ทัวร์กรุ๊ป ล่องเรือสำราญ MSC MUSICA 11วัน 8 คืน บิน TK 21 เม.ย. - 1 พ.ค.66

ไม่พบสินค้า

ครั้งหนึ่งในชีวิต...อิสราเอล ล่องเรือสำราญ MSC MUSICA 11 วัน 8คืน
รวม!! เที่ยว + พักในเอเธนส์ 1 คืน และ
ทัวร์เที่ยวทุกพอร์ตที่เรือเทียบท่า
#เอเธนส์ ... ตามรอยเทพเจ้ากรีก #ซานโตรินี ... เกาะสวรรค์ของกรีซ #คูซาดาชี ... เมืองหลวงเอเชียแห่งอาณาจักรโรมัน #ลีมาซอล ... ไซปรัส เกาะสวรรค์ที่ต้องไป #เยรูซาเลม ... ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่ง 3 ศาสนา #มิโคนอส ... เมืองตากอากาศสีสันสดใส

วันแรก : ศ 21 เม.ย. 2566กรุงเทพฯ

19.00 น.  หัวหน้าทัวร์รอต้อนรับทุกท่านที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9-10 เคาน์เตอร์เช็คอินแถว U สายการบิน Turkish Airlines
23.00 น. บินสู่ สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรเคีย โดยเที่ยวบิน TK 069

วันที่สอง : ส 22 เม.ย. 2566      อิสตันบูล - เอเธนส์

05.15 น.  ถึง สนามบินอิสตันบูล เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบิน
07.40 น.  บินสู่ เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ โดยเที่ยวบิน TK 1843
09.05 น.  ถึง สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส เมืองเอเธนส์ ประเทศกรีซ ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร 

ท่องเที่ยวในเมืองเอเธนส์
- เข้าชม อะโครโปลิส (Acropolis) โบราณสถานอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และโบราณคดีซึ่งตั้งอยู่บนเนินเขาสูง เชื่อกันว่าบนเนินเขาแห่งนี้เป็นที่สถิตของเทพีเอเธน่า เทพีแห่งปัญญา ซึ่งต่อมาองค์การยูเนสโก (Unesco) ได้ประกาศให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ในปี ค.ศ.1987 
- เข้าชม วิหารพาร์เธนอน (Parthenon) วิหารศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศแด่เทพีเอเธน่า เป็นวิหารที่สร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลังรายล้อมด้วยเสาหินแบบดอริคซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของโลกที่สร้างขึ้นในโลกยุคคลาสสิคหรือยุคทองของกรีซ ช่วงประมาณ 450-300 ปีก่อนคริสตกาล และทั่วโลกต่างยอมรับกันว่าเป็นวิหารแบบดอริคที่ใหญ่และสมบูรณ์แบบที่สุดในโลกศิลปะของกรีซ
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย   ท่องเที่ยวในเมืองเอเธนส์ (ต่อ)
- ถ่ายรูป สนามกีฬาโอลิมปิค (Olympic Stadium) ซึ่งได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่และใช้ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคเป็นครั้งแรกในปีค.ศ.1896 
- ผ่านชม จัตุรัสซินตั๊กม่า (Syntagma Square) ที่ตั้งของรัฐสภาแห่งชาติ และอนุสรณ์ทหารนิรนาม ซึ่งทุกๆ ชั่วโมงจะมีการผลัดเปลี่ยนเวรทหารประจำหน้าอาคาร
- ช้อปปิ้ง ย่านพลาก้า (Plaka) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ตรอกซอกซอยเต็มไปด้วย ร้านค้า บาร์ ภัตตาคาร คึกคักพลุกพล่านไปด้วยผู้คนทั้งกลางวันและยามค่ำคืน มีร้านของฝากของที่ระลึกมากมาย สุดเขตย่านพลาก้า คือย่านเมืองใหม่อุดมไปด้วยร้านค้าแฟชั่นหรูระดับโลก และ ถนนคนเดินที่เป็นระเบียบสวยงาม
-ผ่านชม สถานที่สำคัญต่างๆ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของชุมชนในอดีตถึงแม้ว่าวันนี้จะเป็นซากปรักหักพัง เช่น ประตูชัยเฮเดรียน หอสมุดแห่งชาติ ศูนย์รวมของปราชญ์สมัยโบราณ
ค่ำ   รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ที่พัก  Hotel Stanley 4* หรือเทียบเท่า

