ทัวร์กรีนแลนด์ 15-29 ส.ค.68 บิน TG 15วัน 12คืน เที่ยวหมู่เกาะแฟโร เดนมาร์ก ขั้วโลกเหนือ นั่งเรือ RIB BOAT หมู่บ้านบูเออร์ ภูเขาน้ำแข็งเกาะ Disko ล่องเรือชมธารน้ำแข็ง Eqi สิงหาคม 2568:FAROE GREELAND

วันแรกของการเดินทาง(1) : สนามบินสุวรรณภูมิ– โคเปนเฮเก้น

22.30  สมาชิกทุกท่านพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศชั้น 4 โดยมี เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก

วันที่สองของการเดินทาง(2) : โคเปนเฮเกน – หมู่เกาะแฟโร – น้ำตกมูลาฟอสเซอร์-จุดชมวิวซอร์แวงฟยอร์ด – ทอร์สเฮาน์

01.10  เหินฟ้าสู่กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG950
07.40ถึงกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ค หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว นำท่านเช็คอินตั๋วเครื่องบิน เดินทางต่อสู่หมู่เกาะแฟโร
11.00    ออกเดินทางสู่สนามบินวาการ์ โดยสายการบิน สแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เที่ยวบิน SK1777 
12.15   เดินทางถึงสนามบินวาการ์ บนหมู่เกาะแฟโร หลังจากรับกระเป๋าสัมภาระเรียบร้อยแล้ว
_____บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย      หลังอาหารนำท่าน เดินทางสู่หมู่บ้านบูเออร์ (Bour) หมู่บ้านเล็กๆ ซึ่งเป็นที่ตั้งของซอร์แวงฟยอร์ด (Sorvagsfjord) ฟยอร์ดที่มีความสวยงามทางธรรมชาติมากที่สุดอีกแห่งของเกาะแฟโร มีทัศนียภาพสวยงามทั้งเกาะแก่งและโขดหินริมทะเล หมู่บ้านนี้มีบ้านไม้เก่าแก่ที่มีเสน่ห์และโบสถ์แบบดั้งเดิมตั้งแต่ปี ค.ศ.1865 ประทับใจกับทัศนียภาพที่สวยงาม นำท่านถ่ายรูปกับน้ำตกมูลาฟอสเซอร์ (Mulafossur Waterfall) ชมสายน้ำที่พุ่งจากขอบหน้าผาลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติกด้านล่าง ทำให้เป็นสถานที่ ๆ สวยงามน่าประทับใจอีกแห่งหนึ่ง น้ำตกแห่งนี้ที่โดดเด่นที่สุดตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะวาการ์ (Vágar) ซึ่งเป็นหนึ่งใน 18 เกาะใหญ่ที่เป็นหมู่เกาะแฟโร จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่เมืองธอร์สฮาวน์ (Tórshavn) เมืองหลวงของหมู่เกาะแฟโร
ค่ำ   บริการอาหารค่ำในโรงแรมที่พัก
ที่พัก: HOTEL DOUBLETREE BY HILTON TORSHAVN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สามของการเดินทาง(3) : ธอร์สฮาวน์– จุดชมวิวคัลด์บักส์ฟยอร์ดูร์ –น้ำตกฟอสซา-Risin og Kellingin – หมู่บ้านจอร์กฟ – ฟุนนิงเกอร์

