ทัวร์แกรน์ไอซ์แลนด์ แสงเหนือ รอบเกาะ 10 วัน 7 คืน เดินทาง กันยายน - ธันวาคม 2568 | สายการบิน CONDOR (DE)
รหัสสินค้า : CJN_H002_GRAND ICELAND 10D SEP-DEC 25 DE
ราคา |
199,900.00 ฿ |
จำนวนที่จะซื้อ | |
ราคารวม | 199,900.00 ฿ |
สินค้าไม่เพียงพอ
สินค้าหมด
แกรนด์ไอซ์แลนด์ แสงเหนือ | 10 วัน 7 คืน
แดนมหัศจรรย์ของพลังธรรมชาติ
เที่ยวเมืองสวยรอบเกาะ
ราคา: 199,900.- บาท **(รวมวีซ่าเชงเก้น และ ทิปต่างๆ แล้ว)
โดยสายการบิน: CONDOR AIRLINES (DE)
• แฟรงก์เฟิร์ต • เคฟลาวิก • บอร์กาเนส • น้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล • น้ำตกเฮินฟอซซ่า • ภูเขาเคริ์กจูเฟล • อาคูเรย์รี่ • โบสถ์อาคูเรย์รี่ • ฮูซาวิก • ล่องเรือชมปลาวาฬ • ทะเลสาบมายด์วัทท์ • โจกุลซาลอน • ไดมอนด์บีช • ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) • วิคค์ • หาดทรายดำ • พิพิธภัณฑ์สโกการ์ • น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ • Golden Circle • อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ • น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ • เซลฟอสส์ • ขับสโนว์โมบิลธารน้ำแข็งแลงโจกุล • เรคยาวิค • โบสถ์ฮัลลกรีมสคิร์คยา • เพอร์ลัน • แช่น้ำแร่บลูลากูน
**ขับสโนว์โมบิลธารน้ำแข็งแลงโจกุล
**ล่องเรือชมปลาวาฬ
**ถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave)
**แช่น้ำแร่บลูลากูน
เดินทาง: กันยายน - ธันวาคม 2568
กรุณาสอบถามที่นั่งว่างก่อนทำการจอง
#ไอซ์แลนด์ #แสงเหนือ #ออโรล่า #iceland #ชมวาฬ #ถ้ำน้ำแข็ง #snowmobile
ไอซ์แลนด์ แสงเหนือ รอบเกาะ
โปรแกรมการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพมหานคร
20.00 น. คณะพบเจ้าหน้าที่และมัคคุเทศก์ได้ที่ อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 เคาน์เตอร์เช็คอิน สายการบินคอนดอร์ (DE) ณ สนามบินสุวรรณภูมิ
21.50 น. ออกเดินทางสู่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินคอนดอร์ เที่ยวบินที่ DE2363 (ใช้เวลาบินประมาณ 12.25 ชม.) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่แฟรงก์เฟิร์ต
วันที่สอง แฟรงก์เฟิร์ต – เคฟลาวิก
05.15 น. เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร
10.00 น. นำท่านเชคอินสายการบินไอซ์แลนด์แอร์
14.00 น. ออกเดินทางสู่สนามบินเคฟลาวิก (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์ โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI521 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.45 ชม.)