วันที่สาม : อา 23 เม.ย. 2566     เอเธนส์ - พิราอุส

เช้า  รับประทานอาหาร ณ โรงแรมที่พัก
ท่องเที่ยวในเมืองเอเธนส์
-เข้าชม พิพิธภัณฑ์อะโครโปลิส (Acropolis Museum)พิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก รวบรวมการค้นพบจากโบราณสถานอะโครโปลิส รวมถึงงานวิจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เปิดบริการในปี พ.ศ. 2552 อาคารตกแต่งทันสมัยด้วยกระจกขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวกรีก Michael Photiadis และสถาปนิกชาวนิวยอร์ก Bernard Tschumi
- ผ่านชม The University of Athens มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของกรีซ ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1837 เริ่มต้นเปิดสอน 4 สาขา ได้แก่ เทววิทยา, กฎหมาย, เภสัชศาสตร์ และ ปรัชญา ซึ่งปัจจุบันมีการเรียนการสอนที่มากมายหลายสาขา
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย  เดินทางสู่ ท่าเรือพิราอุส (Piraeus) เพื่อเตรียมตัวขึ้นเรือสำราญ
14.00 น.  เช็คอินชึ้น เรือสำราญ MSC MUSICA
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
22.00 น.  ออกเดินทางสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน มุ่งหน้าสู่ เกาะซานโตรินี (Santorini)
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่สี่ : จ 24 เม.ย. 2566ซานโตรินี (ประเทศกรีซ)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ เกาะในฝันที่ผู้คนทั่วโลกต่างใฝ่ฝันจะได้มาเยือนสักครั้งหนึ่ง เกาะนี้ถือว่าเป็นหัวใจของเกาะทั้งหลายในกรีซ เป็นเกาะที่ได้รับการยกย่องให้เป็น ราชินีแห่งหมู่เกาะไซคลาติส เพราะทั่วโลกต่างชื่นชมในทิวทัศน์ที่สวยงามแปลกตาของเกาะภูเขาไฟแห่งนี้ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ 1450 ปีก่อนคริสตกาล
เดินทางสู่ หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือบนเกาะซานโตรินี หมู่บ้านเอีย (Oia Village) ได้ชื่อว่าเป็นหมู่บ้านที่สวยที่สุดของเกาะนี้ มีความสวยงามตามแบบฉบับของจินตนาการเมื่อนึกถึงเกาะในกรีซ บ้านสีขาวและยอดโบสถ์ทรงโดมที่รายล้อมด้วยสีฟ้าสดจากทุกทิศไม่ว่าจะเป็นทะเล ท้องฟ้า หรือแม้แต่กรอบประตูหน้าต่างสีสันสดใส รวมถึงโบสถ์สีขาวสะอาดตา เป็นศูนย์กลางการค้าที่เก่าแก่ มีคฤหาสน์หรูหราเป็นหลักฐานถึงความมั่งคั่งของชาวเรือที่อาศัยอยู่ที่นี่ลดหลั่นไล่ระดับตามหน้าผาสูงชัน
เดินทางสู่ หมู่บ้านอิเมอร์โรวิคลี (Imerovigli Village) อีกหนึ่งหมู่บ้านบนเกาะซานโตรินี ที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟได้ใกล้กว่าหมู่บ้านอื่นๆ
- แวะถ่ายรูป โบสถ์อนาสตาซิส (Church of Anatasis)
เดินทางสู่ เมืองฟิร่า (Fira) เมืองหลวงของซานโตรินี่ ซึ่งออกเสียงได้อีกอย่างว่า ธีรา (Thira) แหล่งรวมนักท่องเที่ยวที่มีทั้งที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝากที่มีเอกลักษณ์มากมาย
- ช้อปปิ้ง ตลาดสินค้าพื้นเมือง ที่มีสินค้าหลากหลายทั้งของที่ระลึก ที่ล้วนนำมาวางจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวเป็นถนนทอดยาวริมผา พร้อมวิวสวยๆ ที่สามารถมองเห็นเรือสำราญที่จอดอยู่กลางทะเลเบื้องล่าง
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย  ท่องเที่ยวต่อบนเกาะซานโตรินี
