วันแรก :สนามบินดอนเมือง • สนามบินจี่หนานเหยาเฉียง • เมืองจี่หนาน

13.00 น.  พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคาร 1 ชั้น 3 ผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ นำคณะเชคอิน ณเคาน์เตอร์ สายการบินไลอ้อนแอร์ (SL)โดยมีเจ้าหน้าที่จากบริษัทฯ คอยอำนวยความสะดวก
15.50 น. ออกเดินทางสู่ เมืองจี่หนาน ประเทศจีนโดยเที่ยวบินที่ SL960(ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)เร
** เวลาบินอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถาม หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋วภายใน **
21.10 น.  เดินทางถึง สนามบินจี่หนานเหยาเฉียง หลังผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง และตรวจรับสัมภาระเรียบร้อยแล้ว ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ สาธารณรัฐประชาชนจีน (เวลาท้องถิ่นที่จีน เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง กรุณาปรับเวลาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมาย) และนำท่านเข้าสู่ที่พัก
จากนั้น  พักที่ MADISON HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สอง: เมืองจือปั๋ว • พิพิธภัณฑ์แก้วเซรามิก • ตลาดปาต้าจ๋วย • เมืองชิงเต่า • โบสถ์เซนต์ไมเคิล • ถนนวัฒนธรรมต้าเปา • ย่านเมืองเก่าสไตล์เยอรมัน-จีน (ซอยยิ้นอวี่) • สะพานจ้านเฉียว • ถนนเลียบชายหาดปินไห่ปู้จ้านเต่า • ถนนคนเดินจงซาน (อาหาร : เช้า/กลางวัน/-)

