ทัวร์กรุ๊ป ล่องเรือสำราญ MSC MUSICA 11วัน 8 คืน บิน GF เดินทางตุลาคม 2566:MSC CRUISES
ไม่พบสินค้า
วันแรก กรุงเทพฯ
23.55 น. พบเจ้าหน้าที่ที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน แถว P ประตูทางเข้าที่ 7 อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์สายการบินกัลฟ์แอร์ (GF) สนามบินสุวรรณภูมิ
วันที่สอง บาห์เรน - เอเธนส์
04.00 น. บินสู่ สนามบินบาห์เรน โดยเที่ยวบิน GF 151
07.15 น. ถึง สนามบินบาห์เรน เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน
09.45 น. บินสู่ เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยเที่ยวบิน GF 41
14.15 น. ถึง สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ
= ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร =
เดินทางสู่ แหลมซูเนียน (Cape Sounion) ชม วิหารแห่งโพไซดอน (Temple of Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร ตั้งอยู่ปลายหน้าผาติดทะเลอีเจี้ยน คาดว่าสร้างขึ้นเมื่อ 444 ปีก่อนคริสต์กาล ซึ่งมีอายุมากกว่า 2,000 ปีแล้วในปัจจุบัน ชาวกรีซในอดีตที่จะต้องเดินทางสู่ทะเลมักจะมาบวงสรวงขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัยที่วิหารแห่งนี้ ผ่านชม จัตุรัสซินตั๊กม่า (Syntagma Square) ที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ และอนุสรณ์ทหารนิรนาม ซึ่งทุกๆ ชั่วโมงจะมีการผลัดเปลี่ยนเวรทหารประจำหน้าอาคาร
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ที่พักHotel Stanley 4* หรือเทียบเท่า
วันที่สาม เอเธนส์ - พิราอุส
เช้า รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ท่องเที่ยวในเมืองเอเธนส์ เข้าชม อะโครโปลิส (Acropolis) โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เชื่อกันว่าบนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพีเอเธน่า เทพีแห่งปัญญา ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (Unesco) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในปี ค.ศ.1987 เข้าชม วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีเอเธน่า เป็นวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังรายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริคซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในโลกยุคคลาสสิคหรือยุคทองของกรีซ ช่วงประมาณ 450-300 ปีก่อนคริสตกาล และทั่วโลกต่างยอมรับกันว่าเป็นวิหารแบบดอริคที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกศิลปะของกรีซ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย เดินทางสู่ ท่าเรือพิราอุส (Piraeus) เพื่อเตรียมตัวขึ้นเรือสำราญ
14.00 น. เช็คอินชึ้น เรือสำราญ MSC MUSICA
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
22.00 น. ออกเดินทางสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มุ่งหน้าสู่ เกาะซานโตรินี (Santorini)
ที่พัก MSC Musica
วันที่สี่ ซานโตรินี (ประเทศกรีซ)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ เกาะในฝันที่ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาเยือนสักครั้งหนึ่ง เกาะนี้ถือว่าเป็นหัวใจของเกาะทั้งหลายในกรีซ เป็นเกาะที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ราชินีแห่งหมู่เกาะไซคลาติส เพราะทั่วโลกต่างชื่นชมในทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาของเกาะภูเขาไฟแห่งนี้ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ 1450 ปีก่อนคริสตกาล
เดินทางสู่ หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือบนเกาะซานโตรินี หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเกาะนี้ มีความสวยงามตามแบบฉบับของจินตนาการเมื่อนึกถึงเกาะในกรีซ บ้านสีขาวและยอดโบสถ์ทรงโดมที่รายล้อมด้วยสีฟ้าสดจากทุกทิศไม่ว่าจะเป็นทะเล ท้องฟ้า หรือแม้แต่กรอบประตูหน้าต่างสีสันสดใส รวมถึงโบสถ์สีขาวสะอาดตา เป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ มีคฤหาสน์หรูหราเป็นหลักฐานถึงความมั่งคั่งของชาวเรือที่อาศัยอยู่ที่นี่ลดหลั่นไล่ระดับตามหน้าผาสูงชัน
เดินทางสู่ หมู่บ้านอิเมอร์โรวิคลี (Imerovigli Village) อีกหนึ่งหมู่บ้านบนเกาะซานโตรินี ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟได้ใกล้กว่าหมู่บ้านอื่นๆ แวะถ่ายรูป โบสถ์อนาสตาซิส (Church of Anatasis)