15.45 น. เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิค (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์ นำท่านผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Courtyard Reykjavik Keflavik Airport **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่สาม เคฟลาวิค – บอร์กาเนส – น้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล - น้ำตกเฮินฟอซซ่า - ภูเขาเคิร์กจูเฟล –บอร์กาเนส
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) (ระยะทาง 114 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.40 ชม.) เมืองทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ นำท่านแวะชมน้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Spring) ) (ระยะทาง 38 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) บ่อน้ำพุร้อนใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ อุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส และเป็นบ่อน้ำพุร้อนที่มีน้ำไหลเร็วที่สุดในยุโรป เร็วถึง 180 ลิตร/วินาที จากนั้นนำท่านชมน้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hruanfossar Waterfall) ซึ่งในภาษาไอซ์แลนดิก Hruan แปลว่า ลาวา เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากลำธารความยาวกว่า 900 เมตรซึ่งพาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ประทุขึ้นมาจากภูเขาไฟใต้พิภพซึ่งอยู่ใต้ธารน้ำแข็งแลงโจกุลกลาเซียร์ (Lungjokull Glacier) และในฤดูที่หนาวจัด น้ำตกแห่งนี้จะแข็งเป็นน้ำแข็ง สวยงามเป็นอย่างมาก
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ชมความงดงามของภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) (ระยะทาง 161 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.10 ชม.) ภูเขาที่มีความสูงประมาณ 463 เมตร เป็นภูเขาที่มีทรงสวยงามได้รับความนิยมมากในหมู่นักไต่เขา และยังได้รับการกล่าวขานว่าเป็นภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในประเทศ Kirkjufell เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ Game of Thrones ซีซั่นที่ 6 และ 7 ใกล้ๆภูเขายังมีน้ำตกขนาดเล็กๆที่สวยงามมากแห่งหนึ่งอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพความสวยงามตามอัธยาศัย สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางกลับสู่เมืองบอร์กาเนส (Borgarnes) (ระยะทาง 106 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก (Fish)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Borgarnes **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่สี่ บอร์กาเนส - อาร์คูเรย์รี่ - โบสถ์อาคูเรย์รี่
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอาคูเรย์รี่ (Akureyri) (ระยะทาง 314 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.40 ชม.) เมืองใหญ่อันดับสองของไอซ์แลนด์ และยังเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของไอซ์แลนด์อีกด้วย นอกจากนี้อาคูเรย์รี่ เป็นศูนย์กลางการประมงและท่าเรือที่สำคัญ แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การศึกษาระดับอุดมศึกษา และบริการ ได้กลายเป็นภาคส่วนเศรษฐกิจที่เติบโตเร็วที่สุด บ้านเรือนถูกปลูกสร้างจากไม้ทาสีสันสดใสตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ บ้างก็ปลูกบนเนินลาดชันซึ่งมีภูมิศาสตร์อยู่ติดภูเขาแต่จัดตั้งเป็นระเบียบอย่างลงตัว ตลอดเส้นทางท่านจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามของไอซ์แลนด์ ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่าไม่มีต้นไม้สูง มีผืนหญ้าและต้นมอสหลากสีสุดสายตา สวยงามมาก เมืองอาคูเรย์รี่มีแม่น้ำโครสซาเนสบอร์เกียร์ (Krossanesborgir) เป็นแม่น้ำสายสำคัญของเมืองไหลผ่าน นำท่านชมบ้านเรือนที่จัดแผนผังเมืองเมืองอย่างเป็นระเบียบ สวยงาม