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ ‘คัลด์บักส์ฟยอร์ดูร์’ (Kaldbaksfjørður) ฟยอร์ดที่สวยงามแห่งนี้ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่สวยงามบนเกาะสเตรย์มอย จากนั้นเดินทางสู่น้ำตกฟอสซา (Fossa Waterfall) เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดในหมู่เกาะแฟโร ‘Fossa’ ซึ่งแปลว่า “แม่น้ำที่มีน้ำตก” อาจเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแฟโร ประกอบด้วยน้ำตก 2 ชั้นที่มีความสูงรวมกันประมาณ 140 เมตร ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะสเตรย์มอย เกาะเดียวกับเมืองหลวงทอร์สเฮาน์ น้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ซุนดาลากิด  สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันงดงามของน้ำตกได้แม้ว่าจะอยู่ไกลก็ตาม น้ำตกฟอสซาโดดเด่นเป็นพิเศษคือความแตกต่างระหว่างน้ำสีขาวกับผนังหินบะซอลต์สีเข้ม จากนั้นเดินทางสู่หน้าผาสูงชันริมทะเล เรียกว่า ‘เอดิสคอลลูร์’ (Eiðiskollur) เข้าสู่จุดชมวิว ‘Risin og Kellingin’ ซึ่งเป็นกองหินกลางทะเลคู่หนึ่งที่มีชื่อเสียงในหมู่เกาะแฟโร แนวหินบะซอลต์เหล่านี้ทอดตัวอยู่นอกชายฝั่งของเกาะเอสทูรอย (Eysturoy) เสาหิน Risin สูงจากมหาสมุทร 71 เมตร และ เสาหิน Kellingin สูง 69 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ตำนานเล่าว่าทั้งสองคือยักษ์โทรล์ที่เดินทางจากไอซ์แลนด์ไปยังแฟโรเพื่อจะลากเกาะแฟโรกลับคืนสู่ไอซ์แลนด์ แต่ล้มเหลว และเมื่อแสงแรกส่องมายังพวกเขาในตอนเช้า มันก็ทำให้พวกเขากลายเป็นหิน และพวกเขาก็ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา...จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้าน ‘จอร์กฟ’ (Gjogv) เป็นหมู่บ้านทางเหนือสุดบนเกาะเอสทูรอย ในหมู่เกาะแฟโรที่ไม่น่าเชื่อ ชุมชนนี้ตั้งอยู่ที่ปลายหุบเขาลึก หมู่บ้านนี้มีชื่อมาจากหุบเขาที่สวยงามยาว 200 เมตร ช่องเขาที่ล้อมเต็มไปด้วยทะเลในหมู่บ้านได้ถูกนำมาใช้เป็นท่าเรือธรรมชาติมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ ชมทิวทัศน์ที่สวยงามของฝั่งตะวันตกของเกาะคัลซอย 
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   หลังอาหารเดินทาง ไปถนนที่คดเคี้ยวเลื่อนลงมาตามไหล่เขาจากภูเขาที่สูงที่สุด ‘สเลตตาราตินดู’ (Slættaratindur) ซึ่งสูงขึ้นไป 880 เมตร สู่ จุดชมวิวฟุนนิงเกอร์ (Funningur) ลงสู่หุบเขาอันเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านที่เงียบสงบบนเกาะเอสทูรอย ชุมชนฟุนนิงเกอร์ นี้ตั้งอยู่ที่เชิงเขาสเลตตาราตินดู ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในหมู่เกาะแฟโร มีโบสถ์ไม้และโบสถ์หลังคาหญ้าแบบดั้งเดิมที่สวยงามในหมู่บ้าน ลำธารอันเงียบสงบไหลผ่านหมู่บ้านและทิวทัศน์อันงดงาม จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองธอร์ฮาวน์ เมืองที่ได้รับการตั้งชื่อเมืองตาม ‘ธอร์’ เทพเจ้าแห่งสภาพอากาศ ความแข็งแกร่ง และการเติบโตในตำนานนอร์ส เมืองธอร์สฮาวน์ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของสเตรย์มอยซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด ในบรรดาเกาะ 18 เกาะที่ประกอบกันเป็นหมู่เกาะแฟโร เดินเล่นชมโครงสร้างที่มีเสน่ห์นี้มีอายุย้อนกลับไปถึงยุคไวกิ้ง อิสระเดินเล่นระหว่างบ้านสีแดงซึ่งส่วนใหญ่ปกคลุมไปด้วยหญ้าบนหลังคา  ซึ่งบ้านส่วนใหญ่จะทาสีดำและมีหลังคามุงด้วยหญ้าที่ ทิงกาเนส (Tinganes) ศูนย์กลางประวัติศาสตร์และเป็นส่วนที่เก่าแก่ที่สุดของเมือง ดื่มด่ำกับบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์ชมเมืองเทพเจ้าธอร์ตามอัธยาศัย
ค่ำ      บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก: HOTEL DOUBLETREE BY HILTON TORSHAVN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สี่ของการเดินทาง(4) : ธอร์สฮาวน์ – เกาะไมกิเนส – ประภาคารมิกิเนสฮอลเมอร์-โทรลล์โคนูฟิงเกอร์ – จุดชมวิวเทรลานิปา