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม  
จากนั้น ออกเดินทางสู่ เมืองจือปั๋ว (ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 30 นาที) ชมแหล่งกำเนิดเซรามิกที่ พิพิธภัณฑ์แก้วเซรามิก (Colored Glaze Museum) มีพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ 3 ส่วน ได้แก่ เคลือบโบราณ เคลือบสมัยใหม่ และเคลือบโลก จัดแสดงโบราณวัตถุ เคลือบโบราณ ศิลปกรรมและงานฝีมือหลากหลายประเภทกว่า 2,000 ชิ้น รวมถึง “อาณาจักรสัตว์” ที่ยังมีชีวิตอยู่ และนำท่านไปยัง ตลาดปาต้าจ๋วย ลิ้มลองเมนูที่เป็นกระแสฟีเวอร์ “บาร์บีคิวจือปั๋ว” จนทำให้ตลาดกลายมาเป็นไวรัลโด่งดัง ผู้คนแห่ตีตั๋วรถไฟมาที่ “เมืองหลวงแห่งบาร์บีคิว” เพื่อมากินปิ้งย่างตำรับจือปั๋วอย่างถล่มทลาย ไม่ว่าจะเดินไปตามตรอกซอกซอยไหนๆ จะสามารถพบเห็นร้านขายบาร์บีคิวได้ตลอดทาง นอกจากนี้ ตลาดปาต้าจ๋วยยังรวบรวมอาหารขึ้นชื่อของเมืองจือปั๋วไว้มากมาย เช่น แพนเค้ก ขนมโมจิข้าวเหนียวสีม่วง แพนเค้กไข่ และหมูทอดกรอบ แต่ละอย่างล้วนน่ารับประทาน โดยเฉพาะแพนเค้กที่มีหลากหลายรสชาติ ทั้งรสเผ็ด หวานอมเปรี้ยว และรสเผ็ดชาลิ้น ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แพนเค้กกรอบ อร่อย และหอมขึ้นเรื่อยๆ ทุกคำที่เคี้ยว ส่วนขนมโมจิข้าวเหนียวสีม่วงนั้น นุ่ม เหนียว และหวาน รสชาติเข้มข้นของข้าวเหนียวสีม่วงเข้ากันได้ดีกับเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนของขนม
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู บาร์บีคิวต้นตำหรับจือปั๋ว
จากนั้น   ออกเดินทางสู่ เมืองชิงเต่า(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
ชมความสวงามของ โบสถ์เซนต์ไมเคิล เป็นโบสถ์คาทอลิกที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบโกธิกผสมโรมาเนสก์ โดยได้รับอิทธิพลจากสถาปัตยกรรมเยอรมัน ยอดแหลมคู่ของมหาวิหารสูงตระหง่าน 56 เมตร ประดับด้วยไม้กางเขนสูง 4.5 เมตร ตัวโบสถ์สร้างด้วยหินแกรนิตสีเหลืองและคอนกรีต เสริมเหล็ก โดดเด่นด้วยงานแกะสลักอันวิจิตรงดงามและหน้าต่างโค้งอันวิจิตรงดงาม หน้าต่างกระจกสีสร้างแสงสีอันน่าหลงใหลภายใน ขณะที่หน้าต่างกุหลาบขนาดใหญ่เหนือทางเข้าหลักเผยให้เห็นลวดลายอันวิจิตรบรรจงและสีสันสดใส และนำท่านไปยัง ถนนวัฒนธรรมต้าเปาเต่า ถนนที่ผสมผสานวัฒนธรรมกับประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว จนถูกพัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ถนนย่านการค้าและเขตเศรษฐกิจสุดคึกคักสำคัญของเมืองด้วย สองข้างทางจึงเต็มไปด้วยร้านค้าชั้นนำต่างๆ มากมาย และเดินทางไปยังสัญลักษณ์ของเมืองเก่า สะพานจ้านเฉียว ท่าเรือที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศริมทะเลสุดคลาสสิก มีสะพานไม้ทอดยาวออกสู่ทะเล ปลายสุดสะพานจะมีศาลาเก๋งจีนโบราณ 2 ชั้น “ศาลาหุยหลาน” ด้านบนสามารถขึ้นไปชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเล ผืนฟ้าโปร่ง และเรือประมง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเมืองชิงเต่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะตกดินก็จะได้ภาพบรรยากาศอีกแบบนึง หากมาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์จะได้เห็นฝูงนกนางนวลอพยพมาจากแถบจีนทางตอนเหนือหรือไซบีเรีย ซึ่งเป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพยอดนิยม และถ่ายรูป ถนนเลียบชายหาดปินไห่ปู้จ้านเต่า เส้นทางเดินเลียบหาดในเมืองชิงเต่า ชมทิวทัศน์ทะเลอ่าวเจียวโจว มีคาเฟ่และจุดให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ
แวะชมบรรยากาศของ เมืองเก่าสไตล์เยอรมัน-จีน เดินเล่นสัมผัสวิถีชีวิตชาวเมืองเก่าอย่างใกล้ชิดที่ ซอยยิ้นอวี่ ซอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของเมืองเก่าและวัฒนธรรมท้องถิ่น อาคารบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ชิงเต่า ผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบเยอรมันและจีนแบบดั้งเดิม มีทั้งร้านค้า คาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก
เดินเล่นที่ ถนนจงซาน เป็นย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและกลิ่นอายวัฒนธรรมของชนเผ่าอี้อาคารบ้านเรือนสองข้างทางยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างงดงาม ทั้งกำแพงอิฐเก่า ประตูไม้แกะสลัก และโคมแดงที่ประดับเรียงรายตลอดถนน น าท่านเดินทางสู่จุดเช็คอิน เกาะต้าเป่า ชม “เมืองไม่เคยหลับ” จากอาคารวัฒนธรรมดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยความทรงจำตลาดที่คึกคักด้วย ผู้คน สู่วัฒนธรรมและศิลปะในปัจจุบัน
**อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
จากนั้น พักที่ LUXSEVEN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่สาม : จัตุรัส 54 • ถนนปาต้ากวน • จุดชมวิว Signal Hill Park • ถนนหลงเจียง • ถนนต้าเสวี่ย • ตรอกซิลเวอร์ฟิช (Silverfish Lane) • ตลาดกลางคืนไถ่ตง (อาหาร : เช้า/กลางวัน/เย็น) 

