เทศกาลแห่พระเขี้ยวแก้ว 17-22 ส.ค.67 ทัวร์ศรีลังกา เทศกาลเพราเฮรา บิน TG 6 วัน 4 คืน สิงหาคม 2567 :SRILANKA
รหัสสินค้า : CJN-C002MB01-SRILANKA-TG
ราคา |
49,900.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 49,900.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
เทศกาลเพราเฮรา 1 ปีมีครั้งเดียว หรือพิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว
เที่ยวตรงกับวันแกรนด์ ที่ขบวนแห่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ราคา : 49,900.-บาท
โดยสายการบิน : Thai Airways ( TG )
โคลัมโบ(สนามบินบันดารานัยเก)•เนกอมโบ •วัดถ้ำดัมบุลลา•โปลอนนารูวา •สิกิริยา•คันดาลามา•เขาสิกิริยา•แคนดี้ •ชมขบวนแห่พระเขี้ยวแก้ว (Perahera Festival) •เมืองแคนดี •เมืองกอลล์•เขตมรดกโลกเมืองเก่า •โคลัมโบ• วัดคงคาราม
**พักโรงแรม 4-5 ดาว
เดินทาง : 17-22 สิงหาคม 2567
หมายเหตุ **รายการทัวร์ทางหน้าเว็บไซต์ เป็นการนำเสนอรายการเบื้องต้นเท่านั้น กรุณาเชคที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
วันแรก :กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - โคลัมโบ (สนามบินบันดารานัยเก) - เนกอมโบ
18:30น. คณะพร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ทางเข้าประตูที่ 4 เคาน์เตอร์ J สายการบิน การบินไทย (TG)
เจ้าหน้าที่จากทางบริษัทคอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในเรื่องเอกสารการเช็กอิน และสัมภาระในการเดินทางให้กับทุกท่าน (น้ำหนักกระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องสูงสุดไม่เกิน 25 กิโลกรัม และถือขึ้นเครื่องได้อีกท่านละ 1 ใบ ไม่เกิน 7 กิโลกรัม)
21:40น. ออกเดินทางสู่กรุงโคลัมโบ โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG307 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
23.55 น.เดินทางถึง สนามบินดารานัยเก-โคลัมโบ(เวลาที่ประเทศศรีลังกา ช้ากว่าที่ประเทศไทย 1ชั่วโมง 30 นาที) หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง รับกระเป๋าสัมภาระ และศุลกากร ตัวแทนของบริษัท ชูป้ายต้อนรับบริเวณสนามบิน จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก Pegasus Reef Hotel, Negombo ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สอง:เนกอมโบ – วัดถ้ำดัมบุลลา – โปลอนนารูวา – สิกิริยา(B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านเดินเข้าสู่ ดัมบุลลา (ระยะทางประมาณ 133 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง) นำท่านชม “วัดถ้ำดัมบุลลา” (Dambulla Cave Temple) ทีได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย (UNESCO) ในปี พ.ศ. 2534 สร้างโดยพระเจ้าวาลากัมบา หรือพระเจ้าวัฏคามณีอภัย พระองค์ทรงเคยพำนักในถ้ำที่ดัมบูลลา ช่วงที่พระองค์เสด็จพลัดถิ่นจากเมืองอนุราชปุระ เพื่อเป็นการตั้งหลักก่อนที่จะรวบรวมไพร่พลกลับไปรบกันอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาเมื่อพระองค์ทรงรบชนะ และเสด็จกลับขึ้นครองราชย์ จึงได้กลับมาสร้างวิหารศิลาภายในถ้ำ ที่ดัมบูลลาแห่งนี้ ภายในมีถ้ำทั้งหมด 5 ถ้ำด้วยกันมีขนาดใหญ่เล็กแตกต่างกันออกไป ทั้ง 5 ถ้ำ มีพระพุทธรูปประดิษฐานทั้งหมด 153 องค์รูปปั้นกษัตริย์ 3 องค์ และ รูปปั้นของเทวีและเทพในศาสนาฮินดูอีก 4 องค์
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น