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ท่าเรือเซอร์วากูร์ จากนั้นนั่งเรือเฟอร์รี่สู่เกาะไมกิเนส (Mykines) ชมทิวทัศน์อันงดงามของวาการ์และไมคิเนสตลอดทาง เกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่ของนกพัฟฟินหลายพันตัว และมีทัศนียภาพอันงดงามและธรรมชาติอันน่าทึ่ง ของภูเขาคนูเกอร์ (Knúkur) เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของเกาะซึ่งมีความสูงถึง 560 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เข้าสู่หมู่บ้านไมกินส์ หมู่บ้านเดียวบนเกาะที่มีชื่อเดียวกัน เป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สวยงามและมีสีสัน แม้ว่าในหมู่บ้านจะมีบ้านมากกว่า 40 หลัง แต่มีผู้อยู่อาศัยถาวรเพียงประมาณ 15 หลังเท่านั้น (*** หมายเหตุ เกาะไมกิเนส ไม่มีถนน สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะต้องใช้การเดินเท่านั้น) นำท่านชมนกพัฟฟินบนเกาะไมกินส์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาณานิคมนกพัฟฟินที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะแฟโร นกที่มีเสน่ห์เหล่านี้มีจะงอยปากสีสันสดใสโดดเด่นทำรังอยู่บนหน้าผาและโขดหินรอบๆ เกาะ นอกจากนี้ เกาะแห่งนี้ยังเป็นที่อยู่อาศัยของนกทะเลสายพันธุ์อื่นๆ อีกมากมาย เช่น นกกิลเลอมอต นกเรซอร์บิล นกฟูลมาร์ ปลายแหลมฝั่งตะวันตกเป็นที่ตั้งของประภาคารไมกิเนสฮอลเมอร์ (Mykineshólmur) ซึ่งเชื่อมต่อกับเกาะด้วยสะพานคนเดิน ประภาคารแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1909 และยังคงนำทางเรือได้อย่างปลอดภัยผ่านน่านน้ำที่อันตรายนอกมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ชมอนุสาวรีย์ที่สร้างขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 เพื่อรำลึกถึงคนในท้องถิ่นที่เสียชีวิตบนภูเขาไมกิเนส หรือผู้ที่จมน้ำตายในทะเล ตั้งอยู่บริเวณเนินเขาเหนือหมู่บ้าน ใกล้กับจุดชมวิว ซึ่งมองเห็นทิวทัศน์อันงดงาม สมควรแก่เวลาเดินทางกลับสู่ท่าเรือไมกิเนส นั่งเรือกลับสู่ท่าเรือวากูร์
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นเดินทางสู่จุดชมวิว Witches Finger  หรือ ‘โทรลล์โคนูฟิงเกอร์’ (Trøllkonufingur) ซึ่งหมายถึงนิ้วของหญิงสาวโทรลล์ เป็นเสาหินสูง 313 เมตร (1,026 ฟุต) ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่บ้านซานดาวากูร์ (Sandavágur) โทรลล์โคนูฟิงเกอร์  หมายถึงนิ้วของแม่มดหรือนิ้วของหญิงสาวโทรลล์ เป็นหินใหญ่ก้อนเดียวที่มีความสูง 313 เมตร  หลังอาหารเดินทาง จากนั้นเดินทางสู่จุดชมวิว “เทรลานิปา” (Trælanípa)(เดินHiking ทางราบ 1 ชม.) เป็นหน้าผาตั้งฉากบนเกาะวาการ์ สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่เกาะแฟโร การยืนอยู่ที่จุดชมวิวนี้จะทำให้ทะเลสาบดูราวกับลอยอยู่เหนือมหาสมุทรแอตแลนติก ทิวทัศน์ที่เทรลานิปาเป็นหนึ่งในสถานที่โปรดของนักเดินทางในหมู่เกาะแฟโร จากนั้นเดินทางกลับสู่เมืองธอร์ฮาวน์
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก: DOUBLETREE BY HILTON, HAFNIA HOTEL / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่ห้าของการเดินทาง(5) : นั่งเรือ RIB BOAT สู่เกาะเฮสตูร์ – ถ้ำทะเล Klæmintsgjógv- เคิร์กยูเบอร์ – หมู่บ้านซัคซุน – ล่องเรือดินเนอร์ ‘นอร์ดลิซิด’