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Fish)
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าชมโบสถ์อาคูเรย์รี่ (Akureyri Church) เป็นสัญญลักษณ์ของเมือง ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์นิกายลูเธอรัน ออกแบบโดยสถานปนิก Gudjon Samuelsson สร้างปี 1940 มีออร์แกน 3,200 ท่อ ขนาดใหญ่เป็นพิเศษ หน้าต่างกระจกสีกลางเหนือแท่นบูชาสวยงามมาก ภาพแกะสลักนูนบนระเบียงโดยประติมากรแสดงการบัพติสมา จากนั้นนำท่านสู่ถนนคนเดิน เกเรอโตรกาตา (Gerartogata) อิสระให้ท่านได้ช้อปปิ้งบน ถนนสายช้อปปิ้งของเมือง
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Foss Hotel Akureyri **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่ห้า อาร์คูเรย์รี่ – ฮูซาวิก - ล่องเรือชมวาฬ – ทะเลสาปมายด์วัทท์ – น้ำตกเดทติฟอสส์ - วงกลมทองคำ
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองฮูซาวิก (Husavik) (ระยะทาง 52 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เมืองแห่งธรรมชาติ และการชมวาฬ เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งวาฬของประเทศไอซ์แลนด์ (The Whale watching capital of Iceland) เมืองประมงเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศไอซ์แลนด์ ที่มีบ้านเรือนน่ารักเหมือนฉากละคร ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี่ยวหลังเล็ก มีชั้นเดียว รูปแบบบ้านจะแตกต่างกันตามสไตล์ และมีลักษณะเด่น คือ หลังคาสารพัดสี นอกจากนี้ยังเป็นเมือง ที่มีภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ ทำให้ฮูซาวิกเป็นหนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์ เมืองเล็กๆ แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการดูวาฬ และยังถูกยกย่องให้เป็นเมืองหลวงแห่งการดูวาฬของยุโรป (The Whale watching capital of Europe) อีกด้วย ฉายาเหล่านี้คือสิ่งที่การันตีถึงความมีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องของการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของวาฬหลายชนิด ทั้งวาฬหลังค่อม (Humpback Whales) และวาฬสีน้ำเงิน (Blue Whales) ที่ผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาหาอาหารอันอุดมสมบูรณ์บริเวณรอบๆ อ่าวของเมืองฮูซาวิกแห่งนี้มาช้านาน
นำท่านล่องเรือชมปลาวาฬ กิจกรรมอันเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวในการดูปลาวาฬแบบธรรมชาติโดยนั่งเรือกู๊ดโบ๊ต หรือเรือไม้ซึ่งออกแบบให้โต้คลื่นลมได้อย่างนิ่มนวล ปลาวาฬที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำแถบนี้จะมี 3 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ วาฬมิงค์ หรือ ในสำเนียงภาษาไอซ์แลนด์ เรียกว่า มิงคี (Minke) , วาฬหลังค่อม (Humpback) และวาฬเพชรฆาต (Killer Whale) การล่องเรือชมวาฬใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง (บนเรือมีชุดกันหนาวบริการ) (บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในกรณีที่บริษัทฯ เรือยกเลิกให้บริการอันเนื่องมาจากสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านแวะถ่ายรูปที่ ทะเลสาปมายด์วัทท์ (Myvatn Lake) (ระยะทาง 57 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) ทะเลสาบสีฟ้ากินพื้นที่ราว 37 ตารางกิโลเมตร นับเป็นทะเลสาบที่ใหญ่อันดับที่ 4 ของไอซ์แลนด์ เป็นแอ่งเกิดจากรอยแยกคราฟล่าฟอล์ทที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟรอบๆในอดีตกาล อยู่ในหมู่บ้านเรย์คยาห์โล และยังเป็นแหล่งอุทยานนกน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จนรัฐบาลประกาศให้เป็นเขตสงวนอนุรักษ์นกเลยทีเดียว