- ขึ้น Cable Car ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเกาะซานโตรินี Cable Car นี้เปิดใช้งานในปี ค.ศ.1982 โดยเงินบริจาคของ Evangelos Nomikos เพื่อทดแทนการเดินขึ้นบันไดและการขี่ล่อ รวมถึงเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวบนเกาะซานโตรินีอีกด้วย   
16.00 น.  เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
18.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองคูซาดาซี ประเทศตุรเคีย
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่ห้า : อ 25 เม.ย. 2566คูซาดาซี (ประเทศตุรเคีย)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองคูซาดาชี เมืองท่าธรรมชาติที่ใช้มาตั้งแต่ก่อนคริสต์กาลหลังจากตกเป็นอาณาจักรออตโตมัน
เดินทางสู่ เมืองเอฟฟิซุส (City of Ephesus) เมืองแห่งนี้มีประวัติศาสตร์มายาวนานตั้งแต่ยุคกรีกโบราณ เป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคม เพราะอยู่ใกล้ริมทะเล จนกลายเป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน จึงทำให้มีเรื่องราวและโบราณสถานที่ยังคงสภาพและมีความสมบูรณ์ให้ท่องเที่ยวอยู่มากมาย
- เข้าชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (Roman Bath) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้
- ชม วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน (Temple of Hadrian) จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่อีกพระองค์หนึ่งของโรมัน วิหารแห่งนี้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก ด้านหน้าสร้างเป็นเสาโครินเธียน 4 ต้น คู่กลางรองรับโค้งครึ่งวงกลมที่เรียงอย่างสวยงาม โค้งด้านหลังมีภาพแกะสลักเป็นรูปนางเมดูซ่าที่มีผมเป็นงู
-ชม หอสมุดเซลซุส (The Library of Celsus) อาคารที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นสัญลักษณ์ของเอฟฟิซุส เป็นอาคารสองชั้น ด้านหน้าหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงสว่างยามเช้า ห้องสมุดนี้สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 114 โดย ทิเบเรียส จูเลียส อกีลา (Julius Aquila) เพื่ออุทิศให้เป็นอนุสรณ์แด่พ่อของท่านซึ่งเป็นนายกเทศมนตรีของโรมันที่ปกครองแคว้นเอเชียไมเนอร์ ด้านหน้ามีรูปปั้นของเทพี 4 องค์ ได้แก่ Sophia (เทพีแห่งปัญญา), Arete (เทพีแห่งความดี), Ennoia (เทพีแห่งความคิด), Episteme (เทพีแห่งความรู้)
- เข้าชม โรงละคร (Great Theatre)สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเอฟฟิซุส ซึ่งสร้างโดยการสกัดไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถบรรจุคนได้ถึง 25,000 คน คิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น เดิมสร้างตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ ต่อมาในสมัยโรมันมีการปรับปรุงซ่อมแซมให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น
กลางวัน รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
ท่องเที่ยวเมืองเอฟฟิซุส (ต่อ)
- ชม บ้านพระแม่มารี (House of Virgin Mary) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ถูกค้นพบอย่างปาฏิหาริย์ โดยแม่ชีตาบอด ชาวเยอรมันชื่อ แอนน์ แคเทอรีน เอมเมอริช (Anne Catherine Emmerich, ค.ศ. 1774-1824) ได้เขียนบรรยายสถานที่ไว้ในหนังสืออย่างละเอียดราวกับเห็นด้วยตาตนเอง เมื่อเธอเสียชีวิตลง มีคนพยายามสืบเสาะค้นหาบ้านหลังนี้จนพบในปี ค.ศ. 1891 ปัจจุบันบ้านพระแม่มารีได้รับการบูรณะเป็นบ้านอิฐชั้นเดียว ภายในมีรูปปั้นของพระแม่มารีซึ่งพระสันตะปาปา โป๊ป เบเนดิกต์ที่ 16 ได้เคยเสด็จเยือนที่นี่ บริเวณด้านนอกของบ้าน มีก๊อกน้ำสามก๊อกที่เชื่อว่าเป็นก๊อกน้ำที่มีความศักดิ์สิทธิ์ แทนความเชื่อในเรื่องสุขภาพ ความร่ำรวย และความรัก ถัดจากก๊อกน้ำเป็น กำแพงอธิษฐาน ซึ่งมีความเชื่อว่าหากต้องการให้สิ่งที่ปรารถนาเป็นความจริงให้เขียนลงในผ้าฝ้ายแล้วนำไปผูกไว้แล้วอธิษฐาน