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
หลังอาหารเดินทางสู่ท่าเรือเฟอร์รี่กัมลาเอตต์ (Gamlarætt Ferry Port) จากนั้นนำท่านนั่งเรือ RIB BOAT สู่เกาะเฮสตูร์ผ่านหน้าผาซึ่งมีนกพัฟฟินและนกที่น่าทึ่งอื่นๆ ที่อาศัยอยู่ตามหน้าผาขนาดใหญ่ ล่องเรือรอบเกาะชมทัศนียภาพที่แปลกตา เรือเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้หน้านกที่อยู่ใต้หน้าผา Loftið ซึ่งมีกำแพงแนวตั้งสูงประมาณ 1,200 ฟุตให้มากที่สุด เกาะเฮสตูร์ เป็นที่อาศัยของกิลเลอมอต นกพัฟฟิน ฟูลมาร์ และอีเดอร์ และยังมีถ้ำที่อาศัยของแมวน้ำอยู่สองสามแห่ง  และหากสภาพอากาศเอื้ออำนวย เรือจะล่องเข้าไปในถ้ำหินบะซอลต์ขนาดใหญ่ เช่น Alvagjogv และ Klæmintsgjogv ด้วย ทิศทางกระแสน้ำและลมเป็นตัวกำหนดทิศทางที่เราล่องเรือรอบเกาะ Klæmintsgjogv เป็นถ้ำทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตั้งอยู่ในหมู่เกาะแฟโร ถ้ำแห่งนี้มีขนาด 348,000 ลูกบาศก์เมตร ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะเฮสตูร์ (Hestur) จากนั้นเดินทางกลับท่าเรือกัมลาเอตต์ https://www.rib62.com/
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย  หลังอาหารเดินทางสู่หมู่บ้าน เคิร์กยูเบอร์ (Kirkjubøar) ถือเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดในหมู่เกาะแฟโร เนื่องจากเป็นบ้านเกิดของ โจนเนส ปาตูร์สสัน (Jóannes Patursson) ผู้นำขบวนการเรียกร้องเอกราชในศตวรรษที่ 20 ในหมู่เกาะแฟโร หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะสเตรย์มอย นอกจากนี้ยังมีบ้านไม้ที่อายุเก่าแก่ที่สุดซึ่งสร้างตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชมโบสถ์หินโบราณที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับนักบุญโอลาฟ (โอลาฟสคิร์กยัน) ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้จนถึงปัจจุบัน ชมซากปรักหักพังของมหาวิหารแมกนัส (Magnus Cathedral) และบ้านไม้ซุงเก่าแก่ บ้านส่วนใหญ่ในหมู่บ้านทาสีดำและมีหลังคาหญ้าซึ่งช่วยเพิ่มบรรยากาศ จากนั้นเดินทางสู่หมู่บ้านซัคซุน (Saksun) หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกลบนเกาะสเตรย์มอย หมู่บ้านนี้มีชื่อเสียงในด้านสถานที่ตั้งอันเป็นเอกลักษณ์ซึ่งอยู่เหนือทะเลสาบ และภูเขาที่นี่น่าทึ่งมาก และน้ำตกหลายแห่งก็เช่นกัน ประทับใจกับทัศนียภาพอันงดงามของทะเลสาบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาสูงชัน หมู่บ้านนี้มีโบสถ์สีขาวบริสุทธิ์และที่มีหลังคาหญ้า ซึ่งมีคนอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเพียง 11 คนเท่านั้น สมควรแก่เวลาเดินทางกลับ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ที่พัก: DOUBLETREE BY HILTON, HAFNIA HOTEL / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่หกของการเดินทาง(6) : สนามบินวาการ์ – โคเปนเฮเกน – ชมเมือง