เดินทางสู่ เมืองฟิร่า (Fira) เมืองหลวงของซานโตรินี่ ซึ่งออกเสียงได้อีกอย่างว่า ธีรา (Thira) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่มีทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์มากมาย ช้อปปิ้ง ตลาดสินค้าพื้นเมือง ที่มีสินค้าหลากหลายทั้งของที่ระลึก ที่ล้วนนำมาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวเป็นถนนทอดยาวริมผา พร้อมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็นเรือสำราญที่จอดอยู่กลางทะเลเบื้องล่าง
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย ท่องเที่ยวต่อบนเกาะซานโตรินี ขึ้น Cable Car ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะซานโตรินี Cable Car นี้เปิดใช้งานในปี ค.ศ. 1982 โดยเงินบริจาคของ Evangelos Nomikos เพื่อทดแทนการเดินขึ้นบันไดและการขี่ล่อ รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวบนเกาะซานโตรินีอีกด้วย
16.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองคูซาดาซี ประเทศตุรเคีย
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ที่พัก MSC Musica
วันที่ห้า คูซาดาซี (ประเทศตุรเคีย)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองคูซาดาชี เมืองท่าธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสต์กาลหลังจากตกเป็นอาณาจักรออตโตมัน
เดินทางสู่ เมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม เพราะอยู่ใกล้ริมทะเล จนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน จึงทำให้มีเรื่องราวและโบราณสถานที่ยังคงสภาพและมีความสมบูรณ์ให้ท่องเที่ยวอยู่มากมาย
เข้าชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้ ชม วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งของโรมัน วิหารแห่งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้านหน้าสร้างเป็นเสาโครินเธียน 4 ต้น คู่กลางรองรับโค้งครึ่งวงกลมที่เรียงอย่างสวยงาม โค้งด้านหลังมีภาพแกะสลักเป็นรูปนางเมดูซ่าที่มีผมเป็นงู ชม หอสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นสัญลักษณ์ของเอฟฟิซุส เป็นอาคารสองชั้น ด้านหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า ห้องสมุดนี้สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดย ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา (Julius Aquila) เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่พ่อของท่านซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ ด้านหน้ามีรูปปั้นของเทพี 4 องค์ ได้แก่ Sophia (เทพีแห่งปัญญา), Arete (เทพีแห่งความดี), Ennoia (เทพีแห่งความคิด), Episteme (เทพีแห่งความรู้) เข้าชม โรงละคร (Great Theatre) สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอฟฟิซุส ซึ่งสร้างโดยการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถบรรจุคนได้ถึง 25,000 คน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น เดิมสร้างตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ต่อมาในสมัยโรมันมีการปรับปรุงซ่อมแซมให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ท่องเที่ยวเมืองเอฟฟิซุส (ต่อ) ชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอด ชาวเยอรมันชื่อ แอนน์ แคเทอรีน เอมเมอริช (Anne Catherine Emmerich, ค.ศ. 1774-1824) ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารีซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ป เบเนดิกต์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน
16.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ที่พัก MSC Musica
วันที่หก ล่องน่านน้ำ (AT SEA)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
-Food & Drink: Bar & Lounges ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ Public area ของเรือ รวมถึงห้องอาหารที่หลากหลาย
-Entertainment: Disco, Card Room, ห้องสมุด, คาสิโน และ Theater ที่จัดการแสดงพิเศษในทุกค่ำคืน
-Fitness: สระว่ายน้ำ, สปา และ ฟิตเนส
-Activities: กิจกรรม การแสดงและเกมส์ต่างๆ ที่จัดทั่วบริเวณของ Public area
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ที่พัก MSC Musica