นำท่านเดินทางสู่เมือง “โปลอนนารูว่า” (Polonnaruwa) (ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) อดีตเมืองโบราณโปลอนนารูว่า แห่งนี้เคยเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 ที่มีอายุยาวนานประมาณ 200 ปี ของศรีลังกา หลังจากที่เมืองอนุราธปุระ ถูกทำลายในปีคริสต์ศักราช 993 และได้ขึ้นทะเบียนมรดกโลก (UNESCO) ในปี ค.ศ. 1982 หรือ พ.ศ. 2525 เป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ โดยภายในเมืองโบราณนั้นประกอบไปด้วยสิ่งก่อสร้างต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ปรักหักพัง อุทยาน รูปปั้น วิหาร และอื่นๆอีกจำนวนมาก ชม อนุสาวรีย์รูปปั้นของ พระเจ้าปรากรมพาหุมหาราชที่ 1(King ParakramabahuI)โดยรูปปั้นนั้นอยู่ในเขตโปตดุลวิหาร ชม “วิหารกลมวาฏะทาเค”(Polonnaruwa Vatadage)ซึ่งภายในวิหารมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่หน้าเจดีย์ทั้ง 4 ทิศ พระพุทธรูปครองจีวรไม่มีริ้ว พระเกศาไม่ขมวด ซึ่งถือว่าเป็นตัวอย่างของสิ่งก่อสร้างทางพุทธศาสนา ที่ได้รับการเก็บรักษาไว้ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองโปลอนนารูว่า ชม "วิหารสาวก หรือ กัลวิหาร" (Gal Vihara)ที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 12 โดยพระเจ้าปรากรมพาหุมหาราชที่ 1 ภายในนั้นเป็นสถานที่ที่มีพระพุทธ รูปแกะสลักจากหินแกรนิตขนาดใหญ่ 4 องค์ ในอิริยาบทที่ต่างกัน โดย องค์แรกเป็น พระพุทธรูประทับนั่งปางสมาธิ องค์ที่สองเป็นพระพุทธรูปนั่งปางสมาธิเช่นกัน แต่มีขนาดเล็กกว่าองค์แรกถูกสลักไว้ในถ้ำที่ขุดเจาะเข้าไปในภูเขา ประทับนั่งอยู่บนบัลลังก์มีเทวดาอยู่เคียงข้าง องค์ที่สามเป็น พระพุทธรูปปางรำพึงมีความสูงถึง 7 เมตร และองค์ที่สี่องค์สุดท้ายเป็น พระพุทธรูปปางปรินิพพานมีขนาดยาวถึง 14 เมตร จากนั้นเดินทางต่อสู่เมืองฮาบาราน่า เช็คอิน ณ โรงแรมที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ Hotel Sigiriya ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สาม:สิกิริยา - มาตาเล - แคนดี้ - ชมเทศกาลเพราเฮรา (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม “เขาสิกิริยา”(Sigiriya Rock)ให้ท่านเดินขึ้นชมยอดเขาสิกิริยา นับเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งเกาะนี้ที่รู้จักกันดีในชื่อ Lion Rock หรือ แท่นศิลาราชสีห์ โดยการเดินขึ้นบันได 2,200 ขั้น ระหว่างทางขึ้นเขาท่านจะได้ชมภาพเขียนสีเฟรสโก เป็นภาพนางอัปสรสวรรค์ที่มีอายุพันกว่าปี และถูกจัดให้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก ชมป้อมปราการ หรือ ประตูสิงโต เมื่อขึ้นถึงบริเวณยอดเขา จะพบซากปรักหักพังของพระราชวังในอดีต อ่างเก็บน้ำ โบราณและวิวทิวทัศน์ของเมืองสิกิริยา
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ มาตาเล (Matalay) (ระยะทางประมาณ 65 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที) ชม สวนสมุนไพร ที่ได้รวบรวมปลูกไว้มากมาย อาทิ ต้นอบเชย ต้นกระวาน ต้นกานพลู ต้นจันทน์ ต้นโกโก้ ต้นวานิลลา ต้นชา กาแฟ ตะไคร้ เป็นต้น พร้อมมีป้ายบอกสรรพคุณกำกับ โดยมีผู้เชี่ยวชาญนำชมและอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ต่างๆจากสมุนไพร จากธรรมชาติแท้ปลอดสารเจือปนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ที่ขื้นชื่อของสวนสมุนไพรในเมือง Matale ที่ขึ้นชื่อ เช่น น้ำยาปลูกผมสกัดจากน้ำมันพะพร้าวคิงส์โคโคนัท หรือน้ำยาสมุนไพรแก้โรคไขข้อเสื่อม