16.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
18.00 น.  เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่หก : พ 26 เม.ย. 2566  พักผ่อน (AT SEA)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
-Food & Drink: Bar & Lounges ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ Public area ของเรือ รวมถึงห้องอาหารที่หลากหลาย
-Entertainment: Disco, Card Room, ห้องสมุด, คาสิโน และ Theater ที่จัดการแสดงพิเศษในทุกค่ำคืน
-Fitness: สระว่ายน้ำ, สปา และ ฟิตเนส
-Activities: กิจกรรม การแสดงและเกมส์ต่างๆ ที่จัดทั่วบริเวณของ Public area
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่เจ็ด : พฤ 27 เม.ย. 2566    ไฮฟา (ประเทศอิสราเอล)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
08.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองไฮฟา ประเทศอิสราเอล
เดินทางสู่ เมืองเยรูซาเลม (Jerusalem)เมืองที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ได้รับการประกาศให้เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของอิสราเอลในเดือนธันวาคม ปี ค.ศ.1949 แต่ในขณะนั้นกรุงเยรูซาเล็มได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝั่งด้านตะวันตกเป็นของอิสราเอล ส่วนฝั่งตะวันออกและบริเวณเมืองเก่าจะเป็นของจอร์แดน จนกระทั่งปี ค.ศ.1967 หลังจากเกิดสงคราม 6 วัน (The Six Days War) ระหว่างอิสราเอลและจอร์แดน  อิสราเอลจึงได้เมืองเยรูซาเล็มกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองทั้งหมดเป็นเมืองเดียวกัน
- ภูเขามะกอก (Mount of Olives) ภูเขาทางตะวันออกของเยรูซาเลม มีระดับความสูงที่ 826 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ถูกตั้งชื่อตามเนินต้นมะกอกซึ่งครั้งหนึ่งเคยปกคลุมส่วนหนึ่งของภูเขาในอดีต ภูเขาแห่งนี้มีความสำคัญแก่ชาวยิว ซึ่งเป็นสุสานที่ฝังศพบรรพบุรุษชนชาติยิวมากว่า 3000 ปี
- ชม โบสถ์แห่งปีเตอร์นอสเตอร์ (Church of Peter Noster) เป็นสถานที่พระเยซูทรงสอนให้สาวกรู้จักคําอธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาแห่งข้าพระองค์ทั้งหลาย”
- ชม สวนเกทเสมานี (Gatsemane) ซึ่งเป็นภาษาฮีบรูแปลว่า ต้นมะกอก บริเวณสวนนี้มีต้นมะกอกเก่าแก่อยู่ 8 ต้น ที่เชื่อกันว่าเป็นรากเดิมของต้นมะกอกในสมัยพระเยซู ซึ่งมีอายุประมาณ 2000 ปีและเป็นสถานที่ที่พระเยซูอธิษฐานกับสาวก ก่อนที่จะถูกพวกทหารโรมันจับตัวไป
- ชม ยอดเขาไซออน (Mount Zion) ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของยอดเขาโอลีฟในเยรูซาเลม ซึ่งมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า เมืองของเดวิด (City of David)  
- ชม โบสถ์ไก่ขัน (St. Peter in Gallicantu) ซึ่งเป็นภาษาลาติน ในอดีตเป็นบ้านของปุโรหิตคายาฟาส ที่เป็นหัวหน้าสมณะในยุคของพระเยซูที่ถูกตัดสินและเป็นสถานที่ที่ปีเตอร์ปฏิเสธพระเยซูก่อนไก่ขัน 3 ครั้ง (Before the cock crows thrice)
- ชม สุสานกษัตริย์เดวิด (King David’s Tomb) และ ห้องอาหารมื้อสุดท้าย (Room of Last Supper) ที่พระเยซูทรงร่วมรับประทานอาหารมื้อสุดท้ายกับเหล่าสาวก
