เทศกาลดอกทิวลิป Keukenhof 2026 เยอรมัน เนเธอแลนด์ เบลเยี่ยม ฝรั่งเศส 8วัน 5คืน เดินทาง มีนาคม - พฤษภาคม 2569 | สายการบิน Emirates (EK)

Tulip Keukenhof  Benelux

โปรแกรมการเดินทาง

วันที่หนึ่ง  ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

17.00 น.  พร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย อาคารผู้โดยสารระ หว่างประเทศขาออกชั้น 4 เคาน์เตอร์ สายการบิน EMIRATES (EK) โดยมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกด้านเอกสาร

20.45 น.  นำท่านเดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน โดยสายการบิน EMIRATES (EK)  เที่ยวบินที่ EK373

วันที่สอง  ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง – ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน - เมืองแฟรงก์เฟิร์ต - เมืองเก่า - จัตุรัสโรเมอร์ – มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต – เมืองโคโลญ – มหาวิหารโคโลญ – สะพานโฮเอินซอลเลิร์น – เมืองดุสเซลดอร์ฟ                                                                              

01.00 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

03.20 น.  นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน เที่ยวบินที่ EK043

07.35 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงก์เฟิร์ต  ประเทศเยอรมัน นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการทางศุลกากร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง) และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้วนำท่านขึ้นรถโค้ชปรับอากาศ เดินทางสู่ เมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) (ระยะทาง 14 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีความเจริญและทันสมัยสมกับเป็นศูนย์กลางของทั้งการบินและเศรษฐกิจ มนต์เสน่ห์แห่งกาลเวลาและสถาปัตยกรรมเมืองเก่า (Old Town) สัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องดื่ม เพลง หรือเทศกาล ชมจุดต่างๆ เริ่มที่ จัตุรัสโรเมอร์ (Romerberg) เป็นจัตุรัสที่คงความงามของสถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 14-15 มีน้ำพุสวยงามอยู่ตรงกลางของจัตุรัส เป็นที่รู้จักในนามน้ำพุแห่งความยุติธรรม มหาวิหารแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt Cathedral) หนึ่งในสัญลักษณ์ความสามัคคี มีลักษณะทรงสูงใช้สีน้ำตาลแดง ความสูงถึงยอดประมาณ 95 เมตร 

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่1) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองโคโลญ (Cologne) (ระยะทาง 191 กม. / 2.45 ชม.) เป็นเมืองที่มีชื่อเสียงเป็นอันดับที่สี่ของประเทศเยอรมนรองจากเมืองเบอร์ลิน แฮมเบิร์ก และมิวนิค พาท่านเดินทางเพื่อเก็บภาพสถานที่ต่างๆ เริ่มต้นที่ มหาวิหารโคโลญ (Cologne Cathedral) มหาวิหารแห่งพลังศรัทธาด้วยสถาปัตยกรรมแบบโกธิก โดดเด่นด้วยหอคอยคู่ความสูง 157 เมตร ที่ตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์คแห่งเมืองโคโลญคู่กับ สะพานโฮเอินซอลเลิร์น (Hohenzollern Bridge) เป็นสะพานประจำเมืองโคโลญคู่กับมหาวิหารโคโลญและเป็นสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ โดยบริเวณรั้วที่กั้นระหว่างทางเดินและทางรถไฟเป็นบริเวณที่นักท่องเที่ยวนิยมมาคล้องกุญแจแห่งความรัก

เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่2)

จากนั้นเดินทางสู่เมืองดัสเซลคอร์ฟ (Dusseldorf) (ระยะทาง 41 กม. / 45 นาที) ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำไรน์ทางตะวันตกของเยอรมนี

ที่พัก : NH Dusseldorf City หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่สาม  เมืองดัสเซลคอร์ฟ - เมืองกีธูรน์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ – ล่องเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น - หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ – โรงงานทำรองเท้าไม้ – โรงงานทำชีส – เมืองอัมสเตอร์ดัม – เมืองอัลเมเรอ                

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่3)