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ น้ำตกเดทติฟอสส์ Dettifoss (ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) ซึ่งถือว่า เป็นน้ำตกที่ทรงพลังที่สุดเป็นอันดับสองในยุโรปรองจากน้ำตกไรน์ ที่คงความเป็นธรรมชาติ โดยไม่มีการแต่งเติมสิ่งก่อสร้างใดๆ บริเวณน้ำตกตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Vatnajökull ตื่นตาตื่นใจกับความกว้างของชั้นน้ำตก และความทรงพลังของน้ำตกที่ไหลลงกระทบชะง่อนหินอันเป็นภาพที่สวยเกินคำบรรยาย และสามารถมองเห็นละอองน้ำที่กระเซ็นขึ้นสู่ท้องฟ้านับหลายกิโลเมตรเลยทีเดียว นำท่านเดินทางชมเทือกเขาเนามาฟียาทล์ (Namafj) (ระยะทาง 45 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที) มีลักษณะเป็นเทือกเขาสีส้ม เหลือง เต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือด ซึ่งมีไอน้ำร้อนจัดอยู่เบื้องล่าง เมื่อไอน้ำเคลื่อนที่จะทำให้โคลนที่อยู่ด้านบนพุ่งกระจายขึ้นมาคล้ายการระเบิดย่อยๆ ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่โรงแรมที่พัก (ระยะทาง 159 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Icelandair Hotel Herad **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่หก โจกุลซาลอน - ไดมอนด์บีช - เดินในถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) - วิคค์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง (ระยะทางประมาณ 257 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชม.) นำท่านเที่ยวชมโจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ทะเลสาบธารน้ำแข็ง ซึ่งรู้จักกันเป็นอย่างดีว่าเป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งมากขึ้นๆ ในทุกๆ ปี ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร โดยมีความลึกของน้ำในทะเลสาบถึง 200 เมตร ตื่นตาตื่นใจกับไอซ์เบิร์ก หรือ ภูเขาน้ำแข็งก้อนโตๆ เรียงรายโผล่พ้นพื้นน้ำของทะเลสาบ ยามกระทบแสงแดดก่อให้เกิดสีสันสวยงาม น่าประทับใจยิ่ง นับได้ว่าเป็นภาพธรรมชาติที่มีอยู่เพียงไม่กี่แห่งในโลก พร้อมนำท่านชมและถ่ายรูปภูเขาน้ำแข็งในระยะใกล้ นำท่านเดินทางชมไดมอนด์บีช (Diamond Beach) ชายหาดทรายดำที่ชื่อว่า เปรียดาร์แมร์คูร์ซานดูร์ (Breiðamerkursandur) หาดทรายดำที่ทอดยาวนี้ มักจะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งที่โปร่งแสง เหมือนเป็นประติมากรรมน้ำแข็งขนาดเล็กที่เปล่งประกายภายใต้แสงอาทิตย์ มองดูเหมือนเพชรที่ส่องประกายบนผืนทรายสีดำ โดยนำแข็งที่อยู่บริเวณหาดนี้ เป็นน้ำแข็งที่ไหลออกมาจาก ภูเขาน้ำแข็งที่แตกและไหลลงสู่ โจกุลซาลอน (Jökulsárlón) ละลายอย่างช้าๆ และถูกพัดออกไปในทะเล ที่ก้อนน้ำแข็งเหล่านี้จะถูกซัดโดยคลื่นของมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ก่อนที่จะถูกซัดขึ้นไปบนหาด นี่เป็นเหตุผลที่เปรียดาร์แมร์คูร์ซานดูร์ได้ถูกเรียกอีกชื่อว่า ไดมอนด์บีช เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพ และอิ่มเอมกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น (Pork)
บ่าย นำท่านดินทางข้าชมความสวยงามของประติมากรรมทางธรรมชาติภายในถ้ำน้ำแข็ง (Ice Cave) แห่งวัทนาโจกุล อิสระให้ท่านได้เก็บภาพความสวยงามทางธรรมชาติของถ้ำน้ำแข็งที่เรียกได้ว่าเป็นถ้ำน้ำแข็งที่สวยที่สุดในไอซ์แลนด์และจะเข้าชมได้ในช่วงหน้าหนาวเท่านั้น ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านวิก (Vik) (ระยะทาง 192 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.20 ชม.) หมู่บ้านเล็กๆทางตอนใต้สุดของไอซ์แลนด์