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
บ่าย  ท่องเที่ยวในเมืองเยรูซาเลม (ต่อ)
- ชม พิพิธภัณฑ์อิสราเอล (Israel Museum) สถาบันทางวัฒนธรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอิสราเอลและติดอันดับหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ศิลปะและโบราณคดีชั้นนำของโลก พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1965 เป็นที่เก็บของสะสมของสารานุกรมรวมถึงผลงานตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบันในโบราณคดีโบราณคดีวิจิตรศิลป์และศิลปะของชาวยิว มีการสะสมวัตถุโบราณในพระคัมภีร์ไบเบิล ในช่วงเกือบเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา ด้วยการสนับสนุนอย่างดีจากผู้อุปถัมภ์ทั่วโลก ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้สร้างคอลเล็กชั่นวัตถุเกือบ 500,000 ชิ้นซึ่งเป็นตัวแทนของวัฒนธรรมวัตถุทั่วโลก
- ชม ฝั่งตะวันออกของนครเยลูซาเลม (New Western City of Jerusalem) ผ่านชมสิ่งก่อสร้างและกลุ่มอาคารสถาปัตยกรรมที่ตั้งอยู่ในเมือง เช่น อาคารรัฐสภา อาคารรัฐบาล
16.00 น.  เดินทางกลับเมืองไฮฟา
18.00 น. เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
20.00 น. เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองลีมาซอล ประเทศไซปรัส
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่แปด : ศ 28 เม.ย. 2566  ลีมาซอล (ประเทศไซปรัส)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
07.00 น. เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองลีมาซอล ประเทศไซปรัส
ท่องเที่ยวใน เมืองลีมาซอล
- เข้าชม ปราสาทลีมาซอล เป็นอีกหนึ่งที่ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ในศิลปะแบบไบแซนไทน์ ภายในปราสาทจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ Limassol Medieval มีคอลเลกชันชุดเกราะอาวุธต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย ปราสาทแห่งนี้เคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างกษัตริย์ Richard แห่งราชวงศ์อังกฤษ กับเจ้าหญิง Berengaria แห่งเมือง Navarre ในปี 1191 ซึ่งการอภิเษกครั้งนี้ทำให้เจ้าหญิง Berengaria ได้รับตำแหน่งเป็นราชินีแห่งราชวงศ์อังกฤษอีกด้วย
- เข้าชม Kolossi Castle ที่ถูกสร้างในศตวรรษที่ 13 ปราสาทแห่งนี้เป็นป้อมปราการสำคัญในช่วงยุคกลาง ภายในมีภาพวาดพระเยซูศิลปะแบบเฟสโกที่สวยงาม
- เข้าชม เมืองโบราณคูริออน (Kourion Ancient Site) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเมืองโบราณที่มีชื่อเสียงของไซปรัส เข้าชม โรงละครโรมัน Greco Roman Theatre ที่สร้างขึ้นสมัยศตวรรษที่ 2 ซึ่งสามารถจุคนได้กว่า 3,500 คน พร้อมฉากหลังที่สวยงามของทะเลเมดิเตอเรเนียน และ บ้านอูโทลิออส (Eustolios House) วิลล่าส่วนตัวสไตล์โรมัน ก่อนที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคารสาธารณะที่เป็นทั้ง ห้องอาบน้ำ ห้องครัวและสถานที่อาศัยในสมัยก่อน ชมความงามของพื้นโมเสคที่ประดับตกแต่งอย่างสวยงามและอนุรักษ์ไว้อย่างดี
12.00 น.  เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
14.00 น.   เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองมิโคนอส ประเทศกรีซ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
ค่ำ รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
พักบนเรือ MSC Musica