เดินทางสู่ เมืองกีธูร์น (Giethoorn) ประเทศเนเธอร์แลนด์  (ระยะทาง 221 กม. / 3.15 ชม.) หมู่บ้านเงียบสลบที่มีทัศนียภาพอันงดงามของบ้านเรือนที่ตั้งอยู่ริมคลอง และการเดินทางที่ใช้เรือเป็นหลัก จากนั้นนำท่านนั่งเรือชมหมู่บ้านกีธูร์น (ใช้ระยะเวลาโดยประมาน 1 ชม.) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือ) หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ได้รับการกล่าวขานว่าเป็น เวนิสเนเธอร์แลนด์ (Venice of the Netherlands) ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ผู้คนใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ไม่มีเส้นทางการเดินรถ เน้นเดินทางโดยเรือ และให้ท่านล่องเรือชมวิวสวยๆ ภายในหมู่บ้านท่ามกลางอากาศดีๆ

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่4) 

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านกังหันลมซานส์สคันส์ (Zaanse  Schans) (ระยะทาง 132 กม. / 2 ชม.)  แลนด์มาร์คที่มีกังหันลมนับร้อย ปัจจุบันหมู่บ้านแห่งนี้ได้ถูกจัดตั้งเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านขายของที่ระลึก และศูนย์ฝึกอบรม ให้ท่านเยี่ยมชมสถานที่สำคัญในหมู่บ้าน นำท่านเก็บภาพความประทับใจกับ World of wild mills กังหันลมนับร้อยแห่งที่อยู่รอบๆ หมู่บ้าน และความสวยงามสไตล์วินเทจ ของบ้านเรือนแบบดั้งเดิมของฮอลแลนด์ และยังสามารถขึ้นไปชมวิวได้แบบพาโนรามา รับลมเย็นๆ ชมวิวแสนโรแมนติก มีทุ่งหญ้าสีเขียวสดตั้งริมแม่น้ำกว้างสุดสายตา

เข้าชม โรงงานทำรองเท้าไม้  (Wooden shoe workshop) ในสมัยก่อนรองเท้าเป็นสิ่งที่หายาก แพง เป็นของสำหรับคนมีฐานะ ชาวนาผู้ห่างไกลความเจริญจึงต้องสร้างรองเท้าขึ้นมาเอง โดยทำมาจากไม้ที่พิเศษที่สามารถกันน้ำได้เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่ของเนเธอร์แลนด์เป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งที่น้ำท่วมถึง ท่านสามารถซื้อรองเท้าไม้สีสันสดใสเป็นของฝากได้ โรงงานทำชีส (Catharina Hoeve Cheese) โรงงานมีการสาธิตการทำชีส ฟังบรรยายทุกขั้นตอน นำท่านเดินชมแต่ละจุดพร้อมชิมชีสที่มีหลายชนิดรสชาติที่แตกต่างกันไปและสามารถซื้อเป็นของฝากได้

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 22 กม. / 30 นาที) เป็นเมืองหลวงของประเทศ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ Amstel ซึ่งที่มาของชื่อเมืองนั้นมาจากการรวมชื่อของแม่น้ำเข้ากับคำว่า “Dam” ที่แปลว่าเขื่อนจนกลายมาเป็น Amsterdam

เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่5)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองอัลเมเรอ (Almere) (ระยะทาง 35 กม. / 45 นาที) เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนเหมาะแก่การพักผ่อน

ที่พัก : Leonardo Hotel Almere City Center (former Apollo) หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

วันที่สี่  เมืองอัลเมเรอ - เมืองลิซเซ่ – สวนเคอเคนฮอฟ – เมืองอัมสเตอร์ดัม – โรงงานเพชร – ล่องเรือท่องเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม - โบสถ์ New church – พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม – จัตุรัสดัมสแควร์ – เมืองอัลเมเรอ     

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่6)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองลิซเซ่ (Lisse) (ระยะทาง 62 กม. / 1 ชม.) เมืองสวรรค์แห่งดอกทิวลิปในเนเธอร์แลนด์ เยี่ยมชมความสวยงามของ สวนเคอเคนฮอฟ (Keukenhof Garden) หรือที่รู้จักกันในนาม สวนดอกไม้แห่งยุโรป เป็นหนึ่งในสวนดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สวนดอกไม้บนเนื้อที่กว่า 200 ไร่ แห่งนี้ดึงดูดให้ผู้คนจากทั่วโลกหลั่งไหลมาชมความงามของดอกทิวลิปที่นี่ไม่ต่ำกว่าปีละ 5 ล้านคน ในฐานะที่เป็นประเทศผู้ส่งออกดอกไม้รายใหญ่ที่สุดในโลก นับตั้งเเต่นั้นมาสวนเคอเคนฮอฟก็ได้มีการจัดงานขึ้นทุกๆปีให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้เดินทางไปเยี่ยมชมกับความสวยงามของทิวลิปนับล้านๆดอกที่ต่างประชันความงามกันอย่างพร้อมเพียง