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก (Fish)
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Dyrholaey Hotel *** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่เจ็ด วิคค์ – หาดทรายดำ – พิพิธภัณฑ์สโกการ์ – น้ำตกสโกการ์ฟอสส์ - Golden Circle - อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ - น้ำตกกูลฟอสส์ – น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ - เซลฟอสส์
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านแวะชม หาดทรายสีดำ (Black Beach) ซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ นับเป็นหนึ่งในชายหาดที่แปลกตาและมีความสวยงามที่หนึ่งบนโลก
จากนั้นนำท่านออกเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางด้านใต้ (South Shore) ของไอซ์แลนด์ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องของการค้นพบพลังงานความร้อนใต้พิภพ ซึ่งเป็นพลังงานที่ถูกนำมาใช้ทดแทนเชื้อเพลิงทำให้ประเทศแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองที่ไร้มลพิษ นอกจากนี้พลังงานดังกล่าวยังถูกนำมาใช้ในด้านสาธารณูปโภคอีกด้วย ทัศนียภาพสองข้างแต่งแต้มไปด้วยฟาร์มปศุสัตว์ของชาวนาและฉากหลังเป็นภูเขาไฟเฮกลา (Hekla) ที่มีความสูงถึง 1,491 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลและมีชื่อเสียงที่สุดในไอซ์แลนด์ ผ่านการระเบิดมาแล้วถึง 18 ครั้งและครั้งล่าสุดในปี 2000 นำท่านเดินทางเข้าชมพิพิธภัณฑ์สโกการ์ (Skogar Folk Museum) สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ.1949 สถานที่ซึ่งรวบรวมคอลเลคชั่นโบราณแสดงความเป็นมาและชีวิตความเป็นอยู่ในอดีตของชาวนอร์ดิค ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เป็นคอลเลกชันมรดกทางวัฒนธรรมที่มีโบราณวัตถุ 15,000 ชิ้นจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ 3 แห่งและอาคารประวัติศาสตร์ 6 แห่ง พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านมีเครื่องมือทางการเกษตรและการประมง เรือและอุปกรณ์เดินทะเล สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรี หนังสือและต้นฉบับหายาก ประวัติศาสตร์ธรรมชาติ พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งมีฟาร์มหญ้าแบบดั้งเดิม บ้านฟาร์มหน้าจั่วสมัยศตวรรษที่ 19 บ้านที่สร้างจากไม้ที่พัดมาเกยตื้นจากเรืออับปาง พิพิธภัณฑ์การขนส่งและการสื่อสารจัดแสดงเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงฟาร์มชนบททางชายฝั่งตอนใต้ให้กลายเป็นเครือข่ายชุมชนสมัยใหม่ โดยมีคอลเลกชันตัวอย่างของรถยนต์ รถบรรทุก เครื่องจักรบนทางหลวง โทรคมนาคม วิทยุ และอุปกรณ์ทีมกู้ภัยที่ใช้กันในศตวรรษที่ผ่านมา จากนั้นนำท่านชมน้ำตกสโกการ์ฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls) ความสูง 62 เมตร ประทับใจกับความสวยงามของน้ำตกที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งแผ่กระจายมาจากหน้าผาสูง แรงกระแทกของปลายสายน้ำเกิดเป็นละอองฟุ้งไปทั่วบริเวณ ทำให้หญ้าตระกูลมอสและเฟิร์นเติบโตปกคลุมหินที่เรียงรายริมลำธารเบื้องล่างอย่างสวยงาม โอบล้อมไปด้วยทุ่งลาวา,โตรกผาและหุบเหวเป็นทัศนียภาพที่สวยงามและน่าประทับใจกับผู้ที่มาเยือนไอซ์แลนด์