วันที่เก้า : ส 29 เม.ย. 2566  มิโคนอส (ประเทศกรีซ)

เช้า  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารภายในเรือสำราญ
อิสระพักผ่อนบนเรือสำราญ สามารถเลือกรวมกิจกรรมต่างๆ ที่มีภายในเรือ ทั้ง ช้อปปิ้งร้านขายสินค้าปลอดภาษีบนเรือ หรือ กิจกรรมตามจุดต่างๆ บนเรือตามประกาศกิจกรรมของทางเรือสำราญ
กลางวัน  รับประทานอาหาร ณ ห้องอาหารในเรือสำราญ
16.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ เกาะมิโคนอส ประเทศกรีซ เกาะสวรรค์แห่งนักท่องราตรี เป็นหนึ่งในหมู่เกาะไซคลาติสที่สวยงาม
- ชม มิโคนอส ทาวน์ (Mykonos Town) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า โฮรา (Chora) ที่มีความงดงามประกอบด้วยบ้านเรือนสีขาวทุกหลังตัดกับโบสถ์ และท้องฟ้าระเบียงดอกไม้ที่รายรอบด้วยกลุ่มเรือหลากสีสัน เป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามและมีเอกลักษณ์ที่ไม่ควรพลาด
ค่ำ  รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
- ชม Small Venice”(Mikri Venetia) จุดที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดริมทะเลเอเจี้ยนที่มีบรรยากาสคล้ายคลึงกับเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี พร้อมวิวกังหันลมกลางทะเลที่เรียกว่า Kato Myloi ที่ตั้งเรียงรายอยู่ริมชายฝั่ง ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของที่นี้เลยก็ว่าได้
21.00 น.  เดินทางกลับขึ้นเรือสำราญ
พักบนเรือ MSC Musica
หมายเหตุก่อนเรือกลับเทียบท่าใน เช้าวันถัดไป ท่านจะต้องดำเนินการเตรียมตัวเพื่อเช็คเอาท์ออกจากเรือดังนี้

  1. จัดกระเป๋า Overnight bag สำหรับเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวจำเป็นที่ต้องใช้ในช่วงกลางคืนและเช้าวันถัดไป
  2. จัดกระเป๋าใบใหญ่และวางไว้หน้าห้อง พร้อมผูกป้ายกระเป๋าสีต่างๆ ตามที่เรือกำหนด เจ้าหน้าที่ของเรือจะมาเก็บกระเป๋าใบใหญ่ไปในช่วงกลางดึก (ป้ายกระเป๋าสีต่างๆ นี้จะเป็นตัวกำหนดลำดับการนำกระเป๋าลงจากเรือ)
  3. ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ซึ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายจะส่งให้ตรวจเช็คความถูกต้องก่อน (ชาร์จผ่านบัตรเครดิตที่ลงทะเบียนไว้ตอนเช็คอินในวันแรกของการขึ้นเรือโดยอัตโนมัติ)

วันที่สิบ : อา 30 เม.ย. 2566  มิโคนอส (ประเทศกรีซ) – เมืองพิราอุส (ประเทศกรีซ) – เอเธนส์ - อิสตันบูล