เที่ยง  อิสระอาหารเที่ยง ตามอัธยาศัย เพื่อไม่เป็นการรบกวนเวลาของท่าน

นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam) (ระยะทาง 35 กม. / 30 นาที) นำท่านเยี่ยมชม โรงงานเพชร Royal coaster diamond factory ในเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์มีโรงงานเพชรอยู่หลายโรงงานและหนึ่งในผู้ที่เก่าแก่ที่สุดก็คือที่นี้ สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1852 เพชรที่มีชื่อเสียงของที่นี้คือ "Kokhinur" ถูกดัดแปลงเป็นสมบัติของอังกฤษ นั้นก็คือมงกุฎและปัจจุบันเก็บไว้ในหอคอยที่ลอนดอน นำท่านล่องเรือท่องเที่ยวรอบคลองในอัมสเตอร์ดัม(Amsterdam Canal Cruise) (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือ) เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม ให้ท่านสัมผัสกับความสวยงามแห่งสายน้ำของเมืองอัมสเตอร์ดัมอย่างใกล้ชิด โดยเรือท่องเที่ยวเหล่านี้จะล่องไปบนผืนน้ำตามคลองเฮเรนกราทช์ (Herengracht), ไคเซอร์กราทช์ (Keizersgracht) และ พรินเซนกราทช์ (Prinsengracht) ซึ่งเป็นคลองที่มีชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม และลอดผ่านใต้สะพานที่สวยงามหลายแห่งซึ่งทอดยาวผ่านเส้นทางน้ำรอบๆ เมือง

จากนั้นนำท่านชมเมืองที่ โบสถ์ New church เป็นโบสถ์ ศตวรรษที่ 15 ในอัมสเตอร์ดัมที่ตั้งอยู่บน Dam Square ให้ถ่ายภาพความสวยงามด้านนอกกับ พระราชวังหลวงอัมสเตอร์ดัม (Royal Palace) อาคารที่หรูหราและโอ่อ่าที่สุดของเนเธอแลนด์ สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 17 โดยพระเจ้าหลุยส์ ในอดีตอาคารนี้เคยมีบทบาทเป็นศาลาว่าการมาก่อน ปัจจุบันถูกใช้สำหรับกิจกรรมในพระราชสำนักและกิจกรรมระดับประเทศ อิสระช้อปปิ้ง จัตุรัสดัมสแควร์ (Dam Square) เป็นสัญลักษณ์ของอัมสเตอร์ดัม โดยเป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์แห่งชาติเพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นย่านที่รายล้อมไปด้วยอาคารเก่าแก่ ศูนย์รวมห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ 

เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่7)

นำท่านเดินสู่ เมืองอัลเมเรอ (Almere) (ระยะทาง 35 กม. / 45 นาที) เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ได้ชื่อว่าเป็นเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เป็นจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆ คนเหมาะแก่การพักผ่อน

ที่พัก: Leonardo Hotel Almere City Center (former Apollo) หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพักทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

วันที่ห้า  เมืองอัลเมเรอ - เมืองเกนต์ – ปราสาทกราเวนสตีน - หอระฆังแห่งเกนต์ – มหาวิหารเซนต์บาโว – เมืองบรัสเซลส์ – อะโตเมียม – รูปปั้นแมนิเกนพีส – พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์    

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่8)

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเกนต์ (Ghent) (ระยะทาง 223 กม. / 3.15 ชม.) เมืองลูกผสมระหว่างยุคเก่ากับยุคใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และความน่าสนใจทางประวัติศาสตร์และการวางผังเมืองที่รอบคอบ ทำให้ทุกอย่างอยู่ในระยะเดินทางได้อย่างสะดวกสบาย ทำให้นักท่องเที่ยวได้ชมทิวทัศน์ที่งดงามของสายน้ำที่ตัดกับสถาปัตยกรรมของเมืองได้อย่างลงตัว