วันที่เจ็ด ไฮฟา (ประเทศอิสราเอล)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล
เดินทางสู่ เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem)เมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1949 แต่ในขณะนั้นกรุงเยรูซาเล็มได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งด้านตะวันตกเป็นของอิสราเอล ส่วนฝั่งตะวันออกและบริเวณเมืองเก่าจะเป็นของจอร์แดน จนกระทั่งปี ค.ศ.1967 หลังจากเกิดสงคราม 6 วัน (The Six Days War) ระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน อิสราเอลจึงได้เมืองเยรูซาเล็มกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองทั้งหมดเป็นเมืองเดียวกัน ภูเขามะกอก (Mount of Olives) ภูเขาทางตะวันออกของเยรูซาเลม มีระดับความสูงที่ 826 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกตั้งชื่อตามเนินต้นมะกอกซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกคลุมส่วนหนึ่งของภูเขาในอดีต ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญแก่ชาวยิว ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพบรรพบุรุษชนชาติยิวมากว่า 3000 ปี ชม โบสถ์แห่งปีเตอร์นอสเตอร์ (Church of Peter Noster) เป็นสถานที่พระเยซูทรงสอนให้สาวกรู้จักคําอธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย” ชม สวนเกทเสมานี (Gatsemane) ซึ่งเป็นภาษาฮีบรูแปลว่า ต้นมะกอก บริเวณสวนนี้มีต้นมะกอกเก่าแก่อยู่ 8 ต้น ที่เชื่อกันว่าเป็นรากเดิมของต้นมะกอกในสมัยพระเยซู ซึ่งมีอายุประมาณ 2000 ปีและเป็นสถานที่ที่พระเยซูอธิษฐานกับสาวก ก่อนที่จะถูกพวกทหารโรมันจับตัวไป ชม ยอดเขาไซออน (Mount Zion) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของยอดเขาโอลีฟในเยรูซาเลม ซึ่งมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า เมืองของเดวิด (City of David) ชม โบสถ์ไก่ขัน (St. Peter in Gallicantu) ซึ่งเป็นภาษาลาติน ในอดีตเป็นบ้านของปุโรหิตคายาฟาส ที่เป็นหัวหน้าสมณะในยุคของพระเยซูที่ถูกตัดสินและเป็นสถานที่ที่ปีเตอร์ปฏิเสธพระเยซูก่อนไก่ขัน 3 ครั้ง (Before the cock crows thrice) ชม สุสานกษัตริย์เดวิด (King David’s Tomb) และ ห้องอาหารมื้อสุดท้าย (Room of Last Supper) ที่พระเยซูทรงร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเหล่าสาวก
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย ท่องเที่ยวในเมืองเยรูซาเลม (ต่อ) ชม พิพิธภัณฑ์อิสราเอล (Israel Museum) สถาบันทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิสราเอลและติดอันดับหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดีชั้นนำของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1965 เป็นที่เก็บของสะสมของสารานุกรมรวมถึงผลงานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันในโบราณคดีโบราณคดีวิจิตรศิลป์และศิลปะของชาวยิว มีการสะสมวัตถุโบราณในพระคัมภีร์ไบเบิล ในช่วงเกือบเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากผู้อุปถัมภ์ทั่วโลก ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างคอลเล็กชั่นวัตถุเกือบ 500,000 ชิ้นซึ่งเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมวัตถุทั่วโลก ชม ฝั่งตะวันออกของนครเยลูซาเลม (New Western City of Jerusalem) ผ่านชมสิ่งก่อสร้างและกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ในเมือง เช่น อาคารรัฐสภา อาคารรัฐบาล
16.00 น. เดินทางกลับเมืองไฮฟา
18.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
20.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองลีมาซอล ประเทศไซปรัส
ที่พัก MSC Musica
วันที่แปด ลีมาซอล (ประเทศไซปรัส)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองลีมาซอล ประเทศไซปรัส