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เมืองแคนดี้ (Kandy) (ระยะทางประมาณ 45 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) นำเยี่ยมชมเมือง “แคนดี้” (Kandy)มาจากคำว่า Kanda เป็นภาษาสิงหล แปลว่า เนินเขา เนื่องจากแคนดี้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,600 ฟุต ชื่อเดิมคือ ศิริวัฒนานคร หรือ สิงหขันธนคร ตามชื่อของฤาษีตนหนึ่งที่เชื่อกันว่าเคยอาศัยอยู่ที่นี่ ชาวเมืองสิงหลเรียก “ขันธะ” หมายถึง กองหินหรือภูเขา ต่อมาเมื่ออังกฤษเข้าครองเมือง การเรียกขันธะ จึงออกเสียง สำเนียงตามฝรั่งว่า แคนดิ หรือ แคนดี้ เมืองแคนดีเคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล ก่อนการเสียดินแดนให้กับจักรวรรดิอังกฤษในปี พ.ศ.2358ชม วัดมัลละวัตตะเมืองแคนดี้ หรือวัดพระอุบาลีพระอุบาลีมหาเถระ ผู้สถาปนา อุบาลีวงศ์ ในศรีลังกา พระธรรมทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยในพ.ศ. 2295 ในแผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศแห่งกรุงศรีอยุธยาพระองค์ได้จัดส่งพระสงฆ์ไปให้บรรพชาอุปสมบทแก่กุลบุตรชาวศรีลังกา ตามคำขอร้องของพระเจ้ากีรติศิริราชสิงหะแห่งศรีลังกา ซึ่งส่งราชทูตเข้ามาขอพระสงฆ์ไทยไปศรีลังกา คณะธรรมทูตไทยมีจำนวน 25 รูป โดยมีพระอุบาลีมหาเถระและพระอริยมุนีมหาเถระเป็นหัวหน้า
ชมบริเวณด้านนอก วัดพระธาตุเขี้ยวแก้ว (Temple of the Tooth Relic)สถานที่ประดิษฐานพระทันตธาตุ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือ ที่รู้จักกันในนาม พระธาตุเขี้ยวแก้ว เพียงองค์เดียวที่ปรากฏบนโลกมนุษย์ โดยมีหลักฐานรองรับความถูกต้องตรงตามพระคัมภีร์มหาวงศ์ ด้วยว่าพระทันตธาตุหลังจากการถวายพระเพลิงพุทธสรีระ มีอยู่ด้วยกัน 4 องค์ นับตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 9 พระเขี้ยวแก้วได้ ประดิษฐานอยู่บนแผ่นดินแห่งนี้มาโดยตลอด มิเคยถูกนำออกไปไว้ ณ สถานที่อื่นเลย
จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก เข้าสู่ที่พักเพื่อทำการเช็คอินโรงแรม และเปลี่ยนชุด
ทุกท่านกรุณาแต่งชุดสีขาว ปิดมิดชิดทั้งชุดเท่านั้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำท่านเข้าร่วมชนขบวนแห่ เทศกาลเพราเฮรา( Esala Perahera)หรือพิธีแห่พระเขี้ยวแก้ว งานเฉลิมฉลองทางศาสนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศศรีลังกาที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก(ราคาทัวร์ รวมค่าที่นั่งชมขบวนแห่แล้ว)
งานเทศกาลเพราเฮราถูกจัดขึ้นที่เมืองแคนดี้ เมืองมรดกโลกของศรีลังกา เมืองซึ่งเคยเป็นที่มั่นสุดท้ายของกษัตริย์สิงหล เทศกาลนี้ถูกจัดขึ้นทุกปี เป็นเทศกาลที่จัดเพียงปีละครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมของทุกปี และจัดติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยอดีตกาล เป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานหลานศตวรรษเนื่องจากเป็นที่ตั้งของดาลาดามาลิกา หรือ วัดพระเขี้ยวแก้ว (Sri Dalada Maligawa) ซึ่งประดิษฐานพระทนต์ของพระพุทธเจ้าในพิธีมีช้างร่วมขบวนกว่า 100 เชือก ประชาชนเดินพาเหรด กว่า 1,000 คน หลังจากนั้นนำท่านกลับโรงแรมที่พัก
พักที่ Radisson Kandy Hotel ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่สี่:แคนดี้ - กอล์ล (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นเดินทางสู่ เมือง “กอล์ล” (Galle)(ระยะทาง 270 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง) เมืองตากอากาศริมชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นเมืองตากอากาศที่สวย มีเอกลักษณ์ และมีเสน่ห์ที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศศรีลังกาถึงเมืองกอล์ล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เดินทางถึงเมืองกอล์ลนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พักเพื่อทำการเช็คอินโรงแรม จากนั้นยามบ่ายอิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย ผ่อนคลายกับบรรยากาศริมชายหาดชายฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศศรีลังกา
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