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่9) 

นำท่าน ถ่ายภาพด้านอกกับ ปราสาทกราเวนสตีน (Gravensteen castle)  หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ปราสาทเคานต์" สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของปราสาท  หอระฆังแห่งเกนต์ (Het Belfort van Gent) เป็นหอระฆังสูง 95 เมตร ใจกลางเมืองเกนต์ของเบลเยียม หอคอยนี้เป็นหอคอยกลางของแถวหอคอย Ghent ที่มีชื่อเสียง หอระฆังของ Ghent ร่วมกับ Cloth Hall และ Mammelokker เป็นส่วนหนึ่งของมรดกโลกของ UNESCO ตั้งแต่ปี 2542  อาสนวิหารเซนต์บาโว St. Bavo's Cathedral เป็นอาสนวิหารของโบสถ์คาทอลิกในเมืองเกนต์ประเทศเบลเยียม อาคารสไตล์โกธิก สูง 89 เมตร ตั้งชื่อตามนักบุญบาโวแห่งเกนต์ อีกทั้งมหาวิหารแห่งนี้ยังเป็นที่เก็บผลงานของศิลปินที่มีชื่อเสียงคนของประเทศอีกด้วย

นำท่านเดินทางสู่ เมืองบรัสเซลส์ (Brussels) (ระยะทาง 55 กม. / 1 ชม.) เมืองหลวงของประเทศเบลเยี่ยม เป็นเมืองที่มีความใหญ่โต และสวยงามเป็นอย่างมาก ที่สำคัญยังเป็นที่ตั้งขององค์กรระหว่างประเทศอย่างคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (EU) และสำนักงานใหญ่ของนาโต (NATO) อีกด้วย นำท่านถ่ายภาพกับ อะโตเมียม (Atomium sculpture) ถือเป็นสถาปัตยกรรมล้ำยุคที่มีรูปทรงล้ำสมัยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงของอะตอมในเชิงวิทยาศาสตร์ สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสถานที่จัดนิทรรศการงานเอ็กซ์โป เมือปี 1958 รูปปั้นแมนิเกนพีส (Manneken Pis fountain) ตั้งอยู่บริเวณหัวมุมของถนนเลทุฟ มีความสวยงามเเละมีความเก่าเเก่มาก คำว่า Manneken Pis มีความหมายว่า เด็กชายกำลังฉี่ ตัวประติมากรรมหล่อด้วยทองเเดงเป็นรูปเด็กผู้ชายเปลือยกาย กำลังยืนฉี่ลงอ่าง โดยมีความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร โดยในเทศกาลที่สำคัญ จะมีการนำชุดต่างๆ มาสวมให้กับรูปปั้นตัวนี้ด้วย เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับแต่ละเทศกาล

พระราชวังหลวงแห่งบรัสเซลล์ (Royal Palace of Brussels) ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของระบบรัฐบาลที่มีการปกครองในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ เป็นสถานที่ที่กษัตริย์เบลเยี่ยมใช้เป็นที่ประทับทรงงาน เดินช้อปปิ้งที่ ถนน Avenue Louise ถนนที่มีชื่อเสียงและมีราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งในบรัสเซลส์

เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่10)  เมนูพิเศษ!! หอยมัสเซล + วาฟเฟิล (Mussel in White wine + Waffle)

ที่พัก : Novotel Wavre Brussels East หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วันก่อนวันเดินทาง)

วันที่หก  เมืองบรัสเซลส์ - เมืองปารีส ประเทศ ฝรั่งเศส - พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ - ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free - ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ – ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช หอไอเฟล          

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่11) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปารีส (Paris) (ระยะทาง 314 กม. / 4.45 ชม.) เมืองหลวงประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน ผู้คนเรียกว่า "เมืองแห่งความรัก" เพราะบรรยากาศโรแมนติก และได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ ให้ได้ถ่ายรูปสวยๆ

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่12) 