เช้า   บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น  นำท่านชมแลนด์มาร์กสำคัญริมอ่าวที่เมืองชิงเต่า จัตุรัส 54 (May Fourth Square) มาจากเหตุการณ์ประท้วงของนักศึกษาในปี 1919 เพื่อเรียกร้องสิทธิชาติ เป็นพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือน มีประติมากรรม "ลมเดือนพฤษภาคม" (May Wind) และโชว์ไฟยามค่ำคืน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองและจุดชมวิวทะเลที่สวยงาม และเดินทางเข้า ถนนปาต้ากวน เป็นจุดรวมของถนน 8 สายที่ตั้งชื่อตามด่านกำแพงเมืองจีน รายล้อมไปด้วยอาคารสไตล์ยุโรปกว่า 200 หลัง ซึ่งถนนทุกสายมีต้นไม้เรียงรายพร้อมออกดอกผลิบานสลับกันทุกฤดู และจะสวยมากๆ ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และนำท่านไปยัง จุดชมวิว Signal Hill Park จุดชมวิวพาโนรามาที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองชิงเต่า ได้วิวเมืองชิงเต่าแบบ 360 องศา มองเห็นทั้งสวนสาธารณะ เมืองเก่าให้บรรยากาศเหมือนอยู่ยุโรป และท้องฟ้าที่ตัดกับทะเลสีคราม เดิมเป็นจุดส่งสัญญาณเรือสมัยเยอรมันปกครองเมือง ทำให้นยังมีหอคอยสัญญาณอยู่บนยอดเขา
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร เมนู อาหารทะเล
จากนั้น   นำท่านไปยัง ถนนต้าเสวี่ย ถนนสายศิลปะและวัฒนธรรมยอดฮิตใกล้มหาวิทยาลัยชิงเต่า มีภาพวาดที่กำแพงศิลปะสตรีทอาร์ตลวดลายการ์ตูนจิบิ (Chibi) ที่เหมือนหลุดมาจากโลกมังงะ และกำแพงสีแดงจุดถ่ายรูปคลาสสิกที่มีตัวอักษรจีน “ชิงเต่า” ให้ถ่ายรูป พร้อมด้วยคาเฟ่เก๋ๆ และร้านค้าเล็กๆ ที่บรรยากาศดี เหมาะกับการเดินเล่นชมเมืองถ่ายรูปเช็คอิน และไปกันต่อที่ถนนสายคาเฟ่อย่าง ถนนหลงเจียง สวรรค์ของคนรักการถ่ายรูป โดดเด่นด้วยกำแพงกราฟิตี้สีสันสดใส มีบรรดาตากล้องที่คอยรับจ้างถ่ายรูปสวยๆ สไตล์หนุ่มสาวชาวจีน และมีลูกโป่งดอกไม้ให้เช่าถ่ายรูปอีกด้วย
นำท่านไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยมของเมืองชิงเต่า ตรอกซิลเวอร์ฟิช แทบทุกตรอกซอกซอยของถนนเส้นนี้มีมุมเจ๋งๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย เป็นสถานที่ที่มีเสน่ห์น่าหลงใหลสำหรับการเดินเล่น รับประทานอาหาร และดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเล ถนนเรียงรายไปด้วยคาเฟ่น่ารักๆ ร้านอาหารทะเล และร้านค้าท้องถิ่นที่สะท้อนเสน่ห์ริมทะเลของชิงเต่าได้อย่างสมบูรณ์แบบเอาใจคนรักอาหารทะเลที่ ตลากลางคืนไถตง หนึ่งใน 3 ถนนคนเดินที่พลาดไม่ได้ของชิงเต่า สัมผัสความมีชีวิตชีวาของผู้คนท้องถิ่น มีของว่างและอาหารให้เลือกชิมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “หอยนางรมย่างกระเทียม” หรือชุดอาหารว่างยามดึกสุดคลาสสิกของเมืองชิงเต่าอย่าง “หอยลายผัดเผ็ด” หอยลายตัวอวบอิ่มจนล้น เสิร์ฟพร้อมกับ “เบียร์ในถุงพลาสติก” เมนูเด็ดของร้านมุมถนน Taidong Sixth Road “ขาหมูย่างทอง” หนังกรอบนอกนุ่มในรสชาติเข้มข้นคอลลาเจนระเบิด “หวังเจี๋ยบาร์บีคิว” ปลาหมึกเสียบไม้ราดด้วยซอสสูตรลับอายุกว่า 30 ปี รสชาติหวานเผ็ดอร่อยสุดๆ และยังมีสินค้าพื้นเมืองให้เลือกซื้ออีกด้วย มีแผงขายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ขึ้นชื่อของเมืองอย่าง “เบียร์ชิงเต่า” มีทั้งเบียร์สดและเบียร์ผลไม้รสเลิศให้ลิ้มลอง
เย็น  บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
จากนั้น  พักที่ LUXSEVEN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 

วันที่สี่ : พิพิธภัณฑ์ทหารเรือชิงเต่า (Pla Navy’s Museum) • หมู่บ้านชาวประมงซาจื่อโข่ว • พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า (ชิมเบียร์สดฟรี) • MIX C MALL • ชายหาดไซเบอร์พังก์ NO.3 Bathing Beach (อาหาร : เช้า/กลางวัน/-) 

เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น  นำท่านเดินทางไปยัง พิพิธภัณฑ์ทหารเรือชิงเต่า อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองชิงเต่า สำหรับคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีเอกสารทางประวัติศาสตร์ งานศิลปะ และภาพถ่ายจำนวนมาก รวมถึงยุทโธปกรณ์ทางทะเลจำนวนมากก็จัดแสดงอยู่ที่นี่ด้วย และถ่ายรูปวิวสวยๆ ที่ หมู่บ้านชาวประมงซาจื่อโขว่ เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่มีชื่อเสียงและมีเอกลักษณ์ บ้านเรือนสีสันสดใสตั้งเรียงรายไปตามเนินเขาตัดกับน้ำทะเลสีฟ้า ทำให้เป็นจุดถ่ายภาพยอดนิยม เพราะมีทัศนียภาพที่คล้ายคลึงกับเมืองชายฝั่งยุโรปทางตอนใต้
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารเมนู บุฟเฟ่ต์สุกี้สายพาน
จากนั้น นำท่านไปยัง พิพิธภัณฑ์เบียร์ชิงเต่า สถานที่ที่ดีที่สุดในการเรียนรู้อดีตและปัจจุบันของเบียร์ชิงเต่า ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเมืองชิงเต่า ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยจุดท่องเที่ยว 3 แห่งที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์และกระบวนการผลิตเบียร์ชิงเต่า นอกจากนี้ ยังเป็นเหมือนสวรรค์ของเหล่าคอเบียร์ที่ได้จะลิ้มลองเบียร์ชิงเต่าถึงถิ่นต้นกำเนิด (ฟรี! ชิมเบียร์สดท่านละ 1 แก้ว สำหรับเด็กหรือผู้ที่ไม่รับประทานแอลกอฮอลล์ ทางพิพิธภัณฑ์มีเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ให้บริการ)
อิสระท่องเที่ยวและช้อปปิ้งที่ MIX C MALL และเดินทางไปยังชายหาดสุดไวรัลของเมืองอย่าง ชายหาดไซเบอร์พังก์ (NO.3 BATHING BEACH) มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “หาดซานไห่เทียน” ดื่มด่ำกับเสน่ห์ของชายหาดที่เงียบสงบ เดินถ่ายรูปวิวทะเลในยามค่ำคืน ชมทิวทัศน์มุมกว้างอันยอดเยี่ยมของอ่าวฟูซาน และการแสดงแสงสีของตึกสูงในเมืองชิงเต่า ซึ่งมีอาคารสูงระฟ้ากว่า 100 หลังเรียงรายตามแนวชายฝั่งที่ประดับประดาด้วยสีสันสดใส
**อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
จากนั้น     พักที่ LUXSEVEN HOTEL หรือระดับเทียบเท่า

วันที่ห้า : ลานสกีจินซาน/สวนจงซาน • เมืองเก่าจี่ม่อ • เก็บสตรอว์เบอร์รี่ (หรือผลไม้ตามฤดูกาล) • เมืองจี่หนาน (อาหาร : เช้า/กลางวัน/เย็น)

เช้า  บริการอาหาร ณ ห้องอาหารโรงแรม  
จากนั้น นำท่านเดินทางเข้าสู่ ลานสกีจินซาน (ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์) สัมผัสประสบการณ์เล่นสกีบนลานสกีขนาดใหญ่ (รวมอุปกรณ์บางชนิด อาทิ ห่วงยางเล่นหิมะ ร้องเท้าสกี ไม้ค้ำ เป็นต้น ** อุปกรณ์อาจจะมีการปรับเปลี่ยน**)และชมบรรยากาศของดอกไม้นานาชนิดที่ สวนจงซาน (ช่วงเดือนมีนาคมและเมษายน) รวมถึงดอกซากุระที่จะบานสะพรั่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งตลอดเส้นทางเดินยาวกว่า 600 เมตร จะมีต้นซากุระปลูกเรียงรายมากกว่า 20,000 ต้นนอกจากซากุระแล้ว ยังมีดอกไม้ชนิดอื่นให้ชมตลอดทั้งปี เช่น ดอกท้อ ดอกหอมหมื่นลี้ ดอกโบตั๋น ดอกเบญจมาศ และดอกทิวลิป (หมายเหตุ: การบานของดอกไม้นั้น ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปี หากดอกไม้ยังไม่บาน หรือหมดฤดูกาล ขอสงวนสิทธิ์ปรับเปลี่ยนสถานที่โดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า)
อิสระเดินเล่นที่ เมืองเก่าจี่ม่อ เมืองโบราณที่มีกำแพงเมืองเป็นแบบสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ทำให้บรรยากาศเหมือนหลุดมาจากหนังจีนกำลังภายใน มีอาคารแบบจีนโบราณ หอนิทรรศการ วัดขงจื้อ และศาลเจ้าต่างๆ สร้างเป็น “หนึ่งเมือง สองถนน ทิวทัศน์สิบแห่ง และจัตุรัสสิบสามแห่ง”
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น  นำท่าน เก็บสตรอว์เบอร์รี่ สดๆ จากไร่ (หรือผลไม้ตามฤดูกาล) และออกเดินทางสู่ เมืองจี่หนาน(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง)
เย็น   บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
ที่พัก   พักที่ MADISON HOTEL หรือระดับเทียบเท่า 