เช้า     บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นเดินทางเข้าสู่สนามบินวาการ์ (รับประทานอาหารกลางวันบนเครื่องบิน)
10.00เดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเกน โดยสายการบิน ......   
13.00  เดินทางถึง สนามบินโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของประเทศเดนมาร์ค
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้นนำท่านถ่ายรูปคู่กับ “เงือกน้อยลิตเติ้ลเมอร์เมด” (Little Mermaid) สัญลักษณ์ของเมือง ชม “น้ำพุเกฟิออน” (Gefion Fountain) เทพธิดาผู้เสียสละกับบุตรชายที่ร่วมสร้างเกาะซีแลนด์ ประเทศเดนมาร์กขึ้นมา รูปปั้นบรอนซ์นี้ได้รับเงินสนับสนุนค่าก่อสร้างจากบริษัทคาร์ลเบิร์ก เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของบริษัท ชม “จตุรัสพระราชวังอามาเลียนบอร์ก”(Amalienborg Palace) ที่ประทับในฤดูหนาวของราชวงศ์แห่ง เดนมาร์ก เก็บภาพทหารรักษาพระองค์ ในชุดเครื่องแบบที่งดงาม เดินทางสู่ ย่าน นูฮาวน์ (Nyhavn) เป็นย่านริมน้ำ คลอง และสถานบันเทิงสมัยศตวรรษที่ 17 ในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ทอดยาวจาก Kongens Nytorv ไปจนถึงหน้าท่าเรือทางตอนใต้ของ Royal Playhouse เรียงรายไปด้วยทาวน์เฮาส์และบาร์ คาเฟ่ และร้านอาหารสีสันสดใสสมัยศตวรรษที่ 17 และต้นศตวรรษที่ 18 อาจกล่าวได้ว่า Nyhavn ถือเป็นส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณทางวัฒนธรรมของโคเปนเฮเกน และกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีผู้เยี่ยมชมมากที่สุดในของเดนมาร์ก
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารไทย
ที่พัก: HOTEL SCANDIC COPENHAGEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่เจ็ดของการเดินทาง(7) : โคเปนเฮเก้น - นุค(กรีนแลนด์)  

เช้า     บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม / เดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเก้น
10.45 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน Air Greenland โดยเที่ยวบินที่..... สู่ เมืองนุก (Nuuk) 
12.35 น. เดินทางถึง เมืองนุก (Nuuk)
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
เมืองนุก (Nuuk) เมืองหลวงของประเทศมีประชากรอยู่อาศัย 17,000 เมืองนี้มีความเจริญเทียบเท่าเมืองในยุโรป มีมหาวิทยาลัยกรีนแลนด์ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ สนามกีฬาทั้งในกลางแจ้งและในร่ม ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรม หอสมุดแห่งชาติกรีนแลนด์ และพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ ห้างสรรพสินค้าอันทันสมัย และยังเป็นที่ตั้งของรัฐสภาและที่ทำการของรัฐบาลอีกด้วยชม ย่าน Old Colonial Harbour ซึ่งรอบ ๆ มีบ้านเรือนแบบดั้งเดิมตั้งแต่ยุค 50S-70S
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้าน Killut – Café & Grønlandske Specialiteter
ที่พัก: Hotel Hans Egdge / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่แปดของการเดินทาง(8) : นุค – อิลลูลิแซท – ชมเมือง – ล่องเรือชมอ่าวดิสโก้