จุดหมายปลายทางของใครหลายๆ คน เช็คอินถ่ายภาพด้านนอกกับ พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดี หนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ที่สุดและโด่งดังที่สุดในโลก โดยมีผู้เข้าชมมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี

อิสระช้อปปิ้งกันที่ ห้างปลอดภาษี Benlux Louvre duty free เป็นห้างชื่อดังใจกลางกรุงปารีส ซึ่งคุณจะได้พบกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำต่างๆ จากทั่วโลก ช้อปปิ้งกันต่อที่ ห้างแกลเลอรี่ ลาฟาแยตต์ (Galleries Lafayette) เป็นห้างหรูที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของปารีส ภายในอาคารที่มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ในปัจจุบันมีสาขาแบ่งอยู่ตามเมืองใหญ่ๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ รวมแล้วทั้งหมด 61 แห่ง 

ถ้าไม่ได้ทำถือว่ามาไม่ถึง สัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติก ล่องเรือแม่น้ำแซน โดย บาโต มูช (Bateaux-Mouches) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) มีการบรรยายเกี่ยวกับประวัติเมืองปารีสตลอดทั้งสายการเดินทางระหว่างสองข้างทางที่เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มหาวิหารน็อทร์-ดาม, หอไอเฟล พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ เป็นต้น (ค่าทัวร์รวมค่าล่องเรือ)

เย็น  รับประทานอาหารเย็น (มื้อที่13)  เมนูพิเศษ!! หอยเอสคาโก้ (Escargot)

ที่พัก : Mercure Paris Velizy หรือโรงแรมระดับและเมืองใกล้เคียงกัน

(ชื่อโรงแรมที่ท่านพัก ทางบริษัทจะทำการแจ้งพร้อมใบนัดหมาย 5-7 วัน ก่อนวันเดินทาง)

วันที่เจ็ด  หอไอเฟล - ประตูชัยฝรั่งเศส – ถนนฌ็องเซลิเซ่ เมืองเซร์ริส - เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ – ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส                                                        

เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรม (มื้อที่14)

ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกบริเวณด้านนอก หอไอเฟล (Eiffel Tower) แลนด์มาร์คสำคัญของประเทศฝรั่งเศส  ตัวอาคารก่อสร้างโดยโครงเหล็กทั้งหมด สูงเท่ากับตึก 81 ชั้น

นำท่านเช็คอิน ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ที่มีอายุกว่า 200 ปี มีรูปแกะสลักที่เป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ รวมทั้งสดุดีการเสียสละแก่วีรชนทหารกล้า ถนนที่มีชื่อเสียงที่โด่งดังที่สุดในฝรั่งเศส ถนนฌ็องเซลิเซ่ (Champs Elysees) แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทุกแบรนด์ และยังถูกจัดอันดับให้เป็นถนนที่สวยที่สุดในโลก

เที่ยง  รับประทานอาหารกลางวัน (มื้อที่15) 

นำท่านเดินทางสู่ เมืองเซรีส (Serris) ประเทศฝรั่งเศส (ระยะทาง 39 กม. / 45 นาที) เป็นย่านชานเมืองของปารีส ตั้งอยู่นอกบริเวณของดิสนีย์แลนด์ปารีส มีศูนย์การค้าที่ใหญ่โต และสวนสาธารณะอันกว้างขวาง อิสระให้ท่านได้  อิสระช้อปปิ้งตามอัธยาศัยที่ เอาท์เล็ท ลาวัลเล่ (La Vallée Village Outlet) จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังต่างๆ อยู่หลาย 10 แบรนด์ VERSACE หนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในไทย และยังมี GUCCI, LACOSTLE, ERIC BOMPARD หรือBACCARAT

เย็น  อิสระอาหารเย็น ตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการไม่รบกวนเวลาของท่าน

ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ (ระยะทาง 38 ก.ม. / 45 นาที)

21.35 น.  เดินทางกลับประเทศไทย โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK076

วันที่แปด  ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ แวะพักเปลี่ยนเครื่อง - ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย

07.20 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรต  แวะพักเปลี่ยนเครื่อง

09.30 น.  เดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสายการบิน EMIRATES (EK) เที่ยวบินที่ EK372

18.40 น.  เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ

***Travel Around the World by Chic Journey***