02.00 น.  เรือเดินทางออกจากท่าเรือ มุ่งหน้าสู่ เมืองพิราอุส ประเทศกรีซ
08.00 น.  เรือจอดเทียบท่าที่ เมืองพิราอุส
เช็คเอาท์ออกจากเรือสำราญ พร้อมรับกระเป๋าสัมภาระ
กลางวัน   รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เดินทางสู่ แหลมซูเนียน (Cape Sounion)
- ชม วิหารแห่งโพไซดอน (Temple of Poseidon) เทพเจ้าแห่งท้องทะเลและมหาสมุทร ตั้งอยู่ปลายหน้าผาติดทะเลอีเจี้ยน คาดว่าสร้างขึ้นเมื่อ 444 ปีก่อนคริสต์กาล ซึ่งมีอายุมากกว่า 2,000 ปีแล้วในปัจจุบัน ชาวกรีซในอดีตที่จะต้องเดินทางสู่ทะเลมักจะมาบวงสรวงขอพรให้เดินทางโดยปลอดภัยที่วิหารแห่งนี้
- ช้อปปิ้ง McArthurGlen Designer Outlet Athensแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์เนมมากกว่า 100 ร้านค้าให้เลือกซื้อ เช่น Polo Ralph Lauren, Adidas, Tommy Hilfiger, Benetton, BOSS, Nike, Lacoste, Guess ฯลฯ
ค่ำ   รับประทานอาหาร ณ ร้านอาหาร
เดินทางสู่สนามบินนานาชาติเอเลฟเทริออส เวนิเซลอส เพื่อเดินทางกลับ
22.00 น.  บินสู่ สนามบินอิสตันบูล โดยเที่ยวบิน TK 1846
23.30 น.  ถึง สนามบินอิสตันบูล

วันที่สิบเอ็ด : จ 1 พ.ค. 2566     อิสตันบูล - กรุงเทพฯ

01.45 น.  บินสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบิน TK 068
15.25 น.   ถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ 

…Cruise Vacations Start Hear…Cruise Tour eXperts by Chic Journey

หมายเหตุ : ***กระเป๋าเดินทาง และ ทรัพย์สินส่วนตัวทุกอย่าง ผู้เดินทางต้องดูแลและรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หากเกิดการสูญหายไม่ว่ากรณีใดๆ ทางบริษัทฯไม่สามารถรับผิดชอบใดๆแทนได้
*** โปรแกรมการเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาพ ลม ฟ้า อากาศ การจราจร การล่าช้าของสายการบิน และสถานการณ์ในต่างประเทศที่ทางคณะเดินทางในขณะนั้น  เพื่อความเหมาะ และความปลอดภัยในการเดินทาง บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ หัวหน้าทัวร์ผู้นำทัวร์ มีอำนาจตัดสินใจ ณ ขณะนั้นทั้งนี้การตัดสินใจ จะคำนึงถึงความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และผลประโยชน์ของหมู่คณะเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการ

รายละเอียดและค่าบริการ (บาท)

ผู้ใหญ่ พักห้องคู่ (ห้อง Interior)
เด็ก 1 ท่าน พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน

 ท่านละ

119,900 บาท

พักห้องเดี่ยว + ห้อง Interior

เพิ่มท่านละ

18,000 บาท

พักห้องคู่ Upgrade พักห้อง Balcony

เพิ่มท่านละ

10,000 บาท

พักห้องเดี่ยว + Upgrade พักห้อง Balcony

เพิ่มท่านละ

38,000 บาท

ค่าทิปพนักงานขับรถ,ไกด์ท้องถิ่น และ หัวหน้าทัวร์

เพิ่มท่านละ

2,500 บาท
เรียกเก็บในใบแจ้งค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือ

ค่าวีซ่าเชงเก้นและวีซ่าอิสราเอล (คิวธรรมดา)

เพิ่มท่านละ

5,500 บาท

Join Land (ไม่ต้องการตั๋วเครื่องบิน)
(BKK-IST-ATH // ATH-IST-BKK)

หักท่านละ

25,000 บาท

อัพเกรดตั๋วเครื่องบิน Business Class
(BKK-IST-ATH // ATH-IST-BKK)

เพิ่มท่านละ

เริ่มต้น 120,000 บาท+
สามารถยืนยันราคาที่แน่นอนได้เมื่อทำการจองและที่นั่ง Confirm แล้วเท่านั้น

ภาษีน้ำมันจากสายการบิน
คำนวณ ณ วันที่ 26 ต.ค. 2565

 

อาจมีการเรียกเก็บเพิ่มเติมตามประกาศของสายการบิน ณ วันที่ออกตั๋วเครื่องบิน

Visitors: 119,822