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
......  เหินฟ้าสู่เมืองอิลลูลิแซท โดยสายการบิน Air Greenland เที่ยวบินที่ .....
......  ถึงสนามบินอิลลูลิแซท
นำท่านชมเมืองอิลลูลิแซท (Ilulissat) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในทำเลดีที่สุดในกรีนแลนด์ ชื่อนี้หมายถึง “ภูเขาน้ำแข็ง” ในภาษากรีนแลนด์ และชื่อเล่นของเมืองนี้ก็คือ “เมืองหลวงแห่งภูเขาน้ำแข็ง” ในอ่าวดิสโก้ซึ่งตั้งอยู่นอกชายฝั่งของอิลลูลิแซท ซึ่งมีภูเขาน้ำแข็งขนาดมหึมาลอยอยู่ในน้ำที่เย็นจัดภูเขาน้ำแข็งเหล่านี้มาจากฟยอร์ดน้ำแข็ง ซึ่งอยู่ห่างจากอิลลูลิสแซทไปทางใต้ โครงสร้างน้ำแข็งที่น่าประทับใจเหล่านี้ถือกำเนิดขึ้นลึกเข้าไปในฟยอร์ดประมาณ 65 กิโลเมตร โดยธารน้ำแข็งเซอร์เมค คูจาเลก (Sermeq Kujalleq) ขนาดมหึมา ในปี 2004 
Ilulissat Icefjord ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO เนื่องจากมีความงดงามทางธรรมชาติเป็นพิเศษและมีความสำคัญต่อการศึกษาธารน้ำแข็ง ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้มาเยือนกรีนแลนด์ ในช่วงกว่า 250 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่การก่อตั้งอิลลูลิสซัต เมืองนี้ก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ ปัจจุบัน อิลลูลิสแซทเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของกรีนแลนด์
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   นำท่าน ล่องเรือเล็กไปยังฟยอร์ดน้ำแข็ง Disko Bay Cruise ใกล้กับอิลูลิสซัต การเดินทางใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงและเป็นโอกาสในการชมทิวทัศน์ที่แกะสลักน้ำแข็งอันน่าทึ่งอย่างใกล้ชิด อิลูลิสซัตตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สวยงามบริเวณปากของฟยอร์ดน้ำแข็งยาว 65 กิโลเมตร ซึ่งเต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่จากธารน้ำแข็งที่มีผลผลิตมากที่สุดในซีกโลกเหนือซึ่งก็คือ เซอร์เมก คูจัลเลก เมืองนี้ตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่เป็นเนินเขา ซึ่งทำให้คนในเมืองส่วนใหญ่สามารถชมวิวอ่าวดิสโกอันสวยงามได้ ซึ่งภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่จากฟยอร์ดน้ำแข็งลอยลงสู่ทะเล ฟยอร์ดน้ำแข็งอิลูลิสซัต หรือที่เรียกอีกอย่างว่าคังเกีย มีจำนวนภูเขาน้ำแข็งหนาแน่นที่สุดในกรีนแลนด์ทั้งหมด เพลิดเพลินไปกับทัวร์ล่องเรือท่ามกลางภูเขาน้ำแข็งขนาดใหญ่ การล่องเรือครั้งนี้เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาและเป็นประสบการณ์ทางธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมที่ท่านจะจดจำไปอีกนานเท่านาน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: HOTEL BEST WESTERN PLUS, ILULISSAT หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