ท่องเที่ยวใน เมืองลีมาซอล เข้าชม ปราสาทลีมาซอล เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในศิลปะแบบไบแซนไทน์ ภายในปราสาทจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ Limassol Medieval มีคอลเลกชันชุดเกราะอาวุธต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์ Richard แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเจ้าหญิง Berengaria แห่งเมือง Navarre ในปี 1191 ซึ่งการอภิเษกครั้งนี้ทำให้เจ้าหญิง Berengaria ได้รับตำแหน่งเป็นราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย เข้าชม Kolossi Castle ที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 13 ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการสำคัญในช่วงยุคกลาง ภายในมีภาพวาดพระเยซูศิลปะแบบเฟสโกที่สวยงาม เข้าชม เมืองโบราณคูริออน (Kourion Ancient Site) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของไซปรัส เข้าชม โรงละครโรมัน Greco Roman Theatre ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 2 ซึ่งสามารถจุคนได้กว่า 3,500 คน พร้อมฉากหลังที่สวยงามของทะเลเมดิเตอเรเนียน และ บ้านอูโทลิออส (Eustolios House) วิลล่าส่วนตัวสไตล์โรมัน ก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารสาธารณะที่เป็นทั้ง ห้องอาบน้ำ ห้องครัวและสถานที่อาศัยในสมัยก่อน ชมความงามของพื้นโมเสคที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามและอนุรักษ์ไว้อย่างดี
12.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
14.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองมิโคนอส ประเทศกรีซ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ที่พัก MSC Musica
วันที่เก้า มิโคนอส (ประเทศกรีซ)
เช้า รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
16.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะมิโคนอส ประเทศกรีซ เกาะสวรรค์แห่งนักท่องราตรี เป็นหนึ่งในหมู่เกาะไซคลาติสที่สวยงาม ชม มิโคนอส ทาวน์ (Mykonos Town) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า โฮรา (Chora) ที่มีความงดงามประกอบด้วยบ้านเรือนสีขาวทุกหลังตัดกับโบสถ์ และท้องฟ้าระเบียงดอกไม้ที่รายรอบด้วยกลุ่มเรือหลากสีสัน เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ชม Small Venice”(Mikri Venetia) จุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดริมทะเลเอเจี้ยนที่มีบรรยากาสคล้ายคลึงกับเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี พร้อมวิวกังหันลมกลางทะเลที่เรียกว่า Kato Myloi ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่ง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี้เลยก็ว่าได้
21.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
ที่พัก MSC Musica
หมายเหตุ: ก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป ท่านจะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็คเอาท์ออกจากเรือดังนี้
- จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
- จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
- ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็คความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็คอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)
วันที่สิบ มิโคนอส (ประเทศกรีซ) – เมืองพิราอุส (ประเทศกรีซ) – เอเธนส์ - บาห์เรน
02.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองพิราอุส ประเทศกรีซ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองพิราอุส
เช็คเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
ช้อปปิ้ง McArthurGlen Designer Outlet Athensแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมมากกว่า 100 ร้านค้าให้เลือกซื้อ เช่น Polo Ralph Lauren, Adidas, Tommy Hilfiger, Benetton, BOSS, Nike, Lacoste, Guess ฯลฯ
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย เดินทางสู่สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส เพื่อเช็คอิน และเดินทางกลับ
15.00 น. บินสู่ สนามบินบาห์เรน โดยเที่ยวบิน GF 42
19.00 น. ถึง สนามบินบาห์เรน
22.20 น. บินสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน GF 152
วันที่สิบเอ็ด อิสตันบูล - กรุงเทพฯ
09.30 น. ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
…Cruise Vacations Start Hear…Cruise Tour eXperts by Chic Journey
***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆแทนได้
หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร การล่าช้าของสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความเหมาะ และความปลอดภัยในการเดินทาง