พักที่ Hotel RIU, Ahungalla ระดับ 5 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ห้า : เมืองกอล์ล - เขตมรดกโลกเมืองเก่า - โคลัมโบ - วัดคงคาราม (B/L/D)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเยี่ยมชม เขตมรดกโลกเมืองเก่า ของเมืองกอล์ล ที่มีบ้านเรือนแบบตะวันตก โบราณ ชม The Dutch Fort หอนาฬิกา ประภาคารโบราณ ป้อมปืนใหญ่ ซึ่งถูกสร้างโดยชาวดัตส์ เมื่อศตวรรษที่ 17 และปัจจุบันหอนาฬิกาได้มีการบูรณะและซ่อมแซมให้ดูใหม่และทันสมัยขึ้น ชม วัดพระศรีปรมนันทะราชวรมหาวิหาร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จ ในครั้งนั้นพระองค์ได้สร้างจุฬาลงกรณ์ธรรมศาลาไว้เป็นที่ระลึกและให้ท่านดื่มด่ำกับบรรยากาศ ของเมืองตากอากาศชายทะเล
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเดินทางสู่ “กรุงโคลอมโบ” (Colombo)(ระยะทาง 125 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม.) ซึ่งมาจากชื่อภาษาสิงหลเดิมว่า โคลาอัมบาโทตา (kola-amba-thota) แปลว่า ท่าเรือที่มีต้นมะม่วง ในคริสต์ศตวรรษที่ 14 ชาวโปรตุเกสดัดแปลงชื่อนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส โคลัมโบ เป็นเมืองหลวงและเขตเศรษฐกิจสำคัญในปัจจุบัน เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศศรีลังกา มีอาณาเขตติดชายฝั่งมหาสมุทรอินเดีย ยาวประมาณ 14 กิโลเมตร ชาวสิงหลเรียกโคลัมโบว่า “โคลอมบา” ในช่วงที่ประเทศศรีลังกาได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษเมื่อ พ.ศ. 2339 นั้น ทำให้โคลัมโบได้กลายเป็นศูนย์กลางการติดต่อค้าขายและอังกฤษได้มาก่อสร้าง ผ่านชมอาคารที่ระลึกการประกาศอิสระภาพ Independence Memorial Hall สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญญาลักษณ์ของศรีลังกาที่ได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พศ. 2491 หลังจากที่เป็นอาณานิคมของต่างชาติมาเกือบ 500 ปี ในการสร้างอาคาร นายรัฐมนตรี Senanayaka ของ ศรีลังกา ซึ่งต้องการให้เป็นอาคารที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล และปัจจุบันบริเวณสวนโดยรอบจะเป็นที่พักผ่อน ออกกำลังกายของชาวโคลอมโบ
ชม วัดคงคาราม (Gangaramaya Temple)อันเป็นที่สังฆกรรม ชมรูปปั้นสลักปูนอันสวยงามในวิหารและโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์แห่งแรกของศรีลังกา ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีเหลืองสดใสและประกอบไปด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังอันงดงาม นอกจากนั้น ที่วัดนี้ยังมีอาคารที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและสิ่งมีค่าต่างๆมากมายทางศาสนาอีกด้วย
จากนั้นนำท่านชม ร้านจำหน่ายชุดกระเบื้องเซรามิค (Noritake) อันมีชื่อเสียงและส่งออกไปยังหลายประเทศทั้ง ญี่ปุ่น จีน นิวซีแลนด์ และยุโรป
อิสระช็อปปิ้งเลือกซื้อของฝากที่ “โอเดล” (ODEL Unlimited)ซึ่งเปรียบเหมือนส่วนหนึ่งของเมืองโคลอมโบ มีการเปรียบเทียบว่าหากไม่ได้ไปช้อปที่ Odel เหมือนเดินทางไม่ถึงโคลอมโบ ที่นี่มีสินค้าทุกอย่าง ทั้งขายปลีกและส่ง ร้านอาหารญี่ปุ่น รวมทั้งอาหารที่นำเข้าจากต่างประทศ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ได้เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินบันดารานัยเก
วันที่หก: เนกอมโบ (สนามบินบันดารานัยเก) - กรุงเทพ (สนามบินดอนเมือง)
00.55 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดย การบินไทย เที่ยวบินที่ TG308
06.10 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการ ต่อท่าน เป็นสกุลเงิน ไทยบาท สำหรับคณะผู้เดินทาง 25 ท่าน ขั้นต่ำ 15 ท่านออกเดินทาง |
||
วันเดินทาง |
ราคาผู้ใหญ่ ต่อท่าน |
พักเดี่ยว |
17 - 22 สิงหาคม 2567 |
49,900 |
10,000 |
|