วันที่เก้าของการเดินทาง(9) : อิลลูลิแซท – เรือล่องชมธารน้ำแข็งอีกิ (Eqi Glacier)(Hilight)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านลงเรือล่องชมธารน้ำแข็งอีกิ (EqiGlacier) ที่น่าทึ่งขนาดมหึมา ซึ่งเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่แตกตัวได้มากที่สุดในช่วงฤดูร้อน ในกรีนแลนด์ นำท่านนั่งเรือเร็ว มีเวลาเพลิดเพลินกับการเดินทางและธารน้ำแข็ง เข้าใกล้ธารน้ำแข็งอีกิ อย่างใกล้ชิดเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก กำแพงน้ำแข็งกว้าง 4 กิโลเมตรและสูง 200 เมตรตั้งตระหง่านอยู่ระหว่างภูเขาบนชายฝั่งกรีนแลนด์ที่สวยงาม ทุกท่านสามารถได้ยินและมองเห็นธารน้ำแข็งที่ละลายตัวได้ขนาดใหญ่จากระยะไกล ขณะที่น้ำแข็งก้อนใหญ่แตกตัวและตกลงสู่ผิวน้ำ ธารน้ำแข็ง Eqi หรือที่เรียกอีกอย่างว่า Eqip Sermia ในกรีนแลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากเมือง Ilulissat ไปทางเหนือ 70 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในธารน้ำแข็งที่ละลายตัวได้ที่ใหญ่ที่สุดในกรีนแลนด์ จากที่นี่ คุณสามารถเข้าถึงแผ่นน้ำแข็งได้ง่าย ซึ่งเป็นสาเหตุที่นักสำรวจขั้วโลกกลุ่มแรกๆ ในกรีนแลนด์ใช้แผ่นน้ำแข็งนี้ในการศึกษาแผ่นน้ำแข็ง ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ระยะทางจากจุดที่เราสามารถชมธารน้ำแข็งยังแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำแข็งที่แตกออกจากแนวธารน้ำแข็ง โดยปกติแล้วเราจะอยู่ห่างจากธารน้ำแข็งไม่เกิน 2-3 กิโลเมตร ไม่ว่าระยะทางที่แน่นอนไปยังธารน้ำแข็งหรือระยะเวลาการเข้าพักจะเป็นเท่าไร การได้เห็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ก็เป็นประสบการณ์ที่น่าทึ่ง ในระหว่างทัวร์ ไกด์ผู้มีประสบการณ์จะอธิบายเกี่ยวกับธรรมชาติที่เราผ่าน ธารน้ำแข็ง และประวัติศาสตร์วัฒนธรรมของพื้นที่ หากเราโชคดี เราอาจได้เห็นปลาวาฬ ตัวระหว่างทางไปหรือกลับจากธารน้ำแข็ง และมั่นใจได้ 99% ว่าเราจะได้เห็นภูเขาน้ำแข็งมากมายจาก llulissat Icefjord ระหว่างทาง
เที่ยง  บริการอาหารกลางวันในเรือ รวมกาแฟ ชา น้ำดื่ม
จากนั้นนำท่านกลับเข้าสู่ฝั่ง อิสระเดินเล่นชมบ้านเรือนหลากสีที่ตั้งอยู่บนเนินเขาริมชายฝั่งทะเล ซึ่งในบริเวณแถบนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแล้ว มีเวลาให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอย่างเต็มที่ หรือเลือกซื้อสินค้าที่ระลึกตามอัธยาศัย 
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: HOTEL BEST WESTERN PLUS, ILULISSAT หรือที่พักระดับใกล้เคียง 

วันที่สิบของการเดินทาง(10) : อิลลูลิแซท – จุดประวัติศาสตร์เซอเมอร์มิอูท – นุค

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่จุดประวัติศาสตร์เซอเมอร์มิอูท (Sermermiut settlement walk)ในบริเวณนี้เป็นที่อยู่อาศัยของชาวอินูอิค (Inuit) (ชาวพื้นเมืองกรีนแลนด์) อยู่อาศัยมากว่า 4,000 ปี ปัจจุบันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้านแหล่งโบราณคดีทางมนุษย์วิทยาและวัฒนธรรมโบราณยุคหิน ณ จุดนี้ท่านจะได้ชมความสวยงามของธารน้ำแข็งอิลลูลิสแซท ไอซ์ฟยอร์ด (Ilulissat Icefjord) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “เซอร์เมค คูจาเลก” เป็นธารน้ำแข็งที่เคลื่อนตัวไวมากประมาณ 40 เมตร ใน 1 วัน มีขนาดกว้าง 6 กม. และยาวถึง 45 กม.
เที่ยง  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
…..  ออกเดินทางโดยสายการบิน Air Greenland โดยเที่ยวบินที่..... สู่ เมืองนุก (Nuuk) 
…..  เดินทางถึง เมืองนุก (Nuuk)
ค่ำ   รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
ที่พัก: Hotel Hans Egdge / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบเอ็ดของการเดินทาง(11) : นุก(เมืองหลวง) – กิจกรรมล่องเรือชมภูเขาน้ำแข็งและชมปลาวาฬ – หมู่บ้านร้าง Qoornoq