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย นำท่านเที่ยวชมความมหัศจรรย์เหนือธรรมชาติของประเทศไอซ์แลนด์ ในเส้นทางวงกลมทองคำ หรือ (Golden Circle) สัมผัสทัศนียภาพของทุ่งหญ้าสลับกับทุ่งลาวา ฝูงสัตว์นานาชนิดทั้ง แกะ วัว ม้า ที่เลี้ยงและหากินตามธรรมชาติ นำท่านเข้าชมความงามของธรรมชาติที่สรรสร้างขึ้นภายใน อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) (ระยะทาง 134 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชม.) ซึ่งได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก้ให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Þingvallavatn ซึ่งเป็นทะเลสาบตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ ใกล้กับคาบสมุทรเรกยาเนส (Reykjanes) และภูเขาไฟเฮนกิลล์ Hengill เป็นจุดกำเนิดทางประวัติศาสตร์และทางธรณีวิทยา เพราะเป็นจุดที่มีรอยเลื่อนของโลกเป็นระยะทางหลายหมื่นกิโลเมตร ระหว่างทางแวะชม ร่องรอยปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้วมีน้ำท่วมขังจนเป็นทะเลสาบกว้าง นำท่านเดินทางชมกูลฟอสส์ (Gullfoss) (ระยะทางประมาณ 57 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที) เพื่อชมความงามของ น้ำตกกูลฟอสส์ หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศ และยังเป็น 1 ใน 3 สถานที่ในเส้นทาง “วงแหวนทองคำ” สถานที่ที่ผู้มาเยือนไอซ์แลนด์ไม่ควรพลาด ชื่อน้ำตก Gullfoss นี้มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่าทองคำและ Foss ที่แปลว่าน้ำตก เมื่อรวมกันหมายถึงน้ำตกทองคำ เป็นหนึ่งในความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติระดับโลกที่เกิดจากการละลายของธารน้ำแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร นำท่านชมน้ำพุร้อนธรรมชาติ (Geysir) น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ ที่ใช้กันทั่วโลก น้ำพุร้อนที่นี่พวยพุ่งขึ้นสูงกว่า 180 ฟุต ทุกๆ 7 – 10 นาที พลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้นำประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาตินี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ นำท่านเดินทางสู่เมืองเซลฟอสส์ (Selfoss) (ระยะทางประมาณ 63 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ในโรงแรมที่พัก
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Selfoss Hotel **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่แปด ขับรถสโนว์โมบิล แลงโจกุล – เรคยาวิค - โบสถ์ฮัลลกรีมสคิร์คยา - เพอร์ลัน - บลูลากูน
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
นำท่านสัมผัสประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตกับการนั่งรถจิ๊ปสู่ทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ ให้ท่านได้ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งแลงโจกุล (Langjökull Glacier) บนดินแดนแห่งขั้วโลกเหนือที่อยู่สูงที่สุดของโลก ซึ่งมีความกว้างใหญ่เป็นอันดับ 4 พื้นที่กว่า 596 ตารางกิโลเมตร ตะลุยไปในทุ่งน้ำแข็งกว้างอย่างเต็มอิ่มตลอด 1 ชั่วโมง (ทัวร์มีบริการชุดกันความหนาว, หมวกกันน็อก, ถุงมือ, รองเท้าบู๊ท)
กลางวัน รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเรคยาวิก (Reykjavík) (ระยะทางประมาณ 116 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.) นำท่านชมเมืองเมืองเรคยาวิก (Reykjavík) และถ่ายรูปกับสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองหลวงแห่งไอซ์แลนด์ นำท่านเดินทาง ชมฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ทางศาสนาคริสต์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์ เป็นจุดที่สูงอีกจุดหนึ่งของเมือง โบสถ์นี้มีความสำคัญในฐานะเป็น ศาสนสถานเป็นสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์ของสถาปนิกกุดโยน (Guðjón Samúelsson) ซึ่งเป็นผู้ออกแบบสถาปัตยกรรมแนวอิมพราสชั่นนิสท์ เริ่มสร้างในปี ค.