่าทิปบนเรือ ห้องไม่มีหน้าต่างและห้องมีระเบียง ท่านละ USD 72.50 (ชำระบนเรือ)

Visitors: 116,180