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
นำท่านร่วมกิจกรรมล่องเรือ “Qoornoq” ชมภูมิทัศน์อันงดงามของผืนแผ่นน้ำแข็งกรีนแลนด์ที่เป็นทั้งภูเขาสูง และการเคลื่อนตัวของธารน้ำแข็งที่ยิ่งใหญ่ก่อให้เกิดฟยอร์ดตามแนวชายฝั่งทะเล ตื่นตาตื่นใจกับวิวทิวทัศน์อันงดงามตระการตาของ ธารน้ำแข็ง Narsap Sermia ให้ท่านได้เก็บภาพ วาฬและโลมา รวมถึงสัตว์น้ำและนกน้ำนานาชนิด
เที่ยง  รับประทานอาหารเที่ยงแบบกล่องบนเรือ (Sandwich)
แวะชม หมู่บ้านร้าง Qoornoq ที่ๆเคยเป็นหมู่บ้านชาวประมงมาก่อนแต่รัฐบาลกลางได้ขอให้ประชาชนอพยพออกไปที่เมือง Nuuk เนื่องจากการดูแลจากส่วนกลางที่ทำได้ลำบาก ปัจจุบันจึงกลายเป็นเมืองร้าง จะมีเฉพาะนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาเที่ยว หรืออดีตเจ้าของบ้านอาจจะกลับมาพักอาศัยชั่วคราวในช่วงฤดูร้อน
ค่ำ      รับประทานอาหารค่ำ ณ ร้าน Killut – Café & Grønlandske Specialiteter
ที่พัก: Hotel Hans Egdge / หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบสองของการเดินทาง(12) : นุค – โคเปนเฮเก้น

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
......... หลังอาหารเดินทางสู่สนามบินนุค
12.10 ออกเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเกน โดยสายการบิน.....
19.40 เดินทางถึงสนามบินโคเปนเฮเกน / นำท่านเข้าสู่ที่พัก
ค่ำ     บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: HOTEL SCANDIC COPENHAGEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบสามของการเดินทาง(13):  โคเปนเฮเก้น – ล่องเรือชมเมือง – ช้อปปิ้ง

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรมที่พัก
จากนั้นนำท่านล่องเรือ ชมกรุงโคเปนเฮเกนจากผืนน้ำไปกับทัวร์คลอง บนเรือคลาสสิคผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอันเป็นเอกลักษณ์และคลองแคบๆ เช่น นางเงือกน้อยที่มีชื่อเสียง ปราสาทอามาเลียนบอร์กอันยิ่งใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของราชวงศ์ และโรงละครโอเปร่าที่สวยงาม ดื่มด่ำกับความงามและประวัติศาสตร์ของเมืองขณะที่ล่องเรือผ่านท่าเรือประวัติศาสตร์และลำคลองแคบๆ ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิและตลอดฤดูร้อน ชมสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมและอัญมณีที่ซ่อนอยู่กลางเมือง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำคณะเที่ยวชมเมืองผ่านจัตุรัสซิตี้ ฮอลล์ อาคารเทศบาลเมืองเก่า เขตย่านใจกลางเมือง จากนั้นอิสระทุกท่านเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าราคาพิเศษในย่านถนนสตรอยก์ (Stroget Street) ถนนคนเดินที่พลุกพล่านที่สุดของประเทศ เต็มไปด้วยร้านค้า ร้านกาแฟ ร้านอาหาร มากมาย และในบริเวณจัตุรัสเล็กๆบนถนนเส้นนี้จะมีศิลปินอิสระมาแสดงผลงานกันมากมายให้ท่านได้ อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัย
ค่ำ  บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ที่พัก: HOTEL SCANDIC COPENHAGEN หรือที่พักระดับใกล้เคียง

วันที่สิบสี่ของการเดินทาง(14) : โคเปนเฮเก้น – เดินทางกลับ

เช้า   บริการอาหารมื้อเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังอาหารเดินทางสู่สนามบินโคเปนเฮเก้น มีเวลาให้ท่านทำคืนภาษีก่อนเดินทางกลับ
14.25  เดินทางกลับสู่สนามบินสุวรรณภูมิโดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG951

วันที่สิบห้าของการเดินทาง(15)สนามบินสุวรรณภูมิ

06.00เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