ศ.1945 จนกระทั่งแล้วเสร็จในปี ค.ศ.1986 รวมเวลาก่อสร้างกว่า 38 ปี 1786 จากนั้นนำท่านเดินทาง ชมเพอร์ลัน (Perlan) หรือ The Pearl เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นไว้สำหรับต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองโดยสถาปนิกชื่อดัง อิงกิ มูนดูร์ เป็นผู้ออกแบบ อาคารรูปทรงคล้ายลูกโลกครึ่งวงตั้งอยู่บนฐานที่คล้ายถังน้ำมองเห็นได้ในระยะไกล แบ่งเป็นส่วนต่างๆ เช่น ร้านอาหาร, ร้านไอศกรีม,พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ไวกิ้ง, สวนน้ำ และร้านขายของที่ระลึก นำท่านเดินทางสู่เมืองกรินดาวิก สู่ บลูลากูน (Blue Lagoon) หรือ ทะเลสาบสีฟ้า (ระยะทางประมาณ 47 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.) สถานที่ท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพระดับโลกและโด่งดังที่สุดของประเทศไอซ์แลนด์ นักท่องเที่ยวกว่า 95% ต่างไม่พลาดกับการมาเยือนสถานที่แห่งนี้
อิสระให้ท่านแช่น้ำแร่ธรรมชาติผ่อนคลายไปกับ Stream & Sauna เพื่อการพักผ่อนตามอัธยาศัย
(มีบริการผ้าขนหนูให้ท่าน กรุณาเตรียมชุดว่ายน้ำและหมวกคลุมผมไปด้วยสำหรับการแช่น้ำแร่ในบลูลากูน ***)
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
นำท่านเข้าสู่โรงแรมที่พัก Hotel Keflavik **** หรือเทียบเท่า
หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ท่านสามารถเห็นแสงเหนือได้จากบริเวณโรงแรม
วันที่เก้า เคฟลาวิค - แฟรงก์เฟิร์ต
เช้า รับประทานอาหารเช้าในโรงแรม
05.00 น. นำท่านสู่เดินทางถึงสนามบินเคฟลาวิค (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์
07.20 น. ออกเดินทางสู่สนามบินแฟรงก์เฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี โดยสายการบินไอซ์แลนด์แอร์ เที่ยวบินที่ FI520 (ใช้เวลาบินประมาณ 3.40 ชม.)
13.00 น. เดินทางถึงสนามบินแฟรงก์เฟิร์ต (FRA) ประเทศเยอรมนี นำท่านรับกระเป๋า
16.00 น. นำท่านเชคอิน ณ เคาน์เตอร์เชคอิน สายการบินคอนดอร์ แอร์ไลน์ส
20.10 น. ออกเดินทางสู่กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินคอนดอร์ เที่ยวบินที่ DE2362 (ใช้เวลาบินประมาณ 11.25 ชม.) สายการบินฯ มีบริการ อาหารค่ำ และ อาหารเช้า ระหว่างเที่ยวบินสู่กรุงเทพฯ
วันที่สิบ กรุงเทพมหานคร
12.35 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ (BON VOYAGE)
*****Travel Around the World by Chic Journey****
หมายเหตุ...โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมะสม เนื่องจากสภาพ ลม ,ฟ้า , อากาศ,การล่าช้าอันเนื่องมาจากสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
ราคาทัวร์ 199,900 บาท : 12-21 ก.ย. 68 / 8-17 ตค. 68 / 21-30 ตค. 68 / 1-10 ธ.ค. 68*(ขึ้นกับสภาพอากาศ)
อัตราค่าบริการ |
ก.ย. - ธ.ค. 2568 |
ผู้ใหญ่พัก 2 ท่านต่อห้อง หรือ เด็กอายุมากกว่า 11 ปีบริบูรณ์ พัก 2 ท่านต่อห้อง หรือพัก 3 ท่านต่อห้อง |
199,900 |
พักเดี่ยวเพิ่มท่านละ |
37,000 |
เด็กอายุ 2-11 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่าน เสริมเตียง |
189,900 |
ชั้นธุรกิจเพิ่มเงินจากราคาทัวร์(เฉพาะ DE) เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น) |
100,000 – 170,000 |
ชั้นPremium Eco เพิ่มเงินจากราคาทัวร์(เฉพาะ DE) เริ่มต้นที่ท่านละ (ราคาสามารถยืนยันได้ก็ต่อเมื่อที่นั่ง confirm เท่านั้น) |
35,000-90,000 |
ไม่เอาตั๋วเครื่องบินหักคืน (BKK-FRA-BKK) เที่ยวบิน DE เท่านั้น |
26,000 |
มีวีซ่าเชงเก้นแล้ว หักคืนท่านละ |
4,000 |