วันที่หก : บ่อนํ้าพุเป้าทู • ทะเลสาบต้าหมิงหู • ถนนโบราณชวีสุ่ยถิง • ถนนสายอาหารฟูหรงเจีย • สนามบินจี่หนานเหยาเฉียง • สนามบินดอนเมือง (อาหาร : เช้า/กลางวัน/-)

เช้า  บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
จากนั้น  นำท่านไปยัง บ่อน้ำพุเป้าทู ที่นี่ได้ฉายาว่า “ราชาแห่งน้ำพุจีน” เป็นน้ำพุจากธรรมชาติที่พวยพุ่งขึ้นมาจากใต้ดินและน้ำที่ใสจนเห็นพื้นบ่อ ล้อมรอบไปด้วยสถาปัตยกรรมจีนโบราณ ทั้งศาลาไม้ สะพานหิน และสวนสวยๆ หากมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้บรรยากาศเหมือนหลุดออกมาจากฉากในหนังจีน เพราะดอกไม้ที่ปลูกรายล้อมรอบบ่อน้ำพุจะบานสะพรั่งสวยงาม ผ่อนคลายกับ ทะเลสาบต้าหมิง ทะเลสาบกว้างใหญ่ใจกลางเมือง ล้อมรอบด้วยต้นหลิวที่พลิ้วไหวสวยงามแบบจีนโบราณ สามารถเดินเล่นชมบรรยากาศหรือล่องเรือชมความสวยงามก็ได้เช่นกัน มีทั้งเรือยนต์แบบสมัยใหม่ และเรือไม้แบบโบราณให้เลือกได้ตามใจชอบ
กลางวัน  บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
จากนั้น นำท่านไปยัง ถนนโบราณชวี่สุยถิง ถนนที่มีทางน้ำไหลคดเคี้ยวในฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อกว่า 1,500 ปีที่แล้ว มีอาคารแปลกตาและถนนหินที่ดูเหมือนกำลังเดินทางข้ามเวลาสู่ยุคโบราณ ร้านค้าเล็กๆ ทั้งสองข้างถนนวางขายงานหัตถกรรม มีของว่างพิเศษหลากหลายชนิดที่ทำให้ผู้คนหยุดแวะเวียน ไม่ว่าจะชิมอาหารซานตงแท้ๆ หรือเพลิดเพลินกับการแสดงศิลปะพื้นบ้านแบบดั้งเดิม และเดินทางต่อไปยัง ถนนสายอาหารฟูหรงเจีย ที่สายกินจะฟินจนตาลาย แม้จะเป็นถนนสายเก่าแก่แต่ก็คึกคัก เป็นที่นิยมของผู้คนในท้องถิ่นและเหล่านักท่องเที่ยว ของกินที่นี่จัดเต็มไม่แพ้ตลาดกลางคืนไหนๆ ซึ่งมัดรวมเอาของกินแสนอร่อยมาไว้ที่นี่แล้ว รวมถึงของฝากน่ารักๆ ก็มีให้เลือกซื้อมากมาย
**อิสระอาหารเย็นตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว
ได้เวลาสมควรนำท่านเดินทางสู่สนามบิน
22.10 น.  ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยเที่ยวบินที่SL961 (ไม่มีบริการอาหารบนเครื่อง)
01.45 น